เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรก ประจำวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม เป็นการพบกันระหว่าง บอร์นมัธ ที่เปิดรัง ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยนัดนี้ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือเจ้าถิ่น ต้องการเก็บคะแนนแรกของฤดูกาลให้ได้หลังแพ้มา 2 นัดติด
ขณะที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมเยือน ที่ 2 เกมแรกพาทีมเก็บ 4 คะแนน ดร็อป เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ เป็นตัว สำรอง แล้วให้ แบร์นาโด้ ซิลวา มิดฟิลด์ตัวใหม่ ลงเป็น 11 คนแรก
เริ่มเกมเจ้าบ้านเปิดเกมสู้ได้อย่างสนุก และได้ประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 จากจังหวะที่ ชาร์ลี แดเนียลส์ ได้ซัดเต็มข้อบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายส่งบอลผ่านมือ เอแดร์สัน นายทวาร "เรือใบสีฟ้า" เข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม
นาทีที่ 19 บอร์นมัธ น่าได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ แอนดรูว์ เซอร์แมน เปิดให้ เจอร์เมน เดโฟ ยิงจ่อๆ แต่ไม่ผ่านมือ เอแดร์สัน ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ จะตามตีเสมอ 1-1 หลัง ดาบิด ซิลบา จ่ายทะลุช่องให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ อัสเมียร์ เบโกวิช ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
เปิดฉากครึ่งหลังเป็นทีมเยือนที่ครองเกมได้ดีกว่า แต่เกือบจะโดน บอร์นมัธ ขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 61 หลัง โจชัว คิง ได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 62 "เรือใบสีฟ้า" ต้องส่ง อเกวโร่ ลงมาแทน ซิลวา เพื่อพยายามทำประตูแซงให้ได้ จากนั้นในนาทีที่ 70 ทีมเยือนมีโอกาสจากจังหวะส่องไกลของ แฟร์นานดินโญ่ แต่ยังไม่ผ่านมือ เบโกวิช
ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ พยายามโหมเกมรุกอย่างหนัก และมีโอกาสในนาทีที่ 74 แต่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ โหม่งไปชนเสา อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 97 ทีมเยือนมาได้ประตูแซง 2-1 จากลูกยิงของ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่เจ้าตัวก็ต้องโดนใบแดงจากใบเหลืองที่สองหลังไปดีใจเกินเหตุ จบเกม "เรือใบสีฟ้า" ชนะ 2-1 เก็บ 7 คะแนนจาก 3 นัด แซง แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ: อัสเมียร์ เบโกวิช, สตีฟ คุ้ก, นาธาน อาเก้, ไทโรน มิงส์, อดัม สมิธ, ชาร์ลี แดเนียลส์, แดน กอสลิง, แอนดรูว์ เซอร์แมน, แฮร์รี่ อาร์เตอร์, โจชัว คิง, เจอร์เมน เดโฟ
แมนฯ ซิตี้: เอแดร์สัน, ดานิโล่, แว็งซองต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้, แฟร์นานดินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, แบร์นาโด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส
//////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลึกของประเทศไทย www.mcfc.in.th
Tags:
หนูริ่ง โดนใบแดงเพราะดีใจเกินเหตุ !! ?????? 555+
ตอนหนูริ่งโดนเหลือง 2
ผมยังงงเลย
ผู้บรรยายในสนามยังทำเสียงตกใจไม่อยากเชื่อ
ผมว่ากรรมการก็อ่อนไหวไปนะครับ
ดูเหมือนแผนการเล่นเองก็ยังไม่ลงตัวนะครับ
เหมือนว่าตัวหลักจริงๆ ยังเจ็บ ยังไม่ฟิต
ทำไรขาดๆเกินๆ รั่วๆ ไปหมด
นัดที่แล้ว สิบคนหืดจับ ต้องไล่ยิงเอาคืนเพื่อเสมอ
นัดนี้สิบเอ็ดคน แต่ก็หืดจับ ต้องไล่ยิงเพื่อเอาชนะ และก็ได้แบบหวุดหวิด
ก็ดี เห็นฟอร์มแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ข้อดีที่เห็น คือทีมสปิริตใจสู้ไม่ยอมแพ้ และทำได้
น่าจะเป็นกำลังใจในการสู้ต่อไป...
ข้อเสีย(ที่ก็มีข้อดีซ่อนอยู่) ก็คือได้เห็นฟอร์มของทีมที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางซะที
บุกอยู่ดีๆ เขาสวนมาทีเดียวเป็นประตูแบบนี้นี่เห็นมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วแระ
แต่ก็ดี ทีมยังดูดีมีอนาคต และเผื่อจะได้เลิกบิ้วท์ เลิกบ้าเรื่องแชมป์ๆๆ โน่นนี่นั่นซะที
ลีกกะลาพรีเมียร์ลีกน่ะมันโหด ไม่ง่ายไม่หมูหรอก
ให้เวลา อดทนรอเป๊บปั้นทีมให้แข็งแรงสม่ำเสมอ
แบบที่เจ้าของทีมเจ้าของเงินเขายังอดทนรอได้
แบบนั้นนั่นแหละ.. กองเชียร์ ที่ไม่ใช่กองแช่ง...
..หนูลิ่งช่วยชีวิตทีมไว้สองนัดๆติดๆกัน..
..เกมเอฟเวอร์ตันช่วยให้ไม่แพ้..
..เกมบอร์นมัธช่วยให้ชนะในช่วงเศษเสี้ยวนาทีของช่วงทดเจ็บ..
..3 นัดในเกมลีก ยังไม่มีอะไรประทับใจในความแน่นอนของทีมเลย..
..นี่ขนาดยังไม่เจอทีมลุ้นแชมป์ทั้งผีทั้งสิงห์..
..สโมสรอุตส่าห์ใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะไปกว่า 200 ลป.แล้ว..
..แต่ต้องมาพึ่งหนูลิ่งที่ถูกจับนั่งสำรองมาหลายนัด..
..เป๊ปทำได้แค่นี้จริงๆหรือ อุตส่าห์ตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูง..
..ก็ต้องดูกันต่อไปว่าอีกนานแค่ไหนเป๊ปจะหาความมั่นคงในทีมเจอ..
..เชียร์ครับ ยังไงก็ค้องเชียร์เรือใบสีฟ้าอยู่แล้ว ^^
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by