วันแข่ง : วันพุธ ที่ 6 มกราคม 2564

เวลา : 02.45 น.

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนฯยู

02/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

30/12/20 ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

26/12/20 เสมอ เลสเตอร์ 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

24/12/20 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน) ลีก คัพ

21/12/20 ชนะ ลีดส์ 6-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

แมนฯซิตี้

04/01/21 ชนะ เชลซี 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

27/12/20 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

23/12/20 ชนะ อาร์เซน่อล 4-1 (เยือน) ลีก คัพ

19/12/20 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

16/12/20 เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

13/12/20 แมนฯยู เสมอ แมนฯซิตี้ 0-0

09/03/20 แมนฯยู ชนะ แมนฯซิตี้ 2-0

30/01/20 แมนฯซิตี้ แพ้ แมนฯยู 0-1 / ลีก คัพ

08/01/20 แมนฯยู แพ้ แมนฯซิตี้ 1-3 / ลีก คัพ

08/12/19 แมนฯซิตี้ แพ้ แมนฯยู 1-2

วิเคราะห์ก่อนเกม

แมนฯยู

          ฝั่งเจ้าบ้าน แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ในลีกสดๆ ร้อนๆ ช่วงปีใหม่  กับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เอดินสัน กาวานี่ หัวหอกเลือดอุรุกวัยที่ติดโทษแบน 3 นัดจากทางสมาคม เช่นเดียวกับ มาร์กอส โรโฮ ฟูลแบ็คอาร์เจนไตน์ซึ่งเดี้ยงอยู่เดิม คาดว่า โซลชาร์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-1-2 โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ควงคู่ล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ บรูโน่ แฟร์นานเดส รับบทเพลย์เมคเกอร์คอยสร้างสรรค์โอกาสจากด้านหลัง

แมนฯยู (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - อารอน วาน-บิสซาก้า, อีริก ไบญี่, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็กโตมิเนย์, เฟร็ด, ปอล ป็อกบา - บรูโน่ แฟร์นานเดส - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด

แมนฯซิตี้

          ฝั่งทีมเยือน แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะบุกเอาชนะ เชลซี 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนัดนี้ จะไร้เงา กาเบรียล เฮซุส, อีริก การ์เซีย, ไคล์ วอร์คเกอร์, เอแดร์ซอน โมราเอส, เฟร์ราน ตอร์เรส และ ทอมมี่ ดอยล์ เหล่าบรรดาแข้งติดเชื้อโควิด-19 คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ ริย๊าด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ กับ ฟิล โฟเด้น เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์โอกาสอยู่แนวหลัง

แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : แซ็ค สเตฟเฟ่น - เชา คานเซโล่, รูเบ็น ดิอาส, จอห์น สโตนส์, เบ็นจามิน เม็นดี้ - แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกาน - ริย๊าด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ทรรศนะ 

      จากที่ได้นั่งชมทั้งสองเกมของทั้งสองทีม ต้องบอกว่าแมตช์ล่าสุดของ แมนฯซิตี้ ที่สามารถเอาชนะ เชลซี 3-1 เล่นได้น่ากลัวและลงตัวทุกตำแหน่ง ทั้งนี้ต้องชื่นชมแทคติกของ เป๊ป ที่เล่นงานแนวรับคู่แข่งได้อย่างเฉียบคม ขณะเดียวกันทางด้านของ แมนฯยู แม้จะฟอร์มแรงต่อเนื่องเครื่องติดแล้วก็จริง แต่การลงบู๊ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แล้วมาเล่นรับเพื่อรอโต้กลับ อาจไม่ใช่คาแร็กเตอร์ที่พวกเขาทำได้แน่นอน เพราะสไตล์ถนัดคือเปิดเกมรุกเข้าใส่คู่แข่ง ฉะนั้นยิ่งเข้าทางอาคันตุกะซึ่งชอบเล่นกับพื้นที่สุดท้ายของฝ่ายตรงข้ามสุดๆ เชื่อว่าเรตที่เปิดมาครึ่งเม็ดกับศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ยังไงก็ต้องต่อสถานเดียว จัดไปครับ "เรือใบสีฟ้า"

ผลการแข่งขันที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-1

ที่มา https://livescorethai.net/post/716