ชัยชนะของลิเวอร์พูลต่อเชลซี ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากสื่ออังกฤษน้อยกว่าชะตากรรมของ อังเดร บีลาช โบอาช ผจก.คนหนุ่มไฟแรงที่กำลังเผชิญหน้ากับความกดดันครั้งสำคัญหากพลาดท่าแพ้เล เวอร์คูเซน อาจมีข่าวใหญ่เกิดขึ้นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้ง
ส่วนลิเวอร์พูล เอฟซี เองหละครับ..จะมีอะไรน่าสนใจจากนี้
ในแง่ของการแสดงผลงานโดยภาพรวมเวลานี้มี 22 แต้ม แพ้ไป 2 กระนั้นพวกเขาก็เสมอเยอะจนทำให้อาร์เซนอลที่แม้แพ้ 4 แต่พวกเขาชนะเยอะแต้มจึงเท่ากันและช่วงชิงพื้นที่ชปล.เหมือนๆกัน เวลานี้จึงเท่ากับว่า เชลซี,ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล มี 22 แต้มเท่ากัน
อันดับ 5-6-7 แต่ในทางปฏิบัตินั้นนิวคาสเซิลซึ่งอยู่อันดับ 4 มี 25 แต้มได้รับการคาดหมายว่าอาจยืนระยะไม่นานอีกพักหนึ่งคงหลุดวงโคจรชปล.
อย่างไรก็ตามชัยชนะของลิเวอร์พูลกำลังตกอยู่ในความสงสัยเหมือนเมื่อครั้งที่พวกเขาชนะ
อาร์เซนอล, เสมอ
แมนฯยูไนเต็ด อันเป็นทีมชั้นนำของประเทศแต่หลังจากนั้นพวกเขากลับทำได้แค่เสมอกับทีมขนาด เล็กโดยเฉพาะผลงานในแอนฟิลด์กลับกลายเป็นความกดดันสำหรับทีม
ปีก่อนเล่นนอกบ้านแย่...ในบ้านเยี่ยม
เกมรับพอใช้ได้...เกมรุกไม่คม มาปีนี้ผลงานในบ้านแย่ นอกบ้านเยี่ยม เกมรับและรุกไม่มีความสมดุลเลย ฝั่งทำได้อีกฝั่งหนึ่งพร้อมเสีย
เกมกับเชลซีนัดนี้แม้มีชัยชนะเกิดขึ้นแต่ยังมีคำถามค้างคาใจ อยู่ ในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ดีครึ่งเดียวเหมือนเดิม เล่นดี 45 นาทีแรกจากแผน 4-4-2 ที่
เคนนี ดัลกลิช เลือกใช้ เครก เบลลามี เล่นกับ หลุยส์ ซัวเรส และปีกซ้ายใช้ มักซี โรดริเกซ
แม้ประตูที่ได้มาจากความผิดพลาดแต่นั่นก็เกิดจากการที่หงส์แดง ใช้เกมเพรสซิงตั้งแต่แดนหน้า บีบให้กลางเชลซีเล่นยาก มันเป็นไปตามนั้นทุกอย่าง กระทั่งประตูนำ 1-0 และสถานะการณที่ดูแจ่มใสกว่า แต่พอครึ่งหลัง โบอาช แก้เกมลงมามันคนละเรื่องเดียวกัน
ลิเวอร์พูลรอเวลาโดนยิงจากการโดนบีบให้รับลึกหน้าเขตโทษ สุดท้ายก็โดนจนได้
จากตรงนั้นจนถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่เชลซีมาเจอทีเด็ดโต้กลับหงส์แดงชนะ 2-1 จากเกลน จอห์นสัน ที่ได้บอลยาวจาก ชาร์ลี อดัม ปิดเกมได้ทั้งที่มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในครึ่งหลัง อันเป็นจุดที่พอจะสร้างความมั่นใจให้กับทีมไม่น้อย เพราะเล่นไม่ดีแต่มีทีเด็ด
คือมันต้องมีเกมแบบนี้บ้างที่ขอครั้งเดียวปิดเกมและชนะเลย...
อย่างไรก็ตาม..หลงระเริงกับชัยชนะมากไม่ได้เพราะอาทิตย์นี้ลิ เวอร์พูลต้อนรับการมาเยือนของแมนฯซิตี้ ที่พึ่งผิดหวังกับชปล.เมื่อโดนนาโปลีสอยร่วงคา ซาน เปาโล ทำให้เรือใบสีฟ้าต้องได้รับการกระตุ้นว่าจะแพ้อีกคงไม่ดีแน่ แม้จะเป็นทีมเยือนก็ตาม
เวลานี้เทียบตัวต่อตัวและทีมเวิร์ค...ผลงานแล้วลิเวอร์พูลเป็นรองแมนฯซิตี้ พอตัว
เกมรุกดุดัน ทะลุทะลวง เร็วและแม่น หวังผลได้ของ เรือใบ เจอกับกองหลังอันเปราะบางพลาดง่ายเสียง่ายไม่เป็นระบบของหงส์แดง ดูแล้วโอกาสโดนยิงและแพ้คาบ้านมีสูง ขณะเดียวกันข้างหน้าหงส์แดงเวลานี้ เริ่มฝืด หลุยส์ ซัวเรส ติดๆขัดๆ อยู่ ช่วงหลังทำประตูไม่ได้เลย
นัดนี้มีอย่างเดียวที่ลิเวอร์พูลจะพองัดมาสู้ได้คือ
“หัวใจ” และ
“สภาพทีม” ไม่ได้เล่นอะไรกับใครเขาต้องสดชื่นและใช้พลังตรงนี้บดบี้แมนฯซิตี้ และถ้าทำได้ต่อเนื่องพวกเขาย่อมมีโอกาสกดดันเรือใบและมองชัยชนะได้ ซึ่งเกมนี้ดูแล้ว เคนนี ดัลกลิช น่าจะปรับเปลี่ยนทีมของเขาอีกหนึ่งหรือสองตำแหน่ง
ส่วนเรือใบนั้น ไมกาห์ ริชาร์ดส์ จะกลับมายืนแบกขวาและคลิชี แบกซ้าย แกเรธ แบร์รี มาคุมกลางทำให้ทีมแน่นขึ้นแน่
นัดนี้ลีลาของเรือใบจะพบกับเกมบู๊ล้างผลาญของหงส์แดง ซึ่งคงมีทางเลือกเดียวที่จะเล่นกับแมนฯซิตี้ได้ งัดเกมลุยแหลกใช้พลังบดบี้ เพราะถ้าต่อบอลความแม่นยำและเร็ว เป็นรอง ต้องเล่นแบบรู้ตัวเองด้วยคือ เน้นการปะทะแดนกลาง ตัดเกมรุกแมนฯซิตี้ ออกไป เหมือนที่เชลซีโดนในครึ่งแรก
แต่..ปัญหาคือหงส์แดงตอนนี้เป็นทีมที่เล่นดีครึ่งเดียว ยืนระยะได้ไม่ยาว เรือใบมีตัวเลือกหลากหลายกว่าตรงนี้น่ากลัวและยังมองว่าแมนฯซิตี้ มีสิทธ์บุกมาชนะได้ถึงแอนฟิลด์
ไม่ได้ออกตัวนะครับผมคิดว่าเสมอกับเรือใบได้ก็น่าพอใจ เมื่อคิดถึงวิธีการเล่นที่ยังคงต้องปรับปรุงให้มันเนี้ยบขึ้นและยืนระยะให้ ได้ทั้งเกมของลิเวอร์พูลเวลานี้
JACKIE