ข้อมูลจาก: breakupnotifier

 

MS เปิดให้ดาวน์โหลด Win7 SP1 แล้ว

เมื่อวานนี้ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศว่า ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลด Windows 7 Service Pack 1 จากทาง Microsoft Download Center ได้แล้ว อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ใช้ที่อัพเดตพีซีของตนเองทาง Microsoft แนะนำให้ใช้ช่องทาง Windows Update แทนการดาวน์โหลดตัวติดตั้ง Windows 7 SP1 จะสะดวกกว่า

"พึงระลึกว่า สำหรับ Windows 7 SP1 จะเป็นชุดอัพเดตส่วนการทำงานต่างๆ ของพีซี โดยอัพเดตส่วนใหญ่จะรวบรวมจาก Windows Updates ที่ให้บริการก่อนหน้านี้" ไมโครซอฟท์ย้ำในบล็อก "อย่างไรก็ก็ตาม มันได้มีการเพิ่มส่วนสนับสนุนการทำงานในฝั่งไคลเอ็นต์อย่างเช่น RemoteFX และ Dynamic Memory ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่สำหรับการทำงานร่วมกับระบบ Virtualizatin (เหมาะสำหรับองค์กร) บน Windows Server 2008 R2 SP1" หากพิจารณาภาพรวมของ SP1 แล้ว ประโยชน์สำหรับผู้ใช้พีซีตามบ้านดูอาจจะมีไม่มากนัก โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ได้อัพเดตระบบอยู่เป็นประจำ

ใน ส่วนของ Dynamic Memory จะเปิดโอกาสให้ระบบแอดมินของ Windows Server Hyper-V สามารถเพิ่มจำนวน VM ได้โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสมรรถนะการทำงาน ตลอดจนการขยายระบบ และความปลอดภัย ส่วน RemoteFX จะเป็นการใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU บนเซิร์ฟเวอร์ให้สามารถส่งคอนเท็นต์มัลติมีเดีย และ 3D ไปบนไคลเอ็นต์ที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพการทำงานทางด้านกราฟิกสูงมากได้ ขนาดไฟล์ของ SP1 ประาณ 537.8MB (เวอร์ชัน 32 บิต) และ 903.2MB (เวอร์ชัน 64 บิต) สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้ Windows Update แล้วไม่พบ Service Pack 1 ปรากฎในรายการ อาจเป็นเพราะว่า คุณยังไม่ได้ติดตั้งอัพเดตบางตัวก่อนหน้านี้ ทาง MS แนะนำให้ติดตั้งอัพเดตเหล่านั้นก่อน แล้วคลิกปุ่ม Check for updates อีกที

 

ข้อมูลจาก: Windowsteamblog

 

วิจัยฟันธงมือถือส่งผลกระทบต่อ"สมอง"

กลับมาอีกครั้งสำหรับคำถามที่ว่า "มือถือเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งที่สมอง หรือไม่?" โดยผลวิจัยล่าสุดที่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่สามารถตอบคำถามดังกล่าวได้อย่างชัดเจน แต่จากรายงานทำให้เกิดประเด็นใหม่ที่น่ากังวลสำหรับผู้ใช้มือถือเป็นเวลา นานๆ

ผลการศึกษาวิจัยกลุ่มผู้ใช้มือถือ 47 คน นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปว่า การใช้มือถือเป็นเวลา 50 นาทีจะส่งลให้ส่วนของ"สมอง"บริเวณใกล้เสาอากาศของมือถือมีกระบวนการเผาผลาญ กลูโคสเพิ่มขึ้นกว่าปกติ แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ผลจากการค้นพบดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสมองอย่างไร? แต่นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงความคิดเห็นต่อผลลัพธ์ดังกล่าวว่า "ผลจากการศึกษาเป็นหลักฐานชัดเจนว่า มือถือส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการเผาผลาญอาหารของสมอง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับสาเหตุของการทำให้เกิดเป็นมะเร็ง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับสมองที่บริเวณนั้น..."

รายงาน ดังกล่าวได้มีการเปิดเผยออกมาวันนี้ (23 ก.พ. 2554) ในวารสารแพทยสมาคมในสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการศึกษาเรื่องผลกระทบมือถือที่มีต่อสมอง โดยเฉพาะกรณีของการเกิดมะเร็ง แต่ส่วนใหญ่รายงานที่ออกมาไม่ได้เคยชี้ชัดลงไปว่า การใช้มือถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งสมอง แม้จะมีรายงานจากหลายหน่วยงานอิสระที่ได้ฟันธงเรื่องนี้ไปแล้วก็ตาม แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ เชื่อว่า สนามแม่เหล็กที่ออกมาจากมือถือขณะใช้งาน (ที่หลายฝ่ายพยายามบอกว่าสัญญาณมันอ่อนมาก) จะส่งผลกระทบต่อสมองถึงขั้นทำให้เป็นมะเร็งได้ หรือไม่?

 

ข้อมูลจาก: Jama

 

ลือ!!! Apple เปิดตัว iPad 2 2 มี.ค. ศกนี้

รายงานข่าวล่าสุด เว็บไซต์ AllThingsD อ้างว่า แอปเปิ้ล (Appple) กำลังเตรียมแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทนั่นก็คือ iPad 2 ในวันที่ 2 มีนาคม โดยสถานที่จัดงานดังกล่าวน่าจะเป็นศูนย์การแสดงผลงานศิลปะ Yerba Buena Center for the Arts ในซานฟรานซิสโก

แหล่งข่าวอ้างว่า iPad 2 จะมีความบางกว่ารุ่นแรก อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงผลที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น และมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเร่งเปิดตัว iPad 2 ถือเป็นวาระสำคัญมากสำหรับ Apple เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือด ทั้งจำนวนของ"แท็บเล็ต" (tablet) ที่มีทั้งฟังก์ชัน และดีไซน์น่าสนใจผุดขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันกระแสแความสนใจใน"แท็บเล็ต"สายพันธุ์ Android Honeycomb ก็กำลังมาแรงอีกด้วย (สังเกตจากงาน Mobile World Congress 2011 ที่ผ่านมา Android และ Tablet ได้รับการกล่าวขวัญมากกว่าสมาร์ทโฟนในงานเสียอีก) 

แม้ ว่าช่วงนี้จะยังไม่เกิดกระแสการซื้อ"แท็บเล็ต"ที่รุนแรงมากนัก แต่หาก iPad 2 เปิดตัวช้าออกไปกว่านี้ แน่นอนว่า โอกาสจะตกเป็นของ Motorola, RIM, Dell และ HP ที่กำลังจ้องตลาดนี้ ล่าสุด Motorola XOOM เปิดให้สั่งจองแล้ว ด้วยเหตุนี้ ในฐานะผู้นำตลาด Apple คงจะไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป ทางด้านเว็บไซต์ Apple Insider ได้รายงานเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า iPad 2 จะบางเบา และใช้โพรเซสเซอร์ที่แรงกว่ารุ่นแรก หน่วยความจำมากขึ้น พร้อมมีกล้องด้านหน้าสำหรับบริการวิดีโอแชท Face Time แถมยังคาดอีกด้วยว่า มันมีความสามารถในการแสดงผลกราฟิกที่เร็วขึ้น เพื่อให้สามารถเล่นวิดีโอ HD ตลอดจนกราฟิก 3D หลังจากเปิดตัว iPad 2 แล้ว Appple ยังมีแผน iPad 3 ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งแผนการเหล่านี้ทางบริษัทต้องการปิดโอกาสของ"แท็บเล็ต"เจ้าอื่นๆ นั่นเอง

 

เว็บไซต์ในข่าว: Apple, AllThingsD

 

Intel ผุด Light Peak แรงกว่า USB 3.0

พรุ่งนี้ อินเทล (Intel) จะเปิดตัว "ไลท์พีค" (Light Peak) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูง ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ทาง Apple จะปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะมีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ การแถลงข่าวความพร้อมของเทคโนโลยี Light Peak ในช่วงนี้ยังสอดคล้องกับข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วยว่า iPad 2 จะมาพร้อมกับ Light Peak ด้วยเช่นกัน

รายงานข่าวล่าสุด Intel ได้ร่อนเมล์เชิญสื่อเข้าร่วมการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ โดยทางบริษัทจะแนะนำเทคโนโลยีใหม่ที่พร้อมสำหรับตลาดแล้ว ขณะเดียวกัน ทาง Apple ก็จะเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ (และอาจจะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ) ในวันดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ Intel ได้ซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี Light Peak มาหลายปีแล้ว โดยเมื่อเร็วๆ นี้ยังได้มีการเปิดเผยด้วยว่า เวอร์ชันแรกๆ ของเทคโนโลยีนี้จะใช้ทองแดงเป็นตัวนำสัญญาณ 

Light Peak เป็นเทคโนโลยีสำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูงที่มีประสิทธิภาพเหนือ กว่า USB 3.0 (ความเร็วสูงสุด 5Gbps) โดยสามารถถ่ายโอนข้อมูลกับอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งไป และกลับได้พร้อมกันด้วยความเร็วถึง 10 กิกะบิทต่อวินาที ทาง Intel อ้างว่า ความเร็วในการเชื่อมต่อจะไม่ลดลงแม้จะถูกส่งผ่านไปยังตัวนำที่เป็นทองแดง สำหรับหลักฐานของข่าวลือที่ว่า Intel พยายามพัฒนาเทคโนโลยี Light Peak เพื่อเพิ่มโอกาสในผลิตภัณฑ์ของ Apple ดังจะได้เห็นในการสาธิตเทคโนโลยีดังกล่าวที่ในงาน IDF 2009 เครื่องที่ใช้ในการสาธิตยังใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วย Mac OS X อีกด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมอีกขั้นหนึ่ง

 

เว็บไซต์ในข่าว: Intel

 

Apple ไม่ได้เปิดตัว iPad 2 แค่รุ่นเดียว?

หลังจากที่มีข่าวลือออกมาว่า Apple จะเปิดตัว iPad 2 ในวันพุธที่ 2 มีนาคม ล่าสุดทางบริษัทได้ส่งบัตรเชิญของงานเปิดตัวดังกล่าวให้กับสื่อมวลชนเรียบ ร้อยแล้ว โดยทำเป็นรูปไอคอนของแอพ calendar ที่เป็นเดือน March และมีเลข 2 ตัวใหญ่ที่หมายถึงวันที และรุ่นที่ 2 ของ iPad ที่เผยให้เห็นแพลมๆ ตรงมุมบนขวาของบัตรเชิญ

เมื่อคืนนี้ ทาง Apple ได้ส่งบัตรเชิญให้สื่อมวลชนได้ร่วมงานที่จะจัดขึ้นในซานฟรานซิสโก โดยในบัตรเชิญจะเผยให้เห็นรูปของ iPad ซ่อนอยู่ด้านหลังแอพฯ Calendar ซึ่งนอกจากจะตีความได้ว่า ในงานดังกล่าวจะเป็นการเปิดตัว iPad 2 แล้ว การใช้ไอคอนแอพฯ เป็นสัญลักษณ์ยังอาจหมายถึงการเปิดตัว iOS เวอร์ชันใหม่ด้วย โดยสถานที่จัดงานจะเป็นที่ Yerba Buena Center for the Arts อย่างที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้จริงๆ

และ แล้ว iPad 2 ที่หลายคนรอคอยก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที ซึ่งเราคงได้เห็นตัวเต็มๆ ของมันในวันพุธหน้า เพื่อพิสูจน์ข่าวลือต่างๆ ที่ว่า มันทั้งบางกว่า และเบากว่ารุ่นปัจจุบันจริงหรือไม่? อีกทั้งยังมีข่าวลือออกมาด้วยว่า Apple จะเปิดตัว iPad 2 ถึง 2 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ รุ่นหน้าจอขนาด 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว เพื่อปิดทางคู่แข่ง"แท็บเล็ต"ทุกเจ้า นอกจากนี้ ยังคงต้องมาลุ้นกันอีกว่า หน้าจอของมันจะมีความละเอียดมากขึ้นตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ หรือไม่? และพอร์ตใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม ตลอดจน USB (และ Light Peak) จะมาพร้อมกับ iPad 2 หรือเปล่า? เรียกได้ว่า ถ้า iPad 2 ยังไม่เปิดตัวเดือนหน้า เราก็คงได้ติดตามข่าวลือของมันอีกเพียบเลยทีเดียว เอาเป็นว่า อดใจรออีกนิด เพราะวันพุธหน้าเราทุกคนก็คงได้ทราบกันแน่นอนครับ

 

เว็บไซต์ในข่าว: Apple

 

รั่ว!!! คลิปรีวิว iPad 2 โผล่ในยูทูบ :O

คุณผู้อ่านคงแปลกใจนะครับว่า ข่าวที่ขึ้นไปเมื่อสักครู่เพิ่งจะแจ้งกำหนดการเปิดตัว iPad 2 ว่าเป็นวันที 2 มีนาคม พุธหน้า แล้วทำไมถึงได้มีมีคลิปรีวิว iPad 2 "รั่ว"ออกมาซะแล้ว ซึ่งปกติ Apple คงไม่ยอมแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปพิสูจน์พร้อมกันเลยดีกว่าครับว่า iPad 2 จะน่าใช้แค่ไหน?

เอ่อ...ที่ บอกว่า คลิป iPad 2 "รั่ว"ออกมานั้น จริงๆ แล้วหมายถึง คนทำคลิปมีอาการ "รั่ว" สุดขีด แหม...iPad 2 บ้าอะไร? ขนาดหน้าจอใหญ่เท่า iMac 27 นิ้ว แถมยังมีแอพเจ๋งๆ ให้ใช้งานได้สารพัด ตั้งแต่ iMilk ที่สามารถรินนมออกมาให้ดื่มได้จริงๆ ไปจนถึง iFire ที่ให้คุณใช้ปิ้งย่างของรับประทาน แต่ที่ชอบมากๆ คือ iFoodTray, iRemote และ iGPS คุณสมบัติทีน่าทึ่งอีกอันหนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ Auto Movie Editing ที่สามารถตัดต่อภาพยนต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ย้ำอีกครั้งว่า มันเป็นคลิป iPad 2 ที่"รั่ว"จริงๆ :D 

 

 

ข้อมูลจาก: YouTube

 

ฟูจิตสึเล็งเปิดตัว"แท็บเล็ต"ในงาน CeBIT

และแล้ว Fujitsu ก็เป็นบริษัทผู้ผลิตพีซีอีกรายที่ไม่พลาดจะกระโดดเข้าสู่สมรภูมิ"แท็บ เล็ต"กับเขาด้วยเหมือนกัน โดยล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ทางบริษัทได้พัฒนา Stylistic Q550 แท็บเล็ตพีซีที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน CeBIT 2011 ที่จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 1 - 5 มีนาคม ที่เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมัน

Stylistic Q550 แท็บเล็ตจากฟูจิตสึที่จะเปิดตัวที่งาน CeBIT 2011 ในสัปดาห์หน้า นอกจากจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 7 Professional แล้ว ดูเหมือนทางบริษัทจะเน้นในเรื่องของการทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้มีความปลอดภัย มากกว่าของผู้ผลิตรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่มันมีช่องอ่านสมาร์ทการ์ด และเครื่องอ่านลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวตนของเจ้าของเครื่องว่าเป็นตัวจริง ทั้งนี้ทางบริษัทคาดว่า คุณสมบัตินี้น่าจะทำให้ผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจองค์กรสนใจ

ใน ส่วนของโพรเซสเซอร์ของ Stylistic Q550 จะใช้ Intel Atom Oak Trail รุ่นใหม่ หน้าจอ LED แบคไลท์ขนาด 10 นิ้ว รองรับการสัมผัสด้วยนิ้วมือ และสไตลัส สามารถทำงานได้นาน 8 ชั่วโมง มีกล้องทั้งด้านหน้า และหลัง และมีพอร์ต USB สตอเรจภายในเครื่องจะเป็น SSD มีให้เลือก 2 ความจุด้วยกันคือ 32GB และ 64GB นอกจากจะสนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi แล้ว ยังมีออปชัน 3G ให้ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องของราคาออกมาแต่อย่างใด

 

 

เว็บไซต์ในข่าว: Fujitsu

 

ทีวีโซนี่ดูพร้อมกันสองคนแต่คนละช่อง?

เทคโนโลยีทีวีกำลังก้าวไปสู่อีกขั้น หลังจากทีมีการพัฒนา 3D HDTV ที่สามารถรับชมได้โดยไม่ต้องสวมแว่นตาด้วยเทคโนโลยี Parallax โดยล่าสุด Sony ได้สาธิตทีวีรุ่นใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชม 2 คนสามารถดูรายการคนละช่องได้พ้รอมกันบนจอเดียว โดยขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคนนั่งชมอยู่ด้านไหนของหน้าจอทีวี...ว้าว!!!

เทคโนโลยีสำหรับ HDTV รุ่นใหม่ของ Sony มีชื่อว่า Dual-view โดยนอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับชมรายการทีวีคนละช่องได้พร้อมกันแล้ว ในกรณีที่เล่นเกมส์กับเพื่อนก็ยังสามารถทำให้ผู้เล่นแต่ละคนมองเห็นภาพเกมส์ ที่แตกต่างกันแบบเต็มจอภาพได้โดยไม่ต้องใช้การแบ่งหน้าจอคนละครึ่ง ซึ่งทำให้ประสบการณ์ในการใช้ HDTV สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง นอกจากส่วนของภาพที่สามารถแสดงผลแตกต่างกันได้พร้อมกันแล้ว มันยังมีช่องใส่หูฟังแยกแชนเนลกันได้อีกด้วย 

สำหรับ ต้นแบบเทคโนโลยีใหม่ที่ได้มีการสาธิตให้สื่อมวลชนได้รับชมนั้นจะใช้เกม Killzone 3 โดยผู้เล่น 2 คนสามารถมองเห็นหน้าจอของเกมส์ที่แตกต่างกันบนหน้าจอทีวีเครื่องเดียว ซึ่งต่อกับเครื่องเล่นเกมส์ PS3 เพียงเครื่องเดียวอีกเช่นกัน ทั้งนี้ผู้เล่นจะอยู่คนละฝั่งของจอภาพ เพื่อมองเห็นภาพที่แตกต่างกัน หากสังเกตในภาพข่าว จะเห็นว่า มันเหมือนมีภาพซ้อนกันอยู่ แต่ในความเป็นจริง ผู้เล่นที่มองจากคนละมุมจะเห็นภาพเต็มหน้าจอที่ไม่เหมือนกัน...โอ้วเจ๋ง มากๆ 

 

เว็บไซต์ในข่าว: Sony

 

Facebook แบน Breakup Notifier!!!

หลังจากที่รายงานข่าวบริการเว็บแอพ Breakup Notifier ที่จะคอยอัพเดตสถานะความสัมพันธ์ของเพื่อนที่คุณแอบชอบ (แต่มีเจ้าของแล้ว) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง โดยส่งให้คุณทราบทางอีเมล์ ล่าสุดทางเฟซบุ๊ค (Facebook) ไม่เห็นด้วยกับไอเดียของแอพฯดังกล่าว ทางเว็บไซต์จึงได้ตัดสินใจแบนไปเรียบร้อยแล้ว

รายงานข่าวล่าสุด Berakup Notifier จะไม่สามารถส่งอีเมล์ให้กับผู้ใช้บริการทันทีที่เพื่อนของพวกเขามีการ เปลี่ยนแปลงสถานะความสัมพันธ์อีกต่อไป ในขณะที่มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการของเว็บไซต์แห่งนี้สูงถึง 3.6 ล้านราย ซึ่ง Dan Loewenherz ทราบดีกว่า มันเกิดความผิดปกติในการทำงานของแอพฯ และได้พยายามจะหาต้นตอของปัญหา จนในที่สุดเขาก็ได้รับอีเมล์อัตโนมัติจากเฟซบุ๊คที่ระบุว่า บริการ Breakup Notifier ลักษณะการทำงานคล้ายกับสแปม ระบบจึงบล็อคการทำงานของแอพฯ

งาน นี้ดูเหมือนเฟซบุ๊คจะสกัดบริการของ Loewenherz เนื่องจากมันได้รับความนิยมมากเกินไป ซึ่งแม้เขาจะพยายามติดต่อกับทางเฟซบุ๊คอย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้รับอีเมล์ หรือโทรศัพท์จากเฟซบุ๊คเลย อีกทั้งบัญขีผู้ใช้เฟซบุ๊คของเขายังถูกบล็อคอีกด้วย

 

เว็บไซต์ในข่าว: Breakup Notifier

 

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย HTC Flyer คือใคร?

HTC ปล่อยคลิปวิดีโอโปรโมท"แท็บเล็ต" HTC Flyer ชุดแรกออกมาแล้ว แม้จะเป็นแค่คลิปสั้นๆ แต่มันก็มีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว โดยในคลิปจะแสดงให้เห็นว่า HTC Flyer สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ก่อนที่จะจบด้วยสโลแกน "แท็บเล็ตสำหรับทุกคนในครอบครัว" (a tablet for the whole family)

จากสโลแกนที่ปรากฎในคลิปกำลังบอกเราว่า HTC มีแผนที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ที่บ้าน และครอบครัวด้วย"แท็บเล็ต" Flyer ซึ่งหากพิจารณาแท็บเล็ตส่วนใหญ่ในท้องตลาดไม่ได้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ใช้ ในครอบครัว และนี่อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้ HTC Flyer มีที่ยืน และส่วนแบ่งตลาดที่ชัดเจน ความจริงก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญเคยวิเคราะห์ว่า iPad ของ Apple จะเป็นแท็บเล็ตสำหรับใช้งานร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว แทนที่จะเป็นอุปกรณ์พกพาอย่างเช่นทุกวันนี้ โดยสมาชิกครอบครัวแต่ละคนจะมี log in แยกกัน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่า HTC Flyer เข้ามาจับกลุ่มเป้าหมายนี้แทน

HTC Flyer เป็น"แท็บเล็ต"ขนาด 7 นิ้วที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.4 ร่วมกับยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ HTC Sense ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของ HTC คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วสนโพรเซสเซอร์ทีใช้จะเป็น Snapdragon 1.5GHz (Single core) โดยมีกล้องทั้งด้านหน้า และหลัง ซึ่งดูจากสเป็กโดยรวม HTC Flyer น่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Samsung Galaxy Tab

 

เว็บไซต์ในข่าว: HTC

 

Apple MacBook Pro รุ่นใหม่มาแล้ว!!!

แอปเปิ้ล (Apple) เพิ่งประกาศยกเครื่องโน้ตบุ๊ค MacBook Pro รุ่นใหม่ โดยแม็คบุ๊คโปรที่เปิดตัวล่าสุดจะมาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ Sandy Bridge Core i5 และ Core i7 และพอร์ต Thunderbolt ที่ใช้เทคโนโลยี Light Peak ของอินเทล (Intel) ในขณะที่ชิปประมวลผลกราฟิกใช้ของ AMD แทนที่จะเป็น NVIDIA เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แถมยังเพิ่มความจุของสตอเรจในแมคบุ๊คโปรรุ่นใหม่ด้วย

นอก จาก MacBook Pro จะใช้โพรเซสเซอร์ Sandy Bridge รุ่นใหม่แล้ว ทาง Apple ยังได้แนะนำ Thunderbolt พอร์ตเชื่อมต่อความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยี Light Peak ของ Intel ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น ดิสก์ไดรฟ์ จอแสดงผลภายนอก ฯลฯ ได้ทั้งหมดบนพอร์ตนี้เพียงพอร์ตเดียว ลบล้างความคิดเดิมๆ ที่ต้องมีพอร์ตมากมาย สำหรับแบนด์วิดธ์ของ Thunderbolt อยู่ที่ 10Gb/s และสามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วนี้ทั้งไปและกลับได้พร้อม กัน MacBook Pro รุ่นใหม่ยังจะมาพร้อมกับฟังก์ชัน FaceTime HD ที่ทำให้คุณสามารถสนทนาผ่านระบบวิดีโอ (video call) บนจอกว่างที่ความละเอียดแบบไฮเดฟ 720p

อย่าง ไรก็ตาม ความละเอียดของจอแสดงผลใน MacBook Pro รุ่นใหม่ และขนาดของหน่วยความจำ RAM ยังคงเท่าเดิมกับ MacBook Pro รุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนแบตเตอรี่จะอยู่ได้นาน 7 ชั่วโมง (MacBook pro รุ่นก่อนหน้านี้จะอยู่ได้นาน 10 ชม.) รายละเอียดของ MacBook Pro รุ่นใหม่มีดังนี้

• MacBook Pro รุ่นหน้าจอ 13 นิ้ว ซีพียู Dual-Core Intel Core i5 ความเร็ว 2.3GHz และใช้ชิปเซตกราฟิก Intel HD Graphics 3000 ความจุฮาร์ดดิสก์ 320GB สนนราคา 1,199 เหรียญฯ (ประมาณ 37,000 บาท)
• MacBook Pro รุ่นหน้าจอ 13 นิ้ว ซีพียู Dual-Core Intel Core i7 ความเร็ว 2.7GHz และใช้ชิปเซตกราฟิก Intel HD Graphics 3000 ความจุฮาร์ดดิสก์ 500GB สนนราคา 1,499 เหรียญฯ (ประมาณ 46,000 บาท)
• MacBook Pro รุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว ซีพียู Quad-Core Intel Core i7 ความเร็ว 2.0GHz และใช้ชิปประมวลผลกราฟิก AMD Radeon HD 6490M ความจุฮาร์ดดิสก์ 500GB สนนราคา 1,799 เหรียญฯ (ประมาณ 55,000 บาท)
• MacBook Pro รุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว ซีพียู Quad-Core Intel Core i7 ความเร็ว 2.2GHz และใช้ชิปประมวลผลกราฟิก AMD Radeon HD 6750M ความจุฮาร์ดดิสก์ 750GB สนนราคา 2,199 เหรียญฯ (ประมาณ 67,500 บาท)
• MacBook Pro รุ่นหน้าจอ 17 นิ้ว ซีพียู Quad-Core Intel Core i7 ความเร็ว 2.2GHz และใช้ชิปประมวลผลกราฟิก AMD Radeon HD 6750M ความจุฮาร์ดดิสก์ 750GB สนนราคา 2,499 เหรียญฯ (ประมาณ 76,500 บาท)

 

เว็บไซต์ในข่าว: Apple Store

 

Google ซิงค์ Office กับ Google Apps

รายงานข่าวล่าสุด กูเกิ้ล (Google) ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไฟล์เอกสารของ Microsoft Office จากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ขึ้นไปใช้งาน (เปิดอ่าน แก้ไข และจัดเก็บ) ร่วมกันบนออนไลน์ด้วยปลั๊กอินที่เรียกว่า Google Cloud Connect

เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Google ได้แนะนำ Google Cloud Connect for Microsoft Office เวอร์ชันทดสอบ โดยเครื่องมือดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นปลั๊กอินที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถ ใช้ไฟล์เอกสารของ Microsoft Office ร่วมกันบนระบบโครงสร้างพื้นฐานของบริการคราวด์คอมพิวติ้งของ Google ซึ่งตอนนี้ทาง Google ได้เปิดให้ใช้บริการได้ทั่วโลกแล้ว เกมนี้ชัดเจนว่า Google กำลังพยายามเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรของ Microsoft Office  

"คุณ สามารถแก้ไขหน้าสารบัญในไฟล์เอกสาร Word จาก Dublin ในขณะที่เพื่อนร่วมงานกำลังปรับแต่งรูปแบบจาก Denver" ข้อความที่โพสต์ในบล็อก "มันเป็นการทำงานกับไฟล์เอกสารเดิมๆ ของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แทนที่จะส่งไฟล์เอกสารแนบไปกับอีเมล์ให้กับทีมงานหลายๆ คน จากนั้นทุกคนก็ต้องมาสาละวนกับการไล่ตรวจสอบเอกสารของแต่ละคนที่มีการแก้ไข และอัพเดต ซึ่งด้วยวิธีการทำงานแบบใหม่นี้ ทีมงานทั้งหมดจะสามารถโฟกัสบนหน้าที่ของตน ในขณะที่เห็นภาพรวมของการแก้ไขเอกสารรวมกัน"

 

 

ปลั๊ก อินของ Google จะก็อปปี้ไฟล์เอกสาร Office ไปทำงานบน Google Apps (เว็บแอพฯที่ทำงานแบบเดียวกับ MS office) เมื่อก็อปปี้เสร็จแล้ว ผู้ใช้จะสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารเหล่านั้นได้จากทั้งบนโปรแกรม MS Office ในเครื่องและจากใน Google Apps โดยไฟล์เอกสารทั้งในเครื่องและบนเน็ตจะได้รับการซิงค์ให้ตรงกัน "เมื่อซิงค์เสร็จแล้ว ไฟล์เอกสารต่างๆ จะถูกแบ็คอัพ พร้อมทั้งให้ URL เฉพาะที่ทำให้สามารถแก้ไขไฟล์เอกสารเหล่านั้นจากที่ใด (รวมถึงแก้ไขผ่านอุปกรณ์โมบาย) หรือเวลาใดก็ได้ผ่านทาง Google Docs และเนื่องจากไฟล์เอกสารต่างๆ จัดเก็บอยู่บน Cloud ดังนั้นผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงไฟล์เอกสารที่อัพเดตล่าสุดเสมอ" Google กล่าว ปลั๊กอิน Google Cloud Connect สามารถใช้งานได้กับ Microsoft Office 2003, 2007 และ 2010 บนพีซีที่รัน Windows สำหรับสาเหตุที่ไม่มีเวอร์ชัน Mac เนื่องจากไม่มีการสนับสนุนส่วนของการเขียนโปรแกรมเสริมการทำงานเข้าไป

 

ข้อมูลจาก: googleenterprise

 

Angry Birds บน WP7 ใกล้คลอดแล้ว

เจ้าของสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 เตรียมเฮได้แล้ว เมื่อเกมส์สุดฮอตบน iPhone อย่าง Angry Birds กำลังจะมีเวอร์ชันที่ใช้เล่นบนมือถือ WP7 โดยล่าสุดมีการเปิดเผยจากรายงานข่าวบนเน็ตว่า เกมส์นกโกรธเวอร์ชัน WP7 มีกำหนดการวางตลาดในวันที่ 6 เมษายน ศกนี้

ใน ที่สุด บริษัทผู้พัฒนาเกมส์ Angry Birds ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดผู้ใช้สมาร์ทโฟน Windows Phone 7 ซึ่งปัจจุบันยอดผู้ใช้ทั่วโลกคาดอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านเครื่อง และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่หวือหวามากนัก โดยกำหนดการวางตลาดสำหรับ Angry Birds for Windows Phone 7 จะเป็นวันที่ 6 เมษายน นอกจากเกมส์นี้แล้วยังจะมีเกมส์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก 5 เกมส์ได้แก่ Doodle Jump, Plants Vs Zombies, Hydro Thunder Go, Sonic the Hedgehog Episode I และ geoDefense สำหรับเจ้าของ WP7 ที่อยากเล่น Angry Birds แต่อดใจรอไม่ไหว ลองหา Chicks"n"Vixens เกมส์เลียนแบบมาเล่นดูก่อนก็ได้นะครับ

 

 

เว็บไซต์ในข่าว: microsoft

 

ผลลัพธ์ Bing เพิ่ม Like จาก Facebook

รายงานข่าวล่าสุด ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ในหน้าผลลัพธ์การค้นของ Bing ด้วยข้อมูลที่ได้จากกิจกรรมยอดฮิตของเฟซบุ๊ค (Facebook) นั่นก็คือ การแสดงความชื่นชอบ (Like) ต่อสิ่งต่างๆ ของผู้ใช้ถัดจากลิงค์ผลลัพธ์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน

ทั้งนี้บล็อกของ Bing ได้แจ้งเรื่องราวการเพิ่มคุณสมบัติดังกล่าวเมื่อคืนนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า การเชื่อมโยงผลลัพธ์ค้นกับ Like ของ Facebook เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การเสริมข้อมูลดังกล่าวเข้าไปเป็นความพยายามของ Bing ที่จะเพิ่มจุดแข็งของโซเชียลเข้าไปในผลลัพธ์การค้น เช่นเดียวกับที่ทำกับทวิตเตอร์ (Twitter) "นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ผู้คนกำลังทิ้งร่อง รอยทางสังคม เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถอ่าน และเรียนรู้จากมัน แล้วกลับมานำเสนอด้วยประสบการณ์ที่อ้างอิงจากร่องรอย เหล่านั้น" Lawence Kim ผู้จัดการโปรแกรมส่วนของ Social Search กล่าว "เมื่อผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้น และเชื่อมโยงโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้า ด้วยกัน พวกเขาจะต้องการร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ และข้อมูลที่ได้จากโซเชียลจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ดีกว่า (จากการวิเคราะห์โดยคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว น่าจะหมายถึง Google)" 

จุด เริ่มต้นของการเชื่อมข้อมูลจากเฟซบุ๊คเข้ากับผลลัพธ์การค้นหาของ Bing เริ่มต้นมาตั้งแต่ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยผู้บริหาร Bing และ Mark Zuckerberg ซีอีโอของเฟซบุ๊ค อย่างไรก็ดี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Google ก็ได้แนะนำคุณสมบัติการทำงานร่วมกับ Social ที่คล้ายๆ กันนี้ โดยเป็นการประยุกต์ผลลัพธ์การค้นด้วยการอ้างอิงข้อมูลจากเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ เพื่อแสดงลิงค์ที่เคยถูกแชร์โดยผู้ใช้คนอื่นๆ การเพิ่ม Like เข้าไปในหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Bing จะทำให้ผู้ใช้ได้ทราบว่า ลิงค์ใดที่เพื่อนๆ ของเราในเฟซบุ๊คชอบ ซึ่งผู้บริโภคมีแนวโน้มจะเชื่อเพื่อนอยู่แล้ว ลิงค์นั้นก็จะมีโอกาสถูกคลิก และมีโอกาสถูกต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากกว่าไปด้วย อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติใหม่นี้ช่วงแรกจะเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ เท่านั้น

 

ข้อมูลจาก: Bing blog

 

Sega ผุด"ตู้เกมส์ 3D"ลุ้นระทึกทะลุมิติ

เทคโนโลยีจอ 3 มิติแบบไม่ใส่แว่นกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีผู้ผลิตรายใดที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีจอ 3D แบบไม่ง้อแว่นที่ให้ผลลัพธ์การรับชมได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากเทียบกับในอดีต วันนี้เราจะเห็นได้ว่า จอแสดง 3D แบบไม่ต้องใส่แว่นได้ก้าวไปอยู่ที่จุดที่หลายคนเริ่มยอมรับแล้ว

ล่า สุด SEGA บริษัทผู้ผลิตเกมส์ได้ออกตู้เกมส์ที่มาพร้อมกับจอ 3D ที่สามารถรับชมภาพทะลุมิติได้โดยไม่ตองสวมแว่น โดยมีขนาดของหน้าจอใหญ่ 52 นิ้ว ซึ่งในงาน AOU 2011 Expo ที่จัดขึ้นที่ญี่ปุ่น ทาง SEGA ได้นำเกมส์ Let's Go Island 3D เกมส์ยิงเวอร์ชันสามมิติที่จะให้บริการกับลูกค้าอย่างเป็นทางการในช่วงไตร มาสที่สองนี้ ผู้เล่นจะได้สนุกกับเกมส์ยิงที่ตื่นเต้นกว่าเดิม เมื่อสัตว์ประหลาดต่างๆ สามารถพุ่งเข้าหาผู้เล่นได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น แถมยังไม่ต้องรำคาญว่าต้องใส่แว่นตาขณะเล่นอีกด้วย

อย่าง ไรก็ตาม เกมส์ 3D อาจจะไม่เหมาะกับการเล่นนานๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี 3D ในปัจจุบันที่ใช้เทคนิคในการหลอกให้สมองสร้างภาพลวงตาขึ้นมา ซึ่งนั่นหมายความว่า สมองและสายตาของผู้เล่นจะต้องทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ เมื่อเทียบกับการมองวัตถุจริง อย่างไรก็ดี คาดว่าในอนาคตเทคโนโลยี 3D จะได้รับการพัฒนาวิธีใหม่ๆ ที่ดีกว่า และไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยล้าสายตาอย่างเช่นในปัจจุบัน

 

 

เว็บไซต์ในข่าว: sega

 

Stylistic Q550 แท็บเล็ต Win7 ตัวจริง

ดูเหมือนฟูจิทสึ (Fujitsu) จะเร่งเครื่องเต็มสูบสำหรับผลิตภัณฑ์"แท็บเล็ต" (tablet) หลังจากที่มีรายงานข่าวในเว็บไซต์ arip สำหรับการเปิดเผยต้นแบบเครื่อง และกำหนดการเปิดตัวในงาน CeBIT 2011 ต้นเดือนมีนาคมศกนี้ โดยล่าสุดได้มีการให้รายละเอียเพิ่มเติมสำหรับสเป็ก ตามด้วยคลิปวิดีโอโปรโมท และราคาเริ่มต้นของแท็บเล็ต Windows 7 ของทางบริษัท

สมรภูมิ"แท็บเล็ต" (tablet) คงไม่ได้มีแค่ iPad กับ Android เท่านั้น และงานนี้ไมโครซอฟท์คงไม่ยอมอย่างแน่นอน ล่าสุด Futitsu บริษัทผู้ผลิตพีซีหนึ่งในพันธมิตรธุรกิจของบริษัทได้ตัดสินใจเดินเครื่อง เต็มที่สำหรับการเปิดตัว Stylistic Q550 แท็บเล็ต Windows 7 Professional 32 bit ที่จับกลุ่มเป้าหมายธุรกิจทั่วไป และทางด้านการแพทย์ โดย Stylistic Q550 สามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันบนเดสก์ทอป และโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่ได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากใช้โอเอสตระกูลเดียวกันอยู่แล้ว

Stylistic Q550 จะมาพร้อมกับหน้าจอ WXGA 10.1 นิ้ว ด้วยมุมมองที่กว้างถึง 160 องศา อีกทั้งยังมีหน้าจอที่สว่างถึง 400nits ซึ่งทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนภายใต้สภาพแวดล้อมของแสงสว่างภายในออฟฟิศ นอกจากนี้ มันยังมีน้ำหนักที่เบามากแค่ 1.5 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัมเท่านั้น โพรเซสเซอร์ที่ใช้เป็น Intel Atom พร้อมหน่วยความจำ 2GB ไร้สายด้วย Wi-Fi และ Bluetooth มีกล้องด้านหน้า และหลัง พร้อมพอร์ต HDMI และ USB 2.0 ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SD ตลอดจนช่องเสียบสำหรับหูฟัง มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งเครื่องอ่านลายนิ้วมือ และสมาร์ทการ์ด นอกจากนี้ยังมีออปชันสำหรับ GPS และแท่นรองมาตรฐาน VESA อีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยุ่ที่ 800 เหรียญฯ (ประมาณ 24,500 บาท) วางตลาดไม่เกินกลางปีนี้

 

 

ข้อมูลจาก: Fujitsu

 

Credit : ARIP News