Members

แปลกใจทำไมไม่เห็น? : ความยอดเยี่ยมที่ถูกมองข้ามของเรือใบสีฟ้าในฤดูกาลนี้

แปลกใจทำไมไม่เห็น? : ความยอดเยี่ยมที่ถูกมองข้ามของเรือใบสีฟ้าในฤดูกาลนี้

Pep Guardiola

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังพาทีมแมนฯ ซิตี้ มุ่งหน้ากวาดชัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ก็น่าแปลกใจที่ไม่มีใครให้ความสนใจความยอดเยี่ยมของทัพเรือใบสีฟ้ามากนัก โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรับ ฉะนั้นแล้ว ทางดาเนี่ยล สตอเรย์ จะมาอธิบายให้ทุกคนได้ทราบถึงความยอดเยี่ยมที่ถูกมองข้ามของเดอะ ซิติเซ่น



การเล่นเกมรุกย่อมเป็นสิ่งที่สนุกกว่าการเล่นเกมรับอยู่แล้ว มีเด็กๆ หลายคนที่จินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้ทำประตูได้ มากกว่าที่คิดว่าตัวเองสามารถเข้าสกัดการทำประตูได้ พวกเขาฝันถึงการเป็นผู้ที่พาทีมชนะเลิศการแข่งขัน ไม่ใช่เป็นคนที่ช่วงป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตูได้มากที่สุด ไม่เชื่อคุณก็ลองสำรวจคนเล่นเกมฟีฟ่าสัก 1,000 คนสิ พวกเขาเลือกเล่นในตำแหน่งกองหน้า หรือไม่ก็เพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 มากกว่าจะเป็นแบ็คขวาหรือปราการหลังตัวกลางแน่นอน

“ผมคิดว่าที่ผมคว้าแชมป์ได้ ก็เพราะกองหน้าของคู่แข่งไม่มีโอกาสได้ยิงไงล่ะ” นี่คือสิ่งที่ฟาบิโอ คันนาวาโร่ พูดไว้ในปี 2006 หลังจากที่เขาพาอิตาลีคว้าแชมป์โลก รวมถึงการคว้าบัลลงดอร์มาได้ แต่เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างที่พูดจริงๆ หรือเปล่า เพราะแฟนบอลมักจะให้ความสำคัญกับการทำประตูมากกว่าการป้องกัน และเมื่อเราย้อนไปรายชื่อผู้เคยคว้าบัลลงดอร์ตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1956 ก็ปรากฏว่ามีผู้เล่นเกมรับเคยได้รางวัลนี้แค่เพียง 4 คนเท่านั้น (นอกจากคันนาวาโร่ ก็มี เลฟ ยาชิน ยอดผู้รักษาประตูของสหภาพโซเวียต, ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ และมาติอัส ซามเมอร์ สองริเบโร่คนเก่งของทีมชาติเยอรมนี)

การที่แฟนบอลจะชอบนักเตะผู้เล่นเกมรุกมากกว่าผู้เล่นเกมรับจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย

Bernardo Silva

ทุกคนคือผู้ชนะ

แน่นอนว่าการเล่นเกมรับมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่หากคุณได้ชมการเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คุณก็จะรู้สึกตื่นเต้นไปกับการเล่นเกมรุกของพวกเขาทันที การพ่ายคาบ้านต่อลียงในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก เมื่อช่วงต้นฤดูกาล เป็นเหมือนการกระตุ้นให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตื่นจากความหลงระเริงในประสิทธิภาพของทีมตัวเอง เพราะนี่ยังไม่ใช่สิ่งที่กุนซือชาวสแปนิชพึงพอใจ แมนฯ ซิตี้ทำประตูได้ถึง 20 ลูก จาก 7 เกมหลังสุด ซึ่งจริงๆ ควรจะเป็น 21 ลูกด้วยซ้ำ หากริยาด มาห์เรซ ไม่พลาดจุดโทษในเกมกับลิเวอร์พูล และนั่นก็ทำให้ทัพเรือใบสีฟ้าพลาดการคว้าชัย 6 นัดติดไป

การเปลี่ยนแปลงในเกมรุกของแมนฯ ซิตี้ ถือเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจแฟนบอลมาก 15 ประตู ล่าสุดของพวกเขาเกิดจากผู้เล่นถึง 10 คน แม้แนวรุกของพวกเขาเกือบทั้งหมดจะเป็นชุดเดิม ต้องบอกเลยว่าแนวรุกของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นที่แล้วสร้างความหวาดผวาให้กับผู้จัดการทีมของคู่แข่งทุกคน ทัพเรือใบสีฟ้ามีกองหน้าอย่างอเกวโร่ที่รอสังหารประตูอยู่ในกรอบเขตโทษ มีตัวริมเส้นความเร็วสูงอย่างเลรอย ซาเน่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ของวิ่งหาช่องและฉีกกระชากฟูลแบ็คของคู่แข่ง มีตัวสร้างสรรค์โอกาสทักษะสูงที่พร้อมจะเติมขึ้นมาทำประตูเองอย่างดาวิด ซิลบา และ แบร์นาโด ซิลวา นอกจากนี้ คุณต้องไม่ลืมว่าเควิน เด บรอยน์ เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาได้ไม่นาน มิดฟิลด์หน้าแดงรายนี้แทบไม่ได้ลงสนามให้กับแมนฯ ซิตี้ แต่แนวรุกของพวกเขาก็ยังอันตรายมากๆ

สิ่งที่สำคัญคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถหลอมรวมนักเตะแนวรุกระดับซูเปอร์สตาร์ให้รู้ใจกันขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะมันถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องฟลุคสำหรับเขาแน่นอน เพราะเจ้าตัวก็เคยสร้างแนวรุกที่มีความเข้าใจกันและกันสูงมากมาแล้ว ในสมัยที่ทำงานกับบาร์เซโลน่า นอกจากนี้ กุนซือวัย 47 ปี ยังเปลี่ยนให้แมนฯ ซิตี้ เล่นด้วยระบบบอลสั้นที่สวยงามตามปรัชญาของโยฮัน ครัฟฟ์ ได้ ทั้งที่ไม่ได้มีนักเตะจากลา มาเซีย ที่ซึมซับปรัชญาการเล่นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เหมือนตอนสมัยทำทีมอาซูลกราน่าเลย นี่ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของกวาร์ดิโอล่าจริงๆ

แม้กวาร์ดิโอล่าจะยังทำได้ไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ใกล้เคียงแล้ว หลักการของเป๊ปเรียกร้องให้ผู้เล่นของซิตี้ต้องเรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนร่วมทีมในสนาม รวมถึงต้องคาดเดาได้ว่าเพื่อนร่วมทีมจะทำอะไรต่อไป นอกจากนี้อดีตกุนซือบาเยิร์น มิวนิค ยังเน้นการจ่ายบอลแบบสามเหลี่ยม เน้นการเร่งจังหวะผ่านบอลจนกว่าผู้เล่นของคู่แข่งจะเปิดพื้นที่ว่างให้นักเตะของตัวเอง หรือไม่ก็บีบให้นักเตะคู่แข่งต้องมีภาระรับผิดชอบมากเกินรับไหว ก่อนจะลงโทษในที่สุด ซึ่งการเล่นแบบนี้มันสร้างความตกตะลึงและตื่นตาตื่นใจให้กับผู้รับชมได้มากทีเดียว

แม้แฟนบอลของคู่แข่งจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีเกมรุกของทีมไหนในยุโรปเลย ที่น่ารับชมมากกว่าเกมรุกของเรือใบสีฟ้า ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงสามารถสานต่อผลงานจากปีที่แล้วได้ ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ สร้างสถิติการทำประตูไป 106 ลูกในลีก มากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก และฤดูกาลนี้ทีมแชมป์เก่าลีกสูงสุดแดนผู้ดีทีมนี้ก็มีโอกาสจะทำประตูได้ถึง 110 ลูก

ส่วนของเกมรับ

สิ่งที่ทำให้แฟนบอลแมนฯ ซิตี้ กลัวมากที่สุดคือ การที่ผู้เล่นเกมรุกของพวกเขาทำผลงานดีกว่าผู้เล่นเกมรับมากๆ แฟนบอลหลายคนเคลือบแคลงใจในคุณภาพเกมรับของซิตี้ ทั้งที่พวกเขาไม่ควรจะถูกตั้งแง่ในเรื่องคุณภาพเกมรับเลย ในฤดูกาลนี้ พวกเขาก็เสียประตูน้อยกว่าลิเวอร์พูล 1 ลูกหากนับรวมทุกรายการ และหารกนับเฉพาะแค่ในลีก พวกเขาเสียประตูแค่เพียง 3 ลูกเท่านั้น ที่สำคัญคือ มีไม่กี่ทีมหรอกที่สามารถกดให้แนวรับของเรือใบสีฟ้าต้องไปยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษได้ และหากคุณอยากให้ทีมรักทำได้แบบนั้น ก็คงต้องลองไปถามวิธีจากลิเวอร์พูลดู

นอกจากนี้ ลูกทีมของกวาร์ดิโอล่าก็ไม่เสียประตูในลีกมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเกมสุดท้ายที่พวกเขาเสียประตูคือเกมกับนิวคาสเซิลเมื่อวันที่ 1 กันยายน ถ้าหากคุณมองว่าแนวรุกของแมนฯ ซิตี้ แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรแล้ว เราก็ขอบอกว่า เกมรับของพวกเขานั้นยิ่งไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย

Pep Guardiola, Kevin De Bruyne

สถิติจากออพต้าระบุว่า แมนฯ ซิตี้ ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงแค่ 55 ครั้ง น้อยกว่าสเปอร์สถึงครึ่งหนึ่ง และปล่อยให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบแค่เพียง 16 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ขณะที่ทีมรองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงตรงกรอบถึง 44 ครั้ง นอกจากนี้ซิตี้ยังเปิดโอกาสให้คุณแข่งมีโอกาสทำประตูแบบเน้นๆ เพียง 5 ครั้งเท่านั้น จากการลงสนาม 9 เกม สถิติเหล่านี้คงสร้างความเซอร์ไพรส์ให้หลายๆ คน และแฟนบอลก็ควรจะเลิกสงสัยคุณภาพเกมรับของเดอะ ซิติเซ่นได้แล้ว

สำหรับผู้เล่นคนสำคัญของแผนการเล่นเกมรับนี้คือ อายเมริค ลาปอร์ต ซึ่งย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปราการหลังชาวฝรั่งเศสเป็นนักเตะที่ถนัดซ้าย และกวาร์ดิโอล่าก็มองว่าการมีเซนเตอร์แบ็คถนัดเท้าซ้ายนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อระบบการเล่นของเขา ที่นิยมขึ้นบอลจากแผงหลัง การที่อดีตดาวเตะของแอธเลติก บิลเบา ไม่ได้ติดทีมชาติฝรั่งเศสไปเล่นฟุตบอลโลกในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาก็ยิ่งทำให้เขาได้เรียนรู้การเล่นของทีมมากขึ้น และมีสภาพร่างกายที่พร้อมจะกรำศึกหนัก ในฤดูกาลนี้ลาปอร์ตเป็นนักเตะของแมนฯ ซิตี้ เพียงคนเดียวที่ได้ลงสนามครบทุกนาทีในลีก

ทางเลือกที่หลากหลาย

เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสำหรับกวาร์ดิโอล่าเหมือนกัน เพราะนอกจากลาปอร์ตแล้ว เขายังมีตัวเลือกในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คอย่างนิโคลัส โอตาเมนดี้ ที่ติดทีมยอดเยี่ยมของลีกฤดูกาลที่แล้ว ไหนจะแวงซองต์ กอมปานี กัปตันทีมอีก ซึ่งทั้งคู่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงไปแล้ว 3 นัด ส่วนจอห์น สโตนส์ ก็ได้ลงสนามไปแล้ว 5 นัด แต่หนึ่งในนั้นคือการไปเล่นแบ็คขวาในเกมกับเบิร์นลีย์ เนื่องจากไคล์ วอล์คเกอร์ และดานิโล่ ไม่สามารถลงเล่นได้

Vincent Kompany

ดูเหมือนว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะวางให้สโตนส์ กับ ลาปอร์ต เป็นคู่เซนเตอร์แบ็คในอนาคตของทีม แต่การแข่งขันเพื่อตำแหน่งในทีมก็ทำให้ทุกคนต้องมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต่อไป ซึ่งทางโจเซ่ มูรินโญ่ อาจจะมองว่าคู่ปรับของเขาโชคดีที่มีปราการหลังชั้นยอดถึง 4 คน แต่กุนซือของแมนฯ ซิตี้ ก็คงจะโต้กลับไปว่า ที่เซนเตอร์แบ็คของเขามีคุณภาพ ก็เพราะเกิดจากการสั่งสอน ไม่ใช่การตำหนิออกสื่อ หรือดรอปออกจากตำแหน่งทุกครั้งที่ก่อความผิดพลาด

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของแมนฯ ยูไนเต็ด เคยกล่าวไว้ว่า “เกมรุกจะทำให้คุณชนะ แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์” แต่กับแมนฯ ซิตี้ ดูเหมือนว่าเกมรุกของพวกเขาจะยอดเยี่ยมเสียจนกลบความผิดพลาดที่เกิดจากเกมรับจนมิด แต่ถ้าหากกวาร์ดิโอล่าต้องการจะพาทีมสีฟ้าของเมืองแมนเชสเตอร์คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เขาคงต้องนำคำพูดของอดีตกุนซือของแมนฯ ยูไนเต็ด มาไตร่ตรองให้ดี และต้องทำให้ทีมมีสมดุลมากกว่านี้ให้ได้

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr..fourfourtwo ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th


Views: 1013

Reply to This

Replies to This Discussion

ยังไม่ค่อยวางใจนักกับเกมรับเรือใบ

สภาพสองปีก่อน ที่ทีมเราบุกรุกลุยกำลังเพลิน

เจอฝั่งเขาสวนกลับมาทีเดียวดันเป็นประตู ยังหวาดไม่หาย

แต่ไม่โทษกองหลังหรอกนะ

สภาพทีมที่เป๊บสั่งให้ทุกตำแหน่งเน้นบุก สนับสนุนเกมรุก สร้างโอกาสทำประตูให้มาก

ถ้าจะโดนสวนกลับเสียประตูให้มันเสียไป แต่กองหน้าอย่าใช้โอกาสเปลือง

ยิงให้มากกว่าที่เสีย ยังไงเราก็ชนะ !!!

โดนสวนตรงเป็นตุงไม่กลัว กลัวกองหน้าใช้โอกาสเปลืองมากกว่านะฮ้า...

ถ้าเทียบสถิติแล้ว ปีนี้เรือเสียประตูน้อยมาก และเกมรุกก็ยิงประตูได้เยอะมาก

แต่สถิติเหล่านี้ ไม่เข้าหูเข้าตาของเหล่ากูรู คอลัมนิสต์สื่อกีฬายักษ์ใหญ๋ของไทย ที่นิยมอวยเหล่าผี หงส์เป็นอาจิณ

นั่งมอง สื่อกีฬาในบ้านเราเลือกทีม เชียร์ กันหมดแล้ว...ยกเว้น ที่จะมาเลือกเชียร์ทีมแมนซิ ข่าวคราวของทีมเรา แทบจะไม่มีออกมาให้เห็นเลย ถึงมีก้อมีอย่างเสียไม่ได้ น้อยจริง ๆ ข่าวคราวความเคลื่อนไหว การวิเคราะห์เกมส์ แทบจะไม่มีเลย น่าสมเพทสื่อเลือกข้างที่ไม่สมกับที่เป็นสื่อ... กำ...

 "สีฟ้า" ไม่ถูกใจสื่อเลือกข้าง..

..ถ้า"สีแดง" ใช่เลย หลับหูหลับตาเชียร์ซ้ำซากก็ได้..

.. บู๋ กับ แจ๊ก จัดให้ได้ทุกเวลา !?!

เราไม่ค่อยได้สัมผัส พอมาเจอความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เราอาจไม่ทันได้คิดครับ อิอิ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.