Members

ตรวจสุขภาพ 6 ทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก

ตรวจสุขภาพ 6 ทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก




พรีเมียร์ลีก และลีกฟุตบอลทั่วโลกต้องหลีกทางให้กับ "ฟีฟ่า เดย์" หรือพักเบรกทีมชาติประมาณ 2 สัปดาห์ไปทำศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 หรืออุ่นเครื่องกระชับมิตร ช่วงว่างนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการ "ตรวจเช็คสุขภาพของ 6 ทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก" จากการอันดับล่าสุดของบริษัทรับพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอังกฤษ ณ แมตช์ที่ 7 ของฤดูกาล...

1.แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทุกอย่างดู "สมบูรณ์แบบ" และไร้ที่ติพร้อมเสียงชมเชยสรรเสริญถึง "เทพเป๊ป" ว่าทำอย่างไร? ทำไมถึง "เก่งจัง"? ในเวลา "รวดเร็ว" ไม่กี่เดือนถึงเปลี่ยนแมนฯซิตี้ ให้เล่นบอลสไตล์ Tiki taka ได้พร้อมกำสถิติ "ชนะรวด" 10 เกมแรกของฤดูกาล

กระทั่ง...ปะทะกลาสโกว์ เซลติก ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เสมอ 3-3 แบบต้องไล่ตีเจ๊า 3 ครั้ง 3 คราตามด้วยแพ้เกมแรกในฤดูกาลให้กับสเปอร์ส 0-2 เสียสถิติ 100% พร้อม ๆ กับการขาดหายของ เควิน เดอ บรอย และแนวรับที่ดูมี "จุดอ่อน" ตอนโดนคู่แข่งเพรสซิ่งเข้าใส่

เรียกได้ว่า 2 แมตช์สุดท้ายก่อนมี "อินเตอร์เนชั่นแนล เบรก" น่าจะทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโลลา รู้สึก "ขอบคุณ" ที่ได้พักหายใจหายคอกลับไปตั้งลำใหม่อีกครั้งครับ

2.ลิเวอร์พูล

หลังเปิดซีซั่นได้อลังการงานสร้างอัดอาร์เซนอลถึง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 4-3 พร้อมความ "คาดหวัง" ที่ทะยานพุ่งปรี๊ด ลิเวอร์พูลไปไม่เป็น และทำท่าจะบัวแล้วน้ำในแมตช์พรีเมียร์ลีก นัดถัดมา นัดที่ 2 ของฤดูกาลที่บุกแพ้เบิร์นลีย์ 0-2

คำถาม "พรั่งพรู" ทันทีว่า เยอร์เก้น คลอปป์ ยังแก้ปัญหาการเจาะทีมระดับรอง ๆ ไม่ได้

แต่พอ "ตั้งหลัก" ได้ ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะ และไม่แพ้ใครได้ต่อเนื่องรวมถึงเกมที่เคยลำบากกับชีวิต เช่น ถล่มฮัลล์ ซิตี้ 5-1 หรือพลิกแซงสวอนซี 2-1 (ซึ่งคงไม่ชนะ หากเป็นเมื่อก่อน) ไม่นับถล่มเลสเตอร์ 4-1, ชนะเชลซี 2-1 ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ และบุกเจ๊าไก่เดือยทอง สเปอร์ส 1-1 ระหว่างเส้นทาง 7 นัดแรกที่รั้งอันดับ 4 สวยงาม

พร้อมสถาปนาตัวเองเป็น "เต็ง 2" อย่างเต็มตัวแล้ว! ก่อนเกมใหญ่นัดต่อไป **"ศึกแดงเดือด" กับแมนฯยูไนเต็ด

3.อาร์เซนอล

การเปิดซีซั่นโดยโดนลิเวอร์พูลบุกมายิงถึง 4 เม็ดแล้วแพ้ 3-4 ได้กระตุ้นต่อม "อยากซื้อ" นักเตะให้กับ อาร์เซน เวนเกอร์ และอย่างน้อย ๆ ในวินาทีสุดท้ายกับการคว้า ลูคัส เปเรซ กับสโคดราน มุสตาฟี ทีมปืนใหญ่ก็เจอ "แจ็คพ็อต" ได้เพชรเม็ดงามสัญชาติ เยอรมัน วัยไม่ถึง 25 ปีมายืนเกมรับประจำการคู่กับ โลรองต์ กอสเชียลนี่

ครับ มุสตาฟี - กอสเชียลนี ปรับตัวร่วมกันได้เร็ว และกล่าวได้ว่า อาร์เซนอล ไม่ได้ "หันหลัง" กลับอีกเลย เพราะไม่แพ้ใคร 9 นัดติดต่อกันที่ชนะถึง 7 นัด และเสมอในเกมเยือนยาก ๆ กับเลสเตอร์ และเปแอสเช เท่านั้นพร้อม ๆ กับรั้งอันดับ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก และตำแหน่งสวย ๆ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครับ

4.สเปอร์ส

ต้องยอมรับว่าทีม "ตราไก่" ของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต่อยอดฟอร์มร้อนแรงจากซีซั่นก่อนได้ดีเกินคาดโดยเฉพาะ "เกมรับ" ที่จัดเป็นทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ 6 ทีมที่มีสถิติการเสียประตูน้อยที่สุด และดีที่สุดในลีก (3 ประตู)

นอกจากนี้ หลังจากปราบ แมนฯซิตี้ ได้สำเร็จ 2-0 ในเกมที่ผ่านมา สเปอร์สยังเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังพกสถิติไม่แพ้ใครหลังผ่าน 7 นัดแรกของฤดูกาล

กองหน้าที่หวั่นเกรงกันว่าจะมีปัญหาหลัง แฮร์รี เคน บาดเจ็บก็ได้ ซอน เฮือง-มิน โชว์ผลงานโดดเด่นพร้อมแนวรุกที่เดิมมีประสิทธิภาพอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน เอริคส์เซ่น, เอริค ลาเมล่า, เดเล อัลลี ฯลฯ ภายใต้ห้องเครื่องที่แข็งแกร่งอย่าง มุสซ่า ซิสโซโก้ และวิคเตอร์ วันยาม่า

จะว่าไปแล้ว ด้วยศักยภาพตอนนี้ สเปอร์สจึงดูเหมือนเป็น "ชอยส์" ที่น่าเสี่ยงเชียร์ที่สุด ณ จุดที่บริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมายยกให้เป็นแค่ "เต็ง 4" เท่านั้นทั้ง ๆ ที่เพิ่งปราบ "เต็ง 1" แมนฯซิตี้ ได้งดงาม

5.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ความคาดหวังต่อตัว โจเซ่ มูรินโญ่ นั้นสูงมากระดับ "ลุ้นแชมป์" ตอนต้นฤดูกาลที่กำลังทัพได้ถูกเสริมอย่างมี "กลยุทธ์" และเต็มไปด้วยไพร่พลสุดแสนแพงนำโดย 4 อรหันต์ พอล ป๊อกบา, เอริค บาญี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เฮนริค มคิห์ทาร์ยาน

เฉพาะอย่างยิ่งหลังเริ่มต้นซีซั่นโดยชนะรวดสวย ๆ ในลีก 3 เกมก่อนจะเริ่มสะดุดแพ้ติด ๆ กัน 3 แมตช์จากทุกถ้วยแล้วก้าวถึง "จุดเปลี่ยน" สำคัญของฤดูกาลที่กลับชนะรวด 3 แมตช์หลังแพ้วัตฟอร์ดไล่จาก ถล่มนอร์ทแธมป์ตัน 3-1, เชือด เลสเตอร์ 4-1 และปราบซอเรีย 1-0 โดยดร็อป เวย์น รูนีย์ เป็นตัวสำรองตามคำเรียกร้อง

ทว่าในเกมล่าสุดที่ทำได้แค่เสมอทีมบ๊วย สโต๊ค 1-1 ได้ทำให้ "โมเมนตัม" ที่ทำท่าจะกลับมา "เปลี่ยนทิศ" อีกครั้ง และส่งผลให้อันดับการลุ้นเป็นเต็งแชมป์หล่นไปอยู่ "เต็ง 5" ในสายตาบริษัทรับพนัน

พร้อม ๆ กับคำถามทั้ง ป๊อกบา, รูนีย์, คนอื่น ๆ และวิธีทำทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ เริ่มส่งเสียงดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น ทว่าแน่นอนทุกเสียง "พร้อมเงียบ" ทันทีหากเก็บผลการแข่งขันที่ดีจากแอนฟิลด์ **"ศึกแดงเดือด" อันเป็นเกมต่อไปได้

6.เชลซี

อันโตนิโอ คอนเต้ และลูกทีมเชลซี เปิดหัวได้สวยโดยชนะรวด 4 แมตช์แรกของฤดูกาลโดยแบ่งเป็น 3 นัดแรกสวย ๆ ใส ๆ ในพรีเมียร์ลีกก่อนจะดร็อปแต้มให้ สวอนซี (เสมอ 2-2) พร้อมกับอาการบาดเจ็บของ จอห์น เทอร์รี อันมีผลให้แผงหลังขาดผู้นำ และระส่ำแพ้ลิเวอร์พูล 1-2 คาบ้านตามด้วยโดย อาร์เซนอล ยำใหญ่ 3-0

เกมกับปืนใหญ่ แม้จะแพ้ ทว่าคอนเต้ได้เริ่มนำระบบกองหลัง 3 คนมาใช้ครั้งแรกในครึ่งเวลาหลัง และทีมไม่เสียประตูเพิ่มหลังจากนั้นก่อนจะใช้ยุทธวิธีเดียวกันเอาชนะฮัลล์ ซิตี้ ได้ 2-0

ดังนั้น แม้จะยังดูแกว่ง ๆ และ "ทรงบอล" ยังน่าห่วง ทว่าระบบเซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนที่คอนเต้ถนัดอาจกลายเป็น "ทางออก" สำคัญสำหรับเชลซีในซีซั่นนี้ได้เหมือนกัน

แม้ระบบนี้ ไม่ว่าจะ 3-4-3 หรือ 3-5-2 ไม่ใช่อะไรที่คุ้นเคยเลยสำหรับฟุตบอลอังกฤษ!

////////////////////////////////////////////
Cr.soccersuck. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 1025

Reply to This

Replies to This Discussion

เห็นด้วยครับว่า โชคดีที่พักเบรคอย่างน้อยทีมได้หายใจหายคอ นักเตะที่เจ็บมีเวลาพัก รวมทั้งที่ไม่ได้เตะทีมชาติด้วย แต่คนที่ติดทีมชาติก็เหนื่อยล้าตามเคยยิ่งการเดะินทางน่าสงสารสุดคือนักเตะอเมกาใต้อย่าง กกุน ซาบา โอตาเมนดี้ แฟร์นันดินโญ่ที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับยาวนานกว่าเพื่อน และหลายคนน่าจะต้องกลับมาลงตัวจริงด้วย แต่มองโดยรวมก็เป็นผลดีต่อทีมมากว่าผลเสียครับ สุดท้ายเดอ บรอยน์หายไวๆนะครับ อิอิ

ปล ไก่ หงส์มาแรงจริงๆครับปีนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ

1.แมนซิ 2.สเปอร์ 3.ลิเวอ 4.อาร์เซน่อล 5.แมนยู 6.เซลซี ตามนี้ผมจัด

1.แมนซิ 2.หงส์ 3.สเปอร์  4.อาร์เซน่อล 5.แมนยู 6.เซลซี

..ช่วงพักเบรคจะดีสำหรับนักเตะที่ไม่ได้เล่นทีมชาติจะได้ฟิตซ้อมเต็มที่ในระบบ..

..แต่พวกไปรับใช้ทีมชาตินี่ซิ ไม่เจ็บก็กรอบกลับมา ที่รู้ๆซานญ่าและสเตอร์ลิ่งก็มีอาการบาดเจ็บ..

..นักเตะอาร์เจน บราซิลก็อ่อนล้า เอาแค่เดินทางนี่ก็สาหัสแล้ว..

..กลับมายังไม่หายเหนื่อยก็มาเจองานหนักกับเอฟเวอร์ตันทีมอันดับ5..

..วันที่ไม่มีเดอ บรอยน์ แต่มีซิลบาที่อ่อนล้า คิดถึงน้าศรีจริงๆ !

เฮียเป๊ปมีงานให้ทำแน่นอนเห็นว่ากลับบ้านที่บาร์ซ่าช่วงพักเบรคผมว่าไปหาตำราพิสัยสงครามมาแน่เลยพี่มีน 555+

ก่อนมาผมโคีตกลัวคอนเต้มากกว่ามูอีก แต่ตอนนีเป็น คลอปมันโหดกว่าเจอทีมใหญ่ปราบเรียบ ไก้นี่ยังต้องดูเพราะเล่นบอล UCL เหมือนเรือใบเรา

ช่วงนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ต้องหลัง boxing day ไปแล้วถึงจะรู้ว่าทีไหนเต็งแชมป์
ปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องและสำคัญมากคือ โปรแกรมบอลทุกถ้วยที่เข้ารอบ ถ้าทีมไหนต้องเล่นทุกถ้วยมีผลต่อการเล่นในพรีเมียร์แน่นอน
นักแตะ keyman ล้าและบาดเจ็บ หลายทีมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และก็พลาดแชมป์ไป

เห็นหงส์เล่นต้องบอกว่าโหดเพรสซิ่งตัวแม่เลยน่ากลัวเพราะไม่ต้องเตะบอลยุโรปทำให้พละกำลังเหลือเฟือแถมเอาใครลงเล่นดัหมดคล๊อปป์ยังเลือกไม่ถูก เป๊ปคงต้องรีบทำการบ้านเพราะต้องเจอการเล่นแบบนี้กับหลายทีมแน่นอน

ปีนี้ทีมใหญ่อย่าง เชลซี ผี อาจจะหลุดโผ top4 ได้

ความพร้อมของซิตี้ถ้าพร้อมโอกาสคว้าแชมป์ก็มีมากกว่าทีมอื่นอยู่ดีครับ ใครยืนระยะได้ดีด้วยประสบการณ์เนี่ยซิตี้มีมากพอสมควรน่าจะเอาตัวรอดจบด้วยอันดับที่ 1 หรือแย่ที่สุดปีนี้เนี่ยคือที่ 2

1.แมนซิ 2.หงส์ 3.สเปอร์  4.อาร์เซน่อล 5.เซลซี 6.หลายทีม

นัดหน้าหวังว่าจะกลับมาฟอร์มกระฉูดนะเป๊ป

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.