ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563
ไบรท์ตัน 0 - 5 แมนฯ ซิตี้
สนาม : ดิ เอเม็กซ์
นาทีที่ 4 ไบรท์ตัน เปิดเกมรุกเข้าใส่แมนซิตี้ มาร์ติน มอนโตย่า ได้ขึ้นไปเปิดบอลทางฝั่งขวายัดเข้าไปในเขตโทษหวังไปให้ อารอน คอนนอลลี่ แต่ถูก เอริค การ์เซีย ใช้ความแข็งแกร่งเบียดโหม่งตัดบอลออกไปได้พ้นเขตอันตราย
นาทีที่ 6 กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าชาวบราซิลของเรือใบสีฟาได้ส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษไบรท์ตันแต่ทิศทางไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 16 แมนซิตี้ ได้จังหวะจบสกอร์ จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ แทงบอลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดขึ้นไปสุดริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนมาให้ เบนจามิน เมนดี้ ที่เติมขึ้นมากดเต็มข้อแต่ดันไปติดบล็อกแข้งเจ้าถิ่นออกหลังไป
แมนซิตี้ ทำประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 นาทีที่ 21 เริ่มจาก ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลเกือบครึ่งสนามทางฝั่งขวาไปเข้าหัว กาเบรียล เชซุส บริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะโขกตั้งให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่บรรจงแต่งบอลเข้าเท้าขวาแล้วกดเต็มข้อบอลพุ่งเลียดเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม หมดปัญญาของ แม็ทธิว ไรอัน นายด่านเจ้าบ้านที่พุ่งสุดตัวจะรับถึง
นาทีที่ 25 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นบ้าง เบอร์นาร์โด้ มีโอกาสซัดในกรอบเขตโทษแมนซิตี้แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 27 เรือใบสีฟ้ายังคงโหมบุกอย่างหนัก โรดรี้ ได้ตะบันไกลเกือบ 30 หลาแต่ทิศทางไม่ดีเหินข้ามคานออกไปเช่นกัน
นาทีถัดมา ราฮีม สเตอร์ลิง ไหลบอลไปให้ กาเบรียล เชซุส ในกรอบเขตโทษไบรท์ตันทางฝั่งขวาก่อน เชซุส จะได้หวดเต็มข้อแต่บอลดันไปติดบล็อกแข้งเจ้าถิ่นกระดอนออกไปพ้นเขตอันตราย
นาทีที่ 32 แมนซิตี้ ยังคงสร้างโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม เควิน เดอ บรอยน์ ตักบอลโด่งเลยไปเข้าหัว เชซุส ที่พยายามถอยหลังมาโขกเลยบังคับทิศทางไม่ได้ส่งผลให้บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 36 กาเบรียล เชซุส ใช้ความเร็วกระชากบอลเข้าไปกดเน้นๆ ในกรอบเขตโทษบอลพุ่งไปชนคานอย่างจังออกไป
นาทีถ้ดมาแมนซิตี้หวิดได้ประตูที่สอง เมื่อ เชซุส ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลบแข้งไบรท์ตันก่อนไหลบอลไปให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ตั้งป้อมเลือกมุมแปเน้นๆ แต่เจ้าตัวดันยิงหลุดออกเสาไกลไปแบบสุดเสียดาย
นาทีที่ 39 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นทางประตูเหมือนกัน ปาสกาล กรอสส์ เปิดบอลไปเข้าหัว เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ยืนอยู่แบบไร้ตัวประกบได้กระโดดโหม่งเต็มๆ แต่ทิศทางยังไม่ได้บอลหลุดออกข้างเสาไปไม่ถึงหลา
ท้ายเกมนาทีที่ 44 แมนซิตี้ ได้ประตูนำห่าง 2-0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่เปิดบอลโค้งมาเข้าหัว โรดรี้ ได้โขกตั้งไปทางเสาไกลให้ กาเบรียล เชซุส ที่วิ่งสอดหลุดขึ้นมาใช้เท้าซ้ายแหย่บอลเข้าไปแบบจ่อๆ ไม่เหลือซาก
จบครึ่งแรก แมนซิตี้ บุกมานำ ไบรท์ตัน อย่างสบายเกือก 2-0
มาลุ้นต่อครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น มาถึงนาทีที่ 51 แมนซิตี้ ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งเข้ามาหวดเต็มๆ บอลลอยข้ามกำแพงแข้งเจ้าถิ่นก่อนมุดโค้งลงทำท่าจะเสียบโคนเสาแต่ดันไปชนเสาอย่างจังในจังหวะแรก
นาทีที่ 53 เรือใบสีฟ้านำห่าง 3-0 จากจังหวะทำเกมสุดคลาสสิกเริ่มจาก ราฮีม สเตอร์ลิง พาบอลโต้กลับขึ้นมาก่อนส่งให้ เควิน เดอ บรอนย์ แล้วไหลต่อไปที่ ริยาด มาห์เรซ ทางฝั่งขวาเจ้าตัวเงยหน้าเล็งเป้าหมายแล้วตัดบอลโค้งไปที่จุดนัดพบให้ สเตอร์ลิง ที่รอยืนโขกแบบจ่อๆ
นาทีที่ 57 แมนซิตี้ได้ประตูนำ 4-0 จากจังหวะซัดกลางกรอบเขตโทษของด้วยเท้าซ้ายของ แบร์นาโด้ ซิลวา บอลไปตรงตัว แม็ทธิว ไรอัน ทำท่าจะรับไว้ไม่มีอะไร แต่เจ้าตัวดันรับไม่อยู่บอลกระฉอกออกมาถูก กาเบรียล เชซุล ตามเข้ามาซ้ำแต่ ไรอัน ยังตามมาบล็อกไวได้ ซ้ำร้ายบอลไม่เป็นใจกระดอนไปเข้าทาง แบร์นาโต้ ซิลวา วิ่งเขามาแปเข้าไปไม่พลาด
ผ่านมาถึงนาทีที่ 77 ไบรท์ตัน ที่นานๆ ครั้งได้ตอบโต้ขึ้นมาทีบอลมาอยู่ที่ อาลีเรซ่า ยาฮานบัคช์ กระชากพามาทางฝั่งขวาก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่ไปเข้ามือ เอแดร์ซอน โมราเอส รับไว้ไร้ปัญหา
นาทีที่ 78 แมนซิตี้หวิดได้ประตูที่ 5 ดาบิด ซิลบา เปิดบอลไปให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดเข้าไปหักหลอก แม็ทธิว ไรอัน นายด่านเจ้าบ้าน แต่ มาห์เรซ ดันยิงไม่ดีบอลไปเข้าข้างตาข่ายทำเอาเจ้าตัวที่มีโอกาสมากมายในเกมนี้ออกอาการสุดเสียดาย
จนแล้วจนรอดนาทีที่ 81 แมนซิตี้นำขาดลอยเป็น 5-0 จากจังหวะเปิดบอลในฝั่งตัวเองของ ดาบิด ซิลบา ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้กระดกบอลหลบแข้งไบรท์ตันก่อนเจ้าตัวจะตามไปเบียดแย้งกับ อดัม เว็บสเตอร์ กองหลังเจ้าถิ่นเหมือนทั้งฝีเกือกกับโชคชะตาจะตกมาอยู่ฝั่งเรือใบบอลตกมาใส่หัว สเตอร์ลิง ที่ล้มลงแล้วกลิ้งรอดขา แม็ทธิว ไรอัน เข้าไป และกลายเป็นแฮตทริกของดาวยิงทีมชาติอังกฤษในเกมนี้อีกด้วย
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม แมนซิตี้ บุกมาถล่ม ไบรท์ตัน ยับเบิน 5-0 คว้าสามแต้มสำคัญพร้อมการันตีจบฤดูกาลในตำแหน่งรองแชมป์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
//////////////////////////////////////////////////////////////////
CR .siamsport
Tags:
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by