Facebook Messages เพชรฆาต Gmail

และแล้วก็เป็นอย่างที่ทั่วโลกคาดกันไว้ เมื่อล่าสุด Facebook ออกมาประกาศบริการใหม่ที่เรียกว่า "Facebook Messages" โดย Mark Zuckerberg กล่าวว่า มันไม่ใช่อีเมล์ แต่มันจะเป็นสิ่งที่มาแทนที่อีเมล์ และหากคุณอยากมีอีเมล์แอดเดรสเป็น @facebook.com ฝันของคุณเป็นจริงแล้ว

คำถามคือ Facebook Messages แตกต่างจาก"อีเมล์"ทั่วไปอย่างไร? ทางบริษัทกล่าวว่า Facebook Messages ประกอบด้วย อีเมล์ ระบบข้อความของเฟซบุ๊ค SMS ตลอดจนไคลเอ็นต์ที่ใช้สำหรับ chat และดูเหมือนว่า จะมีการให้บริการ VoIP ในบริการใหม่นี้ด้วย เรียกได้ว่า ผู้ใช้ Facebook สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆ ได้ทุกทาง โดยทั้งหมดจะผูกกับอีเมล์แอดเดรส @facebook.com ของคุณ นอกจากนี้ มันยังสามารถรีไดเร็กต์อีเมล์จาก Gmail เข้ามาที่นี่ได้อีกด้วย และแน่นอนว่า บริการดังกล่าวจะได้รับการพัฒนาให้เป็นแอพฯ บน iPhone ในเร็วๆ นี้ ประเด็นที่แตกต่างจาก e-mail ทั่วไปก็คือ มันไม่มีบรรทัดหัวเรื่อง (subject line) หรือ cc และ BCC คุณสามารถส่งข้อความได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่ม Enter เท่านั้น

Facebook Messages ยังมีการให้บริการจัดเก็บข้อความที่โต้ตอบกันอีกด้วย โดยจะบันทึกทุกๆ รูปแบบของการติดต่อของคุณกับเพื่อนๆ ไว้ในที่เดียว (one-stop conversation shop) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นเรื่องราวที่สนทนากับเพื่อนๆ ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ Facebook ยังจะได้แนะนำ Social Inbox ที่จะทำให้คุณรับเมสเสจจากเพื่อน และเพื่อนของเพื่อนเท่านั้น พวกข้อความขยะจะไปอยู่ในโฟลเดอร์อื่น ผู้ใช้สามารถย้ายเพื่อนจากโฟลเดอร์หนึ่งไปยังอีกโฟลเดอร์หนึ่งได้ หรือให้อีเมล์ตีกลับไปยังผู้ส่งที่ไม่ใช่เพื่อนได้ จะว่าไปแล้ว Priority Inbox ของ Gmail ยังเทียบกับสิ่งที่ Facebook ทำได้ไม่ได้เลย

Facebook Messages ยังเพิ่มความสามารถในการเปิดไฟล์แนบที่เป็นเอกสาร Office โดยไม่ต้องออกจาก Facebook ได้อีกด้วย ซึ่งงานนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Facebook กับ Microsoft และในอนาคตอันใกล้ ผลลัพธ์การค้นของ Facebook จะปรากฎใน Bing ได้แบบเรียลไทม์ ดูเหมือน FB กับ MS กำลังจับมือกันทุบ Google อย่างไรก็ดี Zuckerberg ยืนยันว่า Facebook Messages ไม่ใช่เพชรฆาต Gmail แต่ Facebook กำลังมองไปในอนาคตที่คนรุ่นใหม่เริ่มไม่ใช่อีเมล์ในการสื่อสารเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ซึ่งในขณะที่คนเหล่านี้กำลังเลิกใช้อีเมล์สำหรับส่งข้อความ และแชต พวกเขาก็จะหันไปใช้ช่องทางรวมสำหรับการสื่อสาร (communication hub) ของ Facebook นั่นเอง

i3DG กระจกสร้างภาพ 3D บน iPhone

รายงานข่าวเช้านี้ ขอประเดิมด้วยอุปกรณ์เสริมที่ไอเดียแหล่มมากๆ ชื่อว่า i3DG โดยมันสามารถทำให้ iPhone (หรือ iPod Touch) ของคุณสามารถแสดงผลด้วยเอฟเฟกต์ 3D บนแอพพลิเคชันต่างๆ อย่างเช่น เกมส์ (Games) ได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาก็สามารถเห็นภาพ 3D ได้อีกด้วย

Jitsuro Mase ผู้สร้าง i3DG ได้ร่วมมือกับ Directions, Inc ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริม iPhone ดังกล่าวในงาน Austrian expo อย่างไรก็ดี i3DG ที่สาธิตในคลิปวิดีโอข้างล่างนี้ยังไม่มีการผลิต แต่เป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นไอเดียที่เรียบง่าย แต่สามารถสร้างภาพ 3D ออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อสายตาตัวเอง หวังว่า Mase จะสามารถผลักดันให้มันกลายเป็นผลิตภัณฑ์ได้ในที่สุด

เกริ่น กันมาเยอะแล้ว มาดูรายละเอียดของ i3DG กันบ้างดีกว่า ความลับของการสร้างภาพ 3D ของอุปกรณ์เสริมตัวนี้ก็คือ "กระจกใส" โดยตัวอุปกรณ์จะประกอบด้วยกระจก 3 อันวางซ้อนเรียงกัน ทำมุม 45 องศา เมื่อสวมเข้ากับ iPhone (หรือ iPad เนื่องจากทางผู้สร้างมีแผนที่จะทำอันใหญ่ออกมาด้วย) ภาพวิดีโอเกมส์ที่แสดงบนหน้าจอ iPhone จะสะท้อนขึ้นไปบนกระจกทั้ง 3 ชิ้น ทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพที่ปรากฎมีระยะลึกตื้นต่างกันตามระยะห่างของกระจกนั่น เอง ลองชมคลิปข้างล่างนี้ดูนะครับรับรองต้องทึ่งกับไอเดีย gadget ชิ้นนี้กันอย่างแน่นอน

มือถือแอนดรอยด์ 3D ไม่ง้อแว่นมาแล้ว

รายงานข่าวเช้านี้ ขอเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ (Android) รุ่นใหม่ล่าสุด โดย DoCoMo บริษัทผู้ให้บริการมือถือยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งใช้ชื่อว่า LYNX 3D ดรอยด์โฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล 3D ได้ในแบบที่ไม่ต้องสวมใส่แว่นตาเวลาใช้งาน...ว้าว!!!

สำหรับมือถือรุ่นใหม่นี้ผลิตโดย Sharp ซึ่งนอกจากจะใช้เทคโนโลยี 3D แบบไม่ง้อแว่น (Parallax Barrier) ในการแสดงผลแล้ว สเป็กของมันยังไม่ธรรมดาอีกด้วย เริ่มต้นจากการใช้โพรเซสเซอร์ความเร็ว 1GHz กล้องที่ใช้ CCD ความละเอียดสูงถึง 9.6 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟ 720p หน้าจอสัมผัสขนาด 3.8 นิ้ว ภายในเครื่องมาพร้อมกับจูนเนอร์ Digital TV และฟังก์ชันพิเศษที่ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงภาพถ่ายดิจิตอล 2 มิติ ให้กลายเป็น 3 มิติได้ นอกจากนี้ยังดูทีวี 3D ได้ด้วย เพียงแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้น กำหนดการวางตลาดในญี่ปุ่นเดือน ธันวาคม มีให้เลือก 3 สีคือ น้ำเงิน ขาว และดำ (อัพเกรดเป็น Android 2.2 ต้นปีหน้า) ส่วนจะน่าใช้แค่ไหนนั้น ลองชมคลิปข้างล่างนี้ดูก็แล้วกันนะครับ



สงครามบทใหม่สำหรับมือถือ Android กำลังอุบัติขึ้นอีกครั้ง เมื่อ LG ออกมาประกาศแนะนำสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ชื่อ LG Star ซึ่งถือเป็นรุ่นเรือธง และมีสเป็กขั้นเทพระดับ SuperPhone เตรียมชนกับ Nexus S ของ Google ส่วนทางฝั่ง Apple คงจะอยู่ในระหว่างการสังเกตการณ์ เพื่อพัฒนา iPhone 5 ออกมาชนในช่วงครึ่งหลังของปี 2011

LG Star มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้ว ภายในเครื่องทำงานด้วยขุมพลังโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Nvidia Tegra 2 กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p พร้อมช่องต่อ HDMI กับทีวีได้เลย แหล่งข่าวยังอ้างอีกว่า มันมีกล้องด้านหน้า สำหรับรองรับฟังก์ชัน video call แบบ FaceTime ของ iPhone อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD ตลอดจนพอร์ต microUSB และแบตเตอรี่ 1,500 mAh ส่วนระบบปฏิบัติการคาดว่าจะเป็น Android 2.3 (Gingerbread) วางตลาดต้นปี 2011

Samsung เล็งออก Google TV ต้นปีหน้า

และแล้ว Sony ก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิตทีวีเพียงรายเดียวที่ใช้แพลตฟอร์ม Google TV กับทีวีของบริษัท เนื่องจากรายงานข่าวล่าสุด Samsung มีแผนที่จะรันซอฟต์แวร์ Google TV เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถท่องเว็บ และจัดการกับระบบบันทึกวิดีโอดิจิตอล ตลอดจนคุณสมบัติอื่นๆ อีกเพียบบน HDTV รุ่นใหม่ของทางบริษัทที่จะวางตลาดในต้นปีหน้า

ข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยโดย Yoon Boo Keun ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจทีวีของซัมซุง ซึ่งนักข่าวของ Bloomberg รายงานว่า นอกจากการระบุถึงผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ทางผู้บริหารยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม Samsung กำลังจะเป็นบริษัทผู้ผลิตทีวีรายที่สองที่กระโดดเข้ามาเล่นในสังเวียน Google TV โดยจะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคม 2011

ก่อน หน้านี้ Sony ได้ออก HDTV ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติของ Google TV โดยมีขนาดของจอให้เลือกตั้งแต่ 24 นิ้วไปจนถึง 46 นิ้ว ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 600 - 1,400 เหรียญฯ (ประมาณ 18,000 - 42,000 บาท) นอกจากแพลตฟอร์ม Google TV จะมีให้เลือกใช้ในรูปแบบของทีวีแล้ว ยังมีในแบบอุปกรณ์เสริมการใช้งานทีวีอีกด้วยอย่างเช่น Logitech Revue เซตทอปบ๊อกซ์ที่สามารถเปลี่ยนทีวีของคุณเป็น Google TV ได้



ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ทั่วโลกพากันตื่นเต้นกับ BlackBery PlayBook ของ RIM แต่หลังจากที่เป็นข่าวไปได้สักระยะ ผู้ใช้ก็รู้สึกแคลงใจที่ไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับแท็บเล็ตดังกล่าว โดยเฉพาะตัวเครื่องจริงๆ จนมันดูเหมือนจะเป็นแค่มุขการตลาดเท่านั้น จนกระทั่งทาง RIM ได้นำเครื่องต้นแบบจริงๆ ออกมาสาธิตให้เห็นกันไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในงาน AdobeMax

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกำหนดการวางตลาดของ BlackBerry PlayBook ที่แน่นอน แต่นอกเหนือจากข่าวคราวที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะสามารถเป็นเจ้าของ PlayBook ได้ในอนาคตอันใกล้แล้ว ข้อสงสัยที่หลายคนมักจะถามกันอยู่เสมอก็คือ PlayBook แท็บเล็ต 7 นิ้วจะสู้จ้าวตลาดอย่าง iPad ได้หรือไม่?

ล่า สุด RIM ได้โพสต์วิดีโอการท่องเว็บของ PlayBook กับ iPad บน YouTube เพื่อให้เห็นกันจะๆ ไปเลยว่า ของใครแน่กว่ากัน? ทางด้าน Jim Balsillie ซีอีโอของ RIM อ้างว่า PlayBook เร็วกว่า iPad ประมาณ 3 - 4 เท่า แต่เพื่อความเป็นกลางในการนำเสนอ แนะนำให้ลองชมคลิปข้างล่างนี้ แล้วตัดสินด้วยสายตาของคุณผู้อ่านเองดีกว่าครับ หวังว่า เราจะได้มีโอกาสสัมผัสของจริงในช่วงต้นปี 2011

ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นปรานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ตามร่างที่คณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมสองสภาพิจารณา โดยเนื้อหาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้แก้ไขใน 5 ประเด็น คือ 1.จำนวน กสทช.ให้กลับไปมี 11 คน จากเดิมกำหนด 15 คน 2.โครงสร้างของ กสทช.ให้ตัดสัดส่วนตัวแทนของฝ่ายความมั่นคงและการบริหารราชการออก 3.คุณสมบัติเรื่องอายุ กรรมการกสทช. กำหนด 35-70 ปี 4.ให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาเป็นหน่วยธุรการในการดำเนินการสรรหา และ 5.ให้รัฐวิสาหกิจนำรายได้จากผลประกอบการที่ได้รับ ส่งให้ กสทช.เพื่อส่งเป็นรายได้แผ่นดินภายใน 3 ปี

นายธวัช บวรวนิชยกูร ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การที่ประเทศไทยต้องใช้คลื่นความถี่ 3 จี ล่าช้าออกไปทำให้ประเทศเสียโอกาสมาก เพราะศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองมาแล้วว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่ง ชาติ (กทช.) ไม่สามารถดำเนินการเปิดประมูล 3 จีได้ ต้องรอกสทช.เท่านั้น จึงอยากสอบถามว่าภายหลังจากที่มีการบังคับใช้พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้วจะมี กสทช.เข้ามาทำงานเมื่อไหร่

นายคำนูน สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การพิจารณากฎหมายฉบับนี้เสมือนเป็นการบีบบังคับให้วุฒิสภาต้องให้ความเห็น ชอบให้ได้ เพราะถ้าไม่ผ่านก็จะทำให้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ อย่าไรก็ตามประเด็นสำคัญที่สงสัยมากที่สุด คือการตัดสัดส่วนบุคคลผู้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของรัฐออกไปในสัด ส่วนของกสทช. เพราะการทำงานจริงของกสทช. ย่อมมีความจำเป็นที่จะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐ ไม่รู้ว่าผู้ร่างกฎหมายกำลังกลัวอะไรอยู่หรือไม่

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่ต้องการให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเข้ามาทำหน้าที่สรรหาบุคคลเข้ามาเป็น กสทช. เพราะเป็นการสร้างภาระงานให้สำนักงานฯมากเกินไป เนื่องจากต้องมารับภาระการรับขึ้นทะเบียนของหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดในการ ส่งชื่อบุคคลเข้ามารับการสรรหากสทช. ส่งผลให้ภาระงานมากเกินไปโดยไม่จำเป็นทำให้สำนักงานฯต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง กับงานฝ่ายบริหารมากเกินไป ที่สำคัญ หวั่นเกรงว่าสำนักงานฯจะต้องเข้ามาเป็นจำเลยในอนาคต หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ไม่ได้รับการสรรหากสทช. โดยอ้างกระบวนการสรรหามิชอบและไปฟ้องร้องต่อศาล ทำให้หน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นของสำนักงานฯมีประสิทธิภาพขาดหายไป

นายอนันต์ วรธิติพงศ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการฯ ชี้แจง ว่า การกำหนดให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการสรรหากสทช. เพราะจะให้ความเป็นกลางมากกว่าองค์กรอื่น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมทั้งมีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว จึงมั่นใจว่าจะสามารถสรรหากสทช.ได้ภายใน 180 วัน อยากให้ดูตัวอย่างในอดีตที่ผ่านมาที่ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีใน อดีตทำ ก็ไม่สามารถสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ได้ สำหรับการตัดสัดส่วนของบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของรัฐ คณะกรรมาธิการฯไม่ได้ตัดออกไปจากสาระบบเสียทีเดียว แต่ในมาตรา 48 เกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่นั้น ได้กำหนดให้กสทช.รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย รวมไปถึงต้องคำนึงถึงการใช้งานด้านความมั่นคงของรัฐตามความจำเป็นด้วย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าฝ่ายความมั่นคงยังคงมีส่วนร่วมอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที ที่สุดที่ประชุมวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 82 ต่อ 4 งดออกเสียง 4 และไม่ลงคะแนน 1 โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป

Twitter Analytics เปิดให้ใช้ปลายปีนี้

รายงานข่าวล่าสุด เว็บไซต์ Mashable อ้างว่า ทวิตเตอร์ (Twitter) ซุ่มพัฒนา Analytics ผลิตภัณฑ์วิเคราะห์สถิติของผู้ใช้ทวิตเตอร์แต่ละราย ซึ่งตามรายงานยังระบุอีกด้วยว่า ตอนนี้ทางบริษัทได้เปิดให้ทดลองใช้ Twitter Analytics รุ่นทดสอบกับกลุ่มผู้ใช้ที่ได้รับการคัดเลือกบ้างแล้ว ส่วนเวอร์ชันสมบูรณ์จะเปิดให้ใช้ได้ในช่วงปลายปี 2010 นี้

สำหรับข้อมูลที่ผู้ใช้จะได้รับจาก Twitter Analytics จะอยู่ในรูปของชนิดของความมีอิทธิพลของคุณ ภาพรวมของทวีตต่างๆ ที่ได้รับเป็นอย่างไร? หรือทวีตแบบไหนที่ทำให้เสียผู้ติดตาม (followers) ไป นอกจากนี้ Twitter Analytics ยังสามารถช่วยให้คุณรู้ได้อีกด้วยว่า ผู้ใช้คนใดที่มีความสำคัญเมื่อเขาตอบ (Reply) หรือ RT ข้อความของคุณ

คาด ว่า Chief Evan Willams ทีมีคิวขึ้นให้สัมภาษณ์ในงาน Web 2.0 Conference ในซานฟรานซิสโกวันนี้ น่าจะมีการประกาศความชัดเจนเรื่อง Twitter Analytics ด้วย อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางเว็บไซต์ได้ประกาศเปิดให้บริการแจ้งเตือนผู้ใช้ทาง SMS หรือ Twitter App บน iPhone เมื่อมีใครกล่าวถึงคุณ หรือตอบข้อความ

Google Docs แก้ไขเอกสารบน iPad ได้

ในที่สุด Google Docs เวอร์ชันโมบายก็คลอดออกมาจนได้ ซึ่งประโยชน์ทีผู้ใช้จะได้รับก็คือ คุณสามารถแก้ไขเอกสารของคุณได้ทั้งในขณะที่อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือขณะเดินทาง โดยแก้ไขผ่านมือถือ Android หรือแม้แต่ iPad เรียกได้ว่า อัพเดตเอกสารของคุณได้ทุกที่ทุกเวลาทุกเวลานั่นเอง

ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ทำให้ผู้ใช้ยุ่งยากในเรื่องของการแชร์ไฟล์ เพื่อวิว หรือแก้ไข แต่ด้วย Google Docs เวอร์ชันโมบายจะทำให้ปัญหานี้ของคุณหมดไป เพราะมันจะทำให้คุณสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารเดียวกันนี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะขณะอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่บนมือถือ ตลอดจน iPad แม้เครื่องมือแก้ไขเอกสารบน Google Docs เวอร์ชันโมบายจะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่การตอบโจทย์ความสะดวกข้างต้นจะทำให้คุณลืมข้อจำกัดดังกล่าวได้

อย่าง ไรก็ดี Google Docs เวอร์ชันบนมือถือ Android ผู้ใช้จะสามารถแทรกข้อความเข้าไปในเอกสารด้วยเทคโนโลยีรู้จำเสียง (voice recognition) หรือใช้เสียงพูดของคุณแทนการพิมพ์ด้วยนิ้วสัมผัสได้อีกด้วย ปัจจุบัน Google Docs จะสนับสนุนอุปกรณ์บนแพลตฟอร์ม Android ที่ทำงานด้วย Froyo และ iOS 3.0 ขึ้นไป (รวมถึง iPad) เล่าให้ฟังอาจจะไม่เห็นภาพชัดเจน ลองชมคลิปแนะนำ Google Docs (เวอร์ชันโมบาย) ข้างล่างนี้ดีกว่าครับ รับรองว่า คุณต้องอยากใช้กันแน่ๆ

REEM-H2 หุ่นยนต์พนักงานให้บริการ

REEM-H2 หุ่นยนต์ประเภทฮิวแมนอยด์ (humanoid) ตัวนี้สร้างขึ้นโดยบริษัท Pal Robotics ในประเทศสเปน สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย จุดเด่นของมันอยู่ที่ระบบนำร่องโดยอัตโนมัติ (automomous navigation system) พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสที่บริเวณหน้าอก ตลอดจนความสามารถในการจำเสียง และใบหน้า (Voice & Face Recognition) ทั้งหมดนี้ทำให้ REEM-H2 สามารถไปไหนมาไหนได้เอง โดยใช้ข้อมูลที่อยู่โดยรอบตัวมัน แถมยังช่วยเหลือ หรือสร้างความสนุกสนานให้กับผู้คนได้อีกด้วย

นอกจากการช่วยแนะนำเส้นทาง หรือให้ความสนุกกับผู้คนที่ได้พบแล้ว REEM-H2 ยังสามารถนำส่งสิ่งของที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักได้อีกด้วย และด้วยการทำงานของ หน้าจอบนหน้าอกของมันกับแอพพลิเคชันมัลติมีเดียต่างๆ ทำให้ REEM-H2 สามารถแสดงแผนที่โดยรอบบริเวณที่มันอยู่ ตลอดจนโทรศัพท์เพื่อขอข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น สภาพภูมิอากาศ ภัตตาคารที่อยู่ใกล้ เที่ยวบินของสายการบิน เป็นต้น แถมยังให้บริการประชุมผ่านวิดีโอทางไกลได้อีกด้วย

REEM-H2 สูง 1.7 เมตร หนัก 90 กิโลกรัม แบตเตอรี่ทำงานได้ 8 ชม. มีข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ทั้งหมด 22 ตำแหน่ง สามารถบันทุกของที่แท่นรองด้านหลังได้หนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม ส่วนมือแต่ละข้างจะถือของได้หนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เซ็นเซอร์ที่ใช้ได้แก่ microphone, stereo-camera, laser, ultrasounds, accelerometer และ Gyroscope ส่วนหน่วยประมวลผลที่ทำให้ REEM-H2 ทำงานได้สารพัดก็คือ Core 2 Duo Atom จาก Intel

REEM-H2 เหมาะสำหรับการเป็นหุ่นยนต์ให้บริการในที่สาธารณะอย่างเช่น ในโรงแรม พิพิธภัณฑ์ งานแสดงสินค้า ชอปปิ้งมอลล์ สนามบิน โรงพยาบาล ศูนย์ดูแล และอื่นๆ อีกมากมาย เห็นแล้วทำให้นึกถึงเจ้าดินสอที่มาโชว์ในงาน COMMART COMTECH 2010 ที่ผ่านมา แต่หน้าของมันที่ใช้หน้ากากดูแล้วชวนขนลุก ดูแล้วคล้าย"เจสัน"ศุกร์ที่ 13 ไหมครับ?

Nokia C7 ดีไซน์บางเฉียบ-กล้องเจ๋งสุดๆ

Nokia C7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ออกตามหลัง Nokia N8 มาติดๆ จะเรียกว่าพี่น้องคลานตามกันมาก็ว่าได้ โดย Nokia C7 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สองของบริษัทที่ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Symbian 3 พร้อมชูจุดเด่นคือ ดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเฉียบ น้ำหนักเบา กล้อง HD และราคาที่ถูกกว่า

ดูเหมือน Nokia จะเริ่มติดเครื่องแล้ว หลังจากที่ Nokia N8 เจอโรคเลื่อน โดยล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัว Nokia C7 ตามออกมาติดๆ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่มีดีไซน์บางเฉียบขอบมนสวยงาม พร้อม ด้วยหน้าจอระบบสัมผัส ClearBlack AMOLED 3.5 นิ้ว ความละเอียด 640 x 360 พิกเซล (16.7 ล้านสี) เท่ากับ N8 แน่นอนว่า คุณจะได้เห็นภาพหน้าจอที่คมชัดสว่างสดใสไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

สเป็ก ภายในเครื่อง Nokia C7 ใช้โพรเซสเซอร์ที่มีความเร็ว 680MHz กล้องที่ด้านหลังมีความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล (ซูมได้ 3 เท่า) พร้อมแฟลช dual-LED และลำโพงสเตอริโอที่อยู่ดิดกัน ส่วนกล้องด้านหน้าจะเป็น VGA สามารถใช้บริการวิดีโอคอลผ่าน 3G หรือ Wi-Fi โดยในส่วนของกล้องจะสามารถถ่ายวิดีโอ ในส่วนของกล้องด้านหลังยังสามารถบันทึกวิดีโอ HD 720p ได้อีกด้วย แม้จะเก่งไม่เท่า N8 แต่ก็ถือว่า เจ๋งกว่าคู่แข่งหลายๆ รายในท้องตลาด

Nokia C7 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในเครื่อง 8GB และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD เพิ่มได้สูงสุด 32GB สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย Blutooth 3.0, Wi-Fi b/b/n พร้อมระบบแผนที่นำทาง GPS ส่วนพรีโหลดแอพฯที่น่าสนใจก็อย่างเช่น Ovi Maps, QuickOffice, Message reader และ Adobe PDF viewers ตลอดจนวิดเจ็ตสำหรับติดตามข่าว และคลิปจาก CNN หรือจะดาวน์โหลดแอพฯเพิ่มเติมที่มีมากกว่า 13,000 แอพฯ จาก Ovi Store ก็ได้





รายงานข่าวล่าสุด ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป คอวิดีโอเกมส์จะสามารถเลือกเล่นเกมส์ที่ต้องการ (on-demand) ผ่านบริการออนไลน์ที่ชื่อว่า OnLive บนเครื่องรับ TV ที่บ้าน เพียงแค่ต่อเกมส์คอนโซลขนาดเล็ก (microconsole) ของทางบริษัทเข้ากับทีวี และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง...ว้าว!!!

OnLive ประกาศ ว่า ทางบริษัทจะออก MicroConsole อุปกรณ์ที่จะเปลี่ยน TV ของคุณให้เป็นเครื่องเล่นเกมส์ในรูปแบบ on-demand โดยโหลดผ่านเน็ต ไม่ต้องซื้อแผ่นเกมส์ให้วุ่นวายให้อีกต่อไป MicroConsole ของ OnLive จะมีขนาดใหญ่กว่านามบัตรเล็กน้อย สนนราคาแค่ 99 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 บาท) มาพร้อมกับจอยแพดไร้สาย ตัวคอนโซลสามารถเชื่อมต่อกับ HDTV ผ่านทางพอร์ต HDMI พร้อมด้วยพอร์ต Ethernet สำหรับเชื่อมต่อบรอดแบนด์ความเร็วสูง อย่างไรก็ดี บริการของ OnLive สามารถใช้เล่นเกมส์บน PC และ Mac ได้ด้วย

Steve Perlman ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง OnLive โพสต์ไว้ในบล็อกว่า ทางบริษัทใช้เวลามากกว่า 8 ปีในการทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ฝันของผู้เล่นเกมส์ที่ต้องการเครื่องเล่นที่สามารถเลือกเกมส์ที่ ต้องการได้ดังใจ โดยไม่ต้องคอยควานหาแผ่นเกมส์มาใส่ให้เสียเวลา ในส่วนของบริษัทผู้พัฒนาเกมส์อย่างเช่น 2K, Ubisoft และ Warner Bros Interactive ได้มีเกมส์พร้อมให้เล่นผ่านทาง OnLive เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ EA, THQ และ Take-Two Interactive กำลังจะตามมา ทั้งนี้ผู้เล่นสามารถซื้อเกมส์ผ่านหน้าร้านบนเว็บ โดยมีไตเติ้ลให้เลือกซื้อแล้วอย่างเช่น Borderlands, NBA 2K11, Tom Clancy's Splinter Cell: Conviction, Batman: Arkham Asylum และ Unreal Tournament III

OnLive กำลังเสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับผู้เล่นเกมส์ที่ไม่ต้องการซื้อแผ่นวิดีโอ เกมส์ และคอนโซลที่มีราคาแพง "เราจะจัดหาไตเติ้ลเกมส์ล่าสุดที่คุณเห็นในห้างอย่าง Target หรือ Best Buy เพื่อให้คุณเลื่อกซื้อ และพร้อมเล่นได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ไฮเอ็นด์แต่อย่างใด (ด้วยระบบ cloud computing)" Perlman กล่าว ซึ่งการนำวิดีโอเกมส์ขึ้นมาทำงานด้วยระบบคลาวด์ เพื่อตอบโจทย์การให้บริการแบบ on-demand ผ่านเน็ตความเร็วสูง โดยคอนโซลไม่ต้องเก่ง และแพงมากนัก แถมยังไม่ต้องใช้แผ่นเกมส์อีกต่างหาก นับเป็นไอเดียที่ฉลาดมากทีเดียว



Credits : ARIP News &