Members

ความจริงที่ต้องยอมรับ

ความจริงที่ต้องยอมรับ

หากจะหาข้ออ้างที่บอกว่าทำไมพลพรรคปีศาจแดงถึงพ่ายศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันก็คงจะพอมีอยู่บ้างนะครับ

    ตัวอย่างเช่น ไม่มีดาวเตะสำคัญอย่าง ปอล ป็อกบา ที่ดันติดโทษแบนในเกมนี้...ซะอย่างนั้น

    หรือผู้ตัดสินเฮงซวยอย่าง ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ที่ทำเป็นหมางเมินไม่ยอมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษทั้งๆ ที่ควรจะได้ แถมคนโดนทำฟาวล์อย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า ดันได้ใบเหลืองแทนอีกต่างหาก

    แต่ความจริงที่ต้องยอมรับในอันดับแรก คือทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์สมควรเป็นผู้ชนะมากกว่า และอย่างเป็นเอกฉันท์ซะด้วย!

    ว่าแล้วขอบังอาจวิพากษ์ปีศาจแดงเล็กน้อย

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    เรียนตามตรงว่าตอนที่รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด คลอดออกมาใหม่ๆ ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์นิดๆ

    นั่นเพราะผมคิดว่า โชเซ่ มูรินโญ่ จะยังคงยึดระบบ 3-5-2 เหมือนเดิม โดยเน้นเกมรับแบบที่พากย์อังกฤษสำเนียงแมนคูเนี่ยนว่า "พาร์ค เดอะ ฟักกลิ้ง บัส" แล้วค่อยหาจังหวะจู่โจมอย่างฉาบฉวย เหมือนที่เพิ่งใช้ได้ผลในเกมบุกเหยียบจมูกไอ้ปืนโตนั่นแหละ

    เพราะอะไรที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วก็ไม่ควรจะไปเปลี่ยนแปลงมัน

    ทว่า "มูมู่" ปรับระบบกลับมาเป็น 4-2-3-1 แถมยังใส่ตัวรุกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงไปพร้อมกันอีกต่างหาก 

    อืมมมม...นะ

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    ประหนึ่งว่า...กูจะสั่งลูกทีมเปิดเกมรุกสู้แบบใครดีใครอยู่ให้มันรู้หมู่-รู้จ่ากันไปเลย เนื่องจากสถานการณ์บังคับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องชนะเพียงสถานเดียว เพื่อลดช่องว่างจาก 8 ให้เหลือ 5 แต้ม

    ที่ไหนได้นะครับ

    หลังผ่านไปประมาณ 10 นาที ผู้มาเยือนอย่าง แมนฯ ซิตี้ ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ที่โรงละครแห่งความฝันได้เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนเรือใบวิทยาคม

    ด้วยการเล่นอันเป็นระบบและมากด้วยทีมเวิร์กกว่า ขณะที่ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นก็สูงกว่า - สามารถเอาตัวรอด พลางเลี้ยงกินตัวผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตลอดเวลา

    เท่านั้นไม่พอ 

    ดูเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่กล้าเปิดเกมรุกเข้าแลกแบบเต็มตัวด้วย

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    สิ่งที่เห็นจากบานหน้าต่างอิเล็กทรอนิกส์ในระบบฟูลเอชดี คือผู้เล่นในชุดสีฟ้าครองบอลมากกว่า บุกมากกว่า และมีโอกาสทำลายตาข่ายมากกว่า ซึ่งนั่นควรจะเป็นสิ่งที่กุนซือผู้ภูมิปัญญาระดับ โชเซ่ มูรินโญ่ น่าจะคะเนออกตั้งแต่ก่อนแข่ง

    ฉะนั้นถ้าคิดจะตั้งรับแบบเจ้าพ่อรถบัสก็ควรติดตั้งระบบหลัง 3 โดยถือโอกาสใช้ตัวแทนของ ปอล ป็อกบา อย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า เป็นตัวจับตาย ดาบิด ซิลบา หรือ เควิน เดอ บรอยน์ เหมือนที่เคยทำสำเร็จในเกมกำราบ เชลซี เมื่อฤดูกาลที่แล้วไปเลย

    หรือถ้าคิดจะบุก มันก็ต้องแสดงความมุ่งมั่นและทุ่มเทออกมามากกว่านี้

    จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ครองบอลแค่ 25% ทั้งที่เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า แมนฯ ซิตี้ มันบุกมาเยือนทีมท้ายตาราง หรือ "รองจ่าฝูง" กันแน่ (วะ) ?

    อย่างไรก็ตาม 

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมที่ทำงานเป็นคอลัมนิสต์ลูกหนังด้วย คงมิบังอาจจาบจ้วง โชเซ่ มูรินโญ่ หรอกครับว่าวางแผนหรือจัดระบบการเล่นผิดพลาด เพราะขืนทะลึ่งแสดงความเห็นแบบนั้นออกไปคงมิวายถูกบรรดาโค้ชคีย์บอร์ดในโลกโซเชียลไล่ให้ไปเป็นโค้ชเองซะมากกว่า

    นอกจากบุกไม่ขึ้น ยังถูกกดเสียจนโงหัวไม่ขึ้น 

    บางทีพวกเขาอาจจะพยายามจะบุกแล้ว..ก็..เป็น..ได้ เพียงแต่มันทำได้เพียงเท่านั้นแหละ ด้วยคุณภาพผู้เล่นที่ต่ำกว่า

    วิธีการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ โชเซ่ มูรินโญ่ เท่าที่เห็นในการศึกครั้งล่าสุด มันค่อนข้างตะมุตะมิไปหน่อย ซึ่งแปลเป็นไทยสไตล์พระโขนงบ้านผมได้ว่า "อะไรของมึงครับเนี่ย?"

    คือตั้งรับแบบไม่เต็มตัว เวลาบุกก็บุกแบบกล้าๆ กลัวๆ แถมไม่มีลูกหนักทั้งที่เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี

    สุดท้ายก็เสียหลักพุ่งชนความพ่ายแพ้แบบราบคาบเลยทีเดียว ซึ่งนั่นบ่งความจริงที่ต้องยอมรับในข้อต่อมาคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ยังไม่ดีพอที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    แมนฯ ซิตี้ และนาทีนี้เป็นทีมที่ดีกว่าทุกรูปเหลี่ยมมุม

    ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นที่สร้างสรรค์มากกว่า

    หรือระบบการเล่นและทีมเวิร์กที่เหนือกว่า โดยไม่เว้นแม้แต่ทักษะความสามารถส่วนบุคคลของผู้เล่น

    แน่นอนว่าพวกเขาเหมาะสมกับตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่าชัดเจน

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถใช้เงินที่ท่านเจ้าของทีมยอมวอดวายให้ได้อย่างคุ้มค่ามากกว่า ก่อนผสมผสานผู้เล่นออกมาได้อย่างลงตัว

    ผิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผลงานไฉไลขึ้นก็จริง แถมดีที่สุดนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาตำแหน่งไปเลยทีเดียว แต่สังเกตได้เลยนะครับว่าเวลาเจอกับคู่แข่งในวรรณะเดียวกัน รูปเกมของพวกเขามักจะเป็นรอง ทั้งในการเจอ ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล และสเปอร์ส 

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    นอกจากนี้ เกมที่พ่ายเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญของตัวเองแบบคาถิ่น มันเหมือนเป็นการตั้งคำถามว่า แนวทางการเล่นแบบรถบัสของ โชเซ่ มูรินโญ่ มันเหมาะกับทีมที่ได้รับสมญาจากวิธีการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง "ปีศาจแดง" หรือไม่ ซึ่งความจริง คุณพี่เขาอาจจะยังไม่ใช่ผู้กอบกู้ตัวจริงเสียงจริง...ก็...เป็น...ได้

    ถึงตอนนี้พรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 16 เกมเท่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด โดนทิ้งห่าง 11 แต้ม ไม่ว่าจะมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้าย ตำแหน่งแชมป์ได้ตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว

    ในฐานะของผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงคนหนึ่ง ต่อไปคือเป้าหมายที่เหลืออยู่ของผมในฤดูกาลนี้

ความจริงที่ต้องยอมรับ

    1. พยายามสนุกกับการดู แมนฯ ยูไนเต็ด โดยลุ้นกันไปแบบนัดต่อนัด หาก แมนฯ ซิตี้ สะดุดตีนตัวเองหกคะเมนบ้างก็ถือเป็นโบนัส

    2. รักษาอันดับ 2 เอาไว้ให้จงได้ เพราะอย่างน้อยมันถือเป็นผลงานที่ไฉไลที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 5 ปี

    3. กำราบ เซบีย่า และถีบตัวเองเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอย่างต่ำ 

    4. หากป้องกันแชมป์ ลีก คัพ ได้ก็...เอานะ

    5. คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 13 เพื่อตีเสมอ อาร์เซน่อล ให้ได้อีกครั้ง

    6. จบฤดูกาลด้วยอันดับในตารางที่สูงกว่า ลิเวอร์พูล

    บ่อยครั้งที่ความจริงมันขมขื่น แต่ต้องยอมรับพลางอยู่กับมันให้ได้นะครับ อิอิอิ

    บอ.บู๋

------------------------------------------------
Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เว็ปหลักของประเทศไทย : http://mcfc.in.th

Views: 544

Reply to This

Replies to This Discussion

เออ.. วิพากวิถากแบบนี้ค่อยน่าฟัง ค่อยพอรับได้หน่อย

ไม่เหมือนอีกราย รายจั๊กกรี้รายนั้น ที่บอกว่าดูบอลผ่านไปแค่ 3 นัด

ก็เหมือนดูหนังบางเรื่อง ที่ดูแค่ต้นเรื่อง ก็รู้ตอนจบ !!

แหม่.. ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 16 นัด เรือใบยังไม่แพ้ซักนัด

แถมไปถล่มทีมผีอันดับสองถึงถิ่น นำยาวๆ 11 แต้ม

ไม่รู้แบบนี้ที่แกจะรู้ตอนจบหรือยัง ?!?

ไม่รู้ออกมาพูดอะไรแก้เขินบ้างหรือเปล่า ?!?

สงสัยพี่แกดูหนังผิดเรื่องมาแต่ต้น.. ก๊ากๆๆ

แมนซิตี้ชนะทั่งรูปแบบการเล่นและประตูที่ได้ ขาวสะอาด ชัดเจน ยาวไปเลย

บอ.บู๋ แกไปไม่เป็นเลยจริงๆ กลายเป็นบอ.โบ๋ไปแล้ว..

..ขอกลับมาพูดเรื่องเกมนิสนึง..

..มันก็อะเมซิ่งดีนะกับ 2 ประตูที่เรือได้..

..ปกติเรือจะเสียประตูจากลูกตั้งเตะ..

..แต่เกมนี้กลับได้ทั้งสองประตูจากลูกตั้งเตะ..

..เป็นลูกวอลเลย์จ่อๆทั้งสองลูกจากซิลบาและโอต้า..

..ที่ขรำก็คือซิลบาตั้วเตี้ยแต่เอียงตัวกระโดดซัดตุงเฉยเลย..

..นี่แหละฤทธิ์เดชเวทมนต์พ่อมดเมอร์ลิน ^^

มันต้องยอมสิครับ 555 ว่าแต่จะเอาจุดโทษให้ได้เลยนะจ๊ะ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.