Members

15 เกม...แห่งความหวัง 4 แชมป์สร้างประวัติศาสตร์

15 เกม...แห่งความหวัง 4 แชมป์สร้างประวัติศาสตร์
_____________________________
16 ปี...แห่งความหลัง...
นั่นคือบทเพลงที่เป็นอมตะในเมืองไทยของคุณ สุรพล สมบัติเจริญ

แต่สำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในชั่วโมงนี้ คงต้องบอกว่า 15 เกม...แห่งความหวัง...

ใครล่ะจะไม่อยากเป็นหนึ่งในหล้า ???

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำมันได้แล้วกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจจะทำมันได้ดีกว่ากับ แมนฯ ซิตี้

สำหรับแฟนฟุตบอลในช่วงทศวรรษ 1990 ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมอะไร แต่ก็คงไม่มีใครลืมผลงานอันเกรียงไกรของทีมผีแดงที่สามารถกวาด 'ทริปเปิ้ลแชมป์' เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้ เพื่อนบ้านน่ารำคาญของพวกเขากำลังจะสร้างปรากฎการณ์ที่เหนือกว่าด้วยการคว้า 4 แชมป์ใหญ่ในซีซั่นเดียว

ย้อนกลับไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทีมเรือใบยังคงมีสกอร์ตามหลัง สวอนซี 0-2 เวลาก็เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นหลายคนต่างคิดว่าเรื่องช็อกกำลังจะเกิดขึ้นในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ และน่าจะเป็นหงส์ขาวที่ทะยานไปสู่เวทีตัดเชือกรายการนั้น

แต่พอสิ้นเสียงนกหวีดของ อังเดร มาร์ริเนอร์ กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายเอาชนะ 3-2

ใช่!!! พวกเขาทำได้

ตอนนี้เท่ากับว่าพวกเขาเหลืออีกเพียง 15 เกมเท่านั้นที่จะเดินทางไปถึงการคว้า 4 แชมป์ใหญ่ พร้อมกลายเป็นอันดับหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์

คำถามก็คือ พวกเขาดีพอที่จะคว้าแชมป์ในอีก 3 รายการที่เหลือหรือไม่ หลังผงาดชูถ้วยลีก คัพ ไปก่อนแล้ว ???

หลายคนคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้

โอเค เรื่องขุมกำลังของทีมเรือใบในฤดูกาลนี้นั้นไม่มีใครเถียง เพราะพวกเขานั้นแกร่งทั่วแผ่นในแบบที่แทบไม่มีจุดอ่อนอะไรเลย แถมตัวเลือกทดแทนก็เล่นกันได้แบบไม่มีตกหล่นอีกด้วย

ทว่าเมื่อมองไปถึงรายละเอียดแล้ว ความยากก็คือพวกเขาจะต้องเล่นกับของแข็งอย่าง สเปอร์ส ถึง 3 นัดในรอบ 11 วัน ก่อนที่จะต้องทำศึกแมนเชสเตอร์ดารบี้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ขณะที่อีก 2 ตัวเต็งอย่าง ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า ก็ต่างค่อนข้างสะดวกสบายในลีกของตัวเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถให้ความสำคัญกับแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างเต็มที่

ที่สำคัญสุดก็คือ การประสบความสำเร็จขนาดถึงกับคว้า 4 แชมป์ใหญ่ภายในซีซั่นเดียวมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการคว้าแชมป์แบบนั้นมันเหมือนเป็นการท้าทายธรรมชาติของฟุตบอลที่ดูจะวุ่นวายมหาศาล

พวกเขาจะให้ความสำคัญกับทั้ง 3 รายการที่้เหลือได้อย่างเท่าเทียมกันหรือ...???

ในเอฟเอ คัพ วูล์ฟส์ คือผู้ท้าชิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา และการจับสลากประกบคู่ก็ทำให้เรือใบเจองานที่ง่ายกว่าอย่าง ไบรท์ตัน ในรอบรองชนะเลิศ

มันก็คล้ายกับที่เขาโชคดีในเกมยุโรปก่อนหน้านี้กับการพบ ชาลเก้ ที่กำลังเผชิญหน้ากับผลงานในลีกห่วยที่สุดตั้งแต่รีเทิร์นกลับมายังเวทีบุนเดสลีกาในปี 1992

ในรอบก่อนรองถ้วยบิ๊กเอียร์นั้น สเปอร์ส คือบททดสอบที่ไม่ง่ายสำหรับพวกเขา แต่...

เรือใบก็ยังใจชื้นได้เมื่อสถิติของ เป๊ป ในการพบกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในช่วงหลังๆ นั้นเหนือกว่าอย่างชัดเจน

เวลานี้ แมนฯ ซิตี้ ถูกยกจากเหล่าบริษัทรับพนันให้เป็นเต็งหนึ่งของแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ในการเล่นเกมยุโรปรอบน็อคเอาต์สักเท่าไหร่

กับในพรีเมียร์ลีกขณะนี้ แม้เรือใบจะหล่นลงมาอยู่อันดับสองตามหลัง ลิเวอร์พูล ไปแล้ว แต่หากมองตามเนื้อผ้าพวกเขาก็ยังกุมความได้เปรียบเอาไว้ในมือตัวเองอยู่

จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่เคยมีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกที่ยังมีลุ้นถึง 4 แชมป์ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของฤดูกาล

ย้อนกลับไปในยุคที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 'ทริปเปิ้ลแชมป์' พวกเขาตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ลีก คัพ ด้วยน้ำมือไก่เดือยทองที่ไปถึงแชมป์ในปี 1999

ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับวิธีการสร้างทีมของ แมนฯ ซิตี้ (เงินอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ยังมีอื่นๆ อีกมากมาย) ถ้วยรางวัลนั่นแหละที่จะทำให้เรือใบสีฟ้ากลายเป็นมหาอำนาจของวงการลูกหนังปัจจุบัน

แม้จะมีแฟนบอลมากหน้าหลายตาเยาะเย้ยถึงความสำเร็จเก่าๆ ที่ไม่อาจเท่าเทียมพวกบิ๊กทีมในอดีตได้ แต่พวกเขาก็มีความปรารถนาที่จะสร้างความยิ่งใหญ่แบบยั่งยืนนับจากนี้ไป

ทีมผีแดงชุด 3 แชมป์ในปี 1999 ยังคงเป็นจุดที่ใช้อ้างอิงถึงความยิ่งใหญ่กันอยู่ในทุกวันนี้

น่าสนใจเหลือเกินว่า แมนฯ ซิตี้ จะทำได้ดีกว่า 20 ปีก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กดประตูชัยให้ผีแดงผงาดเป็นเจ้าของโลกลูกหนังที่บาร์เซโลน่าได้หรือไม่ ???

15 เกมต่อจากนี้นี่แหละคือคำตอบ... 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเป๊ป กับ เรือใบสีฟ้า

////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.thsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 375

Reply to This

Replies to This Discussion

แชมป์ FA เรือใบมีโอกาสสูงเกิน 50%

แชมป์ลีก โอกาส ณ ตอนนี้ดูจะ 50-50

แชมป์ถ้วยยุโรป โอกาสเป็นไปได้มี แต่น่าจะต่ำกว่า 50%

ถ้าเรือคว้า 3 แชมป์ได้ ก็หรูเหลือเกินละ

และไม่ว่าจะคว้ากี่แชมป์ ถ้า 1 ในนั้นเป็นแชมป์ถ้วยยุโรป

เชื่อว่าเจ้าริ่งหรือใครบางคนในทีมก็มีสิทธิได้บัลลังดอร์

แต่ถ้ากาลกลับตาละปัดพลิก ว่าวหมดทุกถ้วยที่เหลือ

การที่ทั้งเป๊บทั้งนักเตะ พาทีมมายืนเป็นตัวเต็งได้ทั้ง 4 ถ้วย

ถึงจะว่าวไป 2-3 ถ้วย ทั้งเป๊บ ทั้งนักเตะ ทั้งสโมสรเรา มันก็เจ๋งสุดๆอยู่ดี

ต่อให้ในที่สุดปีนี้ได้มาแค่แชมป์เดียว ปีหน้าก็เต็งทุกถ้วยอีก ได้ลุ้นแบบมีหวังจริงจังอีก

ไม่ใช่แบบทีมเป็ด มีลุ้นทุกปี มีหวังทุกปี ลงท้ายก็ "ปีหน้าเรามาแน่" ซะเมื่อไหร่.. เอิ้กๆๆ..

15 เกม...แห่งความหวัง 4 แชมป์สร้างประวัติศาสตร์ !

..กู่ไม่กลับแล้วนักวิแคะทั้งหลายที่พยายาม"ยัดเยียด"ความหวัง"4 แชมป์"ให้เรือ..

..ทั้งโค้ชทั้งนักเตะเและสาวกเรือก็ไม่ได้ออกอาการกระดี๊กระด๊าที่จะคว้า 4 แชมป์..

..เพราะรู้ว่ามันมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยในการที่จะกรำศึกหนัก..

..ศึกหนัก 15 เกมเพื่อบรรลุความต้องการ..

..ดูโปรแกรมแล้วเรือจะต้องลงแข่งเกือบทุกๆ 3 วัน เวลาฝึกซ้อม เวลาพักแทบจะไม่มี..

..ทีมถึงจะมีขุมกำลังที่สามารถหมุนเวียนนักเตะได้..

..แต่เอาเข้าจริงๆขุมกำลังมันก็มียุบเหมือนกันถ้านักเตะอ่อนล้าและบาดเจ็บ..

..ต้องไม่ลืมนะว่านักเตะก็คือมนุษย์ ร่างกายประกอบด้วยเลือดเนื้อเอ็นกระดูก..

..ไม่ใช่หุ่นเหล็กทรานฟอร์เมอร์..

..อย่าไปเชื่อ อย่าไปดราม่ากับพวกกูรู้ที่อวยว่าเรือจะคว้า 4 แชมป์..

..เด๋วมันจะเกิด"อุปาทานหมู่" เตรียมเข็นซาเล้งออกมาแห่ฉลองกันวุ่นวาย..

..เหมือนกับทีมไหนก็ไม่รู้ซิ !?!

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.