ภารกิจการทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาเป็นใหญ่ในเกาะอังกฤษได้สำเร็จอย่างงดงามนับตั้งแต่การเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2008 จาก ชีค มานซูร์ ผู้ใช้เงินไปมากมายดึงตัวนักเตะชั้นยอดเข้ามา และนี่คือ 10 อันดับนักเตะที่คุ้มค่าที่สุดในการเซ็นสัญญาในยุคของเศรษฐีจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

        การมาของ ชีค มานซูร์ และเงินหลายพันล้านของเขาเมื่อเกือบศตวรรษที่แล้วได้เปลี่ยนโฉม แมนฯซิตี้ จากทีมกลางตารางให้กลายมาเป็นหนึ่งในทีมที่มีลุ้นแชมป์ทุกปี และในตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงของถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก

        เงินจำนวนมากได้ถูกใช้จ่ายออกไปนับตั้งแต่ปี 2008 นักเตะบางคนก็เล่นได้เกินคุ้มค่าตัวและได้กลายมาเป็นตัวหลักของสโมสร

        นักเตะในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างเช่น ราฮีม สเตอร์ริง และ เลรอย ซาเน่ อาจจะเล็ดลอดเข้ามาในลิสท์นี้แต่ก็ยังเร็วเกินไปสำหรับตอนนี้ และนี่คือ 10 การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ ชีค มานซูร์

10. เจมส์ มิลเนอร์

ลงเล่น/ประตู : 203 เกม 18 ประตู

        ณ เวลานั้น ค่าตัว 24ล้านปอนด์ดูเหมือนจะเป็นราคาที่สูงเกินไปในการจ่ายให้กับนักเตะที่มีชื่อเสียงในด้านความขยันและสารพัดตำแหน่งมากกว่าการสร้างโมเมนท์วิเศษขึ้นมา แต่เจมส์ มิลเนอร์ก็พิสูจน์แล้วว่าค่าตัวของเขาคุ้มค่าทุกเพนนี

        มิลเนอร์มี 5 ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับทีมและยังมีส่วนช่วยให้ทีมเรือใบประกาศเอกราชขึ้นมาเป็นทีมใหญ่แห่งเกาะอังกฤษโดยการคว้า 4 แชมป์หลักกับทีมได้ นั่นรวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย

        เขาอาจจะไม่ใช่การซื้อที่ดูหรูหราหรือน่าสนใจที่สุดในยุคของท่านชีคแต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่สม่ำเสมอที่สุด

9. อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ

ลงเล่น/ประตู: 247 เกม 21 ประตู

        ระหว่างการค้าแข้งอยู่ 7 ปีในฟุตบอลอังกฤษ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เป็นนักเตะที่ผู้คนมักจะบอกไปในทางเดียวกันว่าเขาคือนักเตะที่เติมเกมรุกได้สุดยอดมากแต่ยังมีปัญหาในด้านเกมรับ

        อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แบ็คซ้ายชาวเซิร์บได้ย้ายออกจากถิ่นเอติฮัดในซัมเมอร์ปี 2017 ไปร่วมทีม โรม่า เขาได้กลายเป็นนักเตะที่ถูกรักและยังคิดถึงจากเหล่าซิติเซนส์ ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่เขามักจะทำประตูให้กับทีมได้บ่อยซึ่งทำให้แฟนๆไม่ได้คิดถึงตอนที่เขามักจะทำเกมรับพังมากนัก

8. เอดิน เซโก้

ลงเล่น/ประตู: 189 เกม 72 ประตู

        เอดิน เซโก้ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรในการหาฟอร์มการเล่นเดิมที่เขาเคยทำไว้ได้กับโวล์ฟบวร์ก แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากผ่านพ้นครึ่งฤดูกาลแรกกับทีมไปได้เขาก็หาฟอร์มเจอและได้กลายเป็นนักเตะหมุนเวียนในทีมที่มีประโยชน์อย่างมาก

        ในขณะที่เขามักจะตกอยู่ภายใต้เงาของ อเกวโร่ ในฐานะหัวหอกตัวจริงของทีม แต่เซโกก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาก็สำคัญไม่แพ้กองหน้าอาร์เจนไตน์ โดยในฤดูกาล 2013/14 เขายิงประตูให้ทีม 16 ลูกในลีกและช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

7. ไนเจล เดอ ยอง

ลงเล่น/ประตู: 137 เกม 2 ประตู

        เขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่เป็นที่ชื่นชมของทุกคน จะกล่าวแบบนี้ก็ไม่เกินจริงเกินไปหลังจากที่เขาได้สร้างชื่อเสียในการใช้แม่ไม้มวยไทยถีบเข้าใส่อกของซาบี้ อลอนโซ่เต็มๆฝ่าเท้าระหว่างที่เล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 กับสเปน

        ไนเจล เดอ ยอง เป็นนักเตะคนสำคัญในยุคของ โรแบร์โต้ มันฃินี่ โดยเฉพาะการเข้าบอลที่หนักหน่วงและเด็ดขาดของเขา ทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของห้องเครื่องในแผงกองหลังในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้

6. เฟอร์นานดินโย่

ลงเล่น/ประตู: 235 เกม 22 ประตู

        เแมนซิตี้ใช้เงิน 30 ล้านปอนด์เพื่อสู่ขอเขาออกมาจากยูเครนในปี 2013 ซึ่งในช่วงแรกการเล่นของเขายังค่อนข้างเสมอตัวไม่ได้ว้าวอะไรมากมาย ก่อนที่จะโดดเด่นขึ้นมาในฤดูกาลหลัง

        กองกลางแซมบ้าผู้นี้เป็นคู่หูเคียงข้าง ยาย่า ตูเร่ ในแผงกลางของซิตี้ที่เป็นหัวใจสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ และเขาก็ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่คว้าแชมป์ชนิดที่คะแนนขาดลอยได้ในฤดูกาล 2017/18

5. เควิน เดอ บรอยน์

ลงเล่น/ประตู: 142 เกม 35 ประตู

        นักเตะอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์เกมผู้ไปแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวที่เยอรมันกับ แวร์เดอร์ เบรเมน และ โวล์ฟบวร์ก หลังจากไม่ได้โอกาสจากเชลซี เดอบรอยน์กลับมาสู่ฟุตบอลอังกฤษในปี 2015 โดยการร่วมทีมแมนฯซิตี้ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรที่ 55 ล้านปอนด์

        หากไม่นับอาการบาดเจ็บ เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยี่ยมได้กลายมาเป็นหัวเรือหลักทันทีกับการกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งที่สองจากลูกจ่ายอันคมกริบและลูกยิงอันหนักหน่วง และเป็นส่วนสำคัญของทีมในฤดูกาลที่แล้วซึ่งเป็นฤดูกาลที่เป็นปรากฏการณ์ของทีม

        เดอบรอยน์ คว้า 2 ถ้วยให้กับทีมได้ในฤดูกาล 2017/18 และเกือบจะได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอแต่ก็เขาก็ได้เป็นลำดับสองรองจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 

4. คาร์ลอส เตเวซ

ลงเล่น/ประตู: 148 เกม 73 ประตู

        เขาคือนักเตะที่เปลี่ยนเกมให้กับแมนฯซิตี้อย่างแท้จริง เหล่าสาวกของทีมเรือใบสีฟ้าต้องอดทนจากการเหยียดหยามจากคู่ปรับของเขาอย่าง แมนฯยูไนเต็ด ที่เป็นใหญ่ในเกาะอังกฤษมาอย่างนาน แต่หลังจากที่ คาร์ลอส เตเวซ เข้ามาได้ยกระดับทีมพวกเขาไปอีกระดับ

        หลังกลายมาเป็นนักเตะตัวปัญหาในฤดูกาลสุดท้ายในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด เตเวซได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขานั้นคือของจริงและได้กลายเป็นหัวเรือหลักและกัปตันทีมก่อนที่จะคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ และ พรีเมียร์ลีก ให้กับทีมได้

3. ยาย่า ตูเร่

ลงเล่น/ประตู: 316 เกม 76 ประตู

        ถ้าพูดกันตามตรง คุณสามารถยก ยาย่า ตูเร่ เป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในยุคของท่านชีค เขาคือนักเตะระดับนั้น

        เขาเป็นนักเตะที่ใกล้เคียงกับ แพทริก วิเอร่า มากที่สุดในช่วง 2 ศตวรรษ ตูเร่ถูกเซ็นเพื่อเข้ามาเป็นกองกลางตัวรับจากบาร์เซโลน่า แต่เขาได้กลายร่างเป็นกองกลาง บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งในฤดูกาล 2013/14 คือปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองกลางชาวไอรอวี่โคสต์โดยเขาทำประตูได้ถึง 20 ประตูและทำให้แมนฯซิตี้คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งที่สองได้

        เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก และควรจะอยู่ลำดับสูงกว่านี้ถ้าหากเขาไม่ได้มีช่วงเวลาที่ต้องหลุดจากทีมไปในช่วงท้ายด้วยหลายๆเหตุผล และในตอนนี้ความสัมพันธุ์ของตูเร่กับทีมก็ได้สิ้นสุดกันเมื่อเขาตกลงที่จะย้ายออกไปร่วมทีม โอลิมเปียกอส

2. เซร์คิโอ อเกวโร่

ลงเล่น/ประตู: 295 เกม 204 ประตู

        เขาคือกองหน้าแห่งปรากฏการณ์อย่างแท้จริงและน่าจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ด้วยซ้ำถ้าหากไม่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่ตลอดเวลาในการค้าแข้งกับทีมเรือใบ

        เมื่อไม่กี่ปีก่อน อเกวโร่ คือกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดในพรีเมียร์ลีกและเขาก็ทำให้เกมรุกของซิตี้อันตรายอยู่เสมอ ไม่ว่าทีมจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาแล้วกี่คนแต่เขาก็ได้กลายมาเป็นนักเตะที่ยิงประตูให้กับทีมได้สูงสุดตลอดกาลและสถิติยังคงดำเนินต่อไป

        มีหลายโมเมนท์สำคัญที่เขาได้สร้างไว้ให้กับทีม แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าโมเมนท์ที่ดีที่สุดคือการยิงใส่ ควีนปาร์กเรนเจอร์ส ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2011/12 และทำให้แมนฯซิตี้เขี่ยแมนฯยูเข้าป้ายแชมป์พรีเมียร์ลีกไปในที่สุด

1. ดาบิด ซิลบา

ลงเล่น/ประตู: 348 เกม 62 ประตู

        มีนักเตะไม่กี่คนที่เราจัดอันให้อยู่สูงกว่า ตูเร่ และ อเกวโร่ ทั้งในด้านพรสวรรค์และอิทธิพลต่อทีม และ ดาบิด ซิลบา ก็คือคนนั้น เขาเป็นนักเตะที่เปรียบเหมือนคอนดักเตอร์แห่งวงออเคสตร้า ที่กำกับว่าแมนฯซิตี้จะเล่นโน้ตไหนในสนามจากการจ่ายบอลของเขา

        เขามีสถิติการทำประตูที่ 1 ลูกต่อการลงเล่น 5 เกมครึ่งซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจแต่ที่จริงแล้วการจ่ายบอลและคุมเกมของซิลบาต่างหากที่ทำให้เขาเป็นนักเตะอีกระดับ คงไม่น่าแปลกใจว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์ทางด้านเทคนิคมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

        ในขณะที่นักเตะคนอื่นอาจจะมีสถิติตัวเลขที่ดีกว่าในด้านการยิงประตูหรือแอสซิสต์ แต่สิ่งที่ทำให้ซิลบาคือสุุดยอดคือความสามารถในการฉีกแนวรับอย่างง่ายดายและเป็นอะไรที่ดูยังไงก็ไม่เบื่อตลอดเวลาที่เขาค้าแข้งอยู่ที่อังกฤษ

        เขาคือนักเตะที่เป็นที่รักอย่างมากจากสาวกทีมเรือใบ และไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องเสียหายเลย

***********************************************************

Cr : fourfourtwo ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th