Members

คอลัมน์น่าสนใจ::การต่อสู้ของท็อป 6

คอลัมน์น่าสนใจ::การต่อสู้ของท็อป 6



     24 ปี ของการสถาปนาลีกใหม่จากดิวิชั่น 1 เดิม เป็นพรีเมียร์ลีก วันนี้ลีกร่ำรวยด้วยธุรกิจมหาศาลในโลกลูกหนังอาชีพ
 


        จากการต่อสู้ที่ถูกมองว่าสนุกเข้มข้นเมื่อในอดีต เปลี่ยนมาเป็นการต่อสู้ที่กลุ่มทุนธุรกิจมองว่า "เงินสร้างแบรนด์" ได้ เราจึงเห็นแบรนด์เก่าๆ ถูกปัดฝุ่นมารีแบรนดิ้งใหม่และประสบความสำเร็จจนแบรนด์เก่าแก่ตามไม่ทัน


        เชลซี คือตัวอย่างแรกของการรีแบรนดิ้ง ตามด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และถึงจุดนี้พวกเขากลายเป็นสองสโมสรชื่อดังสร้างฐานแฟนบอลแข่งกับขั้วอำนาจเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล อย่างน่าดูชม


        เชลซี กวาดแฟนบอลรุ่นเด็กได้มากที่สุดในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เริ่มก้าวเข้าไปในใจของเด็กรุ่นใหม่สองสามปีหลังมานี้


        เมื่อบวกกับแบรนด์เก่าที่ยังไม่ตาย และพร้อมรีแบรนดิ้งกลับมาใหม่ตามแต่วิธีการของแต่ละทีมจะรังสรรค์ วันนี้เรามี 6 สโมสรชั้นนำเกิดขึ้นแทนที่บิ๊กโฟร์เรียบร้อยแล้ว โดยภายใน 6 ทีมชั้นนำนั้น มีพรมแดนของถ้วยรางวัลแบ่งชัดเจน


        ลีกสูงสุด, พื้นที่ ชปล. และยูโรปา ลีก


        ต่อสู้กันไปจนจบซีซั่น จัดเรียงแบบไหนในพื้นที่ของตัวเองก็ตามอันดับคะแนน ถ้าไม่มีทีมจากนอกท็อปซิกซ์หลุดเข้ามา ซึ่งบอกได้เลยว่ายาก เพิ่งจะมีปีที่แล้วที่เลสเตอร์ ซิตี้ หลุดเข้ามาอย่างน่ามหัศจรรย์


        ยังผลให้เชลซีหลุดไปจากท็อปซิกซ์


        ทว่า ปีนี้...การต่อสู้กลับมาอีกครั้ง การซื้อโค้ชระดับโลกที่มาพร้อมกับความสำเร็จมารวมตัวกัน บวกกับของเดิมที่มีอยู่ ทำให้การต่อสู้ในกลุ่มผู้นำสุดจะเข้มข้น และถึงจุดนี้แฟนบอลส่วนใหญ่ดีใจที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งถูกคาดหมายตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่นว่ามีโอกาสสร้างผลงานแบบ "นอนมา"


        ผ่านไป 10 นัด เป๊ปยังไม่สามารถทำได้เหมือนที่ทำบาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิค นั่นคือออกฟอร์มแชมป์แต่หัววัน เก็บแต่ชัยชนะ ปล่อยให้ผู้ตาม ตามไปวันๆ


        อันดับคะแนนที่ไม่เคยโกหกบอกว่า แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล 23 แต้มเท่ากัน โดยมี เชลซี, สเปอร์ส ตามมาที่ 22 และ 20 แต้ม ขณะเดียวกัน อันดับ 6 เป็นเอฟเวอร์ตัน ไม่ใช่แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เชื่อว่าไม่มีใครกาชื่อ "ปีศาจแดง" ทิ้งไปจากสารบบของท็อปซิกซ์แน่นอน


        โอเค...มันก็ประมาณนี้สำหรับกลุ่มผู้นำหกทีมแรก


        ย้อนกลับไปที่เต็งหนึ่ง แมนฯ ซิตี้ ที่ยังไม่สามารถทะลุฟอร์มจนโลดแล่นอยู่ทีมเดียวโดดๆ ได้ เหมือนครั้งที่เป๊ปคุมบาร์ซ่า และบาเยิร์น มิวนิค มันอาจพอมีคำตอบคร่าวๆ ว่า ลีกแต่ละลีก ธรรมชาติฟุตบอลแต่ต่างกัน


        ถ้าสเปนกับเยอรมัน เล่นฟุตบอลไม่ต่างสไตล์กันมากนัก การกำหนดแท็กติกคงปรับแค่รายละเอียดมากกว่าภาพกว้างๆ แต่ถ้ามาดูพรีเมียร์ลีกทั้ง 20 ทีม พบว่าโค้ชทั้งอังกฤษและต่างชาติ (บอลสเปนและเยอรมันไม่ค่อยมีโค้ชต่างชาติมาก) มีสัดส่วนที่ปะปนกันไป ส่วนใหญ่เป็นโค้ชต่างชาติ


        แท็กติกของแต่ละทีมแทบไปคนละทาง


        เหมือนสัปดาห์นี้ เรือใบสีฟ้าเจอทีมสไตล์นี้ สัปดาห์ต่อไปอีกสไตล์หนึ่ง ขึ้นกับโค้ชที่คุมทีมและนักเตะในทีม ซึ่งส่วนใหญ่มีนักเตะต่างชาติมากกว่านักเตะอังกฤษเอง นี่คือปัญหาของความไม่แน่นอนในแท็กติกที่เป๊ปเจอ


        ดังนั้นการเข้ามาต่อยอดในช่วงแรกจึงดูไม่ราบรื่น และส่อแววว่าจะทำให้การขับเคี่ยวของลีกสนุกเข้มข้น ถ้าเรือใบสีฟ้าจะไม่แล่นฉิวไปโดดๆ ทีมเดียว


        ในความเป็นจริง การต่อสู้ผ่านมาจนเกือบถึงหนึ่งในสามของระยะทาง เราน่าจะมองเห็นอะไรที่มันต่างกันบ้าง แต่นี่กลายเป็นสามทีมแรกของตารางคะแนนแต้มเท่ากัน ต่างแค่ประตูได้-เสีย และแมนฯ ซิตี้ ก็ไม่ได้หนีใครไปไกล


        เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า แชมป์เปิดกว้างให้หลายทีมร่วมลุ้น


        ติดตามดูการทำทีมของเป๊ป ซึ่งกำลังโดนวิจารณ์อยู่เหมือนกันว่า มีปัญหาในการถ่ายทอดแนวคิดให้นักเตะเล่นตาม หรือแนวคิดของเป๊ปมันไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่ โดยเฉพาะจากการที่ขึ้นบอลจากผู้รักษาประตู


        เป๊ปตอบโต้นักข่าวและเสียงวิจารณ์ว่า ก็ 21 แชมป์ที่เขาได้นั้นก็มาจากการเล่นบอลแบบนี้แหละ


        ก็ถูก...เช่นกันครับ


        สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักเตะทำตามแนวคิดของเป๊ป และเริ่มต้นแสดงผลงานอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แบบนั้นอาจทำให้พวกเขาโดดไปไกลกว่าทีมอื่นๆ ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งละครับ


        เดือนธันวาคมน่าจะพอมองเห็นการตั้งหลักของลีกในเรื่องการลุ้นแชมป์


        มันอาจจะมีความห่างหรือกลับสูสียิ่งขึ้นก็เป็นไปได้ครับ มันออกได้หมด ไม่มีทางใดโดนปิดกั้น จะลุ้นโดดๆ ทีมเดียว หรือมาเป็นขบวน วิ่งไล่จี้กันมาอย่างสูสีเหมือนตอนนี้ จนทำให้นักข่าวอังกฤษตื่นเต้นและดีใจเอามากๆ


        ด้วยเพราะ 24 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS The Rest หมายถึง แมนฯ ยูไนเต็ด ลุ้นกับทีมอื่นๆ ในลีก ซึ่งสลับหน้ากันมาต่อกร ตั้งแต่แอสตัน วิลล่า ในปีแรก, แบล็คเบิร์น, อาร์เซน่อล, เชลซี และแมนฯ ซิตี้ จนกระทั่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ


        จุดนี้...กลายเป็นเรื่องที่เรามองเห็นภาพพรีเมียร์ลีกว่าไม่มีผู้นำแบบโดดๆ เหมือนแมนฯ ยูไนเต็ด อีกต่อไปแล้ว


        น่าสนุกนะครับ...หากมันจะสูสี และโอกาสเปิดกว้างเช่นนี้


        เช่นกันครับ...ทีมที่น่าจับตามองในมุมของบริษัทพนันและผู้สันทัดกรณีต่อจากแมนฯ ซิตี้ คือลิเวอร์พูล ซึ่งยังคงเป็น "เต็งสอง" ในการร่วมลุ้นแชมป์อยู่ และจากผลงานที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนเริ่มมองว่าทิศทางของเด็กหงส์มันมุ่งไปทางนั้น


        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์เมื่อกลางสัปดาห์ในทรรศนะที่เขามองว่าลิเวอร์พูลลุ้นด้วยและลุ้นอย่างจริงจัง ด้วยสไตล์การทำงานของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชที่เขายอมรับว่ามีโอกาสมาสร้างความสำเร็จให้กับลิเวอร์พูลได้


        ไรอัน กิ๊กส์ เป็นรายต่อมา...แต่กิ๊กส์นั้นแฝงด้วยสายเลือดปีศาจแดงเข้มข้น และคงเหมือนกับความรู้สึกของตำนานผีอีกหลายคนที่หวั่นวิตกถึงการกลับมาของ "หงส์แดง" ในเรื่องการคว้าแชมป์ลีก


        กิ๊กส์ก็บอกเช่นกันว่า...เขากลัวว่าหงส์จะกลับมา


        แน่นอนครับ...ในมุมของการแสดงทรรศนะนั้นมันก็มีอะไรให้คิดหลายอย่าง...หวั่นวิตกกับกลัวว่าจะกลับมา...กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันเป็นแบบนั้นเลยหรือไม่ ณ จุดนี้ มันคือการคาดการณ์จากฟอร์มปัจจุบัน


        สุดท้ายแล้ว...การพิสูจน์ผลงานในเกมต่อๆ ไป นับจากนี้มันคือเรื่องที่ท้าทายเด็กหงส์ยิ่งนักว่า พวกเขาจะผ่านด่านยากลำบากแล้วสอบผ่านหรือไม่ เหมือนทำโจทย์ยากไปทีละข้อ ตอบถูกและได้ตอบข้อต่อไป


        ตรงนี้คือสิ่งสำคัญมากกว่าการถูกคาดหมายว่า "ลุ้นแชมป์"


        เอาง่ายๆ นับจากนี้เด็กหงส์จะต้องเจอรถบัสอีก 15 คัน ในพรีเมียร์ลีก หลังทลายรถบัสเวสต์บรอมวิชแล้ว วันที่ผมส่งต้นฉบับเจอของแสลงอีกทีมคือคริสตัล พาเลซ ที่ไม่ใช่แค่จอดรถบัสขวางหน้าเขตโทษ หากแต่ยังมีทีเด็ดพร้อมลงโทษแนวรับที่ยังไม่ชัวร์ของเด็กหงส์อีกต่างหาก


        ถ้าไม่ผ่านโจทย์ พาเลซก็ต้องถอยมาตอบคำถามข้อนี้ใหม่ แต่เด็กหงส์ก็สามารถผ่านไปได้


        ถ้าผ่าน...ก็ข้อต่อไปอีก ซึ่งมันก็จะมีเกมลักษณะ เบิร์นลี่ย์, แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มูรินโญ่เน้นแท็กติกเพื่อเบรกเกมรุกเรียกว่าไม่สนอัตลักษณ์ของผีแดงแต่เก่าก่อน เวสต์บรอมวิช, พาเลซ และกลุ่มทีมท้ายตารางที่ยังคงเป็นปัญหาของทีม และคล็อปป์เมื่อปีที่ผ่านมา


        โอเค...ปีที่แล้วมีข้อแก้ตัวได้ว่ามันคือการทำความเข้าใจระหว่างคล็อปป์กับนักเตะในแนวคิดใหม่ของทีมและการค้นหาตัวเลือกที่ลงตัว ซึ่งจะว่าไปมีนักเตะหลายคนเล่นกับทีมมาเกือบซีซั่น แต่กลับปรับตัวสู้มาเน่ ที่มาไม่ถึงสามเดือนเลย


        ตอนนี้กลายเป็นนักเตะที่มีผลงานเด่นกว่า หลุยส์ ซัวเรซ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เมื่อเทียบกันในช่วงเริ่มต้นนับหนึ่งกับหงส์แดง


        ถ้าวิธีการเล่นของเด็กหงส์ไปถูกทาง...ต่อจากนี้คือการเรียนรู้ที่จะปิดบัญชีคู่แข่งและเก็บคะแนนไล่ล่ากับกลุ่มท็อปซิกซ์ สร้างความต่อเนื่องในมาตรฐานตัวเองไปเรื่อยๆ


        ก่อนจบบทสนทนากับแฟนานุแฟน ผมอ่านการวิเคราะห์เชิงสถิติและตัวเลขของยูโร อินเดกซ์ ที่ปีก่อนก็วิเคราะห์เชิงตัวเลขว่า เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ล่าสุด 9 นัด ผ่านไป ยูโร อินเดกซ์ ก็ใช้ตัวเลขนำทางอีกครั้ง


        ด้วยการบอกว่าตารางคะแนนนัดที่ 38 เมื่อวัดผลจาก 9 นัดที่ผ่านมา ทีมที่คว้าแชมป์? คือ...


        แมนเชสเตอร์ ซิตี้


        ที่สอง อาร์เซน่อล


        ที่สาม ลิเวอร์พูล


        ที่สี่ เชลซี


        ที่ห้า สเปอร์ส และอันดับหก แมนฯ ยูไนเต็ด


        อืมม...ถอนหายใจลึกๆ ยังไม่มีใครคว้าแชมป์ใน 9 นัดแรก แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เรามองเห็นทิศทางการต่อสู้ในปีนี้ของท็อป 6 อย่างเข้มข้นและสูสี ไม่มีวัน แมน โชว์ ในลีกอีกต่อไป และน่าติดตามยูโร อินเดกซ์ เมื่อจำนวนนัดผ่านไป การวิเคราะห์เชิงตัวเลขจะเปลี่ยนไปอีกหรือไม่

 


JACKIE

/////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 668

Reply to This

Replies to This Discussion

ตามนั้นครับ เรือใบจากทุกสำนักยังยกให้เป็นเต็ง 1 แต่ฟอร์มตอนนี้ต้องบอกว่ายังสูสีไม่ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง หงส์แดงที่ร้อนแรงมาเลย กับน่อลที่เก็บแต้มไล่ทันในที่สุด จะห่างก็แค่ลูกได้เสียที่ซิตี้ยังดีกว่า แถมยังมีเชลซีที่ช่วงหลังๆฟอร์มร้อนแรงเกมล่าสุดบุกชนะนักบุญที่เสมอกับซิตี้มาได้ ก็ต้องขอบอกว่าถึงจะเชียร์ซิตี้ มั่นใจว่าทีมจะคว้าแชมป์ได้ แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าทีมอื่นที่กล่าวมาก็มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกได้ไม่แพ้กัน ลุ้นกันมันส์หยดเกมต่อเกม คะแนนต่อคะแนน แน่นอนครับผม พวกเราชาวเรือใบสีฟ้า สู้ๆครับ 

ตอนนี้หวั่นใจกับกองหลังเอามากๆ พลาดจากกองหลังอย่างเดียวเลยการต่อบอลจากผู้รักษาประตูนี้แหละ

ต้องแก้ไขความผิดพลาดในแนวรับให้ได้
โดยส่วนตัว...ขอโอกาสชมเชยผ่านลอยลมไป เพื่อเป็นกำลังใจแก่คุณ"JACKIE"ครับ คิดว่าคุณคงจะเป็นแฟนลิเวอร์พูลนะครับ

ที่ชมไม่ใช่เพราะว่าต้องมาเขียนคอลัมน์ที่มีส่วนแง่บวกต่อทีม'ซิตี้หรอกนะครับ ที่ผ่านๆมาเคยติติง'ซิตี้ สำหรับผมก็ยังรู้สึกน่าอ่านน่าฟังอยู่ดี

สำนวนคุณแจ็คกี้เรียบร้อย กึ่งนักข่าวแบบคลาสสิค(ซึ่งเริ่มหายากในสมัยนี้) ไม่มีตึงตังสองแง่สองง่าม พยายามอิงข้อมูลตามเหมาะ เสนอความเห็นส่วนตัวตามควร แลดูเหมาะพอดีแก่มหาชนคนอ่านส่วนใหญ่ทั่วๆไป

คล้ายอาหารออร์แกนิค (อาจแต่งกลิ่น สี จากธรรมชาติบ้าง) อร่อยตามสมควร บริโภคแล้วสงบสบายท้องไม่บีบคั้น ที่สำคัญคือ"ปลอดสารพิษไม่มีภัยใดๆ"

...หวังว่าจะรักษาคุณภาพแบบนี้ยาวนานต่อไปเรื่อยๆนะครับ ^_^

ปีนี้มันส์หน่อย ว่าแต่มูอยู่ไหนน้าาาาาา 555

ถ้าดูตารางแข่งขัน จะเห็นว่า แมนซิ-ลิเวอร์พูล จะสามารถนำ ปืนได้ อีก 3 นัด เพราะ ปืนเจอบทโหด และพอเดือนธค แมนซิ กับหงส์ ก็เจอบทโหดเช่นกัน...เังนั้น หลังปีใหม่เราก็จะเห็นคะแนนแกว่งอีกครั้ง  อาจจะเหลือ เพียงแค่ 2 ทีม และ อีกทีม ตามมาติดๆ เป้น แย่ง 1-2  / 3-4 และ 5-6 เป็นคู่ๆ แต่ ถ้าใครพลาดจนถึงเดือนเมษายน นั่นหมายถึง ตำแหน่งแชมป์ ก็หลุดลอย เหมือนเปเยเมื่อ ฤดูกาลที่แล้ว....

ต้องพึ่ง กุน อเกวโร่  และ กุนโดกัน  ช่วยกันยิงแล้วแหละ  เริ่มเห็นแววว่าจะทำได้  โดยให้เดอบรอยปั้นลูก ซิลบาเสริม และรอส้มหล่น  หนูริ่งให้เลี้ยงลูกไปติดเส้นล่างประตูแล้วส่งคืน หรือไม่ก็เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ

ต้องพึ่ง กุน อเกวโร่  และ กุนโดกัน  ช่วยกันยิงแล้วแหละ  เริ่มเห็นแววว่าจะทำได้  โดยให้เดอบรอยปั้นลูก ซิลบาเสริม และรอส้มหล่น  หนูริ่งให้เลี้ยงลูกไปติดเส้นล่างประตูแล้วส่งคืน หรือไม่ก็เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.