กลาสโกว์ เซลติก ทำได้!!! ลูกทีมเบรนแดน ร็อดเจอร์ส คือ ทีมแรกที่หยุดสถิติชนะรวด 100% ของทีมแมนฯซิตี้ และเป๊ป กวาร์ดิโอลา ไว้ที่ 10 นัดพร้อม ๆ กับ

คู่แข่งรายต่อไป สเปอร์ส จะทำได้ไหม? ในศึกพรีเมียร์ลีก "ซูเปอร์ซันเดย์" วันอาทิตย์ 2 ต.ค.นี้เวลา 20.15 น.วันนี้เรามีบทสรุป 5 กลเม็ดพิชิตชัยเหนือเรือใบมาฝากดังนี้:

1.ต้องไม่กลัวศักดิ์ศรี "เป๊ป" และเด็ก ๆ

เหมือนที่ กลาสโกว์ เซลติก ของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส แสดงให้เห็นในศึก "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" เมื่อกลางสัปดาห์ว่า หากไม่เคารพศักดิ์ศรี และเกรงกลัว เป๊ป กวาร์ดิโอลา กับลูกทีมมากเกินไป

อะไรก็เกิดขึ้นได้ และทำให้ได้เห็น "จ่าฝูง" สกอตติช พรีเมียร์ลีก ออกนำแมนฯซิตี้ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 และนำก่อนทุกครั้ง 1-0, 2-1 และ 3-2 ก่อนไฟนอลสกอร์จะจบที่ 3-3

เกมนี้ยังได้เห็น แมนฯซิตี้ ครองบอลโดยรวมไม่ถึง 60% (ทำได้ 58%) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติในเกมที่ ร็อดเจอร์ส วางแผนให้ลูกทีมบุกสู้เมื่อมีโอกาส และทำให้แมนฯซิตี้ ไม่ได้มีโอกาสเล่นเกมตัวเอง และฮึกเหิมมั่นใจเหมือน 10 นัดที่ชนะรวดในยุค "เป๊ป" ก่อนหน้านี้

2.กดดันแนวรับ และบีบ "บราโว่"

"เป๊ป" หรือใครจะมองว่า เคลาดิโอ บราโว่ ใช้ "ฟุตเวิร์ก" หรือเท้าได้ดีกว่า โจ ฮาร์ต ที่โดนอับเปหิไป โตริโน่? ก็แล้วแต่ ทว่าจากผลงานที่ได้เห็นตั้งแต่ประเดิมสนามกับ แมนฯยูไนเต็ด นายทวารชาวชิเลียน ไม่ได้มีดีอย่างที่คิดโดยเฉพาะ first touch หรือการจับบอลแรกที่มักไม่เชื่องเท้า

และ "เกือบพลาด" หลายหน เช่น ที่เกือบเสียจุดโทษ และใบแดงให้กับ เวย์น รูนีย์ หรือหลายจังหวะในเกมกับเซลติก ที่โดน มุสซ่า เดมเบเล่ ไล่งับ

เกมรับที่หากเซนเตอร์ฮาล์ฟไม่ใช่ จอห์น สโตน ยังมีปัญหาทั้ง นิโคลัส โอตาเมนดี้ และอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ อันเป็น "จุดอ่อน" ที่น่าจะเจาะอย่างยิ่งไม่นับลูกกลางอากาศที่ยังน่าห่วงสำหรับ บราโว่

3.จะ "รับต่ำ" หรือเพรสซิ่งสูง ให้เลือกเอา

ดังที่ได้เห็น เซลติก เล่น High Pressing หรือกดดันสูง โดยใช้ทั้ง สกอตต์ ซินแคลร์ ปักหมุดใส่ พาโบล ซาบาเล็ตต้า ทางกราบซ้าย, เดมเบเล่ คอยกดดันคู่เซนเตอร์ฯ ตรงกลางโดยมี เจมส์ ฟอร์เรสต์ บีบทางฝั่งขวา

ประเด็น คือ ร็อดเจอร์ส สั่งให้ลูกทีม "ไม่กลัว" และไม่ได้มาตั้งรถบัส 2 ชั้น ทว่าคอยกดดันตั้งแต่แนวบนจนแมนฯซิตี้ไม่สามารถต่อ "บอลแรก" จากแนวรับได้ เช่นเดียวกับ บราโว่ที่จะโดนชาร์จทันทีที่บอลคืนหลัง

ดังนั้น หากวางแผนมาดี และเล่นได้แบบ Collective หรือ "เป็นทีม" แมนฯซิตี้ ก็มีสิทธิ์แย่ได้ดังที่เสียถึง 3 ประตู

ขณะเดียวกัน ในฤดูกาลก่อน "เป๊ป" ต้องเจอเกมรับเต็มรูปแบบจากทั้ง 2 แมตช์กับ แอตเลติโก้ มาดริด สมัยที่คุมบาเยิร์น มิวนิค และผลปรากฎว่า ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ สั่งลูกทีมนักเตะเงินล้านระดับจอมเทคนิค และเทพให้ "รับต่ำ" พร้อมคอยโต้กลับโดยไม่สนใจอะไรใด ๆ

ผลปรากฎว่า ด้วยการครองบอล 20% กว่า ๆ ทีมตราหมีสามารถปราบบาเยิร์นฯในบ้าน 1-0 และไปแพ้นอกบ้าน 1-2 ทะลุเข้าชิงชนะเลิศ UCL ได้สำเร็จ

ดังนั้นเลือกเอา จะรับต่ำ หรือเพรสซิ่งสูง ที่อย่างใดอย่างหนึ่งหากร่วมใจสามัคคี และเล่นเป็นทีม โอกาสชนะย่อมมีเสมอ

4.นักเตะหมายเลข 12 ต้องเกิน 100%
ไม่ว่าจะที่ บิเซนเต้ กัลเดรอน ที่บาเยิร์นฯของ "เป๊ป" ประสบเมื่อปีก่อน หรือล่าสุดในการเยือนสกอตแลนด์เป็นหนแรก ณ เซลติก ปาร์ค สิ่งที่ลูกทีมของกุนซือสแปนิชต้องเจอคือ คลื่นเสียงเชียร์อย่างหนักหน่วงเสมือนเป็นพลังนักเตะคนที่ 12 ที่น่าเกรงขาม

แมตช์ล่าสุดกับเซลติก ต้องยอมรับว่า แฟนทีมม้าลายเขียวขาวส่งพลังสู่ทีมได้เต็มเหนี่ยว และแน่นอนว่า แมนฯซิตี้ รับรู้ถึงพลังดังกล่าวจนถึงขั้นเสียสถิติชนะรวด 100% ไว้นัดที่ 11 และเกือบพ่ายด้วยซ้ำไป

     5.สวดมนต์ให้เป็นวันของเรา ไม่ใช่ของเค้า

ไม่ว่าจะประตูที่ "แฉลบหน้าอก" เดมเบเล เข้าไป หรือประตูที่สองที่โดนขา ราฮีม สเตอร์ลิง เปลี่ยนทางเป็นประตู เรา ๆ ท่าน ๆ คงต้อง "ยอมรับ" ว่า จังหวะบอลเป็นใจให้เซลติกจะได้ประตู

     ในวันที่หากไม่มีดวงคงไม่ได้ประตู!

     ประตูจากจังหวะโต้กลับของกลัดบัคที่ไปจบกับ ธอร์แกน อาร์ซา พี่ชายเอแดง จัดว่าเป็นอีกตัวอย่างความ "คลาสสิค" ของเกมโต้กลับที่ได้จบแล้วเป็นประตู
ดังนั้น หากสเปอร์ส ในวันอาทิตย์นี้ หรือทุกทีมทำได้ และมีจังหวะที่ "คลิ๊ก" ลงตัวแบบนี้

โอกาส "พลิกชนะ" ย่อมหนีไม่ไกล และอะไรก็เกิดขึ้นได้เหมือนที่ เซลติกเพิ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเค้าสามารถยิงแมนฯซิตี้ได้ถึง 3 ประตู และแบ่งแต้มมาได้
ทั้งที่วีคก่อนเพิ่งจะโดนบาร์เซโลน่า ขยี้ 7-0 ในวันที่ไม่ใช่ของเรา เพราะบาร์ซ่าทำอะไรก็ดู "ถูกต้อง" ไปซะหมด!

พิเศษสุด! ประเดิมด้วยศึก "ซูเปอร์บิ๊กแมตช์" วันอาทิตย์ที่ 2 ต.ค. 2559 ระหว่างทีมจ่าฝูง เรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ เยือนทีมอันดับ 2 สเปอร์สที่ยังไม่แพ้ใครทั้งคู่จาก 6 แมตช์แรก คอบอลลูกค้า ทรูมูฟ เอช ชมสด ๆ ไม่มีสะดุด คมชัด ทุกประตู และจังหวะสำคัญ พรีเมียร์ลีก และทุกลีกดังที่แอพ True ID แพ็คเกจเน็ต ดูบอลไม่อั้น 19 บาท/วัน (ไม่เสียค่าเน็ตเพิ่ม) บนมือถือ หรือแท็บเล็ต ตลอดซีซั่น 2016/17

เทียบแล้ว หาก 1 เดือนมี 4 สัปดาห์ และ 8 วันให้มีพรีเมียร์ลีก กับ 6 ลีกดังลงแข่งขัน คอบอลลูกค้า ทรูมูฟ เอช จะเสียค่าบริการสบาย ๆ 8 วัน x 19 = 152 บาทต่อเดือนเท่านั้นโดยไม่กระทบค่าบริการรายเดือน หรือดาต้า ในแพ็คเกจปกติที่มีอยู่

ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงดาวโหลด แอพ True ID ลงทะเบียนแล้ว สมัครแพ็คเกจเน็ตสำหรับดูบอล กดเลย *900*3936# โทรออก แค่นี้ก็มันส์ไม่มีห่วง สนุก ไม่สะดุดแล้ว...

/////////////////////////////////////////////////////////

Cr.soccersuck.com ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย  www.mcfc.in.th