การก้าวเข้ามาสู่สังคมไทยของ ไอพีทีวี หรือ ทีวีจากท่อ นั้นนับเป็นผลพวงจากการพัฒนาการให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์กระจายเข้าสู่บ้านเรือนได้อย่างกว้างขวาง และด้วยกลไกการแข่งขันที่ดีทำให้ผู้ให้บริการต่างต้องเร่งพัฒนาคุณภาพและ อัตราเร็วข้อมูลของบริการบรอดแบนด์ให้เร็วยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นผลให้สัญญาณทีวีที่โดยปรกติจะถูกส่งมาทางอากาศซึ่งมักจะถูกรบกวนให้เสีย รูปได้ง่าย ได้ถูกเปลี่ยนให้วิ่งมายังครัวเรือนต่างๆ ทางท่อ(บรอดแบนด์) แทน ทั้งนี้ โดยอาศัยจุดเด่นที่ท่อนำข้อมูลบรอดแบนด์สามารถรองรับการวิ่งผ่านของข้อมูล ด้วยความเร็วสูงกว่าวิ่งในอากาศ จึงสามารถส่งข้อมูลทีวีได้ละเอียดยิ่งขึ้นทำให้สัญญาณทีวีที่ได้รับมีคุณภาพ สูงขึ้น ภาพมีความคมชัดระดับดีวีดีหรือเอชดีทีวี ระบบเสียงแบบไฮไฟ และมากไปกว่านั้นคือยังสามารถใช้บริการอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ระบบไอพีผ่าน อุปกรณ์รับสัญญาณไอพีทีวีได้อีกด้วย


ไอ พีทีวี คือระบบเคเบิลทีวี (CATV) ชนิดหนึ่งที่สัญญาณหรือข้อมูลทีวีในรูปแบบดิจิตอลจะถูกส่งมาตามท่อบรอดแบนด์ และจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ดักรับข้อมูลจากท่อบรอดแบนด์เพื่อนำมาแปลงเป็นสัญญาณ สำหรับทีวีที่บ้านอีกที ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นเคยกับเคเบิลทีวีแบบต่างๆ ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ เคเบิลทีวีผ่านดาวเทียม (DTH, UBC) และอีกแบบคือเคเบิลทีวีผ่านสายเคเบิลแบบโคแอกเซียล (coaxial) ซึ่งให้บริการเฉพาะในบางพื้นที่ เช่น คอนโด หมู่บ้าน เมื่อเราสมัครเป็นสมาชิกไอพีทีวีแล้ว บริษัทก็จะเชื่อมต่อสายโทรศัพท์มาให้ที่บ้านพร้อมด้วยกล่องรับสัญญาณที่ เรียกว่า ไอพีทีวีเซ็ตท๊อปบ๊อก (IPTV Set-top-box) หรือในชื่อ เคเบิลหรือไอพีทีวีโมเด็ม(Cable/IPTV modem) ข้อมูลทีวีที่ถูกส่งผ่านทางท่อบรอดแบนด์นั้นจะอยู่ในรูปของแพ็กเก็จไอพี (IP packets) บนมาตรฐานของอินเตอร์เน็ต ซึ่งอำนวยให้เกิดการสื่อสารแบบสองทาง(Interactive) ระหว่างผู้ใช้และผู้ให้บริการ ผู้ชมรายการทีวีสามารถสื่อสารกับผู้ให้บริการได้ผ่านทางเมนูบนหน้าจอทีวี จึงถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ไอพีทีวีแตกต่างจากระบบเคเบิลทีวีทั้งแบบ ผ่านดาวเทียมและผ่านสายเคเบิลโคแอกเซียล ซึ่งผู้ใช้จะรับชมรายการทีวีได้อย่างเดียว ไม่สามารถเลือกสั่งภาพยนต์ (Video on demand) หรือรายการต่างๆ ผ่านทางเมนูบนหน้าจอได้ การที่ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับผู้ให้บริการนี่แหละจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ ระบบเคเบิลทีวีในยุคใหม่นี้ ซึ่งต้องถือว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จของเทคโนโลยีบรอดแบนด์นั่นเอง ปัจจุบัน มีการดูทีวีจากอินเตอร์เน็ตได้โดยครงไม่ต้องใช้กล่องรับสัญญาณเพิ่มเติม อันนี้ไม่ใช่ไอพีทีวีแต่เป็น “อินเตอร์เน็ตทีวี” ความคมชัดจะมีคุณภาพต่ำอันเป็นผลมาจากการบีบอัดสัญญาณให้ข้อมูลเล็กมาก ดังนั้น ไอพีทีวีกับอินเตอร์เน็ตทีวีนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงน้ะครับ ขอเน้นว่าไอพีทีวีอาศัยเพียงมาตรฐานการส่งข้อมูลแบบไอพีเท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งข้อมูลผ่านไปในโลกอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด ดังนั้น ระบบนี้จึงจัดว่าเป็นระบบปิดที่มีการเชื่อมต่อเฉพาะระหว่างผู้ให้บริการกับ ผู้ชมเท่านั้น ผู้ที่อยู่นอกวงเครือข่ายจึงไม่สามารถชมรายการได้ เครือข่ายไอพีทีวีประกอบด้วยสามส่วนหลัก (ดูรูป) ได้แก่ ผู้ให้บริการทำหน้าที่สร้างเนื้อหารายการ แล้วทำการบีบอัดสัญญาณทีวี (Coding) และแปลงให้เป็นสายธารข้อมูล (Streaming) และส่งผ่านเครือข่ายเส้นใยแก้วไปยังชุมสายกระจายสัญญาณซึ่งปรกติจะตั้งอยู่ ที่สำนักงานชุดสายโทรศัพท์เพื่อทำหน้าที่กระจายข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ไปสู่ บ้านผู้รับชมการเชื่อมต่อระหว่างชุมสายกับบ้านลูกค้าเป็นบรอดแบนด์ ADSL ผ่านทางสายโทรศัพท์บ้านธรรมดาๆ คุณภาพของภาพและเสียงสามารถเป็นได้ตั้งแต่แบบธรรมดาไปจนถึง HDTV ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบีบอัดข้อมูลว่าเป็นแบบ MPEG2 หรือ MPEG4 เนื่องจาก Set Top Box เป็น ADSL โมเด็มชนิดพิเศษอยู่แล้วที่มีหน้าที่ถอดรหัสข้อมูลที่ไหลเข้ามาเพื่อนำไป แสดงบนทีวีของเรา ของแถมที่ได้ก็คือ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและโทรศัพท์ผ่านไอพี (VOIP) ฟรี ซึ่งเราสามารถใช้งานได้แม้ในขณะที่ชมรายการทีวีอยู่ ได้มีการคาดการณ์ว่าการใช้งานไอพีทีวีทั่วโลกจะเติบโตถึง 10 เท่าภายใน 4 ปีนี้ ในบ้านเราก็มีผู้ที่ให้บริการแล้วไอพีทีวี จึงถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของเทคโนโลยีบรอดแบนด์ที่ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ได้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาไปอย่างมากในปัจจุบัน

Credit : http://technoforlife.ning.com/profiles/blogs/3576352:BlogPost:11640