Members

ชำแหละ 10 ประการ ทำ “เรือใบ” วืดแชมป์

เอเยนซี - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะทวงแชมป์ พรีเมียร์ ลีก คืนสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 เปิดรังเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ทำให้ขาเก้าอี้จ่าฝูงมั่นคงทิ้ง “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 12 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 12 นัดทางทฤษฎีเป็นไปได้ แต่ทุกสำนักเชื่อว่าคนอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ “ผีแดง” จะไม่ตกม้าตายเหมือนปีที่แล้วที่นำ 8 แต้มแต่สุดท้ายต้องมือเปล่า “เทเลกราฟ” สื่ออังกฤษจึงทำการชำแหละ "เรือใบสีฟ้า" ถึงความผิดพลาด 10 ประการที่มากเกินไปสำหรับทีมที่คิดจะป้องกันตำแหน่งแชมป์
       
       1.เป้าหมายคลาดเคลื่อน - ซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนฯซิตี คว้าน้ำเหลวจากการเสริมทัพนักเตะที่เล็งไว้หลายต่อหลายคนไล่ตั้งแต่ลำดับ ความแสบเข้ากระดูกดำ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กองหน้าเลือดดัตช์ที่เลือกจาก อาร์เซนอล ซบอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือคือ ดานิเอเล เด รอสซี (กองกลาง / โรมา), เอเดน ฮาซาร์ด (กองกลาง / เชลซี) และ ฆาบี มาร์ติเนซ (กองกลาง / บาเยิร์น มิวนิค)
       
       2.ซื้อตัวล้มเหลว - โรแบร์โต มันชินี เสริมทัพผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นการซื้อ แจ็ค ร็อดเวลล์ กองกลางจาก เอฟเวอร์ตัน, สกอตต์ ซินแคลร์ แนวรุกจาก สวอนซี ซิตี, ไมคอน แบ็กขวาจาก อินเตอร์ มิลาน และ ฆาบี การ์เซีย กองกลางจาก เบนฟิกา ล้วนเป็นนักเตะเกรดไม่ถึงระดับ บี แถมบางคนอยู่ในช่วงขาลง บ้างบาดเจ็บ และยังพิสูจน์ตัวเองได้ไม่พอ
       
       3.เสียแข้งคีย์แมน - มีนักเตะหลายคนที่ แมนฯซิตี ปล่อยออกไปเพื่อเปิดทางให้แข้งใหม่ แต่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างเช่น ไนเจล เดอ ยอง ตัวตัดเกมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส รวมถึง อดัม จอห์นสัน ปีกทีมชาติอังกฤษไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ทั้งที่เมื่อปีที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ลงมาเป็นตัวสำรองทีเด็ดและยิงประตูได้หลายต่อหลายครั้งโดยซัดไปทั้งสิ้น 6 ลูก
       
       4.การทดลองผิดพลาด - ช่วงต้นฤดูกาล มันชินี พยายามที่จะปรับขบวนแนวรับใหม่ด้วยการใช้เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน แต่สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จจนทำให้นักเตะหลายต่อหลายคนสับสนและหลุดฟอร์ม อย่าง โจลีออน เลสค็อตต์ รวมถึง แวงซองต์ กอมปานี กัปตันทีม ซึ่งนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนถึงกับถูกลูกทีมออกมาวิจารณ์ผ่านสื่อมาแล้ว
       
       5.สูญเสียความมั่นใจ - ผ่านไป 26 นัด แมนฯซิตี เสียไปถึง 24 ประตู (ปีที่แล้ว 38 นัดเสีย 29 ประตู) สนับสนุนเหตุผลข้อ 4 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแนวรับที่สูญเสียความมั่นใจแบบกู่ไม่กลับ ล่าสุดเกมบุกพ่าย เซาแธมป์ตัน 1-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ใครจะคิดว่า โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติอังกฤษจะพลาด 2 ครั้งซ้อนๆ รวมถึง แกเร็ธ แบร์รี และแนวรับทั้งหลาย
       
       6.เอฟเฟ็กต์จากยุโรป - หลังจากคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ตามด้วย พรีเมียร์ ลีก แมนฯซิตี ตั้งเป้าเอาไว้สูงกับ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เพราะปีก่อนตกรอบแบ่งกลุ่ม ทว่าก็ซ้ำรอยเดิมเนื่องจากโชคร้ายอยู่ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” โดยผลงานย่ำแย่กว่าเดิมเก็บได้เพียงแค่ 3 แต้มจาก 6 เกมเท่านั้น ส่งผลกระทบกับความกดดันที่ถาโถมเข้ามากับถ้วยที่เหลือในประเทศ
       
       7.ความสัมพันธ์ภายในทีม - ภาพที่ออกมาสู่สายตาสื่อและแฟนบอลในสนามซ้อมขณะที่ มันชินี กระชากคอเสื้อ มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าทีมชาติอิตาลี ที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน เมื่อช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถือว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้ตนเองเสียภาพพจน์แล้วยังเสียหายต่อสมาธิเกี่ยวกับแต่ละ เกมที่ต้องวางแท็กติกลงสนามด้วย
       
       8.สะเทือนใจเกมพ่าย “ผี” - เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเกมโดน แมนฯยูไนเต็ด ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากฟรีคิกของ ฟาน เพอร์ซี บุกมาเฉือนคาถิ่น เอติฮัด สเตเดียม 2-3 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แต้มถูกทิ้งห่างขนาดนี้และยังส่งผลกระทบต่อ สภาพจิตใจของนักเตะโดยรวม ทำให้ไม่สามารถกลับเข้าสู่วงโคจรของการป้องกันแชมป์ได้
       
       9.แนวรุกฝืดสนิท - นอกจากเกมรับแล้วบรรดาแนวหน้าของ แมนฯซิตี ก็ผลิตสกอร์ได้น้อยลงกว่าเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยตอนนี้ยิงได้ 48 ประตูเสีย 24 ประตูในขณะที่ปีที่แล้ว 38 นัดซัดไปได้ถึง 93 ประตูโดยตอนนี้เหลือเพียงแค่ 12 เกมเท่านั้น แถม เซร์คิโอ อกูเอโร เล่นไม่ออกยิงได้แค่ 9 ประตู ดาวซัลโวประจำทีมเป็น เอดิน เซโก 12 ประตู คาร์ลอส เตเบซ ซัดไป 7 ประตู
       
       10.ไร้แข้งใหม่ม.ค. - ตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองเปิดทำการเดือนมกราคมที่ผ่านมา มันชินี ทราบดีว่าทีมต้องเสริมจุดแข็งและกลบจุดอ่อนตรงไหน อย่างไรก็ตามบอร์ดบริหารไม่สามารถหาผู้เล่นเข้ามาเสริมได้เลย อาทิ ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลัมเบียจาก แอตเลติโก มาดริด รวมถึงยังเสีย บาโลเตลลี ให้กับ เอซี มิลาน

มันโช สีหน้าบอกความล้มเหลว

กุน ผลิตสกอร์น้อยไป

วืดคว้า ฟาน เพอร์ซี

ซินแคลร์ ซื้อตัวผิดพลาด

Credit . Manager sport

Views: 830

Reply to This

Replies to This Discussion

ตรง  แต่ที่มันน่าด่าที่สุดไม่พ้นการเตรียมทีม   แผนการเล่นที่สลับไปทุกๆเกม  และในบางเกมการแข่งขันมันเปลี่ยนแผนกัน 2 ถึง 3 ครั้ง  ไม่ใช่เปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแผนการเล่นรูปแบบการเล่น  ทำให้ลูกทีมสับสน

11.กุนซือกาก ได้ดีมาก่อนหน้านั้นเพราะความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะล้วนๆ

12.ต่อบอลบ่อยเกิ๊น กว่าจะถึงหน้าประตูคู่แข่งจะต้องต่อบอลประมาณ98ครั้งแล้วย้อนกลับมาให้โจฮาร์ทเล่น4-5รอบ บุกช้าคู่แข่งมีเวลาจัดระบบตั้งรับ แมนยูมันต่อบอลไม่ถึง10ลูกถึงหน้าประตูกองหลังไม่ทันตั้งตัวมันก็เลยหาพื้นที่ยิงง่ายกว่า

อนาถว่ะระบบการเล่นแบบนี้เจอทีมไล่บอลเร็วๆหลังแน่นๆไปไม่เป็นตลอด เซ็งมากแต่ทำไรไม่ได้นอกจากบ่นและเชียร์ต่อไป

เห็นด้วยทุประการครับ ^^ อิอิ

+1 ครับ

คงต้องเอากระทู้นี้ไปถามพวกทีมแชมป์ปีที่แล้วลีกอื่นด้วยเหมือนกันครับ ว่าทำอีท่าไหนให้โดนทิ้งห่างพอๆกับมันโชแบบนี้ ๕๕๕ ไม่ใช่ทีมแมนซิทีมเดียวซะหน่อย

 

ไว้รอฤดูกาลหน้าคงมีอะไรดีขึ้นกว่านี้ ปีนี้ก็ลุ้นเอฟเอ ก้บประคองตัวเก็บยที่สองไปก่อนละกันครับ

 

 

น่าสนใจ

ถูกต้องนะคับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.