Members

กู๊ ด บ า ย ห น้ า ร้ อ น ต้ อ น รั บ ห น้ า ฝ น ที่ The Scenery Resort * *

สวัสดีครับ....
ช่วงนี้กระแสฟุตบอลโลกมากันแล้ว
แต่ สำหรับผมทำไมรู้สึกเฉยๆไม่รู้....
อาจจะเป็นเพราะเรื่องยุ่งๆที่ผ่านมาทำ ให้ไม่ค่อยมีจิตใจอยากดูบอลเลย


นอกเรื่องไปหน่อย ...พาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
รีวิวแบบโฟโต้ไดอารี่ ฉบับนี้ จะพาไปเที่ยวชมธรรมชาติใกล้ๆกรุงเทพครับ
เป็นที่ที่เพื่อนๆชาว MCFC นิยมไปพักผ่อนกันที่นึงเลย
ค่าใช้จ่ายก็พอประมาณระดับนึงนะครับถ้าไปที่นี่ โดยเฉพาะที่พัก
พร้อมแล้วก็ไปด้วยกันนะครับ
..........................................................................................

ยาม ที่อากาศร้อนอบอ้าวในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ร้อนมากจนแทบจะออกจากห้องที่ มีเครื่องปรับอากาศไม่ได้เลย
แต่เนื่องจากแผนการท่องเที่ยวที่เราได้วาง กันไว้นานมากแล้ว...
ทำให้ความรู้สึกร้อนอบอ้าวนั้นคลายไปเยอะทีเดียวใน วันที่ต้องเดินทาง

"Scenery Resort & Farm"
เราจอง กันไว้นานมากจนแทบลืมไปเลยว่าจองไว้เมื่อไหร่
ที่นี่คนยังจองคิวที่จะไป พักผ่อนเยอะเหมือนเดิม

ผมทำหน้าที่วางกำหนดการเดินทางและจุดแวะ เหมือนเช่นทุกครั้งในทริปที่ผ่านมา
โดยมีคนข้างกาย(เพื่อนเลิฟๆ)คอยกำชับถึงบางสถานที่ ที่อยากไปและผมต้องพาไปให้ได้

สุดท้ายก็กำหนดทริปกันได้ โดยจะแวะตามนี้


>>กรุงเทพมาไม่ไกลหรอกนะ มามามา>>ตลาดน้ำดำเนินสะดวก>>อาสนะ วิหารแม่พระบังเกิด>>โบสถ์พระหฤทัย>>
>>ร้านกาแฟคน รักษ์สวน>>บ้านอ้อมกอดขุนเขา>>scenery resort
......ถึงเวลา จริงๆ ก็ต้องมีตัดออกบ้าง เพิ่มเติมไปบ้างตามเวลา


ออกเดินทางกันตอนเช้าตรู่ แต่เพราะต้องไปแวะเอา GPS เลยช้าไปนิดหน่อย


....................................
ไป ถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวก ก็สายพอควร แวะทานข้าวเช้ากันก่อนมุ่งหน้าสู่สถานที่ต่อไป
ที่นี่ผมไม่มีรูปลงเพราะ ถ่ายมาแล้วไม่ชอบเลยขอผ่านไปเลย

เอารูปฝรั่งมาให้ดูกันเล็กๆน้อยๆ รูปนี้ไม่ค่อยชัดและออกจะติดเรทนิดๆนะ


ออกเดินทางออกจากตลาดน้ำ ผ่านเส้นทางเล็กๆแต่ร่มรื่นและสวยงาม
มุ่งหน้าสู่ " อาสนะวิหาร แม่พระบังเกิด " ซึ่งไม่ห่างจากตลาดน้ำเท่าไหร่


ลงภาพที่นี่ให้ชมซักสองสามภาพ เพราะตั้งใจว่าจะเอาภาพชุดที่ถ่ายที่นี่ไปทำอีกรีวิวนึง

เสียดายที่วัน ที่เราไปชมอาสนะวิหารนั้น ในวิหารไม่ได้เปิดไฟ ไม่งั้นจะสวยกว่านี้มาก



ออกจากอาสนะวิหารแม่พระบังเกิดแล้ว
ก็จำใจต้องตัด โบสถ์พระหฤทัยออกจากลิสต์สถานที่ที่จะแวะ เนื่องจากดูเวลาแล้วใกล้เที่ยง
หาก แวะไปหลายที่อาจจะไปถึงที่พักตอนเย็นๆได้
เราจึงเบนเข็มการเดินทางไป ที่ร้านกาแฟคนรักษ์สวน เพื่อแวะพักชิมกาแฟ ดับกระหายกันเสียก่อน


มาเร็วมากครับคุณต่ายน้อย
อุตส่าห์มาโพสต์ตอนมี บอลแล้วนะเนี่ย smile
ซอยวัดหนองหอย หาได้ไม่ยาก ไม่รู้จักก็สามารถถามคนในพื้นที่ได้
ร้านกาแฟคนรักษ์สวนอยู่ในซอยวัดหนอง หอยนี้เอง เข้ามาจากปากซอยจะอยู่ขวามือ
หาไม่ยาก แ
ละไม่น่าจะรอดสายตาไปได้


เอสเพรสโซ่เย็น และคาราเมลลาเต้
สองรส สองสไตล์ตามความชอบของเราสองคน
เรามานั่งที่เก้าอี้ในสวนอันร่ม รื่น...ไม่นานนัก กาแฟก็มาส่งที่โต๊ะพร้อมพร้อมเปล่าเย็นๆอีกสองแก้ว


บรรยากาศร่มรื่นในสวนที่จัดไว้ รวมกับกาแฟเย็นๆ ช่วยทำให้คลายร้อนไปได้มากทีเดียว



ระหว่างที่คุณเพื่อนนั่งพักอ่านหนังสือ จิบกาแฟ

ผม ก็เดินชมไปรอบๆ และเก็บภาพบางมุมไว้ในกล้อง


ออกจากที่นี่ก็เที่ยงนิดๆแล้ว
ได้เวลาอาหารเที่ยง แล้วล่ะ


เราวางแผนกันไว้ว่าจะไปกันอีกครั้งที่มาเยือนสวนผึ้ง

เพราะ ติดใจในรสอาหาร และบรรยากาศที่คนไม่พลุกพล่านเหมือนเช่น honey scene

" บ้านอ้อมกอดขุนเขา "




พอเราจอดรถเรียบร้อย พนักงานก็รีบมาต้อนรับทันทีพร้อมทั้งพาไปที่ร้านอาหาร
วันนี้คนที่ร้าน อาหารไม่เยอะมาก
แต่ห้องพักเต็มเป็นปกติ เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์


ชุดโต๊ะเก้าอี้สีขาวของที่นี่ ถูกใจผมมากๆ



อาหารที่สั่งไปใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงโต๊ะ
ผัด ผักกูดจานใหญ่เกินไปนิดสำหรับสองคน



ข้าวผัดอีกคนละจาน รวมกับผัดผักกูด ก็เพียงพอสำหรับมื้อเที่ยงนี้แล้ว


เดินออกมาหน้ารีสอร์ต เจอกระต่ายน้อยสองตัว

มอง นาฬิกาแล้วเหลือเวลาอีกเกือบสี่สิบนาที จึงจะถึงเวลา check-in
มีเวลา เหลือแบบนี้ เราเลยเลือกไปที่ใกล้ๆอีกซักที่นึงเพื่อฆ่าเวล


" ธารน้ำร้อนบ่อคลึง "
ไม่ค่อยเป็นที่ ประทับใจผมนัก อาจจะเป็นเพราะผมได้ไปบ่อน้ำร้อนที่ดีกว่านี้มาแล้วที่ระนอง


เราเดินกันขึ้นไปเพื่อดูต้นน้ำ ต่างจากคนอื่นๆที่มาธารน้ำร้อนนี้แล้วเลือกที่จะแช่น้ำอยู่ด้านล่างมากกว่า
สอง ภาพของที่นี่เป็นภาพจุดต้นกำเนิดธารน้ำร้อน


ถึงเวลาที่เราต้องไปเช็คอินแล้ว
ขับเข้ามาถึงทาง เข้า มีพนักงานเข้ามาสอบถามถึงบ้านพักที่เราจองไว้
เมื่อบอกชื่อบ้านพัก และชื่อผู้จองแล้ว พนักงานคนนั้นก็บอกทางให้ขับเข้าไปที่ reception

ทาง เข้ามาที่ reception ก็งงนิดหน่อย เพราะเป็นทางไม่ใหญ่มาก
ถนนที่นำไปสู่ reception เป็นถนนโรยกรวด...



รถที่ขับมาต้องจอดไว้ตรงที่จอดรถใกล้กับ reception

เมื่อ แจ้งชื่อและส่งเอกสารให้พนักงานที่ส่วนต้อนรับแล้ว
ต้องรอรถที่จะไปส่ง ที่บ้านพัก....ระหว่างที่รอ ก็สามารถนั่งพักหรือเดินชมในส่วนห้องรับรองได้


แขกคนดังและคนสำคัญมากมายที่เคยมาพักที่นี่ มีบันทึกไว้เป็นวีดีโอและภาพถ่าย อยู่ตามมุมต่างๆ
เดินดูกันเพลินๆ ระหว่างรอรถ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9360296/E9360296-25.jpg


ด้านในห้องรับรองจะมีเครื่องปรับอากาศ เราเลยไม่อยากไปนั่งรอด้านหน้า reception
ประมาณ 10 นาที พนักงานก็เข้ามาแจ้งว่ารถมารอ พร้อมที่จะพาไปบ้านพักแล้ว

รถที่จะพาไปบ้านพักเป็นรถกอล์ฟ
ระหว่างที่นั่งรถ ไปบ้านพักนั้น พนักงานก็พาไปชมลำธารและห้องซาวน่า
พร้อมทั้งแจ้งว่าแขก ที่พักสามารถเรียกรถมารับไปส่งได้ทุกที่ในรีสอร์ท


บ้านพักที่เราเลือกครั้งนี้ " Hamata "
ที่ เลือกบ้านหลังนี้เพราะเป็นหลังสุดท้าย ค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่สุด และใกล้กับลำธารมากที่สุดด้วย
เปิดประตูเข้าไป ก็เจอเตียงนอนเลย พนักงานเปิดแอร์ทิ้งไว้ให้ก่อนที่เราจะเข้ามาด้วย

พนักงานจะแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในบ้านพัก
พร้อม ทั้งบอกเบอร์โทรศัพท์ต่างๆที่ใช้ติดต่อ reception และ honey scene ไว้ให้ด้วย

ในบ้านพักมี LCD ทีวี ,เครื่องเล่น DVD พร้อมชุดเครื่องเสียง


อุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นก็มีให้ เช่นร่ม หรือสลิปเปอร์สำหรับเดินในบ้าน
แต่ที่นี่ไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ มีเพียงราวสำหรับแขวนชุดตรงส่วนทางเข้าห้องน้ำ


ติดกับเตียงนอนจะเป็นบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ สามารถเปิดเพื่อเดินออกมาที่ชานข้างบ้านได้
ตรงชานนี้จะมีโต๊ะอาหาร และเตาบาร์บีคิว
บ้านนี้เป็นบ้านเดียวที่มีโต๊ะอาหารข้างๆบ้าน เพราะมีเนื้อที่น้อยที่สุด
ส่วนของบ้านอื่นๆจะอยู่บนดาดฟ้ากัน



ในบ้านพักจะมีลิสต์รายการอาหารเช้าเตรียมไว้ให้เรา เลือกได้คนละหนึ่งชุด
มีทั้งหมดสามชุด คือ
ชุดอเมริกัน จะเป็น ออมเล็ต(เลือกเครื่องที่จะใส่ได้) + เบคอน + ไส้กรอก
ชุดอังกฤษ จะเป็น สเต็ก + ไข่ดาว+เบคอน
ชุดไทย จะเป็นข้าวต้มเครื่อง
ทั้งสามชุดจะมี กาแฟ ขนมปัง นม น้ำส้ม ให้ด้วย
เมื่อเลือกรายการที่ต้องการแล้ว ก็ให้นำบัตรนี้ไปเสียบไว้ที่หน้าประตูบ้าน
พนักงานจะมาเก็บตอนเย็นๆ
ใน กรณีที่จะให้พนักงานนำอาหารมาให้ทานที่บ้านพัก ก็สามารถโทรแจ้งเวลาที่จะให้เสริฟได้ด้วย
แต่เร็วสุดได้ตอน 8 โมงเช้า ซึ่งผมว่าสายเกินไป น่าจะเริ่มเร็วสุดได้ตอน 7 โมงเช้ามากกว่านะ


มองจากหน้าต่างเล็กในห้อง สามารถมองเห็นถึงทางลงไปลำธารได้

.................................................
มินิ บาร์ทานได้หลายอย่างโดยไม่คิดเงินเพิ่ม ชอบกล้วยม้วนอบ
ราคามินิบาร์ที่ คิดเพิ่มก็ไม่ได้แพงกว่าข้างนอกมากนัก
ถือว่าแลกกันกับเวลาที่ต้องขับรถ ออกไปซื้อก็สมเหตุสมผล

ทางเดินไปห้องน้ำที่เป็นจุดเด่นของบ้านหลังนี้
ห้อง น้ำที่นี่จะมีทางเดินเป็นอุโมงค์เข้าไปห้องน้ำซึ่งแยกออกจากตัวบ้าน
แต่ ของบ้านอื่นจะติดกันกับตัวบ้านเลย


บ้านหลังนี้จะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในบ้านพัก ทั้งหมด
เปิดน้ำกันหลายชั่วโมงกว่าจะเต็ม
ภาพนี้ติดสีฟ้าไปนิดนึง

อีกมุมของอ่างอาบน้ำ
ด้านซ้ายของภาพจะเห็นพื้นไม้ ทำไว้เป็นส่วนระบายน้ำของ rain shower ที่ติดตั้งอยู่เหนือแผ่นไม้นั้น
การ ระบายน้ำยังทำไม่ดีหรือไม่ก็มีปัญหาเรื่องท่อน้ำ เพราะหลังจากใช้งานฝักบัวแล้ว
น้ำจะระบายไม่ทัน ล้นออกมานอกแผ่นไม้นั้นทุกครั้ง ผมเลยคอมเมนต์พนักงานไปตอนเช็คเอาท์


มะกี้ยัยจูนนี่มาถามอะรัยมะรู้ สุดท้ายมาถามผลบอล อิอิ แต่ไปก่อนเพิ่งมาอ่านเจอ อิอิ ทำต่อๆ
..........................................

อีก มุมหนึ่งของห้องน้ำ จะเป็นมุมแต่งตัว มีไดร์เป่าผมให้ใช้ด้วย


ไวน์พร้อมถังแช่น้ำแข็ง ตั้งไว้ข้างอ่างอาบน้ำ
เผื่อ ใครอยากจะโรแมนซ์ในนี้แนะนำให้พก ipod ไปด้วย เพราะเมื่อเปิด ipod จากห้องนอนแล้ว
เร่งเสียงนิดนึง เพลงจะดังถึงในห้องน้ำเลย เนื่องจากเสียงจะสะท้อนวิ่งมาตามอุโมงค์จนถึงห้องน้ำได้


สบู่ ยาสระผม ครีมนวดผม ไม่มีโลชั่นนะ

มุมเล็กๆตรงหัวเตียง


มุมเล็กๆหน้าบ้าน


ประตูบ้านที่นี่เป็นแบบปิดกลับอัตโนมัติ โดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก
กลไกดึงกลับ แค่ใช้ก้อนหินหนักๆมาโยงรอกและเส้นเอ็น ผูกไว้กับประตูเท่านั้น
ถ้าไม่ อยากให้ดึงกลับ ก็เอาหินนี้วางไว้กับกระบอกไม้ไผ่ข้างประตู มันก็จะไม่ดึงแล้ว


ขึ้นดาดฟ้า ต้องเดินออกมานอกบ้านเพื่อขึ้นบันไดด้านข้าง
บนดาดฟ้าจะมีโต๊ะเก้าอี้ให้ เผื่อใครอยากนั่งชมวิว หรือทานอาหารบนนี้


วิวที่มองจากดาดฟ้า เป็นวิวเดียวกับที่มองจากเตียงนอน แต่มุมสูงต่ำต่างกันนิดหน่อย


มองไปอีกมุมจากดาดฟ้า จะเห็นส่วนของห้องซาวน่า และทางเดินลงไปที่ลำธาร
ในภาพมีรถกอล์ฟที่พนักงานพาแขกซึ่งเพิ่งเช็คอิน เข้ามาชมลำธาร
บ้านบางหลังค่อนข้างไกลจากลำธารพอสมควร
จึงเห็นบ่อยๆ ที่ผู้เข้าพักเรียกให้พนักงานขับรถมารับเพื่อพาไปที่ลำธาร


ทางเดินลงไปลำธารจะเป็นบันได สวยมากแต่เดินยากนิดนึงเพราะบันไดจะโรยกรวดอยู่


มีเก้าอี้ชายหาดตั้งไว้ริมลำธาร เผื่อใครอยากมานอนเล่น


ชิงช้าที่ห้อยไว้ให้คนมาแกว่งไกว หรือจะนั่งเอาขาแช่น้ำ ก็ได้บรรยากาศดี คนที่มาพักที่นี่ชอบไปเล่นกันมาก

ตอนที่พวกเราไปไม่มีคนเลย บรรยากาศร่มรื่นมาก แต่น้ำในลำธารไม่เย็นเท่าไหร่
คุณแฟนไปไกวชิงช้าเล่นอยู่ไกลๆแล้ว มุมนี้เหมือนอุโมงค์ต้นไม้เลย

ใกล้ๆลำธารจะมีห้องซาวน่าให้บริการฟรี


เมื่อก่อนจะใช้บริการได้ต้องสวมชุดว่ายน้ำ แต่ตอนนี้แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นหรือเลกกิ้งก็เข้าได้แล้ว
ผมเองอยากให้ เหมือนเดิมมากกว่า


ตรงหน้าห้องซาวน่า มีบ่อจากุชชี่ให้บริการด้วยเช่นกัน
แต่พอไม่บังคับให้สวมชุดว่ายน้ำแล้ว คนก็ลงไปเล่นทั้งเสื้อยืด กางเกงขาสั้นขายาว
มองแล้วขัดตา และดูไม่ดีเลย


ในห้องซาวน่า วันแรกที่ไปนี่เปิดใช้งานยังไงมันก็ไม่ร้อน เรียกพนักงานจาก reception มาดูให้ก็ยังไม่ร้อน
แต่พอเช้าวันที่สอง พนักงานทำความสะอาดมาเปิดให้แปปเดียวก็ร้อนแล้วล่ะ


มองจากบันไดขึ้นไปจะเห็นบ้าน hamata ที่เราพัก ที่เห็นเป็นส่วนทางเดินไปห้องน้ำ
ถึงจะอยู่ใกล้กับทางเดินมาลำธาร แต่ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมุมนี้จะหลบไปอยู่ตรงมุมที่คนไม่ค่อยเดินไป กัน


หน้าบ้านพักมีตู้จดหมาย แต่ไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร


บางมุมของรีสอร์ต


เดินเล่นสักพัก ก็เจอคุณวัวของที่นี่
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9360296/E9360296-67.jpg


ดูท่าจะมีความสุข

มีเพื่อนด้วยน้า อิอิ


มุมนี้อยุ่ใกล้ๆบ้านพักพอดี วิวด้านหลังเปนภูเขาสวยมาก


มองกลับไปที่บ้านจะเห็นชานข้างบ้าน และห้องน้ำเป็นโดมอยู่ด้านหลัง
จุดที่ถ่ายนี้อยู่แถวๆบ้าน pangola ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน


ช่วงที่ถ่ายภาพนี่ ฟ้าไม่ค่อยใสเลย...
คุณม้าสองตัว เห็นไปแกล้งวิ่งไล่วัวด้วยนะ วัววิ่งหนีใหญ่เลย


ตอนเย็นๆ มีฝนตกลงมา ทำให้อากาศเย็นลงเยอะเลย บรรยากาศดูชุ่มฉ่ำ

ถึงว่าทำไมฟ้าไม่ค่อยใส


แสงเย็น ที่ scenery

พอมืดแล้วก็ได้เวลาบาร์บีคิวครับ
ออร์เดอร์ไว้ให้มา ส่งตอนทุ่มนึง
พนักงานขับรถมาเสริ์ฟให้พร้อมตั้งเตาและจุดไฟพร้อมเลย

แสงไฟกับสีของท้องฟ้าตัดกันสีสวยมากๆ

มุมด้านข้างของบ้าน hamata จะเห็นบันไดขึ้นไปบนดาดฟ้า


ตอนนี้ที่รั้วจะเปิดไฟแล้ว ทำให้สวยขึ้นเยอะเลย ฟ้าก็สีเข้มขึ้นด้วย


แอบถ่ายหน้าบ้าน pangola ที่อยู่ข้างๆ


เช้าวันรุ่งขึ้น....ผมตื่นแต่เช้าตามกิจวัตรปกติ
อาจ เป็นเพราะที่นี่ไม่มีนาฬิกา จึงทำให้ทุกอย่างดูไม่เร่งรีบ
แม้ว่าจะสว่าง แล้วแต่ก็ไม่เห็นมีคนออกมาเดิน จะเห็นก็แต่พนักงานของทางรีสอร์ต



เดินออกมาไกลพอควร...มองกลับไปที่บ้าน
ก็มองเห็น ความงามยามเช้า ที่เขาด้านหลังของบ้านพัก


หากไม่ตื่นแต่เช้าอาจจะไม่ได้เห็นแบบนี้
หากฝนไม่ ตกเมื่อคืนก็อาจจะไม่ได้เห็นแบบนี้


โชคดีที่ฝนตก โชคดีที่ตื่นเช้า และโชคดีที่ได้มาที่นี่ในวันที่มีหลายอย่างพอดีๆแบบนี้
ทำให้ได้เห็นหมอก ในหน้าร้อนยามเช้าที่สวนผึ้ง ลืมไปเลยว่าตอนที่ไปยังเป็นเดือนพฤษภาคม


เก้าอี้แดง เป็นมุมที่หลายคนมาถ่ายภาพ....ดูแบบนี้เหมือนหน้าหนาวเลย



มองกลับไปทางด้าน honey scene
ก็เห็นหมอกเช่นกัน แต่ไม่สวยเท่าตรงภูเขา


พอสายๆซักเจ็ดโมงครึ่ง หมอกก็เริ่มจาง..

เดินเก็บบรรยากาศรอบๆรีสอร์ต ....เมื่อวานมาเดินรอบๆไม่ได้ เพราะฝนตกตลอด
เดินเล่นรอเวลาอาหารเช้าไป ด้วย


พนักงานก็ต้องหัดขึ่ม้าด้วย ในภาพนี้กำลังสอนขี่ม้ากันอยู่


คุณเป็ด แห่ง scenery


ที่นี่มีบ่อปลาด้วย ปลาเยอะมากๆ


กลับมาบ้านพัก พนักงานก็เอาอาหารมาเตรียมไว้ให้แล้วที่โต๊ะตรงชานด้านข้าง


ก็ได้นั่งชมวิวสวยๆพร้อมทั้งจิบกาแฟไปด้วย
ตอนที่ ทานข้าวก็มีคุณม้าออกมาวิ่งพอดี .....ภาพนี้สวย ยังกะอยู่ในความฝัน

ม้าคู่แห่ง scenery


ภาพบนลืมเปลี่ยนสีกับจัดกลางหน้า mad
หลังจาก ทานอาหารเช้าแล้ว เราก็เดินไปดูแกะกัน
เราสองคนเลือกที่จะไม่เรียกรถมา รับ เพราะ
จะได้เดินเล่นและถ่ายภาพไปด้วย
ภาพนี้ที่สนามด้านหน้า นากาย่า

จักรยานของนากาย่า
ไม่แน่ใจว่าแขกที่พักในนากา ย่าจะสามารถเดินเล่นในส่วนของ scenery ได้ไหม


ถึงแล้ว สนามเลี้ยงแกะ เป็นเขตปลอดเชื้อด้วยล่ะ


ที่ไหนๆก็ต้องมีกฏ...จำได้ว่าเมื่อก่อนไม่มีกฏเรื่อง การห้ามอุ้มแกะนะ
แต่คราวนี้มีแล้ว

ก่อนจะไปเดินเล่นเลี้ยงแกะ เราก็ไปยิงธนูกันก่อน
แขก ที่พักยิงฟรี



หลังจากยิงธนูสักพักแล้ว
ก็เดินมาเล่นน้องแกะ...
ถึง แม้ว่าแขกที่พักจะสามารถให้อาหารแกะได้ฟรีตลอด แต่ผมก็ขอไม่เอาหญ้ามาถือ
เพราะ ยังเข็ดที่โดนแกะถีบคราวที่แล้วอยู่เลย
มาคราวนี้เลยเดินเล่น ถ่ายรูปก็พอ

ช่วงเช้าๆ คนก็เยอะแล้ว มากันเร็วมากๆ
พอแดดเริ่ม แรง ผมก็ให้พนักงานเรียกรถมารับไปส่งที่บ้านพัก


ระหว่างที่รอรถมารับ ก็ถ่ายภาพที่นี่หน่อย
มาคราว นี้ไม่ได้ใช้บริการที่นี่เลย กินนอนที่บ้านพักตลอดทริป

เห็นว่า สเต็กอร่อย
ไว้คราวหน้าจะมาลองนะ


ชอบหลังคาที่นี่จัง

บรรยากาศเดิมๆของที่นี่ ไม่ว่าหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ก็ยังมีคนมาเยี่ยมเยียนน้องแกะเสมอ


ที่เห็นไกลๆนั่นคือ นากาย่า
คนพักเต็มเหมือนกัน

ถ่ายเก็บบางมุมที่ reception

ตอนเช็คเอาท์ พนักงานจะมาถ่ายภาพให้เราเป็นที่ระลึก
พร้อมทั้งส่งอีเมล์ไฟล์ภาพและ พิมพ์เป็นโปสการ์ดให้ฟรีใบนึง โดยให้เราเลือกมุมที่อยากถ่ายได้เอง

สวยๆๆๆ อิอิ

สามภาพที่ร้านกาแฟ อามันเต้
แวะไปกินกาแฟก่อนเดิน ทางกลับ
กาแฟที่นี่อร่อยดีครับ

ถ้วยกาแฟยักษ์!!!!

ถ่ายผีเสื้อกับดอกไม้นิดหน่อยที่อามันเต้

จบแระ อิอิ แค่อยากชวนเพื่อนมาเที่ยวแถวบ้านข้าพเจ้าบ้าง โดยเฉพาะสวนผึ้งงัย รีสอร์ตและบรรยากาศสวยมากไม่ใช่เฉพาะหน้าหนาวนะครับ อิอิ..




<b>ปล.ขอโทดด้วยนะครับ ที่เอามาใส่เพิ่มที่บล็อก แทนที่จะใส่ตรงท่องเที่ยว ที่จริงผมใส่ละ


แต่มันไม่พอ เหนื่อยเปล่า อิอิ ฝืนไปหลายทีเลย ก้อเลยจำเปนมาใส่ี และ นำเสนอที่ตรงนี้ มะว่ากันนะครับ อิอิ</b>




Views: 3877

Comment

You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!

Join Manchester City Fan Club in Thailand Website

Comment by mcfc-มีน on July 2, 2010 at 8:04pm
555พี่รุ่ง (อิอิ copy ma).
.
Comment by James Tyton on June 30, 2010 at 8:54pm
สวยๆๆครับ บรรยากาศดีมากเหมือนยุโรปเลย
อันแน่ คนข้างกาย คุณแฟน อิอิ
มิน่าไม่สนบอลรุยน๊าพี่ชาย อิอิ แซวเล่นๆๆนะครับ
ไหนๆๆอ่ารูปเจ้าของบล็อกกับคนข้างกายอ่า อิอิ
Comment by น า ย ก รี น [ดวงใจสีฟ้า] on June 30, 2010 at 5:36pm
นี่ๆๆๆๆ เห็นรั้วที่มีแสงไฟอ่อนๆ มัย ถ้ามีใครสักคนอยู่เคียงข้างๆ หุหุ สบตากันปริ้งๆ อิอิ ไม่อยากคิดต่อแล้ว 5555
Comment by น า ย ก รี น [ดวงใจสีฟ้า] on June 30, 2010 at 5:32pm
นัยมีน ไม่มีกะจิตกะจัยจะดูบอล คนอื่นสงสัยพอบอลเล่นคงหลับแระนะ อิอิ

ชอบที่สุดกะตากล้องอ่า ถ่ายได้สวยครับ
Comment by 张丽雅 on June 30, 2010 at 4:30pm
ชอบจัง
Comment by 张丽雅 on June 30, 2010 at 4:29pm
บรรยายเหมือนได้เที่ยวเรย
สวยจัง
ถ้ามีโอกาสอยากไปสวยอ่ะ
Comment by ผู้ชาย LAN..LA!.. on June 30, 2010 at 1:59pm
น่าเที่ยวนะ...(งี้ต้องไปกะคนรู้ใจ) 555
Comment by เทพน้องหมูกับหนูมารโอ้ on June 30, 2010 at 9:03am
หรูจัง
Comment by mcfc-มีน on June 30, 2010 at 8:28am
ฝากไว้ด้วยนะครับเพื่อนๆ^^

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.