โอ้+ฮาร์ทเซฟชีวิต!เรือหวิดเน่าไล่เจ๊าเสือเหลือง 1-1 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้เกือบต้องม้วยมรณาคาบ้านตัวเองหลังได้โจ ฮาร์ทออกแรงเซฟเหนื่อยทั้งเกมแต่ไม่วายยังโดนมาโก รอยส์ยิงให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ไป สุดท้ายมาริโอ บาโลเตลลี่ก็มาสังหารจุดโทษนาที 90 พาทีมไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ 

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม 

วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2555 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1:1 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

ประตู : 0-1 รอยส์ น.61. 1-1 บาโลเตลลี่(จุดโทษ) น.90 

เกมนี้ทั้งสองทีมถือว่ามาเต็มสูบ ฝั่งเจ้าบ้านเลือกใช้อเกวโร่กับเซโก้จับคู่แดนหน้ามีนาสรี่และซิลบาคอยปั้นเกม ส่วนทีมเยือนมีเกิทเซ่, รอยส์และเลวานดอฟสกี้ลงมาครบ 

ด้านสถิติของ"เรือใบ"แม้ซีซั่นนี้พวกเขายังเก็บคลีนชีทไม่ได้เลยแต่ผลงานในบ้านกับเกมยุโรปพวกเขาไม่แพ้มา 17 เกมเข้าไปแล้ว ส่วน"เสือเหลือง"เองก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ในการมาเยือนอังกฤษโดย 3 เกมหลังพวกเขาพ่ายหมด 

ครึ่งแรก 

เริ่มเกมมาเจ้าบ้านของลุยก่อนเลย 
เปิดฉากมาเจ้าบ้านก็บุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องเลยแล้วได้ลุ้นกันไปก่อนจากจังหวะที่เซโก้ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะตอกส้นเข้ากลางไปใก้นาสรี่ได้ยิงด้วยซ้ายแต่ไวเดนเฟลเลอร์ก็ทุบออกไปได้ก่อน 

เรือมาหนัก!กุน-ซาบาเลต้าลองคนละที 
เกมถือว่าเปิดกันพอสมควรได้ผลัดกันบุกเข้าใส่แต่"เรือใบสีฟ้า"ก็เป็นฝ่ายได้ลุ้นมากกว่าอีกแล้วจากการโยนบอลยาวกลางสนามโดยซิลบาขึ้นหน้ามาให้กับอเกวโร่หลุดไปยิงแต่ไวเดนเฟลเลอร์ออกมาปิดมุมหมดแล้วเซฟไว้ได้ บอลยังโดนอเกวโร่แย่งมาได้ก่อนจะหมุนตัดเข้าในแล้วจ่ายให้ซาบาเลนต้าสอดมายิ้งเหินออกไปไกล 

เสือก็ได้เสียว!เกิทเซ่ยิงเจอปัดชนเสา 
นาทีที่ 11 ดอร์มุนด์เองก็มาได้แบบมีลุ้นเช่นเดียวกันจากเลวานดอฟสกี้ที่ไปพลิกหนีจากกลางสนามมาได้ ก่อนฝากต่อไปให้กับเกิทเซ่เข้าเขตโทษแล้วได้ลองส่องดูแต่ฮาร์ทยังบินปัดบอลชนเสาออกหลัง 

แนวรับดอร์ทมุนด์ชักเช็คล้ำหน้าพลาด 
โอกาสของแมนฯ ซิตี้มีมาสองครั้งติดกันเลยเริ่มจากครั้งแรกโดยบอลเปิดยาวอีกแล้วให้กับเซโก้ที่อยู่ต่ำกว่าไลน์ล้ำหน้าวิ่งไปพักอกในเขตโทษแล้วยิงแต่มีฮุมเมิลส์มานัวเนียเลยยิงข้ามคานไป จังหวะสองก็เช่นกันจากบอลทะลุช่องให้อเกวโร่หลุดไลน์ล้ำหน้าอีกหนไปยิงแต่ก็ยังติดไวเดนเฟลเลอร์อยู่ 

กุนมาอีก!ส่องไกลแต่โดนปัด 
ผ่านไป 35 นาทีแล้วฝั่งแมนฯ ซิตี้ดูเหนือกว่านิดๆจนถึงตอนนี้และก็ได้ลองส่องอีกแล้วจากซิลบาที่โดนประกบติดกลางสนามแต่ยังหมุนไปหมุนมาจนสลัดหลุดแล้วจ่ายให้กับกุนที่อยู่หน้าเขตโทษยิงไกลเลย บอลจะโค้งเสียบคานอยู่แล้วแต่ไวเดนเฟลเลอร์ยังปัดออกหลังได้อีก 

ซูโบติชส่องหลุดเสาไกล 
ทาง"เสือเหลือง"เห็นดูเงียบๆแต่ก็มีจังหวะได้ซี๊ดซ๊าดเหมือนกันเป็นบอลเตะมุมเข้ามาแล้วพยายามสกัดออกไปแต่ก็เข้าทางของซูโบติชหน้าเขตโทษพักอกแล้วจัดการกดทันทีบอลโค้งหลุดเสาไกลออกไปไม่เท่าไหร่ 

เรือเสียวว้อย!เกิทเซ่ส่องสองทีฮาร์ทช่วยได้หมด 
เข้าช่วงท้ายเกมแล้วโอกาสเหน่งๆของทีมเยือนก็มาติดๆกันถึงสองครั้งเลย เริ่มจากบอลจ่ายกันหน้าเขตโทษแล้วเลวานดอฟสกี้เลือกปล่อยให้กับเกิทเซ่หลุดเข้าไปเดี่ยวๆเลยแต่ฮาร์ทยังออกมาปิดมุมเซฟได้ ตามด้วยบอลโด่งหน้าเขตโทษโดนเหม่งให้กับคูบ้าดีดส้นเข้าเขตโทษถึงเกิทเซ่คนเดิมวิ่งมาได้ยิงแต่ฮาร์ทยังปัดปลายมือบอลชนคานเต็มๆ 

เรือเกือบส่งท้ายครึ่งแรกด้วยประตู 
นาทีสุดท้ายครึ่งแรกมันน่าจะมีประตูอีกแล้วจากอเกวโร่พลิกกลางสนามแล้วพาบอลฝ่าเข้าเขตโทษมาได้ก่อนจะโดนสกัดไว้ บอลยังเข้าทางซาบาเลต้าเติมมาเปิดเข้ากลางไปบอลเลยหัวของเซโก้แต่ก็มาถึงซิลบาที่อยู่ข้างหลังได้กระโดดแปแต่ก็ยังข้ามคานออกไปอีก 

ช่วงทดเจ็บยังมีให้ลุ้นอีกต่างหากเป็นทีของดอร์ทมุนด์บ้างจากบอลครอสเข้าเขตโทษแล้วมีเลวานดอฟสกี้อยู่เสาไกลได้ลองส่องแต่ฮาร์ทยังทุบไว้ได้ ทำให้ครึ่งแรกจบไปแบบเสมอ 0-0 แต่มีเสียวกันตลอด 

ครึ่งหลัง 

ฮาร์ทงานชุก!เกิทเซ่ยิงอีกแล้วต้องบินปัด 
กลับมาเริ่มครึ่งหลังรูปเกมยังไม่ต่างจากครึ่งแรกเลยเป็นดอร์ทมุนด์บุกมาให้ฮาร์ทต้องออกแรงอีกแล้วจากบอลขึ้นมาทางด้านขวาที่พิสซ์เซ็คตั้งป้อมเปิดเข้ากลางแต่เลือกมาเปิดเรียดย้อนมาแถวหน้าเขตโทษแทนก่อนจะเป็นเกิทเซ่วิ่งมายิงด้วยขวา บอลจะเสียบเสาซ้ายมืออยู่แล้วแต่ฮาร์ทยังปัดออกหลังได้อีกหน 

รอดเวลล์พลาด!จ่ายไม่ดีรอยส์ฉกไปยิง 
และแล้วนาที 61 "เรือใบ"ต้องมาตายเอาเพราะความผิดพลาดตัวเองโดน"เสือเหลือง"ออกนำไปก่อนจนได้จากการจ่ายบอลของรอดเวลล์ที่จะจ่ายคืนไปให้กองหลังแต่สั้นเกินเจอรอยส์สปีดมาจากไหนไม่รู้ฉกบอลไปเลยก่อนจะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง ฮาร์ทอุตส่าห์ปัดโดนแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้บอลยังลอยละลิ่วเข้าประตูไป ดอร์ทมุนด์ออกนำไปแล้ว 1-0 

ฮาร์ทบินเป็นว่าเล่นเซฟรอยส์อีกแล้ว 
ดอร์ทมุนด์ลูกแรกมาแล้วเกือบจะตามมาด้วยประตูสองอีกต่างหากเป็นเลวานดอฟสกี้ที่พาบอลจากทางขวาเข้ามาก่อนจะจ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้กับรอยส์ได้วิ่งไปส่องเน้นๆแต่เจ้าบ้านต้องขอบคุณฮาร์ทอีกครั้งที่เซฟได้อีกแล้ว 

เรือแทบกราบ!ฮาร์ทเซฟลูกยิงกุนโดกานอีก 
เกมนี้แมนฯ ซิตี้แทบจะต้องหาเครื่องมาบูชาฮาร์ทกันเลยทีเดียวเพราะกลายเป็นว่าหลังโดนนำเกมบุกก็ช็อตไปดื้อๆแถมโดนล่อเป้าอยู่เรื่อยๆด้วย คราวนี้เป็นทีของกุนโดกานได้ลองส่องหน้าเขตโทษบ้างปั่นไปจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ฮาร์ทยังช่วยเซฟอีกครั้ง 

เรือชักแล่นไม่ออกเกมรุกดูนิ่ง 
ผ่านมาถึงนาที 70 แล้วแมนฯ ซิตี้เองดูนิ่งไปกว่าเดิมพอสมควรเลยนานๆทีถึงจะบุกขึ้นมาให้พอได้ลุ้นบ้างเป็นบอลเปิดขึ้นมาให้กับโคลารอฟพักอกแล้วดีดต่อเข้าเขตโทษให้กับอเกวโร่ ไวเดนเฟลเลอร์ออกมาปิดมุมแต่อเกวโร่เลือกจ่ายเข้าในกะให้เซโก้ยิงโล่งๆแต่แนวรับทีมเยือนยังเนียนเคลียร์ทิ้งได้ก่อน 

เรือเกือบโดนอีก!เลวานฯยิงหลุดเสานิดเดียว 
อีก 4 นาทีให้หลัง"เรือใบ"เกือบโดนอีกแล้วเป็นการไปเสียบอลกันตรงกลางเจอกุนโดกานขยันมาไล่เอาบอลไปได้ก่อนจะมองเข้าในแล้วเปิดจากขวาเข้าไปให้กับเลวานดอฟสกี้ได้ยิงดีดด้วยขวาแต่บอลโค้งหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว 

เกือบเจ๊า!กุนโหม่งแต่ยังเจอเซฟอีก 
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกมแมนฯ ซิตี้ต้องเร่งเครื่องแล้วเลือกส่งบาโลเตลลี่ลงสนามมาแทนกลิชี่เลยและก็มีจังหวะลุ้นจากการเปิดเข้าในมาแล้วมีอเกวโร่โหม่งแต่ยังเจอไวเดนเฟลเลอร์บินปัดออกหลังไปได้อยู่ 

เรือรอดตาย!จุดโทษลูกโอ้สังหารไม่เหลือ 
แต่แล้วเกมมันต้องมาพลิกผันเอาเพราะ"เรือใบ"มาได้จุดโทษในจังหวะที่อเกวโร่ตวัดยิงแต่ไปติดต้นแขนซูโบติช กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษและบาโลเตลลี่มารับหน้าที่สังหารเองไม่พลาดแปไปคนละทางกับไวเดนเฟลเลอร์ แมนฯ ซิตี้ไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ 

ฮาร์ทโคตรหล่อ!เซฟลูกยิงเลวานฯอีกแล้ว 
ช่วงทดเจ็บเกือบจะมีประตูเพิ่มด้วยเป็นฝั่ง"เสือเหลือง"อีกแล้วจากเลวานดอฟสกี้ที่หาช่องยิงไกลเจอแล้วกดเต็มๆแต่ต้องแมนฯ ซิตี้ขอบคุณฮาร์ทจริงๆเซฟไว้ได้อีกแล้ว 

จบเกมแมนฯ ซิตี้ไล่แบ่งแต้มกับดอร์ทมุนด์ได้สำเร็จเสมอกันไป 1-1 ทำให้อันดับยังไม่เปลี่ยนแปลง"เรือใบ"อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม ส่วน"เสือเหลือง"อยู่รองจ่าฝูง 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, แวร์นซองต์ กอมปานี, ปาโบล ซาบาเลต้า, กาเอล กลิชี่ (บาโลเตลลี่ น.81), มัทย่า นาสตาซิช, ซามีร์ นาสรี่ (โคลารอฟ น.57), ฆาบี้ การ์เซีย (รอดเวลล์ น.45), ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่, แซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เซโก้ 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล พานทิลิมอน, โจลีออน เลสคอตต์, เจมส์ มิลเนอร์, คาร์ลอส เตเบซ 

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, เนเว่น ซูโบติช, แมตส์ ฮุมเมิลส์ (ซานตาน่า น.74), ลูคัสซ์ พิสเซ็ก, มาร์แซล ชเมลเซอร์, สเวน เบนเดอร์, อิลกาย กุนโดกาน (โกรสครอยซ์ น.82), มาร์โก รอยส์, ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มาริโอ เกิทเซ่ 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : มิตเชลล์ ลังเกรัค, เซบาสเตียน เคห์ล, โมริทซ์ ไลเนอร์, อิวาน เปริซิช, จูเลียน ชีเบอร์ 

 
 
 
 
 
 
 
 
_________________