Members

คอลัมน์::แมนฯ ซิตี้ยังไม่ดีพอ!


     สัปดาห์บอลยุโรปมาแล้ว...ทั้งชปล. และยูโรปา ลีก จัดกันเต็มเหนี่ยวเปิดแมตช์แรกของฤดูกาลที่จะทอดไปอีกยาวไกล และสโมสรไหนต้องล่าเงินรางวัลพร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานจากลีกภายในสู่ลีกสโมสรระดับโลก ที่ต้องเตะกับคู่แข่งทั้งหลาย 
        สโมสรนั้น...หนัก และจำต้องมีศักยภาพแนวลึกที่ลึกสุดใจจริงๆ


        ไม่ง่ายที่จะรักษาฟอร์มและมาตรฐานการเล่นตลอดรอดฝั่งทั้งในลีกตัวเองและสโมสรยุโรป โดยเฉพาะทีมที่ลุ้นแชมป์ลีกด้วย ย่อมมีศักยภาพพอที่จะลุ้นแชมป์ถ้วยยุโรปเช่นกัน ดังนั้นขนาดของทีมซึ่งตีความถึงศักยภาพของทีมต้องมาเต็ม


        ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังจากชนะแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ และก่อนลงทำศึกสโมสรยุโรป และยังมีอีกหนึ่งแง่มุมที่ผมลืมนำเสนอไปเมื่อวันก่อน บังเอิญตรงใจพอดีกับบทสัมภาษณ์จึงอยากถ่ายทอด


        บางครั้งมันก็ลืมและพลั้งเผลอกันได้เรื่องแบบนี้


        ลืมแล้วกลับมานึกขึ้นได้ จึงนำมาเขียนถึงอีกครั้งสำหรับประเด็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ผ่านบทสัมภาษณ์ของเป๊ป


        เป๊ปบอกว่า "ทีมของเรายังไม่ดีพอ ถ้าเล่นได้เท่านี้ คงเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกยาก ถ้าอยากได้แชมป์ลีกมันต้องปรับปรุง"


        "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ลีกล่าสุดปี 2014 ที่เฉือนชนะลิเวอร์พูลในช่วงสองสามนัดสุดท้ายหลังจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นในแอนฟิลด์ จากนั้นพวกเขาก็ยังคงมีลุ้นต่อเพราะศักยภาพและสไตล์ของทีมนั้นยังไม่ถึงจุดเสื่อม


        ปีที่แล้วออกตัวชนะรวด 5 นัด ก่อนออกทะเลในเวลาต่อมา


        ทีมเดียวกันนี้เพิ่มเติมแค่ โนลีโต้, จอห์น สโตนส์ ไปตาม ราฮีม สเตอร์ลิง กลับมาเป็นคนเดิม  เปลี่ยนผู้รักษาประตูใหม่และใช้โค้ชระดับโลก


        เอาจริงๆ นะ...ผมว่าการมาของเป๊ปนี่แหละที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเชิงบวกมากขึ้น เหมือนเขาแค่มาต่อยอดและทำของเดิมให้กลับมาดีและจะต้องดีกว่าปี 2014 ที่ได้แชมป์


        อย่างที่เราทราบๆ เหตุผลของเป๊ปในการเลือกแมนฯ ซิตี้ คือสไตล์การเล่นเข้ากันกับไอเดียของเขา ทีมผู้บริหารแมนฯ ซิตี้ คือเพื่อนร่วมงานเก่าที่บริหารบาร์เซโลน่าจนสุดยอดเป็นทีมจากนอกโลก


        ตั้งแต่กรรมการผู้จัดการ, ประธานเทคนิค ที่มีส่วนในการตัดสินใจเรื่องฟุตบอล


        เขาทำงานง่ายไม่ต้องปะทะกับใคร เพราะคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น ซอเรียโน่, ไอตอร์ เบกิริสไตน์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมชุดดรีมทีมบาร์ซ่า ยังมาเป็นทีมงานบริหารอีก ต่างรู้แนวทางการทำงานคล้ายๆกัน ไอเดียใกล้เคียงกัน


        งานเบื้องหน้าจึงออกมาดีแน่ถ้าเบื้องหลังเป็นกันชน เป็นแนวสนับสนุนให้


        ถ้าโค้ชคนไหนทำงานกันคนละแนวกับทีมบริหาร คิดเห็นคนละแบบ ยิ่งผู้บริหารที่ไม่ใช่คนฟุตบอลด้วยแล้ว แบบนี้ประสานงา...กันมากกว่าประสานงาน


        เป๊ปเลือกทีมด้วยเหตุผลฟุตบอลเป็นหลักก่อน ตามด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่มาเสริมทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นกว่าปกติ


        4 นัดชนะรวด ไม่รวมชปล. เพลย์ออฟก่อนหน้านี้ เป็นโค้ชคนเดียวที่ชนะรวดในลีก แต่กลับยังไม่พอใจในงานของเขา นั่นไม่ใช่การถ่อมตัวตามนิสัยส่วนตัวของเป๊ป หากแต่มันเป็นการมองความจริงที่เกิดขึ้น


        เพื่อกระตุ้น...แฟน และนักเตะให้ตระหนักว่า "เรือใบสีฟ้า" ยังมีพื้นที่ต้องปรับปรุงอีกพอสมควร และลีกเพิ่งเริ่มต้น งานของเขากำลังเริ่มก่อตัว ค่อยตามดูกันไป


        อะไรคือจุดที่ต้องปรับปรุง??


        ผมสังเกตเห็นเกมในครึ่งหลังกับแมนฯ ยูไนเต็ด จะบอกว่าเจตนาหรือไม่นั้นก็พูดกันลำบากที่ เรือใบสีฟ้าถอนไปตั้งรับแล้วรอสวน ที่บอกเช่นนั้นเนื่องจากว่าสถานการณ์มันบีบบังคับให้แมนฯ ยูฯ ต้องปรับสไตล์มารุกเต็มตัว


        สกอร์ 2-1 ถ้ายังรับอีกมีแต่จะโดนเพิ่ม ดังนั้นต้องบุก มูรินโญ่เปลี่ยนตัวออกสองคนเลย ปรับแท็กติกของเขา เพื่อโจมตีและบีบให้เรือใบรับ ให้เล่นหน้าเดียวคือสวนกลับ มันอาจโดนใจหรือเป็นการอ่านไต๋ของเป๊ปที่มีต่อมูออก


        มันคือแรงบวก ผมคิดว่ามันก็มีน้ำหนักเท่าๆ กันคือ แมนฯ ยูฯ ต้องการบุกเพื่อยิงคืน และ แมนฯ ซิตี้ต้องการรับเพื่อหาหมัดบวกคือสวนกลับแล้วได้ 3-1 มันเป็นดับเบิลเลย จากแท็กติกที่เกิดขึ้นนี้ละมันจะเป็นประตูที่ฆ่าผีแดงได้เช่นกัน


        สิ่งที่มูต้องการคือ 2-2 เขาเน้นโจมตีจุดบอดของเรือใบคือลูกโด่ง มุ่งหน้าไปยังบราโว่ที่เปิดเผยจุดอ่อนออกมา บีบให้เรือใบเซตบอลจากเท้าบราโว่ แล้วหาความผิดพลาด ซึ่งก็เกือบนะครับสำหรับกรณีที่บราโว่กระโดดปั๊มบอลกับรูนี่ย์


        ภาพช้าก็ไม่ชัด ไม่เคลียร์ว่าเป็นจุดโทษดีมั้ย แบบนั้นอย่าหวังถึงภาพจริงที่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคล็ทเท่นเบิร์ก จะมองทันใน 3 วินาที นั่นคือประเด็นที่มูรินโญ่กล่าวถึง แต่เนื้อใหญ่ใจความของผมคงไม่เกี่ยวกับรายละเอียดเหล่านี้


        ประเด็นคือ...แมนฯ ซิตี้ต้องปรับปรุงแท็กติกให้มีประสิทธิภาพกว่านี้


        เกมรุกเข้าทำแล้วได้ประตูจากแมนฯ ยูฯ กลับเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่การพาสซิ่ง เข้าไปยิง ประตูแรก 4 จังหวะจาก บราโว่, โคลารอฟโยนเปิดให้อิเฮียนาโช่โหม่งแล้วเดอ บรอยน์เก็บจังหวะสอง ประตูที่สองเกิดจากความสามารถเฉพาะตัวของเดอ บรอยน์ที่เลี้ยงตัดในเขตโทษแล้วยิงชนเสา


        โชคดีบอลมาเข้าทางอิเฮียนาโช่


        ลูกช่อง, ลูกชิ่ง, ลูกโอเพ่น เพลย์แบบพาสซิ่ง เกมของพวกเขาไม่ได้ทำให้เป็นประตู นั่นคือจุดที่ เป๊ป ในฐานะกุนซือแท็กติกอุดมคติไม่แฮปปี้แน่ๆ บอลของเขามักจะพาสซิ่งเกม คอนโทรลเกม แล้วหาจุดโจมตีให้ได้ประตูอย่างมีสไตล์


        รับส่งบอลไปมา แม่นยำ หาช่องเข้าทำจบด้วยการยิงในกรอบโทษมากกว่านอกกรอบ คือเหนือชั้นมากสำหรับบอลสมัยนี้ และแท็กติกที่เราเห็นเกมรับแน่นสมัยนี้ จอดรถบัสไว้หน้าบ้านสองคัน จะโอเพ่น เพลย์อย่างไร


        ทว่า...เป๊ปไม่สนใจ เขาต้องการทลายปราการหลังอันแน่นหนาเหล่านี้ให้ได้


        ถ้าเป็นแบบนั้นเกมที่พบกับแมนฯ ยูฯ เขาสรุปแล้วทบทวนเรื่องการบุกของแมนฯ ซิตี้ ว่าต้องปรับปรุงให้มากกว่านี้ เช่นเดียวกันกับครึ่งหลังที่ใช้แผนรับแล้วสวนเพื่อขอประตูที่ 3 อันเป็นแรงบวกให้เกมนี้จบเร็ว


        อันนี้เลือดเย็นสุดๆ


        แต่สิ่งที่เห็นคือเกมโต้กลับของแมนฯ ซิตี้มาหลายเที่ยวเลยนะครับ สถานการณ์ 3-3 หรือ 4-4 พวกเขาใช้ความได้เปรียบนี้ทำไม่ได้ โดยเฉพาะ โนลีโต้ ที่เน้นจะยิงประตูจนลืมไปว่าเพื่อนว่างแล้วอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบหลายคน


        เกมโต้กลับยิ่งเป็นอะไรที่ต้องปรับปรุง...ตรงนี้อาจยกประโยชน์ให้เพราะพวกเขาไม่มี กุน อเกรโร ที่มักทำได้ดีจากเกมโต้กลับด้วย


        โอเค...เป๊ปวิเคราะห์แล้วว่าทีมของเขาต้องปรับปรุง เกมโต้กลับที่ใช้กับแมนฯ ยูฯ ไม่ได้ผลเลย แต่นี่เพิ่ง 4 นัด การออกมาพูดแบบนี้มองได้สองแบบคือหนึ่ง ลดความกดดันในฐานะทีมที่ชนะรวด 4 นัดอยู่ทีมเดียว


        มันเป็นจิตวิทยา


        หรือแบบสอง เขาต้องการสื่อให้ลูกทีมและแฟนเรือใบสีฟ้ารวมทั้งสื่ออังกฤษทราบว่าทีมของเขายังไม่ดีพอ


        ผมเห็นด้วยกับแบบสองมากกว่าแบบแรก มันเพิ่ง 4 นัดเกมจิตวิทยาการลดกระแสอะไรนั้น อาจจะยังไม่จำเป็นในตอนต้นฤดูกาลมากเท่ากับท้ายฤดูกาลที่การแข่งขันเข้มข้น ตึงเครียด แบบนั้นจิตวิทยาจะนำมาใช้ได้


        ผมเชื่อว่า "เรือใบสีฟ้า" มีอะไรต้องปรับปรุงอีกเยอะเลยทีเดียว ถ้าต้องการคว้าแชมป์


        นัดแรกเฉือนซันเดอร์แลนด์แบบหืดจับ หลายคนบอกอยากเห็นเป๊ปแบบนั้นแบบนี้ แต่ผมว่าบอลนัดแรกยกประโยชน์ให้จำเลยสิครับ เขาไม่ใช่เทวดาจะมาตีตนก่อนไข้ อย่างไร นัดสอง นัดสาม เริ่มดีขึ้น นัด4  ชนะเกมยากกับทีมลุ้นแชมป์ด้วยกัน


        กลายเป็นชนะหมด...ได้แต้มเต็ม แต่วิธีการเล่นยังไม่น่าประทับใจแบบที่เป๊ปบอก ผมคิดว่าจริงๆ แล้วถ้าขนาดนี้ยังไม่ดีพอเชื่อเถอะว่า เวลาผ่านไปแล้วเป๊ปปรับให้ทีมเล่นลงตัว ลงล็อก ตามที่เขาต้องการได้


        ดูแล้วคงทิ้งแต้มอันดับสองแบบไม่เห็นฝุ่นและจะกลายเป็นการลุ้นแชมป์ที่พวกเขาแข่งกับตัวเอง คือถ้าตัวเองไม่พลาดก็จะเก็บแต้มไปแบบม้วนเดียวจบ


        การที่เป๊ปบอกว่าเรือใบสีฟ้ายังไม่ดีพอที่จะคว้าแชมป์ มันคือมาตรฐานที่เขามีไว้ในใจและเขาเคยสร้างมันเอาไว้ที่บาร์ซ่ากับบาเยิร์น มิวนิค มันมีเกณฑ์ของเขาอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว การพูดแบบนี้ ทำให้เราพอจะมองเห็นเกณฑ์ในการทำงานของเป๊ปบ้างละ


        ผมเห็นด้วยว่าซิตี้ยังไม่ดีพอใน 4 นัด แต่เชื่อว่าไม่ต้องถึงเกณฑ์ของเป๊ป พวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์ได้แต่อาจจะยากลำบากกว่าที่คิด ดังนั้นเพื่อความชัวร์ เป๊ปน่าจะต้องค่อยปรับทีมของเขาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามที่เขาต้องการ


        รุกโอเพ่น เพลย์ต้องได้ประตูแบบที่เขาอยากได้ และทำให้ได้ทุกสถานการณ์ทั้งตามตีเสมอ, แซงนำ หรือเกมตึงเครียดแล้วได้ประตูแบบที่เราเห็นบาร์ซ่าทำได้ เกมโต้กลับต้องทรงประสิทธิภาพ สวนตูมเดียวได้ประตูเลย


        อย่างที่เขาต้องการ


        จะบอกว่าเป๊ปเป็นโค้ชที่เนี้ยบกับแท็กติกและสไตล์ของเขาก็พอได้ละครับ ยี่ห้อชาวบาร์เซโลน่าที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์นั้นมีมาตรฐานระดับสูงอยู่แล้ว


        งานศิลปะต้องสวยงามล้ำอย่างมีสไตล์ ทำอะไรต้องสร้างสรรค์ เหมือนที่ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกเอกผู้รังสรรค์ Sagrada Familia หรือ ซากราดา ฟามิเลีย โบสถ์อันงดงามกลางเมืองบาร์เซโลน่า


        เล่นฟุตบอลแบบบาร์เซโลน่าก็ต้องชนะอย่างมีสไตล์ ไม่ใช่เล่นเพื่อชนะ


        มันอุดมคติเกินไป...แต่ดีเอ็นเอของบาร์เซโลนิสต้ามันเป็นแบบนั้นและ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เช่นกัน เขาต้องการทำให้มันออกมาดีที่สุด คงไม่ต้องถึงกับเพอร์เฟกต์ สมบูรณ์แบบ แต่มันต้องออกมาอย่างดีที่สุด


        สำหรับงานศิลปะฟุตบอลของเขา


        ลองติดตามดูว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ยังไม่ดีพอจะคว้าแชมป์ในเวลานี้ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะปรับปรุงสไตล์การเล่นของพวกเขาจนพีกมากขนาดไหน


        ถ้าทำได้เร็วในสองสามเดือนแรก....


        ทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกคงเซ็งไปตามๆ กันนะครับ


JACKIE

---------------------------------------------------------------------------------

Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 664

Reply to This

Replies to This Discussion

มันก็แน่นอนอยู่แล้วครับ อย่าลืมสิครับว่าเป๊ปพึ่งมานะโว้ย 55 จะเร่งรีบร้อนไปไหน นี่ขนาดได้เท่านี้ยังชนะผี ถ้าดีกว่านี้ก็แชมป์กับแชมป์ล่ะ ไม่ต้องแข่งแล้วมั้งครับแหม่ ใจเย็นๆครับแจ้ดกี้

ไม่ดีพอและต้องพัฒนา มันเป็นสิ่งที่ทุกๆทีมก็ต้องทำอยู่แล้วทีมไหนที่จะหยุดพัฒนาบ้างละ
เรื่องระบบการเล่นมันก็ต้องค่อยๆปูพื้นฐานความเข้าใจในเกมของนักเตะให้มากขึ้น
เป๊ปมาทำได้ไม่กี่เดือนเอง คุณอย่าเพิ่งตัดสินเค้าว่ามันไม่ดีพอ หรือมันดีพอแล้ว จะได้แชมป์ หรือไม่ได้แชมป์

วิเคราะห์แบบนี้ ใครๆก็ทำได้ครับ ทีมต้องพัฒนาต่ออยู่แล้ว ต่อให้เป็นบาซ่าก็เหอะ ถ้าหยุดพัฒนาก็จบเห่

มานัดคืนก่อนนี่คงเริ่มดีใกล้พอแล้วละมั้งครับ อิอิ

แจ๊คกี้เอ๋ย

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.