Members

ลุ้นแชมป์ริบหรี่!เรือเศร้าโดนเบิร์นลี่ย์ปราบ1-0

ลุ้นแชมป์ริบหรี่!เรือเศร้าโดนเบิร์นลี่ย์ปราบ1-0

เรือใบสีฟ้า,แมนฯ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก อังกฤษ,ฟุตบอล
"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ โดนทีเด็ดลูกยิงของ จอร์จ บอยด์ ส่งผลให้ บุกไปพ่าย เบิร์นลี่ย์ 0-1 มี 58 แต้ม โอกาสลุ้นแชมป์เริ่มเลือนราง เมื่อแข่งมากกว่า เชลซี 2 นัด แต่ตามห้าคะแนน แถมโดน อาร์เซน่อล ทีมอันดับ จี้เหลือแต้มเดียว ส่วน "เดอะ คลาเร็ตส์" มี 25 คะแนน ขยับรั้งอันดับ 18 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 29 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 29
วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558
เบิร์นลี่ย์ 1-0 แมนฯ ซิตี้

 

สนาม : เทิร์ฟ มัวร์
          เบิร์นลี่ย์ เก็บได้เพียง 2 คะแนนจาก 7 เกมหลังสุดนัดนี้จึงขอปรับสองตำแหน่ง ไมเคิ่ล ดัฟฟ์ ลงเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวจริง แดนหน้า แซม โว๊คส์ เป็น 11 ตัวแรกของซีซั่น ฝั่งแมนฯ ซิตี้ ใช้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี เป็นปราการหลังตัวกลางหลังถูกดร็อปเกมก่อน เอดิน เชโก้ จับคู่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ล่าตาข่าย

          ไม่ถึงสองนาทีดีเจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อน การขึ้นทางขวา จอร์จ บอยด์ ครอสโด่งไปตรงเส้นเขตโทษ สกอตต์ อาร์ฟิลด์ โหม่งเช็ดกลับหลังถึง แดนนี่ อิงส์ วิ่งเข้าซัดด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลาข้ามคาน

          อีกหนึ่งจังหวะลุ้นประตูของรองบ๊วยลูกเตะมุมทางฝั่งขวา แอชลี่ย์ บาร์นส์ โหม่งเช็ดไปที่เสาสอง เบน มี โดดลอบยมาแต่ไกลโหม่ง 6 หลาหลุดเสาแบบน่าเสียวไส้

          โอกาสใกล้เคียงสุดของ "ซิตี้" เกิดนาทีที่ 30 เฟร์นันดินโญ่ ฉกบอกได้หน้าเขตโทษเจ้าถิ่นแทงสวนไลน์แบ็กโฟร์ให้ เชโก้ ได้หลุดไปเข่นในเขตโทษฝั่งซ้าย ติดเซฟ ทอม ฮีตัน ลูกไม่ไปไหนไกล "กุน"เก็บแล้วแต่งหาช่องซ้ำดาบสองคราวนี้นายด่านเลือดผู้ดีรับไม่กระฉอก

          แต่พวก "เดอะ คลาเร็ตส์" ก็ตอบโต้ทันควันเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เบน มี เปิดเรียดเข้ากลางประตู เฟร์นันดินโญ่ ง้างเท้าสงัดบอลไปโดนมือตัวเองแต่ไม่มีเสียงนกหวีด จอร์จ บอยด์ เก็บตกแล้วเขี่ยคืนหลังให้ สกอตต์ อาร์ฟิลด์ ซัดตรงหัวกะโหลกลูกพุ่งเข้ากรอบแต่ โจ ฮาร์ท ยืนตำแหน่งดีค้อมตัวอุ้มบอลเข้าอก

          แอ็กชั่นสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นของ "เรือใบสีฟ้า" กองหลังเบิร์นลี่ย์โหม่งสกัดลูกเตะมุมไม่ขาดปลิ้นมาถึงฝั่งขวา อเกวโร่ ซัดมุมแคบเน้นๆแต่ก็ได้เพียงเข้าข้างหน้าต่างครบ 45 นาทียังเสมอกันอยู่ 0-0

          กลับมาสู้ต่อพวก "ซิตี้" คึกคักมากขึ้นนาทีที่ 51 "กุน"ได้บอลจากกลางสนามเลี้ยงจี้หาเขตโทษเห็น ซิลบา ที่วิ่งเติมมาทางซ้ายก็แทงให้ตามช่องแต่เหมือนคิดช้าไปหน่อยมุมมันจึงแคบลง เพลย์เมกเกอร์สแปนิชทำได้เพียงซัดให้ตรงกรอบก็โดน ทอม ฮีตัน เอาเท้าเซฟไว้ได้

          อีกหนึ่งจังหวะสวยๆของอาคันตุกะนาทีที่ 52  ปาโบล ซาบาเลต้า เลี้ยงตะลุยขึ้นทางฝั่งขวาผ่าน เบน มี จนสุดเส้นหลังก่อนครอสเรียดไปที่เสาแรก อเกวโร่ มาตามนัดซัดเต็มบาทาแต่ลูกมันเฉี่ยวเสาแค่ไม่กี่ฟุต

          แต่เป็นเจ้าถินที่ขึ้นนำก่อน 1-0 นาทีที่ 61 ฟรีคิกหน้าเขตโทษ สกอตต์ อาร์ฟิลด์ หยอดเข้ากรอบ 18 หลา แว็งซ็องต์ ก็องปานี โดดโขกแต่ไปเข้าทางปืน จอร์จ บอยด์ วอลเลย์ด้วยซ้ายกลางประตูระยะ 20 หลาบอลเหมือนติดเดาร์พุ่งหาโคนเสาขวาอย่างแม่นยำเป็นสกอร์ที่ 5 ของเจ้าตัวในลีก

          มานูเอล เปเยกรินี่ อยู่ไม่ติดส่ง วิลฟรีด โบนี่ ลงสนามแทน เอดิน เชโก้ นาทีที่ 63 และหัวหอกตัวใหม่เกือบโขกตีเสมอให้ทีมนาทีที่ 71 จากบอลครอสทางฝั่งขวาของ ดาบิด ซิลบา แต่นายด่าน ทอม ฮีตัน ยังเหนียวหนึบคว้าอยู่หมัด

          อีกครั้งที่ศูนย์หน้าคาตัว 28 ล้านปอนด์ได้สับไกนาทีที่ 76 "กุน"โซโล่บอลจากกลางสนามจี้หาประตูแล้วถ่ายออกขวาให้ โบนี่ ได้ยิงตรงหัวกะโหลกลูกแฉลบ เจสัน แช็คเคลล์ ชะลอความแรงก่อนเข้ามือ ฮีตัน

          แมนฯ ซิตี้ ชวดโอกาสสำคัญนาทีที่ 81ยาย่า ตูเร่ หยอดบอลไปที่เสาไกล "กุน"โดดโขกไร้ตัวประกบ 6 หลาข้ามคานเหลือเชื่อ

          ช่วงเวลาที่เหลือแม้ "ซิตี้" เน้นสุดตัวแต่เจาะเกมรับเจ้าถิ่นไม่เข้าจบเกม แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มแย่ บุกพ่าย เบิร์นลี่ย์ 0-1 แช่อยู่ที่ 58 แต้ม โอกาสลุ้นแชมป์เริ่มเลือนราง เมื่อแข่งมากกว่า เชลซี 2 นัด แต่ตามห้าคะแนน แถมโดน อาร์เซน่อล ทีมอันดับ จี้เหลือแต้มเดียว ส่วน "เดอะ คลาเร็ตส์" มี 25 คะแนน ขยับรั้งอันดับ 18 โดยเป็นการเก็บ 4 แต้มจากการพบกับ "เรือใบสีฟ้า" 2 นัดซีซั่นนี้

 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          เบิร์นลี่ย์ : ทอม ฮีตัน - คีแรน ทริปเปียร์, ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, เจสัน แช็คเคลล์, เบน มี - จอร์จ บอยด์, สกอตต์ อาร์ฟิลด์, เดวิด โจนส์, แอชลี่ย์ บาร์นส์ - แซม โว๊คส์ - แดนนี่ อิงส์
          สำรอง : สตีเฟ่น วอร์ด, รอสส์ วอลเลซ, สตีเฟ่น รีด, ลูคัส ยุตคีวิชซ์, แม็ทธิวส์ กิลค์ส, ไมเคิ่ล คีน, ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์

          แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเชลิช, กาแอล กลิชี่ - เฆซุส นาบาส, เฟร์นันดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''
          สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, บาการี่ ซาญ่า, ซามีร์ นาสรี่, เอเลียควิม ม็องกาล่า, วิลฟรีด โบนี่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สเตฟาน โยเวติช

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาริเนอร์ส

______________^^______________
Cr. www.siamsport. ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย:http://mcfc.in.th

Views: 782

Reply to This

Replies to This Discussion

ผมก็ว่าจะหลุด CPL เลยนะดูแล้ว ไม่เข้าใจว่าทีมผู้เล่นระดับโลก ทุกอย่างเหนือกว่าหมดจะแพ้ทีมท้ายตารางตลอด ค่าตัวคนเดียวมากกว่าทั้งทีมหลายเท่า แต่แม่งแพ้ ไม่เข้าใจ

รักษาที่สองคืองานของเรา 5555++ ปวดจิต

พูดไม่ออกครับ
เขาทุ่มเทกว่าเราจริงๆ
ครองเกมมากว่า แต่ทำอะไรไม่ได้
เป็นแบบนี้มาหลายนัดแล้ว ไม่พัฒนา

ปีนี้มือเปล่า ลุ้นเลยว่าคัย จะมาแทน เปเย

เป๊ปที่1 ที่2คงเป็นชิเมโอเน่

เห็นด้วยคับ เกมสมะคืน ฝ่ายเราไม่มีพลังใจอยากชนะเลย นักเตะทุกคนดูเหมือนเล่นไปงั้นๆๆ ผมว่านะ เรือใบลำนี้ต้องมีการเปลี่ยนครั้งใหม่แล้วละ

เห็นควรด้วยทุกประการทั้งปวงครับกับทุกท่าน

วันนี้นักบุญเขาใจดีหยุดเชลซ๊ให้แล้ว....

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.