หลังจากไม่มีชื่อติดทีมชาติเยอรมันไปลุยศึกฟุตบอลโลก 'ลีรอย ซาเน่' ได้โอกาสเพียงเล็กน้อยใน 3 เกมแรกของฤดูกาลนี้ ก่อนที่ชื่อจะหลุดออกไปจากทีมในเกมกับนิวคาสเซิลที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมพีเอฟเอในฤดูกาลที่แล้วกันแน่?

         สถานการณ์ของทีมแชมป์เก่าแห่งพรีเมียร์ลีกไม่ได้แย่นักในฤดูกาลใหม่ แต่ดูเหมือนสถานการณ์ของปีกชาวเยอรมันเริ่มที่จะสั่นคลอนแล้วหลังจากได้โอกาสอันน้อยนิดจากสามเกมแรกในฤดูกาลใหม่นี้ และในเกมที่นิวคาสเซิลบุกมาเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชื่อของเจ้าตัวก็หายไปโดยไม่ติดแม้กระทั่งผู้เล่นสำรอง ก่อนที่ Goal จะรายงานว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่พอใจกับทัศนคติของดาวเตะวัย 22 ปี

โชคชะตากลับตาลปัตร

        เขาคือนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ เมื่อฤดูกาลที่แล้วหลังจากมีผลงานที่ดีตลอดทั้งฤดูกาลและทำ 10 ประตู 15 แอสซิสต์ในลีกให้กับทีม

        แต่ถึงอย่างนั้น โจอาคิม เลิฟ ก็ไม่เมินที่จะเรียกซาเน่มาสู่ทีมชาติเยอรมันชุดลุยศึกฟุตบอลโลก ทำให้เกิดข่าวลือว่ามีรอยร้าวเกิดขึ้นระหว่างเลิฟและซาเน่

        ถึงแม้เยอรมันจะมีตัวเลือกมากมายในแนวรุก แต่ก็ยากที่จะเชื่อว่านักเตะที่มีพรสวรรค์สูงขนาดนี้และกำลังเข้าฟอร์มสุดๆกลับไม่ติดทีมมาด้วยจะเป็นเหตุผลทางด้านฟุตบอลอย่างเดียว

        หลายคนเชื่อว่า ซาเน่ จะกลับมาเริ่มต้นอย่างร้อนแรงอีกครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ เนื่องการตัดสินใจของเลิฟจะทำให้ไฟในตัวของซาเน่คุกรุ่นยิ่งกว่าเดิม รวมการได้พักมาตลอดทั้งซัมเมอร์

        ราฮีม เสตอร์ลิง, ริยาด มาห์เรซ และ เบร์นาโด ซิลวา คือนักเตะตัวเลือกหลักทางริมเส้น ในขณะที่ ซาเน่ ต้องรอโอกาสที่จะลงจากม้านั่งสำรอง

        ถ้าไม่นับจังหวะที่เขาเลี้ยงบอลผ่านนักเตะ 4 คนในเกมกับวูล์ฟ ฟอร์มโดยรวมของเขานั้นน่าผิดหวังอย่างมากเมื่อได้โอกาสลงสนาม

        เป็นไปได้หรือไม่ว่าอะไรก็ตามที่เลิฟได้เห็น กำลังชัดเจนขึ้นกับกวาร์ดิโอล่า?

        หรือบางทีความผิดหวังจากการพลาดโอกาสไปฟุตบอลโลกได้กลายมาเป็นสิ่งรบกวนเขามากกว่าจะเป็นแรงกระตุ้น?

        "ความขยันมาก่อนพรสวรรค์ หากคนมีพรสวรรค์ไม่ขยันหมั่นเพียร" คือป้ายที่ติดหลาอยู่ที่แมนฯซิตี้

        มันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดหากจะกล่าวหาว่าซาเน่ขาดความพยายามเนื่องจากเราไม่ได้รู้รายละเอียดของสถานการณ์จริงๆ

        อย่างไรก็ตาม คติที่ว่าไว้ด้านบนคือปรัชญาหลักของกวาร์ดิโอล่า

        ใครก็ตามที่ได้ดูสารคดี 'All of Nothing' ทางช่อง Amazon Prime จะได้รู้ถึงความเข้มข้นจากกุนซือของทีมเรือใบที่ต้องการจากนักเตะของเขา

        ไม่มีใครกังขากับความสามารถของซาเน่ แต่ด้วยการถูกตัดชื่อเป็นเหมือนการโดนตบหน้าจากกวาร์ดิโอล่า นั่นหมายความว่าถ้าคุณมีความลังเลแม้แต่เล็กน้อยคุณก็จะต้องถูกลงโทษโดยการนั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง หรือ อาจจะที่นั่งบนสแตนด์เลยก็ได้

        อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะเป็นบททดสอบของการแสดงออกจากซาเน่ รวมถึงความสามารถในการจัดการผู้เล่นของกวาร์ดิโอล่าอีกด้วย

        ถึงแม้แมนฯซิตี้จะมีนักเตะให้หมุนเวียนอย่างเหลือเฟือ แต่ซาเน่ก็ดีเกินกว่าที่จะปล่อยออกไป

        โชเซ่ มูรินโย่ มักจะถูกวิจารณ์ถึงวิธีที่เขาจัดการกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

        แต่สถานการณ์ค่อนข้างจะแตกต่างกันเพราะว่าผลงานของแมนฯซิตี้นั้นดีกว่าทีมเพื่อนร่วมเมือง โอกาสกลับมาของซาเน่จะขึ้นอยู่กับกุนซือของเขามากพอๆกับตัวเขาเองที่ต้องพยายามมากขึ้นด้วย

        ถ้าสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนว่านักเตะระดับซาเน่จะต้องมีทีมที่เต็มใจที่จะจ่ายค่าตัวเขาอย่างแน่นอน แต่สาวกของทีมเรือใบสีฟ้าทุกคนน่าจะหวังที่จะได้เห็น ซาเน่ กลับมาตั้งใจเต็มที่และกลับมาลงสนามให้เร็วที่สุดมากกว่า

***********************************************************

Cr : fourfourtwo ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th