Members

เป๊ป กับฤดูกาลที่พิสูจน์ว่า“ฝีมือจริง”หรือแค่ “ถนัดใช้เงิน” (เสือปืนไว)

เป๊ป กับฤดูกาลที่พิสูจน์ว่า“ฝีมือจริง”หรือแค่ “ถนัดใช้เงิน” (เสือปืนไว)

skysports-kyle-walker-marcus-rashford-man-united-man-city_4006704.jpg (82 KB)

ฤดูกาล 2016-17 ที่จบไป ถือเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับ "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" กับปีแรกในพรีเมียร์ลีก พาแมนฯซิตี้จบฤดูกาลแบบมือเปล่า เป็นปีแรกที่ เป๊ป ไม่มีถ้วยรางวัลใดๆ ติดไม้ติดมือ ตั้งแต่เริ่มต้นเดินบนถนนอาชีพผู้จัดการทีมเมื่อปี 2008 ด้วยการก้าวขึ้นมานายใหญ่ในถิ่นคัมป์นูของบาร์เซโลน่า ทุกๆ ปียอดโค้ชชาวสเปนจะต้องพาลูกทีมของตัวเองคว้าแชมป์มาครอง ประดับบารมีความเป็นยอดผู้จัดการทีมแถวหน้าของโลก (พาบาร์ซ่าคว้า 14 แชมป์ ตลอด 4 ปีที่คุมทัพ หยุดพักการทำงานไป 1 ปี ก่อนกลับมาคุมบาเยิร์นในปี 2013 พาเสือใต้คว้า 7 แชมป์ ได้แชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัยติด)

เป๊ป เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าเขายังเป็นผู้จัดการทีมของทีมบิ๊กเนมในยุโรปอย่าง บาร์เซโล่า หรือ บาเยิร์น มิวนิค แล้วพาทีมทำผลงานได้แบบที่แมนฯซิตี้ทำได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา ปานนี้คงถูกตะเพิดพ้นเกาอี้กุนซือไปแล้ว

ย้อนไปเมื่อตอนที่ แมนฯซิตี้ ประกาศว่าได้ตัว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเป็นผู้จัดการทีมใหม่แทนที่ของ มานูเอล เปเยกรินี่ ตอนนั้นเกาะอังกฤษน่าจะเกิดแรงสั่นสะเทือนระดับ 10 ริกเตอร์ เชื่อเลยว่าบรรดาทีมลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ คงจะรู้สึกหวาดหวั่นครั้นครามกันไม่น้อย บรรดาเกจิลูกหนังทั้งหลายก็แทบจะฟันธงฉับ! ทันที ว่า เป๊ป จะพาแมนฯซิตี้กลับคืนสู่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง

59707a2cc454f4cca7000002.jpg (78 KB)

 

จะว่าไป เป๊ป ก็ถือว่าเริ่มกับทีมเรือใบสีฟ้าได้อย่างสวยหรู ในลีกชนะรวดติดต่อกัน 6 เกม บวกกับ 1 เกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ถล่มชนะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 4-0 และอีก 1 เกมที่บุกไปชนะสวอนซี 1-2 ในศึกลีกคัพ อนาคตของทีมเรือใบสีฟ้าในยุคของ เป๊ป ดูมีอนาคตสดใสดีทีเดียว

แต่ความสุขดูเหมือนจะอยู่เพียงแค่ชั่วคืน เพราะหลังจากนั้นทีมก็ไม่พบกับชัยชนะอีกเลย 6 เกมติด ทั้งการบุกไปแพ้สเปอร์แบบสู้ไม่ได้ 2-0, ทำได้แค่เสมอทั้งที่เล่นในบ้านกับ เอฟเวอร์ตัน และ เซาแธมป์ตัน แพ้แมนฯยูตกรอบลีกคัพ รวมทั้งเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่บุกไปแพ้บาร์เซโลน่าถึง 4-0 แม้จะมาเอาคืนได้ในเกมที่กลับมาเล่นที่บ้านของแมนฯซิตี้ 3-1 แม้จะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบตัดเชือกแต่สุดท้ายก็ไปแพ้ให้กับโมนาโก สุดท้ายจบฤดูกาล แมนฯซิตี้ จบในอันดับ 3 ของลีกมีแต้มห่างจากเชลซีทีมแชมป์ของ อันโตนิโอ คอนเต้ คนที่มาใหม่เหนือกันถึง 15 คะแนน

image-1.jpg (60 KB)

 

จากผลงานอันน่าผิดหวังในฤดูกาลแรกบนเกาะอังกฤษ เป๊ป โชคดีที่ยังได้รับโอกาสทำทีมต่อในฤดูกาลที่ 2 ซึ่งยอดโค้ชชาวสเปนก็คงจะรู้ตัวดีว่าโอกาสที่จะได้แก้ตัวคงไม่ได้มีบ่อยๆ ยิ่งการเป็นผู้จัดการทีมที่ลงทุนสูงอย่างแมนฯซิตี้ เป้าหมายเดียวที่ตอบโจทย์ความสำเร็จของทีมก็คือการคว้าแชมป์

ไม่มีเวลาสำหรับ เป๊ป มากนัก เจ้าตัวเลยเลือกทางลัดของการพาทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จในยุคธุรกิจฟุตบอลด้วยการ “ซื้อ” ทีมไหนเงินหนาก็ยิ่งได้เปรียในการคว้าผู้เล่นดีๆ เข้าสู่ทีม เป๊บ จัดการใช้เงินของสโมสรในระดับที่ต้องใช้คำว่า “บ้าคลั่ง” เพราะใช้เม็ดเงินสร้างทีมไปแล้วสูงเกิน 200 ล้านปอนด์ คว้านักเตะใหม่ที่แต่ละคนค่าตัวสูงปรี๊ด ไล่ตั้ง แบร์นาร์โด ซิลวา ย้ายจากโมนาโก 42.5 ล้านปอนด์, เอเดอร์สัน นายประตูจากเบนฟิกาที่ย้ายมาสู้ทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกของผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ราคา 34 ล้านปอนด์, ไคล์ วอล์คเกอร์ ย้ายจากสเปอร์มาอยู่กับแมนฯซิตี้ ในฐานะแบ็คขวาที่แพงที่สูดในโลกด้วยมูลค่า 45 ล้านปอนด์ แถมพ่วงตำแหน่งผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่มีค่าตัวในการย้ายทีมสูงที่สุด หลังจากนั้นอีกไม่ถึง 10 วัน ทีมมหาเศรษฐีแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ก็ขัดจากขวาแบ็คขวาเข้ามาสู่ทีมเพิ่มอีก 1 คน นั้นคือ ดานิโล่ แบ็คทีมชาติบราซิลของเรอัล มาดริดราคา 26.5 ล้านปอน ก่อนที่ 1 วันถัดมาโมนาโกจะฟันกำไรจากแมนฯซิตี้เพิ่มได้อีกด้วยการขาย เบนฌาแม็ง เมนดี้ ให้กับแมนฯซิตี้ด้วยสนนราคาสูงถึง 49.3 ล้านปอนด์

DFj-BoEXgAAkyOv.jpg (82 KB)

 

ถ้าดูในรายชื่อผู้เล่นใหม่ๆ ที่ เป๊ป หอบเม็ดเงินสู่ขอมาสู่ทีม แทบทั้งหมดเป็นผู้เล่นในเกมรับ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของแมนฯซิตี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการซื้อของ เป๊ป ก็เพื่ออุดช่วงโหว่ของทีม แม้มันจะเป็นจัดการปัญหาที่ลงทุนมหาศาลเหลือเกินก็ตาม

แต่การทุ่มเม็ดเงินสร้างทีมเพื่อไปสู่ความสำเร็จแบบปัจจุบันทันด่วน ก็ใช่ว่ามันจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่น่าพอใจเสมอไป ดูง่ายๆ จากผลงานของแมนฯซิตี้เองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป๊ป เองก็ใช้เงินสโมสรไปรวม 170 ล้านปอนด์ กับการเซ็นสัญญากับนักเตะอย่าง โนริโต้, อิลคาย กุนโดกาน, จอห์น สโตนส์, ลิรอย ซาเน่ และ เคลาดิโอ บราโว่ แต่ต้องบกตามตรงว่าแต่ละคนทำผลงาน “น่าผิดหวัง” ไม่คุ้มกับค่าตัวสักคน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรการันตีว่า 200 ล้านปอนด์ที่แมนฯซิตี้ทุ่มลงไปในตลาดนักเตะจะนำแชมป์กลับคืนมาสู่ถิ่นเอติฮัด

ตลาดซื้อ-ขายนักเตะยังเหลือเวลาให้ช้อปอีก 1 เดือนเต็มๆ เพราะจะไปสิ้นสุดกันวันที่ 1 กันยายน ดูแล้วทรงแล้วมีโอกาสสูงที่ เป๊ป จะอ้อนของเงินท่านชีคเจ้าของทีมแมนฯซิตี้ กระชากผู้เล่นรายใหม่เข้ามาสู่ทีม ซึ่งก็คงเป็นย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาลอีกแน่นอน

Team photo.png (859 KB)

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.banpolball. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 662

Reply to This

Replies to This Discussion

ยอดโค้ชชาวสเปนก็คงจะรู้ตัวดีว่าโอกาสที่จะได้แก้ตัวคงไม่ได้มีบ่อยๆ

ยิ่งการเป็นผู้จัดการทีมที่ลงทุนสูงอย่างแมนฯซิตี้

เป้าหมายเดียวที่ตอบโจทย์ความสำเร็จของทีมก็คือการคว้าแชมป์

"ฝีมือจริง" หรือแค่ "ถนัดใช้เงิน"ก็ต้องพิสูจน์ให้โลกเห็น..

แต่ผลจะออกมายังไงแฟนๆก็ต้องเชียร์เรือใบสีฟ้าอยู่แล้ว ^^

อันนี้พูดถึงเรื่องการช๊อปของเป๊ป แล้วก็วนๆไป ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือว่าการวิเคราะห์เกมส์หรือแนวทาง เหมือนเรีวิว ข่าวเดิมที่ผ่านมาแค่นั้นเอง  แบบน้ผ่านครับ เขียนง่ายไเกินไป

มีเงินให้ใช้ก็ต้องใช้

เจอเจ้าของใจถึง พึ่งได้ ใครจะไม่ชอบ

อย่าว่าแต่เป๊ป มันโช่ก็ทุ่ม เปเยก็ทุ่ม

ถ้ามาเจอถังข้าวสารใครจะไม่ทุ่ม

แต่การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง

(****ผุ้ลงทุนโปรดระมัดระวังในการลงทุน บลาๆๆๆๆ)

ขนาดระดับกาก้า ยังเป็นสำรองที่มาดริดเลย

ขนาดตอเรส ยังกลายเป็นตอสากไปเลย

ยกเว้นว่า...ไปอยู่ทีมที่เจ้าของใจไม่ป้ำ เงินฝืด

แบบนี้ต้องทนใช้ของเก่า หรือเรียกเด็กยืมกลับมา

หรือดันดาวรุ่งไปเลย

ถ้าประสบความสำเร็จก็จะได้รับเสียงชื่นชม

เห็นมั้ยขนาดไม่ซื้อ ดันดาวรุ่ง ยังได้ขนาดนี้เลย แถมเจอเพชรอีก

โค้ชคนนี้ สุดยอด ถถถถถ

เพียงแต่เป๊ปดันซวยที่มาทุ่มในยุคที่นักเตะราคาโอเวอร์มาก

นักเตะดาด ๆ ราคา 30 อัพขึ้นทั้งนั้น

มันเลยดูเหมือนว่า แพงกว่าทุกยุคที่ผ่านมา

นี้ถ้าดาวิด ซิลวา อายุ 25 ไม่อยากจะคิดว่า ราคาจะเท่าไร

เรื่องฝีมือก็อีกเรื่องนึงแต่สิ่งที่เห็นและสัมผัสได้คือ..ใช้ 210 ล้าน ขาย 100 ล้านปอนด์สรุปคือใช้ไป 110ล้านปอนด์ ..แบบนี้โง่หรือฉลาดล่ะ แล้วแฟนบอลเพ่ิมขึ้นเพราะตัวเป๊ปอีก20%..อย่างนี้คุ้มไหม...ในอีกไม่ถึง 3 สัปดาคือบทพิสูจน์..ไคร์ วอกเกอมาทำให้กองหลังแน่นขึ้นมากเลย ดานิโล่มาทำเอาแบ้กซ้าย สมบูรณ์แบบมากขึ้น นี่ยังไม่นับไอ้ตัวใหม่ที่ซื้อมา..เมนดี้ ทำยาดองอีก 51 ล้านปอน์..แถมสโตนดันมายิง 1 แอสซิสอีก1  ..ฉิบหายจะจับใครดีท้อปฟอร์มแบบนี้..แชมป์จัดไป

จินตนาการของสื่อ ของเซียน ของซาเล้งขาโขกบางราย

ก็คือเป๊บย้ายมาเรือใบ มันต้องคว้าแชมป์ตั้งแต่ปีแรกๆ

ต้องคว้าแชมป์แบบ มันโช่ เปเย่ รานิเอรี่

ซึ่งถึงเป๊บทำแบบนั้น แบบรานิเอรี่ เปเย่ มันโช่ ที่แชมป์ได้แค่ซักปี

แล้วทีมก็เหมือน "รูดเสา" รูดลงรูดลงแบบ "ขาแด้นซ์สายย่อ" ไปสองสามปี

แบบนั้นเป๊บมันก็โดนโขกอีกนะแหละ ว่าก็ทำได้ไม่ดีไปกว่ามันโช่ เปเย่ รานิเอรี่

ทีนี้การที่เป๊บมาใช้เวลาสองสามปีแรก เพื่อปั้นทีม เพื่อเป็นทีมที่แข็งแรง สม่ำเสมอ

แบบเฟอร์กี้เคยทำให้แมงยู พวกสื่อ พวกเซียน ขาโขก มันกลับจินตนาการไม่ออก

จินตนาการของสื่อ ของเซียน ของซาเล้งขาโขก

ก็คือเป๊บมาปีแรกมันต้องแชมป์...

แล้วปีสองล่ะ..  ?  มันก็ต้องแชมป์... ?

แล้วปีสามล่ะ.. ? มันก็ต้องแชมป์ๆๆ

จะเป็นแชมป์ปีเดียวจอดป้าย แบบเปเย่มันโช่รานิเอรี่ไม่ได้ ?!?

สรุป เป๊บมันต้องมาเรือใบ แล้วแชมป์ๆๆ

ตั้งแต่ปีแรกยันปีสุดท้าย ?!? ถึงจะพอใจเหล่าขาโขก ?!?       บ้าน่ะซิ !!!

ไม่ไปดูประวัติเฟอร์กี้ล่ะ กว่าจะปั้นทีมได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่ปีแรกๆมั๊ย ?!?

ไอ้ทึ่วาดฝัน มะโนจินตนาการ ว่าเป๊บมันมาปีแรกก็แชมป์

แล้วก็สร้างประวัติสร้างแชมป์ต่อเนื่องตลอดไปอีกหลายๆปี

สร้างประวัติศาสตร์เป็นสุดยอดโค้ชในอภืมหาจักรวาลที่ไร้เทียมทาน

กรุณาหันมามองโลกแห่งความจริงบ้าง

มะโนเว่อว่าเป๊บจะทำแบบนั้นได้กะทีมเรือ ในลีกที่แข่งขันโหดแบบนี้น่ะ ไม่บ้าก็สติเฟื่อง

มองโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง

ไม่มีโค้ชที่ไหน จะทำแบบนั้นกะทีมซาเล้งที่เพิ่งถูกหวยมาไม่กี่ปีได้ร่อก

แล้วก็เหมือนเดิม เป๊บมันก็อาจเป็นโค้ชที่ยังไม่ได้ดังใจเหล่าขาโขก

แต่ถ้าให้เหล่าขาโขก เอ่ยชื่อโค้ชเทวดา ที่จะมาปั้นเรือใบได้ดีไปกว่าเป๊บ

รับประกันฟันธง เหล่าเซียนขาโขกทั้งหลาย

จะนั่งซื้อบื้อพูดเอ่ยชื่อไม่ออก ไปไม่เป็นทุกราย !!!

เป๊บกะมูมันก็อาจไม่เท่าไหร่หรอก ในสายตาเหล่าขาโขกพวกนี้

แต่เชื่อเหอะ.. ทุกทีมในลีกอังกฤษ ต่าวกลัวสองโค้ชนี้ จะมาปั้นให้เรือใบ-แมงยู

เป็นบาซ่า-แมดริดแห่งอังกฤษกันทั้งนั้น

ถ้าเป๊บ ถ้ามูล้มเหลว ต้องโดนเด้งออกไปจากเรือใบ-แมงยู

ไปคิดดูเหอะ ใคร ทีมไหน จะสะใจฮาก๊าก.. และถอนหายใจอย่างโล่งอก ?!?

เหล่าซาเล้งที่รักสโมสร สโมสรที่ตัดสินดีๆกับทีมมาตลอด

ไม่เคยแสดงว่าจะเอาเปรียบกองเชียร์

เหล่าซาเล้งที่ดี ก็ควรย่อมต้องปกป้องการตัดสินใจของสโมสร

ที่คัดสรรหาโค้ชที่หวังได้ที่สุดเท่าจะหาได้แล้ว

ก็ควรอดใจรอคอย และให้กำลังใจด้วยความจริงใจ


ต่อให้ฤดูกาลหน้ามันจะว่าวอีก แต่ถ้าเป๊บยังปั้นทีมได้ดูดีมีความหวัง

ก็ยังรอได้ตามสัญญาสามปีนะแหละ..

ถ้าถามว่าทำไมต้องรอ  ก็ไปดูประวัติการทำทีมของเฟอร์กี้

ที่กว่าจะทำทีมจนได้เป็น ท่านเซอร์ อาจจะได้ไอเดีย...

เครดิต...     http://www.soccersuck.com/boards/topic/1191310

ก่อนหน้าจะมาคุม
แมนยูในยุคของรอน แอตกินสันนั้นจะว่าไปผลงานถือว่าดีเลยทีเดียว ในยุคที่บิ๊กรอนคุมทีมนั้นเป็นยุคของ 2 มหาอำนาจเมืองลิเวอร์พูล (คือจะแย่งแชมป์กับ 2 ทีมนี้ยากมาก) กระนั้น 5 ฤดูกาลของบิ๊กรอน ก็ทำทีมเข้าป้ายอันดับ 3-4 ทุกฤดูกาล

1986-87
เซอร์อเล็กซ์นั้นเข้ามารับช่วงต่อจากบิ๊กรอน (รอน แอตกินสัน) หลังจากที่บอร์ดบริหารตะเพิดบิ๊กรอนหลังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ พาทีมจมรองบ๊วยของตาราง ในฤดูกาลแรกของป๋าเฟอร์กี้ ถึงแม้จะพาทีมจบอันดับ 11 แต่ในความรู้สึกของแฟนบอลก็คงเป็นเป็นบวก เพราะป๋าเป็นผู้ทำทีมให้หลุดพ้นจากการตกชั้นได้

1987-88
ถือว่าเป็นปีก้าวกระโดดของป๋า เมื่อทำทีมจากหนีตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อนเข้าป้ายอันดับ 2 ของลีก ถือเป็นอันดับสูงสุดในรอบหลาย ๆ ปี ซึ่งที่ 1 ก็ไม่ใช่ใคร คือลิเวอร์พูลนั่นเอง (ซึ่งตอนนั้นโคตรเก่ง โดนทิ้ง 9 แต้มแบบไม่เห็นฝุ่น จะคาดหวังว่าจะแย่งแชมป์คงยาก) ความรู้สึกของแฟนบอลคงรู้สึกเหมือนเจอคนที่เป็นความหวัง (ประมาณแฟนลิเวอร์พูลรู้สึกกับร็อดเจอร์สเมื่อปีก่อน) สถานการณ์เป็นบวกสุดสุด

1988-89
จากรองแชมป์ก็พลิกพลัน เมื่อป๋าเฟอร์กี้ทำได้เพียงพาทีมอยู่กลางตาราง (อันดับ 11) ความรู้สึกของแฟนบอลที่มาเต็มจากฤดูกาลก่อน เซ็งไปตาม ๆ กัน (คงประมาณแฟนลิเวอร์พูลรู้สึกกับร็อคเจอร์สช่วงต้นฤดูกาล) ผมคิดว่าคงมีทั้งแฟนบอลที่รู้สึกว่าป๋าเป็นของปลอมออกมาด่าส่วนหนึ่ง กับอีกพวกที่ยังเชื่อมั่นผลงานที่เห็นในฤดูกาลก่อน โดยความรู้สึกฤดูกาลนี้ต้องติดลบไปตามระเบียบ

1989-90
ปีที่เฟอร์กี้บอกว่าเป็นปีที่เค้าเกือบจะถูกไล่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมแมนยู เมื่อทีมยังหาฟอร์มรองแชมป์ไม่เจอและพาทีมจบอันดับแย่กว่าเดิมซะอีก (อันดับ 13) แฟน ๆ ต้องไม่พอใจแน่ เพราะก่อนหน้าที่ป๋าเฟอร์กี้จะมาคุมทีม แฟนบอลคุ้นชินกับอันดับต้นตารางมาโดยตลอด ผลงานที่ย่ำแย่ติดกัน 2 ฤดูกาลมันชวนให้คิดว่าปีที่ป๋าได้รองแชมป์นั้นมันแค่ฟลุ๊ค เดชะบุญที่สุดท้ายแล้วป๋าสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพติดไม้ติดมือมาได้ (ชนะคริสตัลพาเลซ 1-0 ในนัดแข่งใหม่ เป็นนัดประวัติศาสตร์ที่ถูกพูดถึงมากในตอนหลัง) ช่วยโฉลมใจแฟนบอลต่ออายุคุมทีมไปอีก 1 ฤดูกาล แน่นอนว่าความรู้สึกของแฟนบอลลบสุดขีด เหลือเพียงฟางเส้นสุดท้ายเท่านั้น...

(ไปอ่านฉบับเต็มได้ตามลิ้งค์ข้างบนนั่น)

ที่เป็ปเอาเข้ามาปีที่แล้วที่เห็นว่าเล่นไม่คุ้มค่าก็น่าจะเป็นโนลิโต้ ย้ายออกไปแล้ว บราโว่ก็ถือว่ายังไม่คุ้มแต่ไปเล่นให้ทีมชาติฟอร์มกลับมาดีอาจจะมาดีในพรีเมียร์ก็ได้ กุนโดกันซื้อความเก่งมาทั้งๆที่ยังบาดเจ็บถือไม้เท้าเข้ามาเล่นได้ไม่กี่นัดถือว่ายังไม่คุ้มตอนนี้ฟื้นตัวแล้วน่าจะเริ่มคุ้มในปีที่สอง สโตนได้ใช้งานไปมากในปีที่แล้วถือว่าคุ้มในการได้ใช้งานแต่ความสามารถยังต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นยังมีอนาคต เลรอยซาเน่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดในบรรดานักเตะที่นำเข้ามาปีที่แล้วถือเป็นกำลังในอนาคตข้างหน้าอีกหลายปี

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.