Members

View All

"เรือ"แสดงให้'หงส์'เห็นแล้วว่าไม่ยอมบอกลาแชมป์โดยไม่สู้

เกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยมลงเอยด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 หยุดสถิติไร้พ่ายของลิเวอร์พูลและทำให้การลุ้นแชมป์กลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง

แซร์คิโอ อเกวโร่ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดเมื่อเล่นเกมเหย้าเจอลิเวอร์พูลหลังก่อนหน้านี้ยิงตลอด 6 นัดที่เอติฮัด สเตเดี้ยมในการเจอกับ"หงส์แดง"และเขาก็เพิ่มสถิติเป็น 7 นัดจากเกมเมื่อคืนนี้หลังยิงเบิกร่องในช่วงท้ายครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลตามตีเสมอได้สำเร็จจากโรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่แต่ไม่นานหลังจากนั้นเลรอย ซาเน่ก็มาพังประตูชัยให้ทีมเจ้าบ้านได้สำเร็จ

สตาร์เด่น - แฟร์นานดินโญ่

ฟอร์มที่สุดยอดของแฟร์นานดินโญ่แสดงให้เห็นเลยว่าซิตี้ขาดอะไรไปในช่วงที่เขาลงเล่นไม่ได้สำหรับความปราชัยต่อคริสตัล พาเลซและเลสเตอร์ ซิตี้เมื่อเดือนก่อน

จอห์น สโตนส์และอิลคาย กุนโดกันไม่สามารถทดแทนเขาได้ นั่นทำให้เขาและเอแดร์สันกลายมาเป็นสมาชิกที่ซิตี้ขาดไม่ได้อย่างแท้จริงในตอนนี้

ซิตี้ลุยเข้าใส่ลิเวอร์พูลตั้งแต่ต้นเพื่อข่มขวัญคู่แข่งแย่งแชมป์และเป็นแฟร์นานดินโญ่ที่คอยขับเคลื่อนทีมจากแดนกลาง

มีเพียงแบร์นาร์โด้ ซิลวาคนเดียวในทีมของซิตี้ที่วิ่งมากกว่าเขาและแฟร์นานดินโญ่ยังเข้าแท็คเคิลไปอีก 4 ครั้งด้วย

จุดอ่อน - เดยัน ลอฟเรน

ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อซัมเมอร์ ลอฟเรนออกมาบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในปราการหลังที่เก่งที่สุดของโลกและท้ายที่สุดโครเอเชียก็ถูกฝรั่งเศสยิงไป 4 ลูก

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ลอฟเรนก็พูดถึงโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ไร้พ่ายเหมือนอย่างอาร์เซน่อลในฤดูกาล 2003-04 แต่โชคไม่ดีที่เขาอยู่ในทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ที่ปราชัยในท้ายที่สุด

สำหรับประตูแรก เขาประกบแซร์คิโอ้ อเกวโร่ห่างเกินไปจนดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่ามีพื้นที่และเวลาจบสกอร์ผ่านมืออลิสซอน เบ็คเกอร์ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย

เขายังถูกใบเหลืองหลังเข้าสกัดหนักใส่อเกวโร่ในครึ่งเวลาแรกและเขาก็ไม่แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นเหมือนคู่หูอย่างเวอร์กิล ฟาน ไดจ์คเลย

ช่วงสำคัญ - โกลไลน์เซฟซิตี้

ช่วงต้นเกมเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกเมื่อแฟนบอลซิตี้โห่ทุกครั้งที่ผู้เล่นของลิเวอร์พูลได้บอล มันต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่ทั้ง 2 ทีมจะหาโอกาสทำประตูแบบจะแจ้งได้

จากนั้นแนวรุกของลิเวอร์พูลก็แผลงฤทธิ์ในนาทีที่ 17 ของการแข่งขันเมื่อโมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ผ่านบอลให้ซาดิโอ มาเน่เข้าไปยิงชนเสาเต็มๆ

บอลกระดอนออกมาและเป็นจอห์น สโตนส์ที่พยายามเข้าไปเคลียร์แต่ไปชนเอแดร์สันก่อนบอลกระเด้งกลับมาหาประตูของพวกเขาเอง

สโตนส์เคลียร์บอลออกไปได้ในท้ายที่สุดและเทคโนโลยีโกลไลน์ก็แสดงให้เห็นว่าบอลยังไม่ข้ามเส้นไปทั้งใบแม้ว่าจะเหลืออีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น

เซอร์ไพรส์ - ตำแหน่งของลาปอร์ต

นับตั้งแต่ย้ายมาจากแอธเลติก บิลเบาเมื่อเดือนมกราคม อายเมริค ลาปอร์ตก็ผลักดันตัวเองจนเป็นกำลังหลักในแนวรับของซิตี้

ลาปอร์ตได้ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัดในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้เว้นแต่เกมกับวัตฟอร์ดโดยลงยืนเป็นปราการหลังตัวกลางฝั่งซ้ายในทุกเกม

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือเขาถูกโยกมายืนแบ็คซ้ายสำหรับหนึ่งในเกมใหญ่สุดในฤดูกาลของซิตี้เมื่อเป๊ป กวาร์ดิโอล่าไม่ไว้ใจโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้หรือดานิโล่ที่ถนัดเท้าขวาในการรับมือกับซาล่าห์

มันเข้าใจได้ที่เขาดูเล่นไม่สบายในหลายจังหวะ มีการจ่ายบอลแบบไม่ระวังและถูกใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งเวลาแรกแต่โดยรวมแล้ว ลาปอร์ตก็โชว์ฟอร์มไว้ใจได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเข้ามาอุดช่องว่างยามที่ทีมต้องการได้

มันมีความหมายอย่างไรกับการลุ้นแชมป์?

หากลิเวอร์พูลชนะ พวกเขาจะทิ้งห่างซิตี้ไกลลิบถึง 10 คะแนนแต่จากผลการแข่งขันที่ออกมากลับเป็นว่าทีมของกวาร์ดิโอล่าบีบช่องว่างมาเหลือเพียง 4 แต้มเท่านั้น

ซิตี้ทำคะแนนแซงหน้าท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์กลับมาเป็นรองจ่าฝูงของตารางและแน่นอนว่าการแข่งขันแย่งแชมป์ในตอนนี้กลับมาเปิดกว้าง!

///////////////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.soccersuck. ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

4 members like this