Websense Security Labs เปิดเผยว่า เว็บไซต์หลายล้านแห่งกำลังโดนโจมตีด้วยมัลแวร์ที่มีชื่อว่า LizaMoon โดยที่เว็บไซต์เหล่านี้ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ โดยตามรายงานข่าวมีหน้าเว็บมากกว่า 500,000 เพจที่ถูกดัดแปลงให้ลิงค์เข้าไปยังเว็บไซต์ lizamoon.com ในขณะที่มากกว่า 1.5 ล้านเว็บไซต์ดูเหมือนจะถูกโจมตีในลักษณะเดียวกันนี้ (ถูกแทรกสคริปท์อันตรายเข้าไป)
LizaMoon ใช้เทคนิคที่เรียกว่า "SQL injection attack" โดยเริ่มโจมตีตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเว็บไซต์ที่โดนโจมตีจะถูกแทรก สคริปท์ (ชุดคำสั่ง) ที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่โดนเล่นงาน ได้รับการแจ้งเตือนว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส และจะต้องซื้อโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปลอมของพวกมัน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การโจมตีของ LizaMoon ยากต่อการควบคุม โดยล่าสุดเว็บไซต์ที่โดนโจมตีไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ก็จะมีเว็บไซต์ในอังกฤษ คูเวต อินเดีย ออสเตรเลีย ตุรกี บราซิล อิสราเอล เม็กซิโก ไต้หวัน ชิลี ฯลฯ
ข้อมูลจาก: WebSense
Symantec เปิดเผยว่า Android.Walkinwat เป็นมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลสำคัญในสมาร์ทโฟนของเหยื่อ เพื่อส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮคเกอร์ นอกจากนี้มันยังแอบสแกนรายชื่อติดต่อที่อยู่ในเครื่อง เพื่อส่ง SMS ไปหาทุกคนอีกด้วย ซึ่งเหยื่อของมัลแวร์บน Android Phone ส่วนใหญ่จะโดนเล่นงาน เนื่องจากพยายามดาวน์โหลดแอพถูกลิขสิทธิ์ฟรี หรือมีราคาถูกมากจนไม่น่าเชื่อ ซึ่งผ่านการ crack แล้ว แต่ความจริงมันคือ "มัลแวร์"
สำ หรับแอพที่ใช้ในการปลอมตัวครั้งนี้ชื่อว่า Walk and Text โดยตัวปลอมจะไม่ได้อยู่ใน Android Market แต่เปิดแชร์ให้ดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์หลายๆ ประเทศในโซนเอเซีย และอเมริกาเหนือ ซึ่งแอพ Walk and Text ต้นฉบับบน Android Market จะมีราคา 1.53 เหรียญฯ โดยการทำงานของแอพตัวนี้จะเปิดกล้องด้านหลังสมาร์ทโฟนให้ทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นถนนเบื้องหน้าขณะเดินก้มหน้าพิมพ์ข้อความ (ป้องกันการเดินพิมพ์จนตกท่อ) แต่ถ้าเป็นแอพชื่อเดียวกันนี้ แต่เป็นตัวปลอม และเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีบนเว็บไซต์ต่างๆ จะมีเวอร์ชัน 1.3.7 ซึ่งแอพตัวจริงจะไม่ใช่เวอร์ชันนี้ ทราบแล้วก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ โดยเฉพาะใครที่ชอบดาวน์โหลดแอพเถื่อน หรือแอพฯที่ crack แล้ว
เว็บไซต์ในข่าว: android
ในงาน Photoshop World ทางบริษัท Adobe ได้นำเสนอคอนเซปต์ของแอพ photoshop บน iPad ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า คอนเซปต์ที่นำเสนอดังกล่าวจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ ให้ใช้งานกันจริงๆ หรือไม่? แต่มันทำให้เห็นว่า แม้กระทั่งโปรแกรมตกแต่งแก้ไขภาพยอดฮิตอย่าง Photoshop ก็ยังสามารถใช้งานบนอุปกรณ์อย่างแท็บเล็ตได้ โดยภาพที่ต้องการแก้ไขจะครองพื้นที่ทั้งหน้าจอ ส่วนนิ้วของผู้ใช้ก็จะแทนพอยน์เตอร์ของเมาส์ ขณะเดียวกันทูลบ๊อกซ์ที่ดูรกรุงรังโดยรอบที่เรามักจะพบเห็นบนเดสก์ทอปจะถูก เปลี่ยนเป็นไอคอนเมนูที่สามารถป๊อปอัพตัวเลือกขึ้นมาใช้งานได้ทันที
สำหรับ การสาธิตการใช้ Phothoshop บน iPad คุณผู้อ่านจะได้เห็นการรีทัชภาพที่แสนง่ายดายจนรู้สึกได้ว่า ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถตกแต่งภาพที่น่าอัศจรรย์ได้ภายในพริบตา นักออกแบบที่เข้าร่วมงานหลายราย เมื่อได้เห็นคอนเซปต์ของ Photoshop บน iPad ต่างแสดงความเห็นในเชิงบวก โดยเฉพาะการยกเลิกอินเตอร์เฟซแบบเดิมๆ ที่ใช้มานานหลายปีบนเดสก์ทอปเมื่อย้ายมาใช้งานบน iPad อีกทั้งยังเชื่อว่า นักออกแบบ และครีเอทีฟจะพอใจหาก Adobe จะทำแอพฯ Photoshop บน iPad ออกมาจำหน่ายจริงๆ
เว็บไซต์ในข่าว: Adobe
แต่หลังจากทาง Samsung ได้ตรวจสอบรายงานดังกล่าว ปรากฎว่า คำกล่าวอ้างของ Hassan ที่มีการเผยแพร่ออกมาน้นไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด สาเหตุมาจากการที่โปรแกรม VIPRE เข้าใจว่า โฟลเดอร์ที่สร้างขึ้นโดย Microsoft's Live Application ถูกใช้สำหรับซอฟต์แวร์ key logger ในระหว่างที่โปรแกรมทำการสแกนไวรัส โดยเฉพาะโฟลเดอร์ทีสนับสนุนภาษาต่างๆ ที่ชื่อว่า SL (ย่อมาจาก Slovene คล้าย EN ที่ย่อมาจาก English) ทีทำให้โปรแกรมเข้าใจผิดคิดว่า มันเป็นของ StarLogger โปรแกรมอันตรายที่สามารถบันทึกการกดคีย์บอร์ดของผู้ใช้ เพื่อส่งข้อมูลให้แฮคเกอร์
อย่าง ไรก็ตาม Hassan อ้างว่า หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนเครื่องใหม่มา เมื่อทำการสแกนด้วย VIPRE ก็ยังมีการแจ้งว่า พบโปรแกรม Key Logger อยู่ในโน้ตบุ๊ค ซึ่งทาง Samsung เชื่อว่า นั่นเป็นเพราะสาเหตุเดียวกันกับที่ได้ชี้แจงไปข้างต้น โดยทางบริษัทมั่นใจว่า ไม่มีการติดตั้ง Key Logger เข้าไปในโน้ตบุ๊คอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี เพื่อความแน่ใจ คุณผู้อ่านที่ใช้โน้ตบุ๊ค Samsung รุ่นดังกล่าว สามารถตรวจสอบได้ด้วยการค้นหาโฟลเดอร์ C:windowsSL ซึ่ง Hassan กล่าวว่า มันเป็นที่เก็บโปรแกรม StarLogger ภายในจะต้องมีไฟล์เหล่านี้ iv.ini, WinSL.dat, WinSL.exe, WinSLH.dll, ImgView.exe, SL-Test.txt, unins000.dat, unins000.exe, StarLogger.url, WinSLManager.exe, StarLogger.url, Uninstall StarLogger.lnk, StarLogger.lnk, StarLogger on the Web.lnk, WinSLManager.exe, WinSLH.dll และ WinSL นอกจากนี้ ให้คุณผู้อ่านลองเช็คดูด้วยว่าใน Task Manager มีโปรแกรม WinSLManager.exe กำลังทำงานอยู่ด้วย หรือไม่?
เว็บไซต์ในข่าว: Samsung
นอก จากผู้ใช้จะสามารถคลิกปุ่ม +1 ให้กับลิงค์ในหน้าผลลัพธ์เสิร์ชแล้ว Google ยังบอกอีกด้วยว่า ทางบริษัทกำลังดำเนินการให้สามารถนำปุ่ม +1 ไปแปะไว้บนหน้าเว็บของคุณได้อีกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถแนะนำลิงค์ที่น่าสนใจให้กับผู้ใช้ Google คนอื่นๆ ผ่านการคลิกปุ่ม +1 ได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากเว็บไซต์นั้น ในขณะเดียวกันการคลิกปุ่ม +1 ของคุณยังจะถูกแนะนำต่อให้กับกลุ่มผู้ใช้ที่คุณรู้จักผ่านบริการต่างๆ อย่าง Gmail หรือ Buzz ของ Google ได้อีกต่างหาก ฟังดูคล้่าย Google กำลังจะทำให้ Search สามารถแชร์ลิงค์ได้ แบบเดียวกับ Social Network เลยนะครับ
อย่าง ไรก็ดี สิ่งที่ Google หวังว่าจะได้จากปุ่ม +1 นอกเหนือจากการทำให้ผลลัพธ์เสิร์ชมีความเกี่ยวข้องกับผู้ใช้ และโฆษณาที่มีโอกาสถูกคลิกมากขึ้นแล้ว มันยังเป็นการทำให้เสิร์ชมีฟังก์ชันการแชร์คำแนะนำให้กับเพื่อนๆ ผ่านบริการต่างๆ ของ Google อีกด้วย ซึ่งหากมีผู้ใช้ปุ่ม +1 มากพอมันก็จะมีผลต่อคุณภาพของลิงค์ผลลัพธ์ (และโฆษณา) ที่แสดงขึ้นมาเวลาผู้ใช้เสิร์ชนั่นเอง การคลิกปุ่ม +1 ให้กับลิงค์ผลลัพธ์ หรือบนหน้าเว็บใดๆ ก็เท่ากับเป็นการที่ผู้ใช้กำลังบอกว่า มันเจ๋ง (เหมือน Like) ให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ ที่่เป็นสมาชิก Google (ผู้ใช้สามารถทราบได้ว่า ใครเป็นผู้ทีให้คะแนน +1 กับลิงค์นั้นๆ ด้วย) ซึ่งรวมถึงพ่อแม่พี่น้องของคุณด้วย ทั้งนี้ปุ่ม +1 จะปรากฎขึ้นมาถัดจากลิงค์ผลลัพธ์ และโฆษณา โดยจะเริ่มปรากฎให้เห็นกับผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ก่อน หากคุณผู้อ่านสนใจอยากใช้คุณสมบัตินี้ก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ http://www.google.com/experimental
ข้อมูลจาก: Google+1
รายงานล่าสุดจาก Bloomberg เปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนาม 2 รายที่ระบุว่า ไมโครซอฟท์จะยกเครื่อง Windows Phone 7 อัพเดทถัดไปด้วยซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนเทคโนโลยี NFC (Near Field Communications) ซึ่งจะทำให้เจ้าของสมาร์ทโฟน WP7 สามารถใช้มือถือในการชำระค่าสินค้า หรือบริการต่างๆ ได้แทนการใช้กระเป๋าเงิน โดยทางบริษัทคาดว่าคุณสมบัติการทำงานดังกล่าวจะได้รับการอัพเดทให้กับ Windows Phone 7 ภายในปีนี้
อย่าง ไรก็ดี เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ Google ได้ออกมาให้ข่าวว่า ทางบริษัมีแผนการที่จะเพิ่มเทคโนโลยี NFC เข้าไปในระบบปฏิบัติการ Android พร้อมทั้งได้ตกลงกับพันธมิตรผู้ให้บริการบัตรเดรดิตบางรายแล้วด้วย ส่วนทางด้าน RIM ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรสำหรับการทดลองให้บริการ ชำระค่าบริการผ่าน BlackBerry ที่ทำงานร่วมกับธนาคาร Bank of America ในส่วนของ Apple มีรายงานว่าจะยังไม่ให้มีการใช้บริการชำระเงินผ่าน iPhpne ภายในปีนี้ (แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน คงต้องรอดู iPhone 5) ช่วงนี้จึงดูเหมือนว่า ไอเดียการเปลี่ยนมือถือเป็นบัตรเครดิต หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กำลังอยู่ในช่วงที่น่าตื่นเต้น ซึ่งคงต้องลุ้นกันว่าใครจะเป็นรายแรกที่เปิดให้บริการอย่างเต็มตัว ซึ่งจะเป็น Windows Phone 7 อย่างที่แหล่งข่าวอ้างมา หรือไม่? งานนี้คงต้องติดตามกันต่อไป
เว็บไซต์ในข่าว: microsoft
ใน ส่วนของคุณสมบัติใหม่ ทางไมโครซอฟท์จะเริ่มต้นด้วยพันธมิตรอย่าง Orbitz เว็บไซต์ให้บริการจองที่พักโรงแรม และ Monster เว็บไซต์หางานยอดนิยม โดยจะส่งอีเมล์ที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบการทำงานจากภายในเมล์ได้ทันที ยกตัวอย่าเช่น ผู้ใช้สามารถจองที่พักโรงแรมจากอีเมล์ของ Orbitz ได้จากใน Inbox ได้เลย นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรอย่าง Netflix ที่จะทำให้ผู้ืใช้ Hotmail สามารถชมตัวอย่าง หรือจองตั๋วหนังได้จากในเมล์ที่ส่งมา หรืออย่าง LinkedIn ที่จะแนะนำคนที่คุณน่าจะทำความรู้จัก และติดต่อด้วย ไมโครซอฟท์ยังบอกอีกด้วยว่า จะมีการเพิ่มพันธมิตรที่จะเข้ามาใช้บริการนี้อีกมากมาย ซึ่งรวมถึง YouTube, Flickr ไปจนถึงเว็บไซต์คูปองต่างๆ
ด้วย เทคโลโยนี Active View ผู้ส่งอีเมล์ (พันธมิตรของไมโครซอฟท์) จะสามารถรันโค้ด (ทีใช้โต้ตอบการทำงานกับผู้ใช้) จากในเนื้อหาของอีเมล์ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นผู้ใช้ไม่ต้องคลิกลิงค์ เพื่อรีไดเร็กต์เข้าไปยังเว็บไซต์อีกทีหนึ่งให้เสียเวลาอีกต่อไป นอกจากคอนเท็นต์ที่อยู่ในเมล์จะโต้ตอบกับผู้ใชได้แล้ว มันยังอัพเดทอีกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณไม่เพียงแต่ไม่ต้องเสียเวลากระโดดไปมาระหว่างหน้าต่างอีเมล์กับหน้าเว็บ ที่เปิดขึ้นมาเท่านั้น แต่มันยังทำให้คุณมีเวลาในการสะสางอีเมล์ต่างๆ ที่เข้ามาได้มากขึนอีกด้วย นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของ Microsoft ที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งอย่าง Gmail และเป็นอีกวิธีหนึ่งในการที่จะดึงให้ผู้ใช้อยู่กับ inbox ของ Hotmail และผู้ลงโฆษณาภายในเว็บไซต์นานขึ้นอีกด้วย
เว็บไซต์ในข่าว: hotmail
สำหรับคุณสมบัติการทำงานแบบใหม่ที่ว่านี้เกิดจากการ ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (motion sensor) ที่อยู่ภายในมือถือ โดยผู้ใช้ Samsung Galaxy S II จะสามารถใช้การสัมผัสหน้าจอร่วมกับการทำงานของเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อน ไหวในการย่อ หรือขยายขนาดของภาพที่แสดงบนหน้าจอมือถือได้ ตัวอย่างเช่น แค่คุณผู้อ่านใช้ 2 นิ้วแตะบนหน้าจอ จากนั้นนำมือถือดึงเข้าหาตัว หรือจับมันถอยห่างออกไป ภาพบนหน้าจอก็จะซูมเข้า และออกตามลำดับ หรือในกรณีทีคุณต้องการเปลี่ยนหน้าจอใช้งานจากโฮมสกรีนไปหน้าจออื่นๆ ก็เพียงแค่ใช้นิ้วเดียวแตะค้างไว้ จากนั้นจับมือถือเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวา หน้าจอก็จะเปลี่ยนไปตามลำดับ ว่ากันจริงๆ ใช้นิ้วเลื่อนจะง่ายกว่าไหมนะ?
TouchWiz 4.0 จะเป็นการใช้เซ็นเซอร์อย่าง Accelerometer ทำงานร่วมกับอินเตอร์เฟซบนหน้าจอสัมผัสของ Samsung Galaxy S II อย่างไรก็ดี ยังมีลูกเล่นในการใช้งานอีกมากมายที่น่าสนใจ ลองชมการสาธิตจากคลิปข้างล่างนี้ดีกว่าครับ หลังจากได้รับชมแล้ว คุณผู้อ่านรู้สึกอย่างไร? ชอบ ไม่ชอบ ใช่ไม่ใช่ ก็คอมเมนต์กันมาได้เลยนะครับ
เว็บไซต์ในข่าว: Samsung, Androidcommunity
Takara Tomy ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Twimal ไว้ว่า เมื่อคุณเชื่อมต่อมันเข้ากับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows XP/Vista/7 เจ้า Twimal จะสามารถคอยติดตาม และอ่านทวีตของคุณเอง หรือทวีตทีตอบ (reply) คนอื่นๆ หรือข้อความที่มี hash tags (ติดตามได้ถึง 3 hash tags ด้วยกัน) รวมถึงทวีตที่มาจากผู้ใช้ใน lists และทวีตที่มาจากผู้ใช้ที่เรากำหนดได้
นอก จากมันจะสามารถติดตามอ่านทวีตในลักษณะต่างๆ ได้แล้ว คุณยังสามารถใช้งาน Twimal สองตัวพร้อมกันได้อีกด้วย (ดูจากคลิป) Twimal จะเริ่มวางตลาดในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 31 มีนาคม สนนราคาอยู่ที่ 31 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,000 บาท สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านร้านออนไลน์ได้ที่ Rinkya หรือ Rinkya หรือ Geek Stuff 4 U
ข้อมูลจาก: Takaratomy
Gmail Motion ของ Google ทำเอาผู้ใช้หลายคนหลงเชื่อไปตามๆ กันว่า คุณจะสามารถควบคุมการใช้งาน Gmail ได้ด้วยการแสดงท่าทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือทั้งสองทำท่าเปิดอีเมล์ขึ้นอ่าน การยกแขนขึ้นไปข้างหลัง เพื่อตอบเมล์ ตลอดจนการส่งเมล์ด้วยวิธีใช้มือจับที่ปากแล้วตบลงมาที่ด้านบนของตัก ซึ่งทีมนักพัฒนาจาก FAAST ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกโกหกกันเล่นๆ ว่าแล้วพวกเขาก็เลยนำตัวจำลองการใช้ท่าทางแทนการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดสำหรับ เกมส์ World of Warcraft บน Kinect มาจับคู่คำสั่งการใช้บริการของจีเมล์ เพื่อให้มันสามารถใช้งานได้แบบเดียวกับ Gmail Motion ซึ่งผลลัพธ์ทีได้เป็นดังคลิปวิดีโอข้างล่างนี้
ข้อมูลจาก: YouTube
ข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดตัว iPhone 5 ของ Apple ยังคงมีให้ได้ยินตลอดเวลา แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ iPhone5 จะมีคุณสมบัติการทำงานอะไรบ้าง? ที่เหนือกว่า iPhone 4 ซึ่งช่วงที่ผ่านมา สื่อมวลชน คนวงใน ตลอดจนกูรูในวงการต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติการทำงาน ใหม่ๆ ใน iPhone 5 ให้ได้ยินกันอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดเว็บไซต์ Nowhereelse ในฝรั่งเศสได้รวบรวมข่าวลือดังกล่าว พร้อมทั้งให้ % ความเป็นไปได้ของคุณสมบัติเหล่านั้นในรูปแบบของ Infographic ด้วย ไม่ว่าจะเป็น จอใหญ่ ไร้ปุ่ม Home ความละเอียดที่ดีขึ้นไปอีก หรือแม้แต่กล้อง 8 ล้านพิกเซล แต่นี่แค่บางส่วนเท่านั้นสำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นข่าวลือกันออกมา อยากรู้ว่ามันยังมีอะไรอีกบ้างก็ลองดูเอาจาก infographic ที่นำมาฝากกันดีกว่าครับ
Microsoft ได้ส่งมอบ Windows 8 รุ่นทดสอบที่เรียกว่า Milestone 3 ให้กับพันธมิตรทางด้านฮาร์ดแวร์เพียงไม่กี่ราย ซึ่งล่าสุดภาพหน้าจอ Welcome และ Windows Explorer ของ Windows 8 ได้ถูกส่งให้กับ Rafael Rivera จาก Windows Hacker โดยภาพหน้าจอดังกล่าว เผยให้เห็นว่า มันมีการใช้ Ribbon UI ที่ผู้ใช้หลายคนเริ่มคุ้นเคยจากใน MS Office และ MS Paint กันแล้ว
สำหรับ ผู้ใช้ Windows 7 จะสังเกตเห็นการใช้ Ribbon UI ได้ในโปรแกรมอย่าง Paint และ Wordpad ซึ่งรูปแบบ UI ลักษณะนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของตัวเลือกในเมนูได้เร็วขึ้น เนื่องจากมันลดขั้นตอนการเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ลงไป ซึ่งสำหรับการใช้ Ribbon UI ใน Windows Explorer บน Windows 8 ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงตัวเลือกอย่าง Sync และ Web Sharing เพื่ออัพโหลดข้อมูลไปยังบริการ Cloud อย่างเช่น Skydrive และอื่นๆ ได้ทันที
นอก จากนี้ Microsoft ยังได้เพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ของการใช้งาน Web เข้าไปใน Windows 8 ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย โดยเฉพาะบริการสำหรับ cloud computing ทั้งนี้ Rivera ชี้ประเด็นว่า Ribbon UI ใน Windows Explorer จะมีการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานบนเมนู File มากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่า Windows 8 จะเป็นการพลิกโฉมการใช้งานคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ของผู้ใช้ทั่วโลกเลยก็ว่าได้
เว็บไซต์ในข่าว: Microsoft
ภาพ ชิ้นส่วนของ iPod Nano ที่อ้างว่าเป็นของรุ่นที่ 7 ได้ถูกโพสต์บนเว็บไซต์ Apple.pro ของจีน ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นว่า iPod Nano รุ่นถัดไปจะยังคงมีดีไซน์ของตัวเครื่องเหมือนรุ่นปัจจุบัน นั่นก็คือ มันมีช่องติดตั้งเลนส์ด้านหลังที่บริเวณมุมของตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งหากมันเป็นเรื่อจริงๆ (ไม่ใช่เว็บไซต์ในไต้หวันนึกอยากสนุกก็เลยอำกันเล่นๆ ในวันเมษาหน้าโง่) iPod Nono รุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับกล้องที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ด้วย
ภาพ ของ iPod Nano รุ่นที่ 7 ได้ถูกโพสต์บน Apple.pro เมื่อสองวันที่ผ่านมา ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับเคสของ iPod Nano รุ่นปัจจุบันที่มีการชำแหละออกมาให้เห็นภายในโดยเว็บไซต์ iFixit ก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่า บริเวณมุมบนด้านขวาของด้านหลังที่มีการเจาะช่อง เพื่อใส่เลนส์ของกล้องวิดีโอนั่นเอง การเพิ่มกล้องวิดีโอกลับไปใน iPod Nano รุ่นใหม่ น่าจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำทางด้านดีไซน์อีกครั้งของ Apple และเชื่อว่า ผู้บริโภคที่ไม่เคยสนใจเครื่องเล่นมีเดียขนาดเล็กตัวนี้ อาจจะต้องหันกลับมามองมันอีกครั้ง ก็ได้แต่หวังว่า เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่เรื่องอำกันนะ :D
ข้อมูลจาก: apple.pro
หลังจาก Rivera โพสต์ภาพอินเตอร์เฟซ Windows 8 เวอร์ชันแท็บเล็ตขึ้นไปบนเซิร์ฟเวอร์ ผู้ใช้ก็แห่กันเข้าไปดูจนเว็บไซต์ล่มไปเลย สำหรับภาพหน้าจอ"แท็บเล็ต" Windows 8 ชุดแรกที่มีการปล่อยออกมานี้จะสังเกตเห็นส่วนของช่องสี่เหลี่ยมจตุรัสที่วาง เรียงรายกันอยู่ ซึ่งดูเหมือนหน้าจอ Home Screen ของ Windows Phone 7 โดยแต่ละช่องจะสามารถเปิดหน้าเว็บเพจ หรือเว็บแอพให้ทำงานบน Internet Explorer แบบเต็มหน้าจอได้
ส่วน ภาพหน้าจอ"แท็บเล็ต"ของ Windows 8 ชุดที่สองจะโชว์ให้เห็นแอพพลิเคชันอีรีดเดอร์ตัวใหม่ที่คาดว่าน่าจะมาพร้อม กับระบบปฏิบัติการ โดยจะสนับสนุนฟอร์แมต PDF ของ Adobe ในตัว ผู้ใช้ไม่ต้องดาวน์โหลด Adobe Reader เพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกจากนี้ มันยังมาพร้อมกับรูปแบบการใช้งานในระบบสัมผัส เพื่อย่อหรือขยายหน้าเอกสาร (หรือ e-book) และ Page Scrubber ที่ปรากฎทางด้านขวาของหน้าจอ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถกระโดดข้ามไปดูหน้าต่างๆ ในเอกสารได้เร็วขึ้น
ใน ส่วนของแอพฯทั้งหมดที่ทำงานบน"แท็บเล็ต" Windows 8 จะอยู่ในรูปแบบไฟล์ชนิดใหม่เรียกว่า AppX (.appx) ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังอยู่ในระหว่างการแนะนำนักพัฒนาสำหรับวิธีการปรับแต่งแอ พบน Windows Phone 7 ให้อยู่ในรูปของ AppX เพื่อวางจำหน่ายแอพฯเหล่านี้บนแอพสโตร์ต่อไป
ข้อมูลจาก: winrumors
Howard Stringer ซีอีโอของ Sony ได้ให้สัมภาษณ์กับ Walt Mossberg จาก Wall Street Journal โดยเขากล่าวว่า "มันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ เหตุใดผม (Sony) ถึงต้องเป็นผู้ผลิตกล้องที่ดีที่สุดให้กับ Apple?" อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครพูดถึงกล้องบน iPhone ว่ามันดีเด่นอย่างไร แต่เนื่องจากล้องที่ใช้กับ iPhone ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันผลิตโดย OmniVision ดังนั้นควาหมายของคำว่า "กล้องที่ดีทีสุด" ที่ซีอีโอของ Sony กล่าวจึงน่าจะหมายถึง กล้องที่ทางบริษัทผลิตและใช้กับ iPhone 5 ที่ยังไม่มีการเปิดตัว และคาดว่า Apple อาจจะกั๊ก iPhone 5 ไว้จนถึงช่วงวันหยุดปลายปี
นอกจาก Sony จะทำกล้องไว้ใช้กับ iPhone 5 แล้ว ยังมีการคาดการณ์อีกด้วยว่า กล้องที่จะมาพร้อมกับ iPod Nano รุ่นที่ 7 ที่เพิ่งจะมีภาพหลุดออกมาจากเว็บไซต์ไต้หวันเมื่อวานนี้ ก็อาจจะใช้กล้องที่ผลิตโดย Sony ด้วยเช่นกัน สตีฟ จอบส์เองนอกจากจะแอนตี้ Flash ของ Adobe แล้ว เขายังไม่เชื่อในคุณภาพของการใช้แฟลชร่วมกับกล้องอีกด้วย ซึ่งหาก iPhone 5 มาพร้อมกับกล้องที่ละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล แต่กลับไม่มีแฟลช คุณภาพของภาพถ่ายในที่ๆ มีแสงน้อยก็ไม่อาจจะสร้างความประทับใจได้ งานนี้คงต้องดูกันต่อไปว่า จอบส์จะตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างไร? แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ Stringer ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ล่าสุด ผู้ใช้น่าจะได้ใช้กล้องบน iPhone 5 ที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างแน่นอน
เว็บไซต์ในข่าว: Sony
เทศกาล"เช็งเม้ง"เป็นเทศกาลประจำปีที่ลูกหลานชาวจีนถือ ปฏิบัติสืบทอดกันมา เพื่อแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งในขั้นตอนของพิธีการจะมีการเผากระดาษที่จำลองรูปแบบสิ่งของเครื่องใช้ ต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการส่งสิ่งของเหล่านั้นไปให้กับญาติผู้ใหญ่บนสรวง สวรรค์ได้ใช้ โดยสิ่งของที่ทำจากกระดาษก็จะมีตั้งแต่เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ บ้านช่องห้องพับ หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น ตลอดจนรถยนต์ และคนใช้
แต่ สำหรับเทศกาลเช็งเม้งปีนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ลูกหลานชาวจีนได้ออกแบบสิ่งที่ทำจากกระดาษที่ใช้เผาเป็นแก็ดเจ็ตยอดฮิตอย่าง iPad 2 ของ Apple ซึ่งของจริงยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศแถบเอเชีย โดยนอกจาก iPad 2 แล้ว นักออกแบบยังได้ทำสิ่งของจำลองจากกระดาษเป็นสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone 4 ไปจนถึงทีวีจอแบน ที่ไม่ใช่สิ่งของคุ้นเคยสำหรับบรรพบรุษผู้ล่วงลับอีกด้วย ประเด็นก็คือ iPad 2 ที่ทำจากกระดาษ เพื่อใช้เผาในพีธีดังกล่าว เกิดปัญหาขาดตลาดเช่นเดียวกับ iPad 2 จริง เอ่อ...ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ความร้อนแรงของ iPad 2 จะก้าวล้ำไปถึงอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับ Firefox 5 ตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชัน Firefox 4.2apre และยังไม่มีอะไรใหม่ให้เห็นมากนัก แต่คาดว่าจะสามารถพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ โดยพร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงประมาณวันที่ 29 มิถุนายน ศกนี้ ซึ่งในส่วนของประสบการณ์ในการใช้งาน Firefox UX ได้มีการเปิดเผยคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกมาถึง 9 รายการ ดังนี้
1. Tab ที่สามารถเลือกหลายอันได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่งจะพบได้ใน Chrome โดยผู้ใช้สามารถเลือกแท็บได้มากกว่าหนึ่ง เพื่อปิด (close) ย้าย (move) หรือแปลงเป็นแท็บแอพฯ (app tabs) ได้ในคราวเดียว
2. หน้าแท็บใหม่ที่ยังไม่มีการทำตัวอย่างออกมาให้เห็น
3. Add-ons จะมีทูลบาร์ที่พร้อมใช้งาน
4. อินเตอร์เฟซแสดงสถานะการอัพโหลดไฟล์ (File upload indicator)
5. ปุ่มโฮม (Home button) จะหายไป แต่แทนที่ด้วยแท็บ Home app
6. พรีวิวเอกสารในบราวเซอร์ (In-browser preview) โดย Firefox จะเชื่อมการทำงานร่วมกับ PDF viewer (เหมือน Chrome อีกแล้ว) และเพิ่มขีดความสามารถในการรับรองไฟล์ฟอร์แมตยอดฮิตต่างๆ รวมถึง MP3
7. Taskbar สำหรับเว็บแอพฯ โดยแท็บต่างๆ จะมีเมนู Context เป็นของมันเอง ซึ่งสามารถคอนฟิกโดยเจ้าของเว็บไซต์ นอกจากนี้ เว็บไซต์ต่างๆ ยังสามารถใช้งานพวกมันได้เหมือนแอพฯจริงๆ และมีคุณสมบัติการทำงานหลักๆ ครบถ้วน
8. ระบบจัดการระบุตัวตน (Indentity Management) Firefox 5 จะสามารถเก็บค่าที่คุณใช้ sign up กับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ มันยังสามารถสั่ง log-out ได้พร้อมกันในคราวเดียวอีกต่างหาก
9. คุณสมบัติการแชร์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ห็นได้ชัดสำหรับ Firefox 5 โดยเฉพาะโลโกรูปเครื่องบินกระดาษในช่องใส่ URL จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบัญขีผู้ใช้ Social Network อย่าง Facebook หรือ Twitter และอื่นๆ อีกมากมายได้ ซึ่งทำให้คุณสามารถแชร์สถานะจากช่องป้อน URL ได้โดยตรง
ดู เหมือน Mozilla พยายามเร่งเครือง Firefox โดยรอบของการออกเวอร์ชันใหม่ในปัจจุบันจะเป็น 16 - 18 สัปดาห์ (ประมาณ 4 เดือนครั้ง) ซึ่งนั่นหมายความว่า Mozilla จะสามารถออกบราวเซอร์เวอร์ชันใหม่ได้ 3 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ เพื่อทิ้งคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่าง Chrome และไล่เบี้ย IE9 ผู้นำตลาดอย่างไม่ลดละ
เว็บไซต์ในข่าว: Mozilla
จากตัวเลขจำหน่าย iPad 2 ที่เปิดเผยออกมานี้ส่งผลให้ตัวเลขยอดจำหน่าย iPad ในแต่ละเดือนขยับขึ้นไปอยู่ที่ 4 - 4.5 ล้านเครื่องเลยทีเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า ยอดรวมของไตรมาสที่สองของ iPad จะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านเครื่อง โดยบริษัทผู้ผลิตหน้าจอสัมผัส (ชิ้นส่วนหลักที่เป็นหัวใจของ iPad และ Tablet) ของ iPad 2 ยังระบุอีกด้วยว่า ยอดขายของ iPad 2 แรงกกว่า iPad รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนปี 2010
ย้อนกลับไปในเดือน มกราคมที่ผ่านมา Apple เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ลงทุน 3.9 พันล้านเหรียญฯ เพื่อทำสัญญาระยะยาวกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับ iPad โดยไม่ได้เปิดเผยว่า ดีลที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดว่า ชิ้นส่วนหลักๆ ที่ Apple ได้ทำสัญญากับบรรดาผู้ผลิตในหลายโรงงานก็คือ หน้าจอสัมผัสที่ทำจากแก้วนั่นเอง สำหรับยอดขายที่เกิดขึ้น หากเปรียบเทียบ iPad รุ่นแรกจะใช้เวลา 28 วันในการสร้างยอดขาย 1 ล้านเครื่อง โดยมีแต่รุ่น Wi-Fi เท่านั้น ในขณะที่ iPad 2 จะมีทั้งรุ่น Wi-Fi และ 3G พร้อมกัน นอกจากนี้ Apple ยังได้เริ่มเปิดการขาย iPad 2 ในประเทศต่างๆ ถึง 25 ประเทศในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งเร็วกกว่า iPad เวอร์ชันแรก ด้วยเหตุนี้เองยอดขายของ iPad 2 จึงมีอัตราเร็วที่สูงกกว่า iPad รุ่นแรกอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจาก: DigiTimes
แม้จะห่างจาก iPad ที่มียอดรวมของการจำหน่ายจนถึงวันนี้อยู่ที่มากกว่า 16 ล้านเครื่องเข้าไปแล้ว แต่ก็ต้องถือว่า Samsung Galaxy Tab เป็นผู้นำแท็บเล็ตที่มีความชัดเจนในตลาดนี้มากที่สุด และถึงแม้ Samsung กำลังจะวางตลาด Galaxy Tab ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 3.0 (Honeycomb) อีก 2 รุ่น (ขนาดหน้าจอ 8.9 และ 10.1 นิ้ว บางกกว่า iPad 2) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ทางบริษัทก็ยังคงไม่ทิ้ง Galaxy Tab รุ่นแรกไปเลย โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Samsung ประกาศว่า ทางบริษัทจะออก Galaxy Tab รุ่นหน้าจอ 7 นิ้วที่ทำงานด้วย Wi-Fi อย่างเดียว โดยจะวางตลาด 10 เม.ย. ศกนี้
สำหรับ Galaxy Tab รุ่น Wi-Fi จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 2.2 (ยังไม่มีแผนที่จะอัพเกรดเป็น Android 3.0) และไม่ได้มีการเปิดเผยว่า รุ่น Wi-Fi อย่างเดียวจะมีดีไซน์ของฮาร์ดแวร์อะไรแปลกใหม่เพิ่มเติม หรือไม่? เพราะฉะนั้นโดยหลักๆ แล้ว มันก็คงจะมีหน้าตาของเครื่องเหมือนรุ่นแรก แต่สนับสนุนการเชื่อมต่อเน็ตไร้สายด้วย Wi-Fi อย่างเดียว สนนราคาอยู่ที่ 349 เหรียญฯ หรือประมาณ 10,600 บาท (บ้านเราจับจองเป็นเจ้าของกันไปตั้งแต่งานคอมมาร์ตเดือนที่แล้ว!!!)
เว็บไซต์ในข่าว: Samsung
GoPano Micro เป็นอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับแอพที่จะทำให้ iPhone 4 ของคุณสามารถบันทึกวิดีโอแบบ 360 องศาได้ โดยดีไซน์ของ GoPano จะใช้เลนส์พิเศษลักษณะเป็นกรวยพลาสติกที่ต่อเข้ากับเคส iPhone 4 สามารถรับภาพได้โดยรอบ โดยภาพที่รับมาจะชุดเลนส์ดังกล่าวจะส่งผ่านเข้าไปยังเลนส์ของกล้องด้านหลัง ของ iPhone 4 และควบคุมมุมมองผ่านแอพอีกทีหนึ่ง ผู้ใช้สามารถเลือกมุมมองที่ต้องการบันทึกจากกล้อง GoPano Micro ได้ด้วยการใช้นิ้วสัมผัสบนหน้าจอเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวาในแบบพาโนรามารอบทิศ
GoPano Micro ทำให้คุณได้อารมณ์ในการบันทึกวิดีโอแบบเดียวกับภาพยนต์ยังไงยังงั้น อย่างไรก็ตาม GoPano ยังไม่สามารถทำออกมาวางจำหน่ายได้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการระดมทุนบนเว็บไซต์ Kickstarter ตั้งเป้าไว้ที่ 20,000 เหรียญฯ ซึ่งใครที่ช่วยสมทบทุน 50 เหรียญฯ จะได้ GoPano Micro ไปหนึ่งชุด (100 เหรียญฯได้ 2 ชุด) โดยทางทีมงานคาดว่า หาก GoPano ได้รับการผลิตจริงๆ จะวางจำหน่ายในราคาอยู่ที่ 80 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,500 บาท
ข้อมูลจาก: KickStarter
สำหรับ ชุด Iron Man เวอร์ชันกระเป๋าหิ้วที่มีการทำออกมานั้นมีส่วนของตัวต่อ LEGO 4,000 ชิ้น และพลาสติกกันกระแทกอีก 480 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นโฟม และวงจรไฟฟ้า LED อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ชุดเกราะสามารถส่องแสงที่ดวงตา และรีแอคเตอร์ที่บริเวณฝ่ามือทั้งสองข้างได้ โดยกว่าจะทำชุดเกราะ Iron Man เวอร์ชันนี้สำเร็จต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 1,200 ชั่วโมง (ถ้าทำโดยไม่หยุดพักเลยก็ประมาณ 50 วัน) ต้องนับว่า มีความพยายามในการสร้างกันจริงๆ
ใน ส่วนของความสำเร็จทีได้ก็คือ ทีมงานสามารถบีบอัดชุดเกราะให้เล็กลงเหลือแค่กระเป๋าหิ้วได้สำเร็จ แต่เวลาที่จะแต่งตัวด้วยชุดเกราะเวอร์ชันนี้ จะต้องใช้ผู้ช่วยถึง 2 คนเลยทีเดียว ซึ่งหากใช้ในสถานการณ์จริง ก็คงไม่ทันกินอย่างแน่นอน :D เอาคลิปมาเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลยว่า เวอร์ชันจริงๆ กับในภาพยนต์มีความคล้ายคลึงกันแค่ไหน
เว็บไซต์ในข่าว: YouTube
Megaminxer ผลงานประดิษฐืกลไกที่มีความฉลาดในการแก้ปริศนารูบิค 12 หน้า โดยใช้ชุดต่อเลโก้ที่ควบคุมการทำงานผ่านคอนโทรลเลอร์ Mindstorms NXT รับคำสั่งในการแก้ปริศนาจากสมาร์ทโฟน HTC Desire ที่รันแอพบน android ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ในการนี้ HTC Desire จะทำหน้าที่เป็นทั้งสมองกล โดยแอพที่พัฒนาขึ้นจะใช้กล้องจับภาพแต่ละหน้าของ Megaminx เพื่อนำไปวิเคราะห์วิธีในการแก้ปริศนารูบิค จากนั้นสร้างชุดคำสั่งที่ใช้ในการแก้ปริศนาทีละขั้นตอนสื่อสารไร้สายด้วยบลู ทูธกับ Mindstorms NXT เพื่อให้มันควบคุมแขนกลที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วน LEGO บิดแต่ละหน้าให้เรียงสีได้อย่างถูกต้อง ลองชมความมหัศจรรย์ของ Megaminxer ได้จากคลิปข้างล่างนี้ครับ
ข้อมูลจาก: YouTube
เมื่อ ผู้ใช้เปิดแอพ Bing บน iPad คุณจะได้พบกับภาพแบคกราวด์ที่สวยงาม และมีช่องค้นหาอยู่ด้านบนเช่นเดียวกับที่พบเห็นเวอร์ชันในบราวเซอร์บนพีซี และแอพบนไอโฟน แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่แอพ Bing บน iPad จะมีการตรวจเช็คตำแหน่ง (Location) ของการใช้บริการในขณะนั้น เพื่อนำไปเสิร์ช และรวบรวมข้อมูลทีเกี่ยวข้องในรูปแบบของโฮมเพจเฉพาะ โดยแสดงเป็นเซ็คชั่นไว้ด้านล่างของหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารทางด้านพยากรณ์อากาศ ข่าว แผนที่ ภาพยนต์ แนวโน้มที่น่าสนใจไปจนถึงข้อมูลตลาดหุ้น นั่นหมายความว่า ทันทีที่เปิด Bing บน iPad ขึ้นใช้งาน ผู้ใช้ก็จะทราบข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ นอกเหนือจากบริการค้นหา ซึ่งน่าจะสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย แม้มันจะดูแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
ผู้ ใช้สามารถสัมผัสเซคชั่นต่างๆ ที่ด้านล่าง เพื่อสืบค้นข้อมูลได้เต็มหน้าจอ ซึ่งหากต้องการเซ็คชั่นอื่นๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ดีฟอลต์ก็สามารถเพิ่มลดปรับเปลี่ยนได้จากเมนูดรอบดาวน์ โดยจะมีหมวดการสืบค้นอื่นๆ อย่างเช่น ภาพ วิดีโอ ชอปปิ้ง หรือแม้แต่ประวัติการสืบค้นด้วย Bing ของคุณ ส่วนความสามารถของบริการเสิร์ช คุณสามารถใช้วิธีพิมพ์ข้อความ หรือใช้ Voice Search ด้วยการพูดคีย์เวิร์ดที่ต้องการให้ค้นเข้าไปก็ได้ Bing เวอร์ชันบน iPad ทำให้รู้สึกเหมือนใช้เสิร์ชผสมบราวเซอร์ที่สามารถให้ข้อมูลได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้ ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจเหล่านี้ Microsoft เชื่อว่า มันจะสามารถเปลี่ยนใจผู้ใช้เสิร์ชเดิมๆ ที่มาพร้อมกับ iPad หรือแม้แต่การท่องเว็บ เพื่อดูข้อมูลทั่วไปด้วย Safari ให้กลับมาใช้ Bing แทน คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Bing ได้ฟรีจากแอพสโตร์
เว็บไซต์เกี่ยวข้อง: iTunes App Store (Bing for iPad)
นอกจากนี้ ส่วนติดต่อโปรแกรมที่ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยในการท่องเว็บ หรือ Safe Browsing API ของ Google จะคอยเตือนผู้ใช้ เมื่อพวกเขากำลังเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ที่อาจจะมีโทรจันเวอร์ชันทำงานบน Windows ปลอมตัวอยู่ในรูปของโปรแกรมแจกฟรีอย่างเช่น โปรแกรมพักหน้าจอ หรือแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ดูเหมือนไม่มีพิษสงอะไร ทั้งนี้ Google ได้ให้บริการผลลัพธ์เสิร์ชที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มาได้ 5 ปีแล้ว โดยจะมีการแจ้งเตือนเมื่อเวลาที่ผู้ใช้พยายามจะเข้าไปสืบค้นบนเว็บไซต์ที่ พยายามยัดเยียดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดโค้ดอันตรายที่ใช้ช่องโหว่ต่างๆ ในระบบปฏิบัติการ หรือบราวเซอร์ ซึ่งนับวันจะมีอัตราการเติบโตของการโจมตีผู้ใช้ในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นตลอด เวลา
ใน ส่วนของบราวเซอร์ที่สนับสนุนการใช้บริการดังกล่าวก็จะมี Google Chrome, Mozilla Firefox และ Apple Safari นอกจากนี้ ทาง Google ยังได้จัดเตรียมบริการสำหรับเว็บมาสเตอร์ที่ต้องการใช้ข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ดังกล่าวจาก Google เพื่อป้องกันการถูกโพสต์เว็บไซต์ด้วยลิงค์อันตรายโดยไม่รู้ตัว "Safe Browsing ได้สร้างประโยชน์ให้กับเว็บมากมาย โดยเฉพาะในขณะที่อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งแพร่กระจายของคอนเท็นต์หลอกลวง และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้" Moheeb Abu Rajab ทีมระบบรักษาความปลอดภัยของ Google "มันง่ายมากที่จะพบเว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี แต่บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้" ปัจจุบันผู้ใช้มักจะดาวน์โหลดมัลแวร์อย่าง Keylogger, botnet และ adware ที่แฝงตัวอยู่ในรูปของโปรแกรมแจกฟรีมากขึ้นเรื่่อยๆ อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติการทำงานที่เพิ่มขึ้นมาล่าสุดจะใช้ได้กับผู้ใช้ Chrome เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาก่อน โดยทางบริษัทมีแผนจะออกเวอร์ชันที่สมบูรณ์ตามมาอีกทีหนึ่ง ส่วนจะพัฒนาให้กับบราวเซอร์ของคู่แข่งได้ใช้ด้วย หรือไม่? ยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด ทั้งนี้การแจ้งเตือนแบบใหม่จะแสดงขึ้นมาให้เห็นทันทีที่ผู้ใช้พยายามจะดาวน์ โหลดโปรแกรมอันตรายจาก URL ที่ตรงกับในรายการที่อัพเดตโดย Google API
ข้อมูลจาก: GoogleOnlineSecurity
Comment
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by
You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!
Join Manchester City Fan Club in Thailand Website