คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลล่าสุด ออกมายืนยันว่าสโมสรของเขาบริหารงานโดยที่ไม่มีหนี้สินเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะเพิ่งโดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) สั่งลงโทษไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฎควบคุมการเงิน หรือ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์
 
        ยูฟ่า สั่งปรับ "เรือใบสีฟ้า" เป็นเงิน 60 ล้านยูโร (ราว 2,700 ล้านบาท) แต่ในการให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสร มูบารัค ยืนยันว่าบทลงโทษของยูฟ่าจะไม่มีผลต่อกลยุทธ์และโครงสร้างธุรกิจของแมนฯ ซิตี้ พร้อมทั้งยังกล่าวพาดพิงไปถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมเมือง ที่จุดหนึ่งเคยมีหนี้ถึง 700 ล้านปอนด์ (ราว 38,500 ล้านบาท) ภายใต้การบริหารของตระกูลเกลเซอร์ และรายงานการเงินล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่ามีหนี้ลดลง 4.3 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 351.7 ล้านปอนด์ (ราว 19,300 ล้านบาท)
 
        ประธาน แมนฯ ซิตี้ กล่าวว่า "ปีนี้เราทำได้เท่าทุน ปีหน้าเราจะได้กำไร เรามีโครงการที่ยั่งยืน เรามีตัวเลขหนี้เป็นศูนย์ และเราไม่ต้องจ่ายหนี้เลยสักเพนนีเดียว สำหรับผมนั่นเป็นรูปแบบที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เพื่อนของเราที่ยูฟ่าดูเหมือนจะเชื่ออีกอย่างหนึ่ว พวกเขามีมุมมองของพวกเขา เรามีของเรา มันจะไม่บั่นทอนกลยุทธ์ของเรา เราจะทำสิ่งดีที่สุดสำหรับสโมสรและแฟนๆ เสมอ ถ้ามันหมายความว่าเราต้องยอมเสียบางอย่าง เราก็จะทำ แต่เรารู้ว่าเรามีรูปแบบที่ถูกต้อง และจะเชื่อมั่นในรูปแบบนี้"
 
        "ตลอด 6 ปี เดินไปทีละก้าว เราลงทุนในสโมสรนี้ เราลงทุนกับนักเตะชั้นนำทั่วโลก และดำเนินกลยุทธ์การค้าของเราต่อไป เราดำเนินธุรกิจอย่างฉับพลันตลอด 6 ปี และมีพันธมิตรอยู่ทั่วโลก เรามีสำนักงานอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ และมีข้อตกลงทางการค้า 38 รายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมมาที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อ 6 ปีก่อน เรามีคน 130 หรือ 140 คนทำงานที่ซิตี้ เรามาไกลมากจากสโมสรเมื่อ 6 ปีก่อนมาถึงที่ที่เราอยู่วันนี้"
 
        แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ทีมที่พวกเขาจะส่งเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า จะถูกลดจำนวนผู้เล่นจาก 25 เหลือเพียง 21 คน ซึ่งเป็นบทลงโทษจากการไม่ปฏิบัติตามกฎควบคุมการเงินด้วยนั่นเอง

ที่มา www.siamsport.