Members

Techno update with Ninja Boy 09/11/10

ญี่ปุ่นผุดมือถือ 3D แบบไม่ต้องใส่แว่นตา

รายงานข่าวล่าสุด ซอฟต์แบงค์ (Softbank) บริษัทในญี่ปุ่นประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สำหรับลูกค้าในประเทศ ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอพิเศษสามารถแสดงภาพ 3D ได้ โดยผู้ใช้ไม่ต้องสวมแว่นตา 3D แต่อย่างใด? ว่าแต่...คุณผู้อ่านรู้สึกสนใจสมาร์ทโฟน 3D กันบ้าง หรือเปล่าครับ?



Galapagos 003SH และ 005SH สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับคีย์บอรด์ QWERTY สมบูรณ์แบบสามารถเลื่อนออกมาใช้พิมพ์ได้อย่างคล่องมือ หน้าจอ LCD 3.8 นิ้ว สามารถแสดงผล 3D ได้ตั้งแต่ ภาพถ่าย (มีฟังก์ชันแปลงภาพ 2D เป็น 3D) เกมส์ และภาพยนต์ ซึ่งสามารถรับชมได้ด้วยตาเปล่า ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็น Android 2.2 สนับสนุนการใช้ Flash 10.1 กล้องที่มากับมือถือความละเอียดสูงถึง 9.6 ล้านพิกเซล แถมยังมีคุณสมบัติ e-Wallet (กระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์) มี 3 สีให้เลือกด้วยกันได้แก่ ขาว ดำ และแดง วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเดือนธันวาคมศกนี้


"Continuum" Galaxy S รุ่นใหม่มี 2 จอ?

รายงานข่าวล่าสุด Samsung ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy S รุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Continuum ซึ่งเพิ่มหน้าจอขนาดเล็กแยกต่างหากขึ้นมาที่ด้านล่างของหน้าจอหลัก โดยผู้ใช้สามารถเลือกเปิดเฉพาะหน้าจอที่สองนี้ได้ด้วยการบีบเบาๆ ที่ด้านข้างของมือถือเท่านั้น



Continuum จะมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส Super AMOLED หลักขนาด 3.7 นิ้ว และหน้าจอที่สองขนาดแค่ 1.8 นิ้ว โดยหน้าจอขนาดเล็กจะทำหน้าที่คล้ายป้ายอิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดง อัพเดต RSS ข้อความที่เข้ามา หรือสายที่ไม่ได้รับ ตลอดจนใช้สำหรับการเปิดการทำงานของ widgets ต่างๆ รวมถึงการควบคุมการเรียกสาย และฟังก์ชันมีเดียเพลเยอร์ ในขณะที่ไม่ต้องเปิดการทำงานของหน้าจอหลักให้เปลืองพลังงานได้ มันอาจจะดูเหมือนส่วนเพิ่มเติมที่ไม่ค่อยมีประเด็น แต่ความจริงแล้ว มันมีประโยชน์มากทีเดียว



ประการแรกคือ การใช้หน้าจอขนาดเล็กสำหรับการรับข้อมูลข่าวสารอย่าง ข้อความ และ rss ทำให้คุณไม่ต้องเปิดหน้าจอใหญ่ ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้ ในขณะที่การเรียกสาย หรือใช้มีเดียเพลยเยอร์ด้วยหน้าจอขนาดเล็กนี้ดูจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า อีกด้วย นอกจากเรื่องของประหยัดพลังงาน และการใช้งานที่ลงตัวแล้ว การที่ Continuum มีหน้าจอที่สองยังหมายถึง Samsung ยังคงใช้ Android 2.1 ซึ่งสนับสนุนการทำงานร่วมกับจอสัมผัสหลายจอ รวมถึงการพัฒนามือถือ Android ในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่ฝาพับ แต่สามารถมีสองหน้าจอได้เป็นรุ่นแรกใน ท้องตลาดอีกด้วย ลองชมคลิปสาธิตการทำงานข้างล่างนี้นะครับ



Number Portability ให้บริการได้ใน เดือนธันวาคมนี้

Number Portability ได้คำยืนยันมาแล้วครับว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ ประมาณเดือนธันวาฯ นี้ครับ
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงการทดลอง โครงการนี้ไปได้ประมาณ 80 - 90 % แล้วครับ แต่ยังเหลือการ ทดลองระหว่าง
สอง ถึง สาม โอเปอร์เรเตอร์ ถ้าไม่ได้ใช้อย่างที่กล่าวไว้ ก็บอกได้คำเดียวขอรับ ' โชคดีประเทศไทย "

เผยความลับของเทคโนโลยี E-Ink "จอสี"

ทั่วโลกกำลังจับตาการเปิดตัวเทคโนโลยี E-Ink แบบสีจากเหล่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตทั้งในจีน และญี่ปุ่นที่ไปรวมตัวกันในงาน FPD International 2010 โดยเฉพาะการนำเสนอเครื่องอ่านอีบุ๊คจอสี (eReader) จากบริษัท Hanvon Technology ซึ่งมันเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของเทคโนโลยี E-Ink แบบเดิมๆ แต่สิ่งที่เชื่อว่า คุณผู้อ่านก็คงอยากจะทราบเหมือนกันนั่นก็คือ Color E-Ink มีหลักการทำงานอย่างไร? ทำไมมันถึงแสดงผลเป็นสีสันต่างๆ ได้ในขณะที่ยังคงประหยัดพลังงานเหมือนเดิม



Lawrence Schwartz ผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี E-Ink จอสีแบบใหม่จากบริษัท Triton ซึ่งใช้กับเครื่องอ่านอีบุ๊คจอสีของ Hanvon กล่าวว่า อีอิงค์จอสี (Color E-Ink) จะทำให้ระบบนิเวศน์ของหน้าจอแสดงผลที่สามารถใช้อ่านแทนหนังสือได้แผ่ขยายออก ไปกว้างขวางยิ่งขึ้น "องค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีนี้ก็คือ การใช้จอแสดงผลอีอิงค์ขาว-ดำปิดทับขึ้นไปด้วยแผ่นฟิล์มที่ทำหน้าที่กรองสี (color imaging film) อีกชั้นหนึ่ง โดยมีแสงสว่างจากธรรมชาติช่วยสะท้อนสีสันบนหน้าจอให้ผู้ใช้ได้มองเห็น" ความ หมายก็คือ อีอิงค์ขาวดำจะทำหน้าที่กำหนดระดับความทึบ หรือสว่างของสีในแต่ละพิกเซลบนแผ่นกรองสี RGB(W) ที่ปิดทับอยู่อีอิงค์ขาวดำ ซึ่งแสงสว่างที่ตกกระทบจะสะท้อนสีขึ้นมาตามระดับความทึบสว่างของแต่ละพิกเซล ทำให้ผู้ใช้มองเห็นสีที่แตกต่างกัน



Schwartz ย้ำว่า ทางบริษัทมุ่งเน้นที่จะพัฒนาหน้าจออีอิงค์ที่มีความคมชัดสูง และใช้พลังงานต่ำสำหรับการอ่าน แม้เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นขาวดำ แต่การที่ e-ink สามารถแสดงสีได้ จะทำให้ภาพปก ตลอดจนหนังสือนิทาน หรือการ์ตูนสำหรับเด็ก รวมถึงหนังสือพิมพ์หัวสี และตำราต่างๆ ที่ต้องการภาพประกอบสี มีความน่าสนใจได้มากกว่าการมองเห็นเป็นภาพขาวดำ ซึ่งข้อได้เปรียบของ Color E-Ink ก็คือ การที่มันสามารถแสดงได้ทั้งสี และขาวดำนั่นเอง อย่างไรก็ตาม Color E-Ink ยังคงมีข้อด้อยเรื่องความช้าในการแสดงผล โดยในขณะที่การแสดงภาพในโหมดขาวดำจะมีอัตรารีเฟรช 240 มิลลิวินาที (แสดงภาพต่อเนื่องได้ประมาณ 4-5 ภาพต่อวินาที) แต่ถ้าเป็นภาพสีจะต้องใช้ถึง 1 วินาทีเต็ม การรีเฟรชของหน้าจอ Color E-Ink จะต่างจาก LCD ตรงที่มันไม่จำเป็นต้องอัพเดตทั้งหน้าจอ สำหรับความท้าทายของเทคโนโลยี Color E-Ink ก็คือ การพัฒนาอินเตอร์เฟซ"มัลติทัช"กับจอแสดงผลชนิดนี้ ไม่แน่ว่า ปีหน้าเราอาจจะได้เห็น Kindle Color ก็ได้

Hasbro ทำแว่นตา 3D สำหรับ iPhone

หากพูดถึง Hasbro เชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายท่านคงจะนึกถึงภาพยนต์ชุด Transformers แต่ล่าสุดบริษัทผู้ผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่รายนี้ กำลังจะขี่กระแสของ iPhone และ iPod Touch ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์เสริมการใช้งานที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเล่นเกมส์ หรือรับชมภาพยนต์ 3D บนมือถือ และเครื่องเล่นมีเดียของ Apple ได้...ว้าว!!!

Hasbro ได้ ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางบริษทมีกำหนดการที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ (ของเล่น) ใหม่ให้นักลงทุนได้รู้จัก โดยมันมีชื่อว่า My3D ซึ่งจากรายงานของสำนักข่าว Associated Press อ้าง ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกล้องส่องทางไกล (binoculars) ที่ใช้มองด้วยสองตา ซึ่งจะสามารถนำ iPhone หรือ iPod Touch ติดเข้าไปที่ด้านหน้า โดย My3D จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ในการเล่นเกมส์แบบ 360 องศาทะลุมิติการเล่นเกมส์แบบเดิมๆ รวมถึงการรับชมภาพยนต์ และความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย



Hasbro จะวางตลาดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในราคา 30 เหรียญฯ (ประมาณ 900 บาท) ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งนอกจากตัวอุปกรณ์แล้ว ทางบริษัทยังได้เตรียมคอนเท็นต์สำหรับ My3D ไว้บน App Store อีกด้วย โดยจะมีทั้งส่วนที่ให้ฟรี และที่ต้องจ่ายตังค์ ในการนี้ Hasbro ได้ร่วมมือกับบริษัทพัฒนาคอนเท็นต์สำหรับ My3D ที่เป็นยักษ์ใหญ่หลายรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Dreamworks, Discovery, Sony และ iMax นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรทางด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยจับมือกับ LA Visitors Bureau สำหรับคอนเท็นต์ที่สร้างประสบการณ์ในการท่องเที่ยวในโลกเสมือน (virtual tours)

Google เพิ่ม"พรีวิว"หน้าเว็บผลลัพธ์

รายงานข่าวล่าสุด Google ประกาศเปิดตัว Instant Previews เครื่องมือใหม่ของบริการเสิร์ชเอ็นจิ้น โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นหน้าเว็บคร่าวๆ จากลิงค์ต่างๆ ที่ปรากฎในหน้าผลลัพธ์การค้น (Search Result page) ได้ทันที ซึ่งทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกที่จะคลิกลิงค์ต่างๆ ได้ง่ายดาย รวดเร็ว และถูกต้องยิ่งขึ้น

ข้อความใน blog ระบุ ว่า Google Instant Previews จะสามารถแสดงภาพกราฟิกคร่าวๆ ของหน้าเว็บบนลิงค์ต่างๆ ทีปรากฎในหน้าผลลัพธ์การค้น พร้อมทั้งไฮไลท์ส่วนที่เกียวข้องกับคำค้น โดยจะแสดงหน้าพรีวิวขึ้นมาทางขวาบนหน้าเว็บผลลัพธ์ ซึ่งผู้ใช้จะสามารถมองเห็นหน้าเว็บคร่าวๆ ได้อย่างง่ายดาย ลักษณะจะคล้ายๆ กับการพลิกหน้านิตยสาร เพื่อค้นหาบทความที่ต้องการอ่านยังไงยังงั้น (แต่อันนี้จะเป็นการดูหน้าเว็บคร่าวๆ จากลิงค์ผลลัพธ์การค้น)



ในการเปิดหน้าพรีวิวของเว็บมีสองวิธีด้วยกัน โดยวิธีแรก ผู้ใช้จะต้องคลิกบนไอคอน"แว่นขยาย"ขนาดเล็กที่อยู่ถัดจากลิงค์ผลลัพธ์ เมื่อคลิกบนไอคอนดังกล่าว ภาพหน้าเว็บโดยคร่าวๆ ก็จะปรากฎขึ้นมาทางด้านขวา ซึ่งผู้ใช้สามารถเลื่อนพอยน์เตอร์ของเมาส์ไปบนลิงค์ต่างๆ ในหน้าผลลัพธ์ เพื่อดูพรีวิวหน้าเว็บได้ทันที โดยไม่ต้องคลิกไอคอนดังกล่าวอีกครั้ง ส่วนอีกวิธีหนึ่งจะเป็นการใช้คีย์บอร์ด ผู้ใช้สามารถกดปุ่มลูกศรขึ้นลงในการเลือกลิงค์ผลลัพธ์ที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม"ลูกศรชี้ไปทางขวา" เพื่อเปิดหน้า"พรีวิว" (กดปุ่มลูกศรชี้ไปทางซ้ายเพื่อปิดหน้าพรีวิว) นับว่าเป็นคุณสมบัติการใช้งานที่สะดวกมาทีเดียว



Google กล่าวว่า Instant Previews เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาผลลัพธ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และเร็วกว่าเดิม แถมยังทำให้ผู้ใช้ใช้เวลากับหน้าเว็บของ Google นานขึ้นอีกด้วย สำหรับการให้บริการ Google Instant Previews กับทุกภาษาจะเรียบร้อยภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถทดลองใช้ได้โดยคลิกเข้าไปที่ Google Instant Previews

PlayBook แท็บเล็ต BB ถูกกว่า iPad

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า iPad ของ Apple เป็นผู้นำตลาด"แท็บเล็ต" โดยเฉพาะยอดจำหน่ายที่นับวันจะทิ้งห่างคู่แข่งไปไกลจนแทบไม่เห็นฝุ่น แต่หากต้องการเอาชนะ iPad จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ การเพิ่มคุณสมบัติที่ iPad ขาด และนั่นคือ สิ่งที่ RIM บริษัทผู้ผลิต BlackBerry ได้ทำกับ PlayBook แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า และหลัง เพื่อให้ผู้ใช้เล่น video chat ได้

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังพยายามตอกย้ำความมั่นใจในความสำเร็จให้กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เมื่อ ออกสู่ตลาดด้วยการประกาศว่า PlayBook จะมีราคาต่ำกว่า 500 เหรียญฯ หรือไม่ถึง 15,000 บาท โดยราคาดังกล่าวจะเป็น PlayBook เวอร์ชันที่สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi เพียงอย่างเดียว (ยังไม่มีเวอร์ชัน 3G) ในขณะที่ถ้าเป็น iPad เวอร์ชัน Wi-Fi จะมีราคาอยู่ที่ 500 เหรียญฯ และ 3G จะอยู่ที่ 630 เหรียญฯ (ประมาณ 18,600 บาท)



คราว นี้มาดูว่า PlayBook มีข้อได้เปรียบอะไรบ้าง? นอกเหนือจาก video chat หรือความสามารถในการสนทนาแบบเห็นหน้าผ่านเครือข่ายไร้สาย เมื่อเทียบ กับ iPad ของ Apple โดยทั่วไปก็จะมีความสามารถในการเล่น Flash ซึ่งอาจจะสำคัญ หรือไม่สำคัญสำหรับผู้ใช้บางรายก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความสามารถในการ ทำงานร่วมกับ BB ทั้งในเรื่องความสามารถของการซิงค์ข้อมูล และการใช้ BB เชื่อมต่อเน็ต อย่างไรก็ดี คงต้องรอดูต้นปีหน้า เมื่อ PlayBook วางตลาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้แค่ไหน? ก่อนหน้านี้ Apple เพิ่งจะออกซอฟต์แวร์ FaceTime ที่ทำให้ผู้ใช้แมคสามารถสนทนาแบบเห็นหน้ากับผู้ใช้ iPhone 4 ได้

Android ขึ้นแท่น OS มือถืออันดับ 2

รายงานข่าวล่าสุด Gartner บริษัทวิจัยได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับตลาดโทรศัพท์มือถือทั่วโลกในไตรมาสที่ สามของปี 2010 โดยมีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การก้าวกระโดดของระบบปฏิบัติการมือถือ Android ของ Google ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 25.5% (เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) ส่งผลให้ Android เป็นโอเอสมือถืออันดับ 2 ของโลกรองจาก Symbian ที่ใช้บนมือถือรุ่นต่างๆ ของ Nokia และผู้ผลิตรายอื่นๆ

ปัจจุบัน Symbian มีส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้มือถืออยู่ที่ 36.6% โดยลดลงจาก 44.6% ซึ่งเป็นตัวเลขในไตรมาสที่สามของปี 2009 ส่วนทางด้าน iOS ที่ใช้บน iPhone ของ Apple ก็มีส่วนแบ่งลดลงเหมือนกันจากเดิม 17.1% เมื่อปีที่แล้ว ตกลงมาอยู่ที่ 16.7% ในปีนี้ ทางด้าน BlakBerry ของ RIM ก็ต้องถือว่า ตกแรงเช่นเดียวกัน โดยร่วงจาก 20.7% ในปีที่แล้ว เหลือแค่ 14.8% เท่านั้น



สำหรับ ภาพรวมของยอดขายมือถือในไตรมาสที่ 3 ของปี 2010 มือถือ Nokia ยังคงครองอันดับหนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งยอดขายอยู่ที่ 28.2% ตกลงจากจาก 36.7% ในปีที่แล้ว ตามด้วย Samsung 17.2%, LG 6.6%, Apple 3.2% และ RIM 2.9% ทั้งนี้ตัวเลขรวมของยอดขายมือถือทั่วโลกในไตรมาสที่สามอยู่ที่ 417 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2009



Samsung เล็งออก Galaxy Tab 10 นิ้ว

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวลือว่า Samsung อาจจะออก Galaxy Tab "แท็บเล็ต"ที่มีจอใหญ่กว่า 7 นิ้วในปีหน้า ล่าสุดยังคงมีข่าวตามมาอีกระลอจนดูเหมือนว่า ข่าวดังกล่าวจะมีเค้าความจริงมากยิ่งขึ้น โดยแหล่งข่าวเผยว่า Samsung อาจจะออก Galaxy Tab ที่มีขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว เพื่อชนกับคู่แข่ง iPad ที่มีหน้าจอขนาด 9.7 นิ้วของ Apple โดยตรง

Samsung คงจะได้ยินคำสบประมาทของ Steve Jobs ที่บอกว่า "แท็บเล็ต" ขนาด 7 นิ้วไม่น่าจะประสบความสำเร็จในตลาด ซึ่งน่าจะเป็นแรงผลักดันให้ Samsung ตัดสินใจเดินหน้าผลิต Galaxy Tab ที่มีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้วที่ใหญ่กว่า iPad แถมยังมีข่าวลืออีกด้วยว่า เราอาจจะได้เห็น Galaxy Tab รุ่นหน้าจอ 10.1 นิวในงาน FPD International Green Device ที่จัดขึ้นในจีน โดยจะเริ่มในวันนี้อีกด้วย



ราย ละเอียดเพิ่มเติมเกียวกับสเป็กที่หลุดออกมาจากจีนยังระบุอีกด้วยว่า Samsung Galaxy Tab รุ่นหน้าจอ 10.1 นิ้วจะมีความละเอียด 1024x600 พิกเซล โดยจะบางกว่ารุ่นหน้าจอ 7 นิ้วอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งๆ ที่จอบส์ออกมากล่าวว่า แท็บเล็ต 7 นิ้วไม่เป็นที่่น่าสนใจจของตลาด แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม Galaxy Tab ที่เพิ่งเปิดตัวในคลาดกลับออกตัวได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อจำกัดของ Android ที่ทำให้ความละเอียดของการแสดงผลทำให้มันเหมาะกับแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว แต่ข้อจำกัดดังกล่าวจะหายไปเมื่อ Galaxy Tab รุ่นหน้าจอ 10 นิ้วจะมาพร้อมกับ Android 3.0 สำหรับข่าวคราวของ Samsung Galaxy Tab รุ่นใหม่จะเท็จจริงอย่างไร คงต้องรอความชัดเจนอีกทีหนึ่ง

ระวัง!!! โทรศัพท์หลอกขอ password

เหตุการณ์ "อำเหนือเมฆ" เพื่อหลอกเอารหัสผ่าน (password) จากผู้ใช้คอมพิวเตอร์รายล่าสุดนี้เกิดขึ้นกับชาวเมือง Wllington ในสหรัฐฯ ซึ่งตามรายงานระบุว่า พวกเขาได้รับโทรศัพท์จากใครบางคนที่อ้างตัวเป็นพนักงานไมโครซอฟท์ (Microsoft) ติดต่อมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาไวรัสบนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ



ศูนย์ กลางรับเรื่องร้องเรียนสถานีตำรวจในเมือง Wellington กล่าวว่า เจ้าทุกข์รวมแล้วเกือบ 100 รายได้ติดต่อเข้ามา เพื่อรายงานให้ทราบว่า พวกเขาถูกหลอกโดยพนักงานไมโครซอฟท์ตัวปลอม โดยทางต้นสายอ้างว่า พวกเขาทำงานอยู่ที่ไมโครซอฟท์ และติดต่อมา เพื่อช่วยกำจัดไวรัสที่สแกนพบในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ ซึ่งการที่พวกเขาจะแก้ไขได้นั้น ผู้ใช้แค่บอกพาสเวิร์ดของคอมพิวเตอร์ให้ทราบก็พอ หลังจากได้รหัสผ่านไปแล้ว แฮคเกอร์ก็จะสามารถล็อกอินเข้าไปในระบบของผู้ใช้ด้วยสิทธิ์ของ Admin ได้อย่างง่ายดาย ประเด็นก็คือ ทางไมโครซอฟท์ไม่มีการเสนอให้บริการลักษณะดังกล่าวกับลูกค้าแต่อย่างใด เตือนกันให้ทราบสำหรับเทคนิคกลโกงของผู้ไม่หวังดี เพราะบ่อยครั้งที่การแฮคพาสเวิร์ดไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อน เพราะทำแค่นี้ก็ได้แล้ว ง่ายจริงๆ

จอ AMOLED 7 นิ้วสำหรับ"แท็บเล็ต"

รายงานข่าวจากในงานแสดงเทคโนโลยี FPD International 2010 ที่เริ่มแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10-12 NOV 2010) นอกจากจะมีการนำเสนอเทคโนโลยี Color E-Ink หรือ"อีอิงค์จอสี"ที่มาพร้อมกับต้นแบบเครื่องอ่านอีบุ๊คที่พร้อมจำหน่ายใน ต้นปีหน้าแล้ว ทาง Samsung Mobile Display (SMD) ยังได้นำ Galaxy Tab รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจอ AMOLED ขนาด 7 นิ้วมาโชว์ในงานนี้อีกด้วย



ภาพถ่ายของต้นแบบจอแสดงผล AMOLED ที่นำออกมาแสดงในงาน FPD International 2010 จะมีขนาด 7 นิ้ว โดยมีความละเอียดระดับ WXVGA 1200x600 พิกเซล (169 ppi) สามารถแสดงสีได้ 16.7 ล้านสีด้วยความสว่างสดใส 250 cd/m² และสามารถมองเห็นภาพบนหน้าจอได้ทุกมุมมอง ทั้งนี้ทาง SMD มีแผนที่จะจำหน่ายจอแสดงผล AMOLED ขนาดดังกล่าวนี้ในปี 2011 อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีแผนที่จะนำจอแสดงผล Super AMOLED ออกโชว์ในงานนี้ด้วย แต่แค่ AMOLED ก็ดูแหล่มแล้วนะเนี่ย โดยเฉพาะหากมันถูกนำมาใช้กับแท็บเล็ตอย่าง Galaxy Tab แล้วล่ะก็คงสวยน่าดูชมเลยทีเดียว (เอ่อ...ผมยังหมายถึงจอแสดงผลนะครับ) สำหรับ Galaxy Tab รุ่นปัจจุบันจะใช้จอ TFT-LCD ข้างล่างนี้เป็นคลิปแนะนำเทคโนโลยีจอแสดงผล Super AMOLED ครับ


Firefox 4 beta 7 ออกมาแล้ว เร็วโพดๆ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Mozilla ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้ดาวน์โหลด Firefox 4 รุ่นทดสอบที่ 7 เวอร์ชันบน Windows, Mac และ Linux กันไปแล้ว ซึ่งผลปรากฎว่า เว็บไซต์ต่างๆ พูดถึงประสิทธิภาพความเร็วของมันว่าน่าทึ่งมากๆ โดยเฉพาะการใช้คุณสมบัติเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์กราฟิกบน Windows และ Mac รวมถึงฟีเจอร์ใหม่อย่าง การซิงค์รวม และ Tab Candy



เรียกได้ว่า Firefox 4 Beta 7 ที่เป็นเวอร์ชันใกล้สมบูรณ์มากๆ แล้ว สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ทดลองใช้ได้ โดย Mozilla กล่าวว่า คอมไพเลอร์ JavaScript ที่ชื่อ JaegerMonkey ของทางบริษัทเมื่อทำงานร่วมกับการพัฒนาการในส่วนอื่นๆ ทำให้ Firefox 4 มีกลไกการเรนเดอร์หน้าเว็บ การแปลคำสั่งเว็บแอพฯ ต่างๆ ตลอดจนเกมส์ได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจอย่างมาก ผลการทดสอบเปรียบเทียบข้างบนนี้แสดงให้เห็นว่า Firefox 4 Beta 7 แรงกว่าเดิมเกือบ 5 เท่าเลยทีเดียว




NY Times จัดอันดับ e-Book ขายดี

ปกติหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่าง New York Times จะมีเซ็คชั่นในการแนะนำหนังสือขายดี (Best Seller) ให้ผู้อ่านได้ไปเลือกซื้อหามาอ่านกัน แต่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ทางหนังสือพิมพ์ได้ประกาศว่า จะเพิ่มรายชื่อ e-Book ขายดีเข้าไปในเซ็คชั่นแนะนำหนังสือขายดีด้วย

สำหรับการแนะนำรายชื่อของ e-Book ขายดีของทางหนังสือพิมพ์ New York Times จะเริ่มในช่วงต้นปี 2011 โดยจะเป็นการแนะนำอีบุ๊คขายดีทั้งในส่วนของบันเทิง และความรู้ต่างๆ ใน New York Times ทั้งเวอร์ชันที่เป็นสิ่งพิมพ์ และออนไลน์ ทั้งนี้ในส่วนของการแนะนำหนังสือขายดีได้เริ่มเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 1935 หรือประมาณ 76 ที่แล้ว



กองบรรณาธิการของ New York Times เปิดเผยถึงเหตุผลที่ต้องมีการเพิ่มรายชื่ออีบุ๊คขายดีเข้าไปในหนังสือพิมพ์ว่า เป็นผลมาจากการเติบโตของความนิยมในสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ต้องจับตาเป็นอย่างยิ่ง การแนะนำอีบุ๊คขายดีกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ทั้งนี้ทาง New York Times กล่าวว่า การจัดทำรายชื่ออีบุ๊คขายดีจะเป็นการสรุปจากเหล่าบรรดาผู้ให้บริการอีบุ๊คบนเน็ต และใช้ซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ตัวเลขที่ได้อีกทีหนึ่ง

ต้นแบบ Galaxy Tab รุ่น 10.1 นิ้วโผล่!!!

ในขณะที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจกับ Samsung Galaxy Tab ที่วางตลาดกันแล้ว และมียอดขายที่น่าสนใจอีกต่างหาก ด้วยขนาดกระทัดรัดเหมาะมือกับคุณสมบัติการใช้งานที่เหนือกว่า iPad ในหลายๆ ด้าน ล่าสุดในงาน FPD International 2010 ที่จัดขึ้นในเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เว็บไซต์ Tech On ได้สะดุดกับต้นแบบของอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งในบูธ Samsung ซึ่งมีลักษณะคล้ายแท็บเล็ตที่มีขนาดของหน้าจอ 10.1 นิ้ว หรือว่า มันคือต้นแบบ Galaxy Tab รุ่นใหม่ที่เพิ่งมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้

สำหรับอุปกรณ์ต้นแบบที่ใช้จอ AMOLED ดังกล่าว นอกจากจะมีดีไซน์สวยงามน่าใช้แล้ว ด้วยเทคโนโลยีของหน้าจอดังกล่าวที่บางแค่ 1.8 มิลลิเมตร ทำให้ต้นแบบที่เห็นมีความบางมากกว่า Galaxy Tab รุ่นปัจจุบันอีกด้วย ทั้งนี้ป้ายที่ระบุเครื่องต้นแบบดังกล่าวระบุว่า "ereading device"



แม้จะไม่มีการอ้างว่า อุปกรณ์ที่เห็นนี้คือต้นแบบแท็บเล็ตของ Galaxy Tab รุ่นใหม่ก็ตาม แต่มันก็ยังคงมีความน่าเชื่ออยู่เหมือนกันที่เราจะได้เห็น Galaxy Tab ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ 10.1 นิ้ว เพราะมันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ Samsung สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เทียบชั้น iPad และสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย ประเด็นที่น่าจะทำให้แท็บเล็ตรุ่นต่อไปของ Samsung มีโอกาสได้เปรียบในการแข่งขันกับ iPad ในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ การใช้ Android 3.0 และ AMOLED ที่ให้ทั้งสีสันทีสดใส และความคมชัด ตลอดจนอัตราการส่องสว่างที่ดีกว่า (250 cd/m2) และ contrast ที่สูงถึง 1,000:1 หากผลิตออกมาจริงๆ คงจะได้รับการต้อนรับจากตลาดอย่างแน่นอน

แนะนำ แอพ สำหรับ แอนดรอย์


สำหรับท่านผู้อ่านที่ใช้แอนดรอย์ แล้วชอบฟังวิทยุ ผมแนำนำแอพนี้เลยครับ "Tunein Radio" หาใน Maket ได้เลยนะครับ
มันเป็น ฟรัแอพ แล้วที่สำคัญคือ รับได้หมดทั่วโลก ขอเพียง คุณมี Edge, Wifi ก็สามารถใช้ได้เลยครับ

The Dipr ที่จับคุ้กกี้จุ่มนมแทนการใช้มือ

ยังคงเป็นข่าวเบาๆ อีกชิ้นที่นำมาฝากให้อ่านกันยามเช้านะครับ สำหรับรายงานข่าวชิ้นนี้เป็นผลงานการออกแบบแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่หลายคนอาจจะไม่เคยคิดมาก่อน คุณผู้อ่านคงจะจำโฆษณาคุ้กกี้ Orio ได้นะครับ ที่มักจะนำเสนอวิธีรับประทานที่จะต้องใช้มือหยิบจุ่มลงไปในนมก่อนรับประทาน แต่วิธีนี้นักประดิษฐ์พบว่า มันมีปัญหาใหญ่อยู่ 2 ประการด้วยกัน...อุ๊ปส์!!!

ปัญหาแรกก็คือ การใช้มือหยิบคุ้กกี้จุ่มนม นิ้วมือของคุณจะจุ่มลงไปนมด้วย (แหวะ) และหากจุ่มนานไป เมื่อหยิบคุ้กกี้ขึ้นมา คุ้กกี้ก็อาจจะแตกหักได้อีกต่างหาก อืม...คิดได้ไงเนีย? ว่าแล้ว สองนักออกแแบบก็ได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่่ช่วยให้การรับประทานคุ้กกี้จุ่มนม ได้อย่างสะดวก และสะอาด นั่นก็คือ The Dipr Cookie Spoon หรือช้อนคุ้กกี้นั่นเอง ซึ่งเป็นนวตกรรมที่ไม่น่าเชื่อว่า จะมีใครคิดค้นกันออกมา



The Dipr Cookie Spoon ได้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Kickstart เพื่อให้ผู้ชมสามารถเสนอให้เงินทุนในการพัฒนาไอเดียนี้เป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อวางจำหน่าย Dipr Cookie Spoon จะมีลักษณะคล้ายช้อน เพียงแต่ที่จับออกแบบคล้ายตะขอครึ่งวงกลม (รัศมีเท่ากับขนาดคุ้กกี้) และด้วยความที่มันเป็นพลาสติกทีมีความ ยืดหยุ่น เวลาใช้งานก็แค่นำคุ้กกี้ที่สอดใส้ครีมตรงกลางใส่เข้าไปโดยให้ส่วน โค้งของ Dipr รองรับช่องว่างตรงกลางของคุ้กกี้พอดิบพอดี ซึ่งจะทำให้คุ้กกี้ติดกับ Dipr ได้โดยไม่หลุดง่าย จากนั้นก็จุ่มคุ้กกี้ลงในนม เพื่อรับประทานได้อย่างมั่นใจ...ว้าว!!!

เปลี่ยน"ล้อใหญ่"ให้ Segway เร็วกว่าเดิม

เริ่มต้นเช้าวันจันทร์อย่างนี้ รายงานข่าวจากเว็บไซต์ arip ขอประเดิมด้วยข่าวเบาๆ แต่แฝงด้วยไอเดียที่น่าสนใจดีกว่านะครับ คุณผู้อ่านหลายท่านคงจะคุ้นเคยกันอย่างดีแล้วสำหรับยานพาหนะสองล้อทรงตัวได้ เองอย่าง Segway ซึ่งแม้มันจะไม่ได้รับความนิยมใช้งานกันแพร่หลายอย่างที่ผู้พัฒนาตั้งใจไว้ แต่มันก็เป็นต้นแบบของยานพาหนะส่วนบุคคลให้นักประดิษฐ์ทั่วโลกพยายามพัฒนา Gadget ลักษณะนี้ออกมากันอย่างมากมาย



แต่ ประเด็นที่ทางกองบรรณาธิการนำมาฝากคุณผู้อ่านวันนี้จะเป็นเรื่องของการดัด แปลง หรือ modding ให้ Segway สามารถซิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 20 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งหากตั้งโจทย์ท้าทายในลักษณะดังกล่าว คำตอบที่ส่วนใหญ่จะนึกถึงก็คือ การปรับแต่งชุดวงจรขับและขนาดของมอเตอร์ที่ใช้ของ Segway แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องที่ยากมากเกินกว่าผู้ใช้ทั่วไปจะทำได้ แต่เดี๋ยวก่อน หากพิจารณาโจทย์ที่ว่า จะเพิ่มความเร็วให้ Segway ตัวแปรที่น่าสนใจ และมีผลต่อคำตอบโดยตรงก็คือ เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ ซึ่งหากเพิ่มมันขึ้นมา ระยะทางต่อรอบ (เส้นรอบวง) ที่ความเร็วสูงสุดของ Segway คำตอบที่ได้ก็คือ ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ว่าแล้วนักประดิษฐ์หัวใสรายนี้ก็เลยเปลียนขนาดของล้อ โดยใช้ล้อรถลากเทียมด้วยม้าที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นเท่าตัวของล้อแบบ เดิมมาเปลี่ยนเข้าไป ปรากฎว่า Segway สามารถซิ่งได้เร็วกว่าเดิมถึง 25 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

Credit ARIP News

Views: 248

Comment

You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!

Join Manchester City Fan Club in Thailand Website

Comment by chaiya on November 9, 2010 at 10:46pm
ไม่สนหรอก ตอนนี้ เมียเก่า nokia กำลังขาขึ้น
Comment by mcfc-มีน on November 9, 2010 at 5:56pm
ถูกใจ อยากได้ครับ แต่ความจำเปนแล้ว ไม่เอาดีกว่า แต่ชอบเรื่องพวกนี้นะ ไฮเทคฯ น่าสนใจดีครับ

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.