เจมส์ บีทตี้ หัวหอกความหวังใหม่ของ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ โขกประตูโทนให้ทีมจม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่าได้สำเร็จช่วยทีมต่อลมหายใจในการลุ้นหนีตกชั้นต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค 1 - แมนฯ ซิตี้ 0
ทีมรองบ๊วย สโต๊ค ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมมหาเศรษฐีประจำลีก แมนฯ ซิตี้ โดยเจ้าถิ่นส่ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ กองหน้าตัวเก่งลงตัวจริงหลังพ้นโทษแบน 3 นัด มาจับคู่ เจมส์ บีทตี้ กองหน้าคนใหม่ที่ส่องประตูแรกได้แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนด้านเรือใบสีฟ้า กำลังอยู่ในช่วงกอบโกยแต้มอย่างต่อเนื่อง หลังเก็บได้ 10 คะแนนจาก 4 นัดหลังสุด แต่สภาพทีมไม่ดีนัก แนวรับยังไม่มี ริชาร์ด ดันน์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ติดโทษแบนนัดที่ 2 จาก 4 นัด ส่วนนักเตะใหม่ทั้ง เคร็ก เบลลามี่ และ ไนเจล เด ยองก์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไป
เปิดเกมมา 7 นาที เจ้าถิ่นเกือบโดนก่อนเมื่อจ่ายคืนหลังไม่ดี ไรอัน ชอว์ครอสส์ วิ่งเข้าไปสกัดแต่บอลแฉลบลอยโด่งมาหน้าเขตโทษที่มี สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ กระหน่ำยิงสวนลูกหลุดสามเหลี่ยมออกไป เจ้าถิ่นทำเกมสู้ได้ไม่เป้นรอง แต่ก็ไม่มีโอกาสลุ้นประตูเท่าใดนัก นาที 28 รอรี่ ดีแล็ป จัดการทุ่มยาวจากทางขวาไปหน้าปากประตูบอลพุ่งเลยตัว ไรอัน ชอว์ครอสส์ ไปแล้ว แต่ ชอว์ครอสส์ ก็ยกขาดีดลูกส้นทันที ทว่าบอลพุ่งตรงตัว โจ ฮาร์ท นายประตูทีมเยือนพอดี
เกมมาดุเดือดเอาในนาที 37 เมื่อ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ครองบอลแล้วจับยาวโดน แดนนี่ พิวจ์ ปรี่มาหาบอล ไรท์ ฟิลลิปส์ เลยพุ่งเปิดปุ่มเข้าใส่ก่อนตามไปเก็บบอล รอรี่ ดีแล็ป ไม่พอใจตามไปหวดข้อเท้าปีกร่างเล็กจนล้ม แล้วก็เตะซ้ำอีกที ไรท์ ฟิลลิปส์ ที่นอนอยู่เลยสวนคืนที่หน้าแข้ง ผู้เล่นทั้งสองทีมเลยกรูกันเข้ามา ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอ็ตกินสัน ตัดสินใจให้ใบแดงกับ ดีแล็ป ทันที สโต๊ค เหลือ 10 คน
ครึ่งแรกมีการทดเจ็บถึง 5 นาที และเมื่อถึงช่วงทดนาทีสุดท้ายเกมกำลังจะจบอยู่แล้ว กองหลังแมนฯ ซิตี้ ประกบไม่ดีปล่อยให้ เกล็น วีแลน ตักบอลขึ้นหน้าทางปีกซ้ายให้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน สอดขึ้นไปเปิดโค้งไปเสาสองข้ามตัว เวย์น บริดจ์ มาถึง เจมส์ บีทตี้ โขกเปรี้ยงเสียบโคนเสาสุดสวย สโต๊ค นำ 1-0 และหมดครึ่งแรกลงไป
เปิดครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกใส่ทันที นาที 51 เวย์น บริดจ์ เติมขึ้นมาทางซ้ายแล้วลากตัดเข้ากลางไหลบอลขวางมาให้ โรบินโญ่ ซัดต่อด้วยขวาจาก 25 หลา บอลพุ่งเรียดเฉี่ยวโคนเสาขวามือออกไปแบบได้ลุ้น ทีมเยือนได้เปรียบตัวผู้เล่นเลยขึงเกมบุกต่อเนื่อง แต่มาพลาดโอกาสดีในนาที 70 เมื่อ เอลาโน่ เปิดบอลมาให้ โรบินโญ่ เกี่ยวลงได้บริเวณหัวกระโหลกแล้วกลับมายิงเองด้วยซ้าย บอลโด่งข้ามคานไปไกล ทั้งๆ ที่มีเพื่อนรออยู่โล่งๆ ทางขวา
ถึงสิบนาทีสุดท้าย จากจังหวะเปิดไปติดกองหลังของ เอลาโน่ กลายเป็นดีเมื่อกระดอนมาหา เคร็ก เบลลามี่ พลิกแต่งหาช่องซัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโค้งไปทางสามเหลี่ยมขวา โธมัส โซเรนเซ่น ได้แต่เหลียวมองแต่ลูกลอยหลุดกรอบไปแค่คืบเท่านั้นช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ บุกใส่อย่างหนักสุดตัว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทวงคืนได้ จบเกม ทีมรองบ๊วย สโต๊ค เปิดบ้านเชือดทีมที่หวังไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกอย่าง แมนฯ ซิตี้ 1-0
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น , แอนดี้ วิลกินสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์ , อับดูลาย ฟาย, แดนนี่ พิวจ์ , รอรี่ ดีแล็ป,เกล็นน์ วีแลน,ออมดี้ ฟาย, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, เจมส์ บีทตี้, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ , แว็งซองต์ ก็องปานี , เนดุม โอนูโอฮา , เวย์น บริดจ์ , ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, ไนเจล เดอ ยองก์, ปาโบล ซาบาเลต้า, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เคร็ก เบลลามี่, โรบินโญ่
Tags:
-
▶ Reply to This