พระรอดมหาวัน พิมพ์ใหญ่องค์นี้ เป็นพระเครื่องที่มีอายุมากที่สุดคือ 1,300 ปี ตามพุทธลักษณะบ่งบอกว่าเป็นพระศิลปะสมัยทวาราวดี สร้างด้วยเนื้อดินเผา มีสีต่างๆหลายสี แบบเดียวกันกับพระลำพูน (พระคง)
มีตำนานกล่าวว่า พระรอดสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย (ลำพูน) แต่เดิมมีฤาษี และสุกกทันตฤาษี ทั้งสองเป็นสหายกัน ปรึกษาตกลงที่จะสร้างเมืองใหญ่ โดยเลือกสถานที่ได้ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำกวง เมื่อสร้างเมืองเสร็จ ยังไม่มีผู้ที่จะครองเมือง ฤาษีทั้งสองจึงตกลงกันให้ไปอัญเชิญพระนางจามเทวี พระราชธิดาของเจ้าเมืองละวะปุระ(ละโว้) ขึ้นมาปกครอง ด้วยความเห็นชอบของพระบิดา พระนางจึงเสด็จมาตามคำอัญเชิญ พร้อมด้วยพระสงฆ์ผู้ทรงไตรปิฎกพราหมณาจารย์ โหรราชบัณฑิต แพทย์และช่างต่างๆจำนวนหนึ่ง
หลังจากได้เสวยราชสมบัติแล้วได้ชักชวนอาณาประชาราษฎร์ สร้างพระอารามใหญ่น้อย ถวายแด่พระรัตนตรัย เพื่อไว้เป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ที่ได้อาราธนามาจากกรุงละโว้ บรรดาพระอารามที่สร้างนั้นได้สร้าง ณ บริเวณนอกประตูเมืองทั้งสี่ทิศ และพระอารามสำหรับเป็นที่ปลงพระศพของราชวงศ์อีกหนึ่งพระอารามเป็นมหาวิหารมี 5 แห่งด้วยกันคือ
เมื่อสร้างพระอารามเรียบร้อยแล้ว พระนางจามเทวียังได้สร้างพระพุทธรูปใหญ่น้อยเป็นจำนวนมาก พระอารามเจริญรุ่งเรืองสุดขีด พระนางจามเทวีทรงเลื่อมใสศรัทธาในบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นเอกอัครศาสนูปภัมภก นครหริภุญไชย ครั้งกระนั้นเจริญรุ่งเรือง บ้านเมองร่มเย็นเป็นสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร มีความเบิกบานทั่วหน้า
วาสุเทพฤาษี และสุกกทันตฤาษี ได้ปรารภกันว่านครหริภุญไชยมีสตรีเป็นเจ้านคร อนาคตข้างหน้าอาจมีศึกสงครามขึ้นได้ ฤาษีทั้งสองจึงปรึกษาหารือที่จะสร้างเครื่องรางของขลังไว้เพื่อสักการบูชา ป้องกันรักษาบ้านเมืองและเพื่อเป็นพุทธบูชา จะได้เป็นขวัญและกำลังใจแก่เหล่าทหารและเสนาอำมาตย์ จึงผูกอาถรรพ์ไว้ด้วยกลางใจเมือง แล้วจัดหาดินอันเป็นมงคลพร้อมด้วยว่านยาและเกสรดอกไม้นับเป็นพันชนิด มาผสมเข้าด้วยกันกับเวทมนต์คาถาแล้วคลุกเคล้าจนเข้ากันดี จึงจัดสร้างเป็นพระพิมพ์ขึ้นสองชนิด ชนิดหนึ่งเรียกว่าพระคง ชนิดหนึ่งเรียกว่า พระรอด แปลความหมายว่าเพื่อความมั่นคงและเพื่อความอยู่รอดปลอดภัย
พระรอดเป็นพระปฏิมากรขนาดเล็ก พบที่กรุวัดมหาวัน แต่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ไม่ทราบวันเดือนปีที่เปิด รู้แน่แต่เพียงว่าพระเจดีย์เก่าที่สัดมหาวันด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ พระเจดีย์ได้หักพังทลายลงมา ภายหลังได้มีการปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ที่หักขึ้นมาใหม่ สร้างทัพเจดีย์เดิม และทางวัดได้เอาซากพรเจดีย์ที่หักพังซึ่งเป็นกรุพระรอดไปถมหลุมและบ่อตามบริเวณลานวัดทั่วๆไป พระรอดที่ติดไปกับซากปรักหักพังจึงกระจัดกระจายไปตามพื้นวัดมหาวันนั้นและได้ขุดกันมาทุกยุคทุกสมัยบางปีได้บ้างไม่ได้บ้าง ทั้งที่ชำรุดก็มี เรียกว่าขุดกันทุกตารางนิ้วของลานวัดเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้ขุดไม่ได้เพราะทางวัดได้เทปูนเต็มพื้นลานวัดหมดแล้ว จึงไม่มีการพบพระรอดอีก
พระรอดมหาวัน พิมพ์ใหญ่ ลำพูน |
ผู้รู้ได้แบ่งแยกพิมพ์ทรงของพระรอดอันเป็นมาตรฐาน มีจำนวน 5 พิมพ์ด้วยกัน คือ
1. พิมพ์ใหญ่ 2. พิมพ์กลาง 3. พิมพ์เล็ก 4. พิมพ์ต้อ 5. พิมพ์ตื้น
การพิจารณาเอกลักษณ์จุดสังเกตที่ควรจำของพระรอดพิมพ์ใหญ่ พอสรุปได้คือ
1. พระเกศตรงปลายเป็นจุดเรียวแหลมคม ค่อนข้างเรียบร้อย
2. พระกรรณ(หู) ด้านซ้ายองค์พระจะมีเส้นพิมพ์แตกยาวเฉียงลงมาจรดผนังโพธิ์
3. ปลายพระกรรณ(ปลายหู) ด้านซ้ายองค์พระจะมีขีดมองดูคล้ายเลขหนึ่งเลขอารบิคหัวกลับ
4. พระเนตรเหลือบต่ำ
5. ช่องระหว่าง คาง แก้ม ด้านซ้ายองค์พระ จะมีเส้นเล็กละเอียดมาก วิ่งลงมาผ่านช่วงบ่าถึงแขน และพาดผ่านลำแขน เป็นเส้นน้ำตกเลยฝ่าเท้าลงมาจรดฐานชั้นแรกแล้วแตกออกเป็นสามเส้น เมื่อเลยฐานชั้นแรกซึ่งเล็กและละเอียดมาก
6. ฐานชั้นแรก จะมีเส้นแซมอยู่ในช่องฐานด้านบนลักษณะเป็นเส้นปรุไม่ต่อกัน (เกิดจากการแกะเซาะของแม่พิมพ์จะมีเฉพาะพิมพ์ใหญ่เท่านั้น)
7. ผนังโพธิ์ ด้านขวาองค์พระจะมีความคมลึกกว่าด้านซ้ายแทบทุกองค์
พระรอดเป็นพระที่สร้างด้วยเนื้อดินเผามีความละเอียดมาก มีหลายสีด้วยกัน อาทิเช่น สีแดง, สีเหลือง, สีขาว, สีเขียว, คาบกรุจะต้องอมเหลืองทั้งหมด
พุทธคุณนั้น นับเป็นเอกอุ สุดยอดในด้านแคล้วคลาด ปลอดภัยต่อภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงถือเป็นยอดเบญจภาคีองค์หนึ่ง ภัยทั้งหลายทั้งปวงไม่สามารถจะแพ่วพาลได้ ใครมีพระรอดมัจจุราชไม่เรียกหา
http://Tags:
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by