ครั้งก่อนกุนซือเจอร์เก้นได้นำทัพทีมจากลีกเยอรมันบุกมาเอทิฮัดในฐานะนายใหญ่ของโบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยก่อนหน้านั้นเขาสามารถนำทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสองครั้ง รวมทั้งถ้วยในประเทศด้วย แถมยังนำทีมเข้าสู่แชมป์เปี้ยน ลีก รอบไฟน่อล
ในค่ำคืนนั้น โจ ฮาร์ท ได้โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยให้เรือใบสีฟ้าเก็บแต้มเสมอมาได้ อย่างไรก็ตาม ทัพเยอรมันก็เอาชนะซิตี้ในเลกสอง ด้วยสกอร์ 1-0
กุนซือเจอร์เก้น คล้อปป์ ยังได้เอาชนะซิตี้ 3-1 ในเดือนสิงหาคม ปีค.ศ.2010 ในนัดกระชับมิตรก่อนเปิดฤดูกาล ทำให้เขาทำทีมโดยไม่เคยแพ้ซิตี้ตลอดสามนัดที่พบกัน
ขณะนี้เขาได้ย้ายมามากุมบังเหียนลิเวอร์พูลแทนแบรนดอน รอดเจอร์ โดย คล้อปป์ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านฟุตบอลและนักเตะ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเขามีแทคติคและลีลาการเล่นที่มีประสิทธิภาพ
ฟิลิปส์ คูตินโญ่ ก็ได้อิสระอย่างมากในการเล่น ในขณะที่ดิว็อค โอริกี้ ก็ได้นำพาไอดียใหม่ๆมาให้ทีม สื่อมวลชนมั่นใจว่าทัพหงส์แดงจะสร้างความเอนเตอร์เทนอย่างมากให้แก่ผู้ชม แต่คำถามสำคัญก็คือแผนของกุนซือเจอร์เกิ้นในการเยือนเอทิฮัดคืออะไรกันแน่
เจอร์เก้น คล็อปป์ มักจะใช้สูตรการเล่นแบบ 4-2-3-1 และมักจะกดดันคู่ต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้เสียการครองบอลแล้วก็รีบรุกด้วยเกมสวนกลับ หรือในภาษาฟุตบอลเรียกกันว่า 'gegenpressing ' ถ้าเอาให้เข้าใจง่ายๆ ก็หมายความว่า หากผู้เล่นลิเวอร์พูลเสียบอลไปเมื่อไร ก็จะต้องรีบไปชิงบอลกลับมาให้เร็วที่สุด ด้วยการใช้วิธีดักบอล ตะลุมกันไปแย่งบอล เป็นต้น
ทฤษฏีนี้ใช้เพื่อให้นักเตะครองบอลให้ได้มากและชิงบอลมาด้วยพลังกำลังและสติปัญญา
ภายใน 90 นาที เจอร์เกิ้นจะเน้นให้ทีมของเขาใช้ความเร็ว ทั้งความเร็วในการครองพื้นที่และความเร็วในการสร้างสรรค์เกม ส่วนฟูลแบ็คก็สำคัญยิ่งยวดที่จะทำหน้าที่ทั้งสกัดกั้นและจู่โจม
ตอนที่เขาคุมทัพดอร์มุนด์นั้น การทำเคาท์เตอร์ แอตแทค ที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำได้งดงามมาก ซึ่งซิตี้เองก็ได้รู้แน่แก่ใจเมื่อได้ปะทะกับดอทร์ทมุนด์ในฤดูกาล 2012/13 มาแล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=A96rNAzQkHQ
นี่จะเป็นนัดที่สองที่ทั้งคู่ไปประลองวิทยายุทธกันในฐานะกุนซือใหญ่
ในฤดูกาล 2012/13 รายการแชมป์เปี้ยน ลีก ดอร์มุนด์ได้โรมรันมาลากา สองขา ซึ่งถือเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
ทัพเยอรมันจำเป็นต้องรอช่วงทดเวลาสองนาทีเพื่อทำประตู และเอาชนะไปได้ในทัวร์นาเมนต์นั้น แม้ว่าประตูที่สองไม่สมควรจะได้ มีการวิพากษ์กันมากว่าเป็นลูกออฟไซด์ อย่างไรก็ตามเจอร์เกิ้นให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกว่าทีมของเขาสมควรที่จะเข้ารอบต่อไป
ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันได้เดินทางมายังแอนฟิลว์ด้วยการนำความคิดบวกมาให้ทีม และด้วยสไตล์การบริหารที่แตกต่าง ทำให้ผู้เล่นมีความสุขขึ้น ดูเหมือนลิเวอร์พูลทำได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลได้แพ้คริสตัล พาเลซ ในบ้าน นั่นแสดงว่ายังมีภาระอีกมากที่กุนซือเจอร์เกิ้นต้องแก้ไข
เขาได้บอกไว้ว่า การวิ่งรอบสนามไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นการยกทัพมาเยือนจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก เที่ยวนี้ของเขา ชาวเอทิฮัดคงจะได้เห็นฝีมือลายมือทั้งปรัชญาการเล่นของกุนซือใหญ่ผู้นี้ บอกได้ว่าเป็นแมตช์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
*****************************************************************
Cr.mcfc.co.th ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทยwww.mcfc.in.th
Tags:
เก่งครับมากด้วยยอมรับในฝีมือ แต่ปีนี้ยังเชื่อว่ายังต้องปรับปรุงและเรียนรู้ในทีมลิเวอร์พูลและในลีกอังกฤษ ยิ่งมาเยือนน่าจะหวังผลเสมอมากกว่าชนะ แต่เชื่อว่า แมนซิตี้ทำได้ครับ ยิ่งได้นักเตะตัวหลักๆกลับมาอย่าง กุน ซิลบา ซาบา นาสรี่ น่าจะพร้อมพอสมควรครับ ส่วนกัปตันเกมนี้ก้อรอเช็คความพร้อม ยังไงก็ยังมี โอตาเมนดี้ ม็องกาลา ที่จับคู่เล่นกันได้ไม่มีปัญหา สามแต้มสิครับ มั่นใจ แต่ไม่ออกตัวแรง อิอิ แมนซิตี้สู้ๆๆๆ
อย่าให้พลาดล่ะแมนซิ สู้ๆ
สิถิมีไว้ทำลาน นัดนี้นัดทีี่สี่เรือจะกางใบแล่นฉิวสู่ชัยชนะ
ยังไงซิตี้ก็จะชนะวันนี้ไม่ใช่วันนั้น
เดียวได้รู้ใครจริงหรือแค่ราคาคุย
ฮ่าๆไม่เก่งครับ
เก่งนะครับอย่าประมาท ใช้นักเตะเป็นด้วยดูตัวอย่างได้ครับจากการทำทีมดอร์ทมุน
ไม่กลัวครับ 5555++++
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by