Members

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : สโต๊ค - แมนฯ ซิตี้ / "เรือ"ปะทะสโต๊คไร้เงาขุนศึกทั้งห้า

 พรีวิว พรีเมียร์ลีก : สโต๊ค - แมนฯ ซิตี้

 

           กลับมาพบกันอีกครั้งสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกหลังจากที่ถูกคั่นด้วยฟุตบอลทีมชาติในเกมนี้ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ทีมอันดับที่ 5 ของตารางจะเปิดบ้านบริทานเนีย สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 3 ของตาราง

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556

เวลา 21.00 น.

สโต๊ค - แมนฯ ซิตี้

สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม

 
สภาพความพร้อม : สโต๊ค
 
          เจ้าบ้าน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ในเกมนี้ต้องเช็คความฟิตของ เกล็น วีแลน และ ชาลี อดัมส์ แต่คาดว่ารายหลังน่าจะสามารถลงสนามได้ ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆยังอยู่กันพร้อมหน้า โดยคาดว่า อัสเมียร์ เบโกวิช จะลงเฝ้าเสา ในแนวรับ เจฟฟ์ คาเมร่อน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ และ เอริค ปีเตอร์ส จะลงประจำการ ในแดนกลาง โจนาธาน วอลเตอร์ และ แมทธิว เอเธอริงตัน จะทำเกมทางริมเส้น ส่วน ชาลี อดัมส์, มาร์ค วิลสัน และ สตีเฟ่น เอ็นซอนซี่ จะลงคุมเกม ทางด้านศูนย์หน้าตัวเป้าจะใช้ ปีเตอร์ เคร้าซ์ ลงล่าตะข่าย
 
สภาพความพร้อม : แมนฯ ซิตี้
 
          ทีมเยือน "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้จะไม่มี แวงซ็องต์ กอมปานี, ไมก้าห์ ริชาร์ดส และ มาร์ติน เดมิเคลิส ที่ปัญหาอาการบาดเจ็บส่วน ดาบิด ซิลบา น่าจะฟิตทันลงสนามเป็นตัวจริง โดยคาดว่า โจ ฮาร์ท จะลงเฝ้าเสา ในแนวรับ ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจลีออน เลสค็อตต์ และ กาแอล กลิชี่ จะลงประจำการ ในแดนกลาง เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, เฟอร์นานดินโญ่ และ ดาบิด ซิลบา จะลงทำเกมส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ จะเล่นเป็นหน้าต่ำอยู่ข้างหลัง เอดิน เชโก้ ศูนย์หน้าตัวเป้า
 
สถิติที่น่าสนใจ
 
- สโต๊ค และ แมนฯ ซิตี้ เก็บได้ถึง 6 คะแนนจาก 9 คะแนนแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013/14
- สโต๊ค เสียประตูในบ้านทั้ง 2 เกมของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013/14
- แมนฯ ซิตี้ เสียถึง 3 ประตูในการออกไปเยือนของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013/14
- ทั้ง 2 ทีมเคยพบกัน 103 ครั้ง (สโต๊ค ชนะ 35 ครั้ง, เสมอกัน 23 ครั้ง, แมนฯ ซิตี้ ชนะ 45 ครั้ง)
- ทั้ง 103 ครั้งที่พบกันมี 253 ประตูเกิดขึ้น (สโต๊ค ยิง 116 ประตู, แมนฯ ซิตี้ ยิง 137 ประตู)
 
ผลงาน 5 นัดหลังสุด : สโต๊ค ( ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1 )
 
31/08/2013     พรีเมียร์ลีก เวสต์แฮม 0 - 1 สโต๊ค
28/08/2013     ลีก คัพ สโต๊ค 3 - 1 วอล์ซอลล์
24/08/2013     พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 2 - 1 พาเลซ
17/08/2013     พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค
31/07/2013     กระชับมิตร ฟิลาเดเฟีย 0 - 2 สโต๊ค
 
ผลงาน 5 นัดหลังสุด : แมนฯ ซิตี้ ( ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 3 )
 
31/08/2013     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 2 - 0 ฮัลล์
25/08/2013     พรีเมียร์ลีก คาร์ดิฟฟ์ 3 - 2 แมนฯ ซิตี้
19/08/2013     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 4 - 0 นิวคาสเซิ่ล
10/08/2013     กระชับมิตร แมนฯ ซิตี้ 1 - 3 อาร์เซน่อล
01/08/2013     กระชับมิตร บาเยิร์น มิวนิค 2 - 1 แมนฯ ซิตี้
 
ผลงานที่พบกันระหว่างสองทีม
 
26/01/2013     เอฟเอ คัพ สโต๊ค 0 - 1 แมนฯ ซิตี้
01/01/2013     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3 - 0 สโต๊ค
15/09/2012     พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 1 - 1 แมนฯ ซิตี้
24/03/2012     พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 1 - 1 แมนฯ ซิตี้
21/12/2011     พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3 - 0 สโต๊ค
 
จุดสำคัญของเกม
 
          สโต๊ค ต้องดูที่แผงเกมรับที่ไม่ค่อยจะเสียประตูในบ้านสักเท่าไหร่แต่กลับเสียมาถึง 2 เกมติดกัน ส่วน แมนฯ ซิตี้ ปัญหาก็อยู่ที่เกมรับเช่นกันที่ 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟพากันเจ็บไปทั้งหมด
 
ความน่าจะเป็นของเกม
 
          สโต๊ค คงจะต้องรอเก็บส่วนกลับเร็วทางริมเส้นและเกมจากลูกลางอากาศ ส่วนทาง แมนฯ ซิตี้ นั้นเกมรุกจะเดินเกมตรงกลางมากกว่าโดยไม่ออกทางริมเส้นสักเท่าไหร่
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 
สโต๊ค (4-5-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - เจฟฟ์ คาเมร่อน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, เอริค ปีเตอร์ส - โจนาธาน วอลเตอร์, แมทธิว เอเธอริงตัน, ชาลี อดัมส์, มาร์ค วิลสัน, สตีเฟ่น เอ็นซอนซี่ - ปีเตอร์ เคร้าซ์
 
แมนฯ ซิตี้ (4-4-1-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, เฟอร์นานดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่ - เอดิน เชโก้

ผลการแข่งขันที่คาด : สโต๊ค 0 - 1 แมนฯ ซิตี้
 ที่มา http://www.hikicker.com

"เรือ"ปะทะสโต๊คไร้เงาขุนศึกทั้งห้า

ดาบิด ซิลวา, ไมก้าห์ ริชาร์ดส, วินเซนต์ คอมพานี่และกาเอล คลิชชี่ ไม่ได้ลงเล่นในเกมปะทะกับสโต๊ค ซิตี้ พรุ่งนี้ (14 ก.ย.56)

          หลายคนอาจจะคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงในการปะทะกับสโต๊ค ซิตี้ แต่แม่ทัพเรือใบยังคงไม่ไว้วางใจในการยกทัพประจัญบานที่บริทาเนีย สเตเดี้ยม

มาร์ติน เดมิเคลิส งดลงแข่งไปอีกสักระยะ

เปเยกรินี่ แถลงว่า “ตอนนี้ไม่มีนักเตะคนใดเจ็บป่วย เราได้วางผังทีมไว้อย่างดี แม้จะมีนักเตะที่ไม่ได้ลงในเกมนี้ คือ ไมก้าห์ ริชาร์ดส, ดาบิด ซิลวา, คลิชชี่, วินเซนต์ คอมพานี่”

ทั้งนี้ คลิชชี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำเป็นต้องดแข่ง

“อาการของคอมพานี่โอเค.ขึ้นแล้ว แต่เราไม่อยากเสี่ยงให้เขาลงเล่น อีก 2-3 วัน เขาก็ฟิตเต็มร้อย

“เราจะต้องดูกันต่อไปถึงอาการของซิลวาในสัปดาห์หน้า เราอยากให้เขาลงเล่นดาร์บี้แมตช์ หากเขาสมบูรณ์เต็ม 100 ”

ตารางการแข่งมากมายรออยู่เบื้องหน้า จนกว่าจะถึงเวลารับใช้ชาติอีกครั้งในเดือนตุลาคม ซึ่งซิตี้ถูกกำหนดให้ลงแข่งสัปดาห์ละสองครั้ง

อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวชิลีได้ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสโมสรเป็นปัญหาเดียวกับทีมใหญ่ๆ ในพรีเมียร์ ลีก

“นี่ถือเป็นข้อสอบสุดหินสำหรับสโมสรใหญ่ๆ ทั้งหมด เนื่องจากทีมต้องลงชิงชัยในแชมป์เปี้ยน ลีก และยูโรปา ลีก เรามีเจ็ดเกมในเวลา 21 วัน

“สิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องมีนักเตะชั้นนำจำนวน 23, 24 คนไว้ในทีม เราจะต้องเล่นให้ดีที่สุดในทุกๆ เกม

“ผมคิดว่าความกดดันสูงขึ้นเรื่อยๆ เราต้องเล่นให้ดีในทุกๆ เกมการแข่งขัน ความกดดันก็อยู่ของมันอย่างนั้นแต่เราต้องนำความกดดันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นแรงขับให้กับทีม”

ซิตี้เสมอกับสโต๊ค ซิตี้ 1-1 ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เกมที่ไปเยือนสโต๊ค

สิ่งแวดล้อม สภาพอากาศและสไตล์การเล่นบอลอาจจะเป็นปัญหาหลักในการทำให้ซิตี้เก็บคะแนนได้มากสุดหนึ่งแต้ม แต่เปเยกรินี่ยืนกรานว่า อาจมีเซอร์ไพรซ์เกิดขึ้นในเกมการแข่งขัน ( 14 ก.ย.56) ก็ได้

“ผมรู้ข้อมูลทุกย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับสโต๊ค ซิตี้ ผมศึกษาสามเกมที่ผ่านมาอย่างละเอียด ซึ่งข้อมูลที่ได้ก็แตกต่างกันไป

“พวกเขาเป็นทีมที่เล่นดีมากในบ้าน รุกได้ดี แต่เช่นเดียวกับทุกเกม เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อชัยชนะ

“เรารู้จักบริทาเนีย สเตเดี้ยมและรู้ว่าสภาพแวดล้อมไม่ใช่ปัญหา เราก็มี 11 เขาก็มี 11 ดังนั้นเราก็ควรทำให้ดีที่สุด

“หลังจากจบการแข่งขันพรุ่งนี้ เราก็จะต้องมาดูกันต่อว่าใครจะเล่นในแมตช์ต่อไปที่ปะทะกับพัลเซ่น บางคนเคยเล่นในทีมชาติ บางคนไม่เคย”

ติดตามข่าวสารได้ทางทวิตเตอร์ @MCFCThai รวมทั้งติดตามรายงานผลการแข่งขันและท่าทีหลังการแข่งที่นี่ในวันพรุ่งนี้

ติดตามข่าวสารบนทวิตเตอร์@StatCity สำหรับเกมการแข่งขันของเรือใบในฤดูกาล2556/57 สำหรับครั้งนี้เรือใบจะล่องไปเทียบท่าบริทาเนีย สเตเดี้ยม เสาร์นี้ (14 ก.ย.56)

          แฟนบอลรุ่นใหม่ไม่สนใจว่านักเตะหรือทีมนั้นๆ จะเล่นดีแค่ไหนในรอบชิงที่เวมบลีย์อีกต่อไป ตอนนี้แฟนเรือใบต่างจับจ้องดูว่า เปเยกรินี่จะพาทัพเรือใบจัดการสโต๊คอย่างไรในเกมการแข่งขันวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556 และเกมต่อๆ ไป

pablo

          ไม่ใช่ความลับอีกต่อไปที่ซิตี้ทุรนทุรายเวลาเดินทางไปเยือนสโต๊คถึงบ้าน ดูจากฤดูกาลที่แล้วในศึกเอฟเอ คัพ ที่บริทาเนีย สเตเดี้ยม ซึ่งซิตี้ใช้ความพยายามถึง 14 ปีกว่าจะชนะช่างปั้นหม้อในบ้าน (ประมาณ 6 เกม) โดยเรือใบพยายามยิ่งยวดที่จะทำประตูในหกเกมที่ปะทะกันที่บริทาเนีย สเตเดี้ยม ซิตี้ยังคงเก็บคะแนนคลีนชีทในเกมเยือนกับสโต๊คได้ แต่อย่าลืมว่าเรือใบยิงได้หนึ่งประตูในห้าเกม ทั้งนี้ ซิตี้ไม่อยากเสียประตูให้กับสโต๊คในเกมเยือนพรีเมียร์ ลีก  ซึ่งในห้าเกม เรือใบได้เสียประตูให้กับสโต๊คเกมละหนึ่งประตูในห้าเกมที่เคยดวลแข้งกันมา

          สุดสัปดาห์นี้จะเป็นครั้งที่ 104 แล้วที่เรือใบและช่างปั้นหม้อจะโคจรมาปะทะกัน โดยซิตี้ชนะ 45 (43.69%) และเสมอ 23 (22.33%) ใน 103 เกมที่ผ่านมา เรือใบชนะ 12 ใน 51 เกมเยือน คิดเป็น 23.53% จากเกมทั้งหมดและเก็บคลีน ชีท ได้ 8 เกม

YAYAS

          หากเราไม่นับเจมส์ บีตตี้ ที่โหม่งเข้าประตูในปี 2552 และช่วยให้สโต๊คมีชัยเหนือเรือใบในศึกพรีเมียร์ ลีก แล้วละก็  ต้องถือว่าซิตี้เก็บสถิติได้ดีในการปะทะกับสโต๊ค ด้วยการชนะ 5 เสมอ 4 ใน 10 เกมการแข่งขันที่ผ่านมาล่าสุด

          อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเกมที่ปะทะกับสโต๊คในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.56) ก็คือเป็นการปะทะกับกองทัพของมาร์ค ฮิวจ์ ที่ได้ย้ายรังตามโทนี่ พูลิส และไปประจำการอยู่บริทาเนีย สเตเดี้ยม โดยกุนซือชาวเวลส์พ่ายต่อซิตี้ 3 ใน 4 เกมในศึกพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เขาได้ย้ายรังไปในเดือนธันวาคม ปี 2553 นอกจากนั้นยังมีสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ที่ถูกช่างปั้นหม้อยืมตัวไป เขาได้ลงเล่นให้เรือใบ 176 ครั้ง ระหว่างปี 2547-2553

Milner off line

          มาร์ค คลาเทนเบิร์ก จะเป็นกรรมการในเกมวันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ปีเตอร๋ คราวช ได้ประตูแรกในการพบกับซิตี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งยังเป็นที่กังขาอยู่จนทุกวันนี้ เริอใบพ่าย 2 ใน 20 เกมของพรีเมียร์ ลีก โดยมีคลาเทนเบิร์กเป็นกรรมการ ซึ่งเขาเคยให้ใบแดงแก่นักเตะซิตี้ 5 คน และ 1 ใบแก่ฝ่ายตรงข้าม

        เซอร์จิโอ อากูเอโร่ น่าจะเลื่อนชั้นเป็นนักเตะเรือใบที่ยิงประตูมากสุดในพรีเมียร์ ลีกเป็นอันดับสองหากเขาสามารถทะลวงประตูของสโต๊ค ซิตี้ได้ นักเตะชาวอาร์เจนติน่าเคยร่วมมือกับนิโคลาส อเนลกา ทำ 37 ประตูรวมให้กับสโมสร

คุณคิดว่าซิตี้จะปราบสโต๊คได้สำเร็จไหมในวันฝนพรำเดือนกันยายนที่บริทาเนีย สเตเดี้ยม ขอให้คุณส่งแรงใจมาเชียร์เราด้วย

 ที่มา http://mcfc.co.th

Views: 1320

Reply to This

Replies to This Discussion

ไปตีหม้อกัน !!...

"เปเยกรินี่" คงทำความคุ้นเคยกับเกมใน "พรีเมียร์ลีก" มากขึ้นและดูเหมือนจะทำการบ้านกับ "สโต๊ค" อย่างละเอียด...มาดูกันว่าฟอร์มของ "เรือใบสีฟ้า" จะดีขึ้นกว่าสองนัดที่ผ่านมาหรือไม่? หรือว่าจะต้องเชียร์ไปเสียวไปเหมือนที่ผ่านมา...

สถิติมีไว้ทำลายย หม้อ 0-2 เรือ เนเกรโ้ด้/กุน เย้ๆๆ

ตามนั้นเลยน๊ะครับ แต่อยากให้โยเวติช ลงสักทีอะครับลงแล้วยิงด้วยอะเพิ่มเป็น หม้อ0-3เรือ แระกันน๊ะครับพี่มีน ^^!!

อิอิ เห็ฯตรงกันเลยครับน้องชาย พี่มีนก้อไม่รู้ว่า หนูโย ทำไมไม่มีชื่อ อาจจะยังไม่เต็มร้อยก้อได้ครับ ต้องรอลองดูรายชื่อก่อนเตะอีกทีครับ ^^ ลุ้นๆ อิอิ

ไม่ใช่ของง่ายแน่นอน หม้อหินเสมอสำหรับเรือ จะคอยดูฝีมือนะ ท่านผู้จัดการ!!

อยากเห็นฝีมือหนู  โย  ใจจะขาดละ  ทุกคนว่ากันป่าว

จงให้ความกดดันมาเป็นพลัง เเล้วนําชัยชนะกลับออกมา

บอกตามตรงเจอหม้อทีไรหืดจับทุกที ยิ่งนัดนี้กองหลังเจ็บระนาว นัดนี้เสียวสุดๆๆ

ทุบหม้อ เลยครับ 3-1

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.