ฮาร์กรีฟส์ จาก ยูไนเต็ด สู่ ซิตี้
ถือว่าค่อนข้างสร้าง ความประหลาดใจและช็อคความรู้สึกต่อเหล่าสาวกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่น้อยกับ ย้ายข้ามฟากไปเล่นให้ทีมคู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ท่ามกลางฝุ่นตลบในช่วงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะที่สร้างความฮือฮามาก สุดคงหนีไม่พ้น ราอูล เมเรเลส ขอขึ้นบัญชีย้ายจาก ลิเวอร์พูล สู่ เชลซี
เช่นเดียวกับ มิเกล อาร์เตต้า เกือบล่มอยู่แล้ว เพราะ เอฟเวอร์ตัน ปฎิเสธข้อเสนอ อาร์เซนอล จนเจ้าตัวต้องขอขึ้นบัญชีย้ายจึงได้ไปกรุงลอนดอนแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเกือบ วินาทีสุดท้าย
แต่ถึงกระนั้นการย้ายของ ฮาร์กรีฟส์ ถือว่าเซอร์ไพรส์ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมายังเมืองแมนเชสเตอร์ เลย
เวสต์บรอมวิช ,แอสตัน วิลล่า และ เลสเตอร์ ซิตี้ ต่างฝ่ายต่างแย่งกันยื่นข้อเสนอ แต่อดีตดาวดังทีมชาติอังกฤษยังไม่ตัดสินใจเสียที
จนกระทั่ง ซิตี้ มอบโอกาสการเริ่มต้นใหม่
ด้วยการเป็นทีมเงินทุนหนามั่นคังที่สุดในโลก
อีกทั้งคับคั่งไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าดีๆย้ายเข้ามาอยู่เต็มไปหมด
ฮาร์กรีฟส์ จึงไม่ลังเลตอบรับทันที
แม้ที่ผ่านมาเขามักมีปัญหาเรื่องสุขภาพบาดเจ็บบ่อยครั้งจนแทบไม่ได้ลงสนาม
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เล่นให้ "ปีศาจแดง" สัมผัสพรีเมียร์ลีกรวมกันแค่ 27 เกมเท่านั้น
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสงสัยในประสบการณ์ของ ฮาร์กรีฟส์ ในวัย 30 ปีผ่านเวทีระดับใหญ่ๆทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ฟุตบอลโลกมาแล้ว
สมัยยังฟิตเต็มร้อย เขาเป็นมิดฟิลด์ห้องเครื่องผู้ปิดทองหลังพระทำหน้าที่ในแดนกลางอย่างไม่ รู้จักเหน็ดเหนื่อย,เซนต์ในการผ่านบอลได้เปรียบและช่วยทำให้เกมรุกของทีมไหล ลื่นไม่ต้องพะวังเกมรับ เพราะมีเขาคอยยืนเป็นกันชนให้
การมาของ ฮาร์กรีฟส์ น่าจะช่วยเป็นแบ็คอัพให้ แกเร็ธ แบร์รี่ และ ไนเจล เดอ ยอง
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นประโยชน์ในเกมยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย
เพราะ ซิตี้ อยู่ในสายแข็งที่เรียกว่า "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ประกอบไปด้วย บาเยิร์น ,นาโปลี และ บีญาร์เรอัล
อย่างน้อยประสบการณ์ไปเล่นให้ "เสือใต้" นั้น ฮาร์กรีฟส์ น่าจะมีข้อมูลและรู้ลึกตื้นหนาบางของยอดทีมเยอรมันเป็นอย่างดี
ดังนั้นน่าจะช่วยในการวางแผนของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เตรียมการรับมือได้อย่างไร
ที่สำคัญ ฮาร์กรีฟส์ เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่โชคดีคนนึงเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าจะอยู่กับ บาเยิร์น หรือ แมนฯยูไนเต็ด เขาได้สัมผัสถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สโมสรทั่วยุโรปต่างปราถนาถึง 2 ครั้งก็คือใน 2001 และปี 2008
ดังนั้นจึงน่าคิดเหมือนกันว่า เขาอาจจะเป็นตัวนำโชคให้ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าถ้วยใบใหญ่ที่สุดของทวีปก็เป็นได้ ใครจะไปรู้
เครดิต ss และ ขอบคุณ ลูกกลมกลม
http://www.guideball.com/board/column/viewtopic.php?t=55876
ปล.ใครพอทราบข้อมุลอาการบาดเจ็บของเขาบ้างได้ข่าวว่ามันสะสมจนหมดสภาพความเป็นนักเตะไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรผมก็ว่าเข้าน่าจะกลับมาได้เพราะด้วยทัศนะคติของเขาและตัวอย่างนักสู้อย่างอบิดัลนักเตะโรคมะเร็งยังอยู่ในทีมสุดแกร่งอย่างบาซ่าได้ .... สู้ๆ ครับ
Tags:
คิดในทางสร้างสรรแบบนี้ดี
ข่าวมาแรกๆแฟนเมืองไทยต่อว่ากันตรึม
วันนี้ยอมรับแล้ว
ไม่ใช่แค่ประสบการณ์เล่นให้บาร์เยินอะ
ฮากรีฟโตมาจากอะคาเดมี่บาร์เยินเลย
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by