ในส่วนผม ผมคิดว่า มันโช่วางตัวผู้เล่นและเเผนการเล่นผิดอย่างมหันทำให้ครึ่งแรกไม่สามารถเล่นเกมรุกได้และก็เคาะบอลไปมาตรงกลางและส่งกลับหลัง แต่ที่เห็นผิดพลาดเด่นชัดเลย คือ ซาวิก
ท่านอื่นคิดว่าไงครับ
Tags:
ผมว่านะทำไมเราไม่กล้าที่จะแลกกับชัยชนะเหมือนในเกมกับแมนยู
ทุกครั้งที่เราเจอเเมนยูเราพร้อมที่จะแลกทุกอย่างนะคับ นั่นทำให้เราเป็นยอดทีม
แต่ในขณะที่เราเจอทีมอื่นเราขาดความบ้าคลั่งแบบที่เจอแมนยูไปหมด
พอเขาอุดหน่อยก็ทำอะไรไม่ได้ มันเปนอย่างนี้ทุกเกมไป
ซาวิช เน่ามากกกกกกก จังหวะจุดโทษ ไม่น่ายกเท้ามาสกัดเลย แค่บังเฉยๆ มันก็ไปไม่รอดแล้วครับ เซง
ฟุตบอลถ้วย เหย้าเยือน แบบนี้ ลิเวอร์พูลเจ๋งจิงครับ เหมือนกับเป็นทีมที่รู้ว่าจะเล่นยังไงเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ เล่นกันทีไร ฝั่งตรงข้ามที่เป็นต่อหืดขึ้นคอทุกที
ลูกจุดโทษที่เสีย ก็ไร้คำครหาใดๆ เพราะยันสูงไปแถวๆหัวเข่า โชคดีที่ไม่โดนใบเหลืองด้วยซ้ำน่ะ ถือเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลที่ชัดเจน จังหวะนั้นขยับตัวเข้าไปชิดแล้วบังทางบอลไว้ก็ไม่น่าเสียประตู เพราะมุมแคบ แถม โจ ฮาร์ท ก็ยังอยู่ แต่เลือกยกเท้าขึ้นมายันซะอย่างนั้น ก็ต้องรับโทษไปเต็มๆ ไม่ละเอียด ไม่เก๋าเอง
เกมส่วนใหญ่ในครึ่งแรกสู้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ ทั้งโอกาสการเข้าทำ และ การครองบอล เป็นรองชัดเจน จนเปลี่ยนตัวเอา นาสรี่ ลงมานั่นแหละ การเคลื่อนเกมถึงดูเป็นธรรมชาติขึ้น ใครจะมองว่าหมอฟอร์มตกยังไง แต่ผมคิดว่า ถ้าทีมไม่มี ยาย่า ก็จำเป็นต้องมี นาสรี่ เป็นตัวครองบอล ต่อบอล ให้ไหลลื่น
เพราะในทีมมีเพียง 2 คนนี้ เท่านั้น ที่ครองบอลเหนียวแน่น เสียยาก เคลื่อนที่ตลอดเวลา และใช้ร่างกายบังบอลให้เป็นประโยชน์ได้
สังเกตุดูในช่วงก่อน นาสรี่ ลงมา ลิเวอร์พูลบีบสูง และได้ดีผลมาก เพราะกองกลางที่ได้รับบอลบ่อยๆ อย่าง มิลเนอร์ หรือ เดอยอง ไม่ใช่นักเตะประเภท นิ่ง มุทะลุ ซึ่งหากถูกบีบก็จะไม่พยายามจ่ายบอลไปข้างหน้า บอลจึงมักไปตายตั้งแต่ช่วง 40 หลา ในขณะที่ถ้าเปลี่ยนจาก เดอยอง เป็น ยาย่า หรือ มิลเนอร์ เป็น นาสรี่ นักเตะเหล่านี้จะพยายาม พลิกบอลเล่นเอง หันหน้าเข้าหาฝั่งตรงข้าม เพื่อรอดูว่าเพื่อนคนไหนขยับทำทางยังไง แล้วหาจังหวะจ่ายบอลให้ได้เปรียบ ผลก็คือ แนวรับ ลิเวอร์พูล ไล่ไม่จน จึงต้องถอยร่นลงไปป้องกันหน้าปากประตู เหมือนกับทุกทีมที่โดน ซิตี้ ขึงเกมบุก อยู่ฝ่ายเดียวจนเป็นเรื่องปกติ
ครึ่งหลัง โอกาสทำประตูมีมากขึ้นเยอะ ครองบอลเหนือกว่าชัดเจน แต่ไม่จะแจ้ง ไม่คมพอ ส่วนหนึ่งเพราะ ลิเวอร์พูล ตั้งรับจริงจังมากกกกกก
สุดท้ายจังหวะเข้าสกัดของ เกลน จอห์นสัน ผมคงไม่ตำหนิการทำหน้าที่ของ ลี เมสัน เพราะมันก็ไม่น่าฟาล์ว แต่พอดีนัดที่แล้ว ซิตี้ โชคร้าย ที่สมาคมจัดให้ ผู้ตัดสินมวยปล้ำ มาเป่าเกมสำคัญซะได้
จะให้เล่นดีทุกนัดคงเป็นไปไม่ได้ มันก็มีเล่นไม่ดีบ้าง ไม่ว่าจะทีมไหนๆๆๆๆๆๆบนโลกนี้ ถ้าเล่นดีทุกนัดมันคงไม่สนุกหรอก การเล่นแต่ละทีมมันไม่เหมือนกัน จะแก้เกมส์ได้ทุกนัดมัน คงเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญโค้ชจะรู้ไม่ว่า ว่าใครจะเล่นดี ใครจะเล่นไม่ดี ถ้ารู้ก่อนแข่งก็ดีนะสิ บางครั้งก็ไม่มีตัวเลือกจำเป็นต้องส่งลง เราชนะมามากมาย แพ้ไม่กี่นัดเอง ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ถึงจะแก้เกมส์ดี แต่นักเตะยิงยังไงก็ไม่เข้ามันก็แค่นั้น ด่าแต่โค้ชด่านักเตะบางดิ ไฮ้ฮ่ามีโอกาศแล้วทำไม่ได้
ปกติหลังเกมจบ ก็มักมีควันหลง หรือ การพูดถึงเป็นเรื่องธรรมดาครับ การวิจารณ์ แทคติก ต่างๆ รวมไปถึงฟอร์มการเล่นของนักเตะ เช่น หลังถ่ายทอดสด เราจะเห็น ต โต้ง ,เดอะ ตุ๊ก, คุณ กิตติกร หรือ โค้ช เตี้ย เหล่าผู้จัดรายการของ ทรู วิชั่น ออกมา วิจารณ์เกม เหมือนเราๆนี่แหละ คนเหล่านี้ก็มีมุมมองแตกต่างกันออกไป แล้วเอามาแชร์กันครับ ยิ่งถ้าเป็นรายการ match day ของทางอังกฤษยิ่งแล้วใหญ่ อันนี้วิจารณ์ตรง ไม่อ้อมค้อม ดีไม่ดีอย่างไร ชัดเจน
ถกเถียงกันด้วยมุมมองที่มีในเกม มันก็นับว่าเป็นสีสัน เป็นอารมณ์ร่วมของแฟนบอล ผมว่าหลายๆท่านน่าจะชอบ ฟัง/อ่านการวิจารณ์หลังเกม มากกว่า เห็น ไอคอน ยิ้ม หรือ ประโยคสั้นๆ ว่า สุดยอด เล่นดีทุกคน เยี่ยม จริงไหมล่ะ??? เพราะได้แนวคิดจากแฟนๆท่านอื่นด้วย และอาจมีบางคนเห็นอะไรๆในเกมเหมือนที่เราเห็นก็ได้
ลองนึกภาพหลังการถ่ายทอดสดนัดเจอ ลิเวอร์พูล ผู้จัดรายการ 2 คน นั่งยิ้ม แล้วพูดว่า เป็นเกมที่พลิกล๊อคจริงๆครับ เอิ่ม...ก็ขอลาเลยละกันครับ สวัสดีครับ!! ...!!!???... แหม่ จะไม่บอกเลยเหรอว่าจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน พลิ๊คล๊อคยังไง แล้วใครฟอร์มดีหรือแย่ในสายตาคุณ???
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by