Members

จบเกมสำคัญอีกนัดที่ผ่านไป ถือได้ว่าเป็นการทำตามเป้าหมายพื้นฐานของชาวซิตี้ แต่อาจเป็นความเศร้าของเดอะค๊อป



พูดก็พูดนัดนี้เป็นอะไรที่เหล่า กูรู ของสื่ออังกฤษต่างมั่นอกมั่นใจแม้แต่ เดอะตุ๊ก แห่งทรูวิชั่นยังบอกว่าท้ายที่สุดลิเวอร์พูลน่าจะเก็บชัย เพราะต้องมุ่งมั่นทำคะแนนไม่ให้โดนทิ้งห่างไปมากกว่าที่เป็นอยู่ (ก่อนแข่งคะแนนเป็นรองว่าที่แชมป ผีแดง ถึง 8 แต้ม) โดยที่เหล่าขุนพลเดอะบูลของแมนซิตี้โดนมองข้ามอย่างมากด้วยสถิติไม่แพ้ก็เสมอยันเตในเกมเยื่อน~


เกมในวันนี้ไม่ผิดความคาดหมายสำหรับการจัดตัวของแมนซิตี้ที่กระผมนาย Saber คาดว่าจะต้องเน้นเกมโต้กลับ เรียกได้ว่าผมอาจสื่อใจถึงกันกับลูกพี่ "มาร์ค" ได้แล้วล่ะมั้ง ? (ฮา~) เกมนี้เป็นการกลับมายืนกองหลังครั้งแรกในเกมลีคของกัปตันทีมตัวจริง ริชาร์ด ดันด์ และเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาพกพาความแข็งแกร่งกลับมาด้วย(แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบชั่วคราวแค่นัดนี้หรือไม่ !!! )


พูดถึง ริชาร์ด ดันด์ แล้วในปีนี้ต้องบอกว่าฟอร์มน่าใจหายเสียเหลือเกิน คงจะไม่เกินไปนักหากผมจะบอกว่า.......ปีนี้เป็นปีที่น่า อนาถ ของกัปตันทีมคนนี้เลยทีเดียว เพราะหากย้อนกลับไปดู 2 ปีล่าสุดก่อนหน้านี้ ริชาร์ด ดันด์ คือกองหลังที่มีความแข็งแกร่ง และจัดว่ามีฝีไม้ลายมือสูงคนหนึ่งในเกาะอังกฤษเลยทีเดียว.........หลายคนอาจสงสัยว่าแกขนาดไหนกัน ? ในกรณีนี้คงต้องขอยกคำพูดวิจารณ์ฟอร์มของ เดอะตุ๊ก คำนี้มาพูดเลยก็คือ แกร่งและเร็วยังกับซุปเปอร์แมน !!! แค่คำๆนี้ก็พอจะตีค่าความสามารถ ณ. เวลานั้นของกัปตันทีมของทีมแมนซิตี้ได้แล้ว (แม้การเอาไปเทียบกับซุเปอร์แมนจะเวอร์เกินไปก็ไม่ว่ากัน ฮา~)


กลับมาในเกมล่าสุด ต้องยอกรับว่าเกมแดนกลางผ่านไป 45 นาทีของครึ่งแรกเราเป็นรองโดยสมบรูณ์แบบ สถิติไม่โกหกใครด้วยการครองบอลของลิเวอร์พูลที่สูงถึง 61% นั่นบอกได้ว่าเกมการครองบอลของเราเป็นรอง แต่หากกระแสการบุกของลิเวอร์พูลมักจะเจอกำแพงแข้งแกร่งที่เพิ่งพ้นโทษแดงอย่าง ริชาร์ด ดันด์ ที่วันนี้คืนร่างกลับมาเป็นซุเปอร์แมนจำแลงกาย ช่วยชีวิตทีมไว้จากการเข้าบอลหนักหน่วง และการสกัดลูกกลางอากาศที่แม่นยำ แม้แต่การรับหน้าที่การประกบศุนย์หน้าระดับโลก "เฟอร์นันโด ตอเรส" เกมนัดนี้ผมกล้าพูดว่าหากไม่มีกัปตันทีมคนเก่ง ทีมเรือใบสีฟ้าอาจไม่ได้แม้แต่ 1 คะแนนกลับบ้านแน่นอน...........

และแน่นอนผมย่อมสนใจกองหลังกัปตันทีมคนนี้เป็นพิเศษในหลายๆแง่มุม แต่นัดนี้ผมเห็นความผิดพลาดราวๆ 2 ครั้ง และ 1 ในนั้นผมถือว่าเป็นเรื่องที่แม้แต่กองหลังระดับโลกอาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ริชาร์ด ดันด์ เปิดเกมได้ไม่สวยหรูมากมายเมื่อปล่อยให้ ตอเรส เอาบอลลงแล้วพลิกจ่ายให้กับนักเตะไตรกีฬาอย่างเคร้าช์ แม้ท้ายสุดจะทำอะไรทีมเรือใบไม่ได้ก็จริง ส่วนอีกลูกผมเชื่อว่าต่อให้เป็น "ริโอ เฟอร์ดินาน" , "คาเลส ปูโยล" , "วอเตอร์ ซามูเอล" ซึ่งเป็นกองหลังคล้ายๆ ดันด์ ก็พลาดคับ(เพราะช้า) มันเป็นลูกช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80(โดยประมาณ)ที่กำลังขาอ่อนล้า จึงประกบ เอลนิลโญ่ ของลิเวอร์พูลไม่อยู่ และล้มกลิ้งลงบนพื้นให้ศุนย์หน้าพระการควบเข้ากรอบเขตโทษไปซะ แม้จะทำประตูไม่ได้จากจังหวะนี้ก็ตาม

(รูปด้านบนนี้ยังกับพี่น้องเก๊กท่าถ่ายรูป)


เกมนี้เป็นช่วงเวลาบีบหัวใจแฟนๆเรือใบ เพราะเพิ่งบุกไปแพ้ทีมแจกแต้มอย่าง "ปอมปี" แล้วเกมนี้ยังต้องมาบุกรังหงส์แดงอีก.........โอกาสเพิ่มสถิติแพ้ 2 เกมติดเห็นอยู่รางๆ แต่ด้วยการกลับมาของ ริชาร์ด ดันด์ ทำให้วันนี้แผงหลังดูมีความเป็นระเบียบมากขึ้น ประกอบกับการที่มีผู้ช่วยคอยดุด่าอย่าง เชย์ กิฟเว่น ที่มีความกล้าที่จะสั่งการกองหลังมากกว่าประตูเด็กหนุ่ม โจ ฮาร์ท ทำให้เกมรับวันนี้ดูดีเป็นพิเศษ แต่กว่าจะได้เกมรับที่เป็นผู้เป็นคนงี้ก็ต้องเสียโควต้าเกมรุกไป 1 คนจากแดนกลาง เพราะอัดตัวตัดเกมถึง 3 คนทีเดียวอันประกอบไปด้วย ไนเจล เดยอง , แวงซอง กอมปานี , พาโบล ซาบาเรต้า โดยที่ทั้ง 3 คนทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง แม้เกมรุกจะช้าลงไปมากเพราะแดนกลางบุกไม่ค่อยเป็น แต่เกมรับดุดันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับกุนซือเหนือเมฆ "ราฟาเอล เบนิเตส" ส่งลูกรัก "ลูคัส เลว่า" ทำให้เกมแดนหลางของลิเวอร์พูลดูจะติดๆขัดๆในบางจังหวะ และนั่นก็ทำให้เรายันเสมอไว้ที่ 0 - 0 ในครึ่งแรก บอกได้ว่าตามเป้าหมาย แม้จะเสียดายลูกของเหม่งที่ดันไปแปเบาๆเล่นทางทั้งที่ไม่มีทางให้เล่น (ลูกนั้นน่าจะซัดให้ เรน่า หน้าหงายซะหน่อย หุหุ)


เปิดมาครึ่งหลังนาที 49 แมนฯซิตี้มาขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่โรบินโญ่แทงทะลุให้กอมปานีหลุดเข้าเขต โทษแต่ไม่มีจังหวะยิงเพราะหันข้างหาประตูและเจอเลว่าเบียดอยู่แต่อดีตแข้ง ฮัมบวร์กแตะคืนให้เบลลามี่วิ่งซัดในกรอบบอลแฉลบขาอาร์เบลัวพุ่งย้อยผ่านมือ เรน่าเสียบหน้าต่างเข้าไปสุดช็อก ซิตี้นำแล้ว 1-0 เป็นการทำประตูทีมเก่าของ"ถีบจักร"อีกด้วย หลังจากนั้นดูเหมือนลิเวอร์พูลจะไปไม่เป็นเอาดื้อ หรืออาจพูดว่าซิตี้ผ่อนคลายเนื่องจากทีมนำ แม้จะเสียประตูก็ยังเสมอ ทำให้แดนกลางรับ 3 คนเล่นง่ายและเริ่มตัดเกมได้มากขึ้นเป็นผลให้ทีมเราครองบอลเหนือกว่าชัดเจน


แต่แล้วเวลานานไปๆ ซิตี้ที่ครึ่งหลังมีเกมบุกแลกก็เริ่มส่งผลเสียให้เห็นเพราะแบ๊คทั้งซ้าย-ขวา เริ่มออกอาการล้าให้เห็น จะเห็นได้ว่า เบนายูน มักจะหลุดไปเปิดบอลทางฝั่งขวาของทีมเราได้บ่อยครั้ง ส่วนทางซ้ายยังไม่ค่อยมีปัญหาเพราะเกมนี้ โรบินโญ่ ที่มีข่าวแตกหักกับเพื่อนเนื่องจากความขี้เกียจและไม่ทุ่มเท ได้พยายามลบคำสบประมาทด้วยการลงลึกมาช่วยประคอง เวย์ บริด แถมยังมี เดยอง คอยช่วยซ้อนให้ ประกอบกับปีกขวาของลิเวอร์พูลวันนี้เล่นไม่ออกทำให้สบายไป


และแล้วนาที 78 ความเหนื่อยล้าของ ไมก้า ริชาร์ด ก็ส่งผล เขาปล่อยให้เบนายูนควบหนีไปถึงเส้นหลังได้ก่อนจะเปิดเข้าในให้เพื่อนจนเป็นประตูในที่สุด จังหวะนี้จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะกองหลังประกบตัวกันดีอยู่แล้ว จะพลาดก็ตรงที่ "ฮิวส์" ไม่ได้เปลี่ยนตัวนักเตะที่ออกอาการล้าวิ่งไม่ออกอย่าง "ไมก้า ริชาร์ด" ออก


แต่จากความเห็นของ กูรู Saber (ถือโอกาสยกระดับตัวเองซะ ~) มันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะเสียประตู เพราะเมื่อมองไปยังรายชื่อในม้านั่งสำรองก็ไม่มีรายชื่อไหนที่จะไว้ใจได้เท่ากับผู้เล่นที่เล่นอยู่ในสนาม ไอเรื่องจะเปลี่ยนเอา "เอลาโน่ บูลเมอร์" มาลงเล่นเพียงเพราะความสดก็ใช่ที่ เพราะคงไม่มีผู้จัดการทีมไหนที่ต้องการอุดประตูแต่ดันส่งกองกลางตัวรุกลงมาเป็นแน่ หรือแม้การจะเอา "ฆาเบีย การิโด้" ลงมาเพื่อความสดแต่ก็ไม่แน่ว่าจะทำผลงานได้ดีเท่าแดนกลางตัวรับทั้ง 3 ที่ฟอร์มเด่นในวันนี้ เพราะงั้นก็ต้องบอกว่าซวยไป.........



ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลซึ่งมาพับสนามช่วงท้ายแต่ไม่เพียงพอเสมอกันไป 1-1 และเป็นการเสมอ 10 นัดในซีซั่นนี้รวมทั้งตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็น 7 แต้มส่วน"เรือใบ"ยังอยู่อันดับ 9 และยังไม่ชนะใครนอกบ้านนานถึง 5 เดือน แถมยังคงทำสถิติไม่ชนะใครนอกบ้านต่อไป (แ่ค่ไม่แพ้ก็น่าดีใจแล้ว หุหุ)


หลังจบเกมนี้แมนซิตี้จะได้พักอีก 4 นัดก่อนลุยกันใหม่อีกครั้งกับ "โคเปฮาเก้น" ที่เราบุกไปพลาด 3 แต้ม จากการเสมอ 2-2 แต่นัดนี้เชื่อว่าด้วยกำลังใจจากเกมการบุกไปเสมอลิเวอร์พูล+การได้เล่นในบ้าน เชื่อว่าหนทางรอบ 8 ทีมของถ้วยยูฟ่าคัพไม่น่ามีปัญหา จะมองไปก็เกมหน้าที่ต้องไปเจอ "ขุนค้อน" ซึ่งจะเป็นการจัดอันดับกันอีกรอบ หากเก็บ 3 คะแนนได้ย่อมเป็นการดี เพราะหลังจากนั้นต้องเปิดบ้านเจอกับทีมลุ้น UCL อย่าง "วิลล่า" และมีคิวไปเยือน "สิงบูล" ซึ่งน่าจะหนักกว่าการเจอกับ "เวสแฮม"


ออกมานอกสนามกันบ้าง ช่วงนี้พูดไปแล้วเริ่มมีเทรนฮิต ปลดผู้จัดการทีม ให้เห็นกันมากมาย ไล่ไปตั้งแต่ ประกาศออกเอง หรือแม้แต่ โดนปลดฟ้าผ่า และก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเมามันส์ โดยล่าสุด เชลซีตะบะแตก ออกมาจวกกุนซือโบราณวัตถุอย่าง "เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" และ "อาแซง เวงเกอร์" โดยบอกว่าคงมีแต่บอร์ดที่บ้าและหัวโบราณเท่านั้นที่จะนั่งทนรอความสำเร็จที่ต้องใช้เวลา ซึ่งทีมเชลซีของเขา(บรูซ บัค ประธานบริหารสโมสรเชลซี)ต้องการความสำเร็จอย่างรวดเร็วโดยให้สัมภาษณ์กับเว็บสโมสร เชลซีว่า "ตอนนี้มีแต่คนพูดถึงเรื่องความต่อเนื่องในการเป็นผู้จัดการทีม และผมคิดว่าเราในฐานะบอร์ดบริหารและโรมัน (อับราโมวิช) เห็นว่าความต่อเนื่องเป็นแค่ผล(จากความสำเร็จ)เท่านั้น"


"ทุกคนมักจะเล็งไปที่อาร์แซน เวนเกอร์ของอาร์เซนอลและเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กุสันของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเรื่องที่พวกเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง กันมา แต่ฟุตบอลมันเดินหน้าไปมากแล้วและผมก็คิดถึงแต่ว่าอเล็กซ์ เฟอร์กุสันใช้เวลาตั้ง 4 หรือ 5 ปีกว่าจะคว้าแชมป์ซักรายการมาให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้"

"ผมคิดว่าวันนี้ฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปเยอะ มันไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้หรอก ถ้าถึงตอนที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเปลี่ยนโค้ช พวกเขาก็คงจะคิดเหมือนกับเราแน่ ผมคิดว่าพวกเขาจะคงไม่ยอมตั้งหน้าตั้งตารอคอย 4 หรือ 5 ปีหรืออาจจะ 6 - 7 ปีเพื่อดูผู้จัดการทีมคนใหม่คว้าแชมป์มาให้ทีมได้หรอก"



จากการให้ข่าวครั้งนี้ยิ่งทำให้ความคิดเห็นต่างๆกับวงการฟุตบอลแบ่งออกเป็น 2 แบบ อย่างชัดเจน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ท้ายที่สุดก็จะไปตกกับผู้จัดการทีมอย่างแน่นอน

และดูเหมือน เทรนฮิต ก็เริ่มสงผลและสะกิดใจผู้จัดการทีมหนุ่มของทีมเรือใบสีฟ้า จะเห็นได้ว่าสีหน้าของเขา(ฮิวส์)จะแสดงได้ถึงความคาดหวังและความเป็นกังวลชัดเจน และแม้จะยังเหลือช่วงเวลาพิสูจน์ตัวในลีคอีก 12 นัด รวมถึงโอกาสกับถ้วยยูฟ่าคัพ แต่ก็ไม่มีใครกล้าบอกได้ว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเชื่อว่าผลงานนัดล่าสุดกับลิเวอร์พูลคงไม่สามารถลบล้างการพลาดเก็บแต้มสำัคัญหลายแต้มก่อนหน้านี้ได้แน่นอน จะเหลือก็แค่เดินหน้าลบล้างความผิดพลาดให้มากที่สุดเท่านั้น !!!

Views: 335

Reply to This

Replies to This Discussion

เชียร์ต่อไป แมนซิตี้ ~
ชนะเรื่อย ๆ ก็พอแล้ว
จึงๆแมนซิมีตัวรับเหลืออีกสองตีวคือเฟอรนัลเดสกับฮารมันท ขอร้องเหอ เจ็บอยู่มั้งจําไม่ผิด
แต่ต่อให้มีจะเก็บไว้สํารองก็คงบ้าเกิน ทีมบ้าไรมีกลางรับ ห้าาาาาตัว แม่เจ้า ตัวรุกมีแค่เอลาโน่ ที่เหลือก้กลางเฉยๆอย่างไอรแลนดกับจอรสัน

แมนซินักเตะล้นตําแหน้งจริงๆ ห้าๆ
เป็นนัดที่น่าพอใจนัดหนึ่งเลยครับ ดันเล่นได้ดีมาก ลูกที่เราเสียนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ก็ประมาณลูกที่เราได้นั้นละ 5555 แต่ผมก็ยัง งงอยู่เลยทำไมน้าฮิไม่ยอมเปลี่่ยนตัวเลย เอาไครลงแค่คนเดียว เรือสู้โว้ย.....
อ่านซะเมื่อย หมดแรงออกความเห็น
เห็นด้วยครับ วิเคราะห์เยี่ยมจริงๆ
ประทับใจ การวางแผน นัดนี้มากครับ
คอมพานี ได้โหม่งตั้งให้กองหน้าได้ตลอด แข็งแกร่ง ลูกที่พลาดเนี้ยมันช่วยไม่ได้ แต่ดูแล้วบริด ยังไม่ท็อปฟอร์ม เท่าไหร่ ถ้าบริดกลับมาฟิต แบบยุคแรกๆ กับเซลซีคงจะดี นักเตะทุกคนมีวินัยเล่นตามแผน
จริงๆช่วงท้ายเกมส์ก่อนโดน ถ้าเอาซาบาเลต้าที่เริ่มเหนื่อย ออก แล้วเอา การิโด้ ที่มาวิ่งช่วยบริดไล่แบบเกมส์วีแกน บริดคงขาไม่อ่อน เท่าไหร่ แล้ว การิโด้ ผมว่าแกก็เล่นเข้าขากับ บินโย่มากกว่า ซาบาเลต้า อีกทั้ง ยังเป็นคนที่น่าจะยิง ฟรีคิก ได้ดีอีกด้วย (แบบนัดแรกที่เจอลิเวอร์พูล) อาจจะปิดเกมส์ ลิเวอร์พูล ได้ แต่ 1 แต้มก็ล้ำค่ามาก เพราะ ลิเวอร์ เจ็บนี้อีกนาน
เขียนได้ดีอีกเช่นเคยครับ เยี่ยมๆ :D
เท่าที่ดู...น่ะครับ นัดนี้ ต้องยกเครดิตให้ กิฟเว่นครับถึงจะถูก..เพราะพี่แกเซฟสุดๆ ไม่ให้เราแพ้หลายลูก..นัดนี้เดยองกับคอมพานีก็เล่นได้หนักหน่วงดีครับ แต่ไม่เข้าจัยว่า ทำไมต้องเอาซาบาเรตต้า มาเล่นซ้ายครับอันนี้ก็งง...แต่ก็เล่นได้ดีน่ะครับ...นัดนี้ เพิ่งเคยเห็นโอนูโอฮาเล่นบอลจากกลางสนามขึ้นมายิงเองครับ..เกือบดัง..ยังกะมาราโดน่าอาไรประมานนั้น(น่าจะเอามาเล่นกองหน้าแทนบินโญ่สะเลย55)เบลามี...คนนี้ไม่มีผิดหวังจิงๆครับ..ถือว่าเป็นนักเตะที่คุ้มจิงๆที่ ซื้อมา..
การเสียประตูน่ะครับ เท่าที่สังเกตน่ะครับ ผมสังเกตเห็นบริดเข้าไม่ถึงบอลก่อนแล้วเสียประตูมา 3 ครั้งแล้วครับ..ลองสังเกตดีๆน่ะครับ แต่ละนัด
ผมคิดว่านัดนี้เป็นดวงของแมนชิตี้ครับ..ที่ไม่เสียประตูเยอะ นัดนี้ผมว่าดันก็เล่นได้ดีน่ะครับ..สกัดลูกได้ดีหลายๆจังหวะ..แต่ถ้าเจอลูกโด่งมากๆ ลองสังเกตน่ะครับ ดันจะไม่กล้ากระโดดโหม่งบอลเต็มที่ เหมือนกับว่าเขาขาดความมั่นจัย..อาไรประมานนี้
ถ้าเริ่มเล่นเข้าขากันอย่างงี้นัดต่อไปถ้าได้เล่นที่บ้านผมคิดว่า เราเก็บ 3 แต้ม แหงมๆครับ
อธิบายให้ครับ นัดนี้เอาซาบาเลต้ามาซ้อนบริดจ เพราะซาบาเลต้าเล่นเหนียว ซ้อนคนอยู่ตลอด แล้วบริดจเองเติมแล้วชอบรั่ว มีคนกรองดีๆชั้น เมื่อวานเติมได้ดีกว่าไมการ์อีกด้วย จริงๆแล้ว ไมกาไม่น่าเติมเยอะเลย เล่นเหนืยวๆแล้วบุกทางซ้ายโดยบิญโญ่กับบริดจ ไอรแลนด เบลามีก็น่าพอละ ยิ่งเดอรยอง เล่นซะกลางลิวเวอรพูลไปไม่ได้ เขาไปสไลดซวยๆเยอะมาก รวมกับการวิ่งประทะของกอมปานีกับซาบาเลต้า เหนียวมากกกกกกกกกก
ทำไมไม่ให้ชนะไปเลยวะ
ผมว่านัดนี้ ฮิวจ์วางตัวรับสามตัว ถือว่าวางแผนรับมือหงส์ได้ดีครับ ถ้าเกิดถอดใครคนหนึ่งออก เด ยอง กอมปานี หรือ ซาบาเลต้า ออกไป แดนกลางคงอ่อนไปเยอะ และอาจเสียสมดุลในการตั้งรับไป

นัดนี้เป็นเกมที่ฮิวจ์วางแผนได้ดี กว่าที่ผ่านๆมา และนักเตะก็เล่นได้ดี
แม้กระทั่งดันน์ ซึ่งจะมีลูกพลาดบ่อยๆ นัดนี้ก็เล่นไม่มีพลาด จังหวะโหม่งก็เบียดซะตอเรสทำอะไรไม่ถนัด
มีแค่จังหวะเดียวช่วงท้ายๆครึ่งหลังที่ไล่ประกบตอเรสไม่อยู่ จนล้มคว่ำไป

ที่จริงจังหวะนั้น ต้องมีคนไปช่วยดันน์ประกบตอเรสอีกคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าไปประกบแล้วจะโดนหลอกสองเลยก็ได้
นักเตะแบบตอเรส ปล่อยให้ประกบคนเดียวก็อันตราย เหมือนที่บินโย่ ครองบอล จะมีนักเตะหงส์เข้ามาสองสามคนอย่างรวดเร็ว จนบินโย่ไม่สามารถพาบอลไปกับตัวได้
ตอเรส กับ บินโย่ ก็ไม่ต่างกัน ประกบตัวต่อตัว มีสิทธิ์หลุดไปได้ นอกจากเสียว่ากองหลังคนนั้นจะเก่งและเร็วพอ

นัดต่อไป ขอให้ดันน์เล่นได้เท่านี้พอ ไม่ต้องดีกว่านี้ หลังก็น่าจะอุ่นใจขึ้นเยอะ

กองหลังอีกคน คือ โอนัวฮา ชอบซ๊อตตอนเลี้ยงขึ้นไปยิง หากมีโอกาสก็เติมเกมได้ก็ดีนะ กองหลังคนนี้
ส่วนไมก้า ไม่ต้องเติมเกมมาก รักษาตำแหน่งตัวเองให้ดีก็พอแล้วล่ะ ช่วงนี้ฟอร์มหล่นไปกว่าปีที่แล้วเยอะ

มีกิ๊ฟเวน ทำให้อุ่นใจกว่าโจ ฮาร์ท และชไมเคิลจริงๆ เด็กหนุ่มสองคน ควรอยู่กับแมนซิติ้ และเรียนรู้จากกิปเว่นต่อไป อีกสองสามปีคงเก่งและเป็นตัวจริงในทีมชาติของตัวเองได้

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.