ไม่ใช่ฮาร์ท แมนฯ ซิตี้ อาจแพ้ไปแล้ว

        ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริด ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พลังขาดหายไปเยอะต้องพึ่ง แกเร็ธ เบล มากเกินพลิกหนีลำบากเหมือนกัน

        ผมว่าเกมนัดที่ 2 ในคืนวันพุธหน้ายังคงเป็นเกมยากของ เรอัล มาดริด อยู่น่ะ เพราะอาจไม่มีชื่อโรนัลโด้อีกหน เนื่องจากผลสแกนล่าสุดอาการยังไม่เคลียร์แสดงว่าเกมวันเสาร์นี้ในศึกลา ลีกา เจ็ตโด้ก็คงเล่นไม่ได้โฟกัสไปอีก 7 วันสถานเดียว

        สภาพทีมลา เรอัล ไม่สมบูรณ์เอาซะเลยครับ ฮาเมส โรดริเกซ ก็ยังเจ็บ ส่วน คาริม เบนเซม่า ไม่สมบูรณ์ได้เล่นเพียงครึ่งเดียวก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้ว หากเกม 2 นัดกันขาดหมด 3 คน จะจัดทีมอย่างไร เบล-ลูคัส-เฆเซ่ เป็นกองหน้า 3 คนเหรอ

        แมนฯ ซิตี้ ก็ใช่ว่าสมบูรณ์ก่อนเกมมาเสีย ยาย่า ตูเร่ ไปคนนึง แล้วระหว่างเกมก็เสีย ดาบิด ซิลบา ไปอีกคน

        เกมตรงกลางสนามที่ใช้ แฟร์นานโด กับ แฟร์นันดินโญ่ เล่นพร้อมกัน 2 คน เห็นแล้วว่าการออกบอลในจังหวะพลิกเกมจากตั้งรับเปลี่ยนไปรุกเร็วทำแทบไม่ได้เลย ธรรมชาติของทั้ง 2 คน ถนัดไล่ตัดเกมทำลายจังหวะคู่แข่งมากกว่า

        สมดุลตรงนี้เปเยกรีนี่พยายามใช้ตัวความเร็วลงไปถึง 3 คน ทั้ง เดอ บรอยน์-นาบาส และ ซิลบา แต่รายหลังดันมาเจ็บซะอีก จึงเล่นจังหวะโต้กลับไม่ค่อยได้แบ็ก 2 ข้างแน่นมาก

        ล่าสุด ดิ เอ็นยิเนียร์ ออกมาเปรยแล้วด้วยว่าซิลบา คงหายไม่ทันเกมนัด 2 ที่เบร์นาเบว ความหวังของทีมคือการฟื้นสภาพของ ยาย่า ตูเร่ ลงมาเล่นร่วมกับ เดอ บรอยน์ และ นาบาส ให้ 2 คนนี้เป็นปีกแล้วตูเร่กระชากขึ้นตรงกลาง

        ถ้ามาดริดขาด 3 คนดังกล่าว แล้วเรือใบได้ตูเร่กลับมาถือว่าสภาพทีมชุดขาวเป็นรองนิดๆ ต้องอาศัยการเปิดบอลของ โทนี่ โครส กับ ลูก้า โมดริช แทน

        แต่ถึงจะขาด 3 หน้าเสื่อมาดริดก็ยังเป็นต่ออยู่ดี เพราะเล่นในบ้านมีโอกาสเป็นผู้ชนะสูงกว่าอยู่แล้ว

        แมนฯ ซิตี้ ท่องให้ขึ้นใจว่าเล่นจังหวะสวนกลับต้องทำประตูฐานะทีมเยือนให้จงได้ เสมอแบบมีสกอร์ 1-1, 2-2 เข้ารอบอยู่ดี เอาให้เหมือนรอบที่แล้วไปไล่ตีเสมอที่ปารีสมา 2-2 เป็นความได้เปรียบอักโขที่เกมแรกไม่เสียประตูในบ้าน

        ขอบคุณ โจ ฮาร์ท ที่ทำให้โอกาสนั้นหวนกลับมาอีกครั้ง บอกได้คำเดียวว่านายแน่มาก ทั้งจังหวะใช้เท้าสกัดลูกโหม่งของ คาเซมิโร่ ออกมาหรือเอาตัวบล็อกลูกยิงเผาขนของเปเป้เป็นวีรกรรมอันห้าวหาญในสมรภูมิทั้งนั้น

        ความได้เปรียบยังอยู่กับ เรอัล มาดริด ก็จริงแต่คงไม่มาก ถ้าขาดโรนัลโด้จะอยู่ที่ 60/40 แต่ถ้ามีโรนัลโด้ 70/30 คนๆ เดียวสามารถเปลี่ยนแปลงโอกาสขาดเจ็ตโด้เหมือนขาดใจ

        น่าสนุกครับ เกมที่เบร์นาเบวอีก 6 วันข้างหน้าโดยทั้งคู่ต้องไปเตะเกมลีกของตัวเองซะก่อน เสาร์นี้แล้วกลับมาตัดสินกันใหม่ว่าใครจะเข้าชิงฯ เรอัล มาดริด เป็นแชมป์มา 10 หน

        คู่เมื่อคืนล่ะครับเป็นอย่างไรกันบ้าง ตราหมี หรือ เสือใต้ ที่ได้เปรียบจากสกอร์ ต่างได้พักน้อยกว่าคือพัก 2 วันกลับไปลงเตะเกมลีกของตนวันเสาร์ จากนั้นก็พักแค่ 2 วันอาทิตย์-จันทร์ เพราะต้องลงเตะสะเด็ดน้ำกันคืนอังคารหน้าที่มิวนิค

        ถ้าดูจากคิวเตะและการเดินทาง แอต.มาดริด เสียเปรียบแน่ แต่ถ้าเรื่องของสกอร์นัดแรกเมื่อคืนเป็นอย่างไรเอ่ย?

        วันนี้ลุ้นกันต่อครับ ''ถ้วยเล็ก'' ยูโรปา ลีก

        ขวัญใจมหาชนอย่าง ลิเวอร์พูล ลงเล่นซะด้วยครับ หนึ่งเดียวที่สาวก เดอะ ค็อป เทใจเชียร์ หากคว้าแชมป์รายการนี้เส้นทางลัดสู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  เท่ระเบิดไปเลย เจอร์เก้น คล็อปป์

        หลังปราบ ดอร์ทมุนด์ มาได้หงส์แดงไม่กลัวใครอีกแล้วถือเป็นโอกาสทองที่จะได้เข้าชิงฯ เพราะจับสลากเจอ บียาร์เรอัล ผมว่าโอกาสหงส์แดงมีมากอยู่น่ะ

        ปัญหาเดียวของ มามาดู ซาโก้ นั่นแหละจะฉุดฟอร์มของแนวรับไปด้วยหรือเปล่า? งานนี้ต้องทดแทนโดยแข้งเก๋าอย่าง โคโล ตูเร่ ประสบการณ์มีมากพอแต่จะมีข้อผิดพลาดเทคนิคบางประการในการเล่นนอกบ้านหรือเปล่าน้อ?

        เป็นห่วงอยู่ 2 จุด นั่นแหละ เซนเตอร์กับผู้รักษาประตูห้ามพลาดในเกมบีบหัวใจแบบนี้เน้อ

        โอกาสในตารางพรีเมียร์ลีกของหงส์แดงแทบไม่เหลือแล้วกับการติดอันดับ 3-4  ต่อให้ชนะรวด 4 เกมที่เหลือยังไม่รู้จะไล่ชาวบ้านเค้าทันเลยหรือเปล่าครับ?

ต.โต้ง

http://www.siamsport.co.th/Column/160428_040.html