ด่านทดสอบเรือใบ คอลัมน์ คุยนอกจอ โดย เอกราช เก่งทุกทาง

วันที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11164 มติชนรายวัน


แมนฯ ซิตี้ โฉมใหม่ยุคอาหรับราตรี เปิดตัวอย่างฟู่ฟ่าด้วยโครงการขายฝันสารพัด ก่อนจะค่อยๆ ซาลงหลังจากผลงานในสนามออกอาการผีเข้าผีออก แพ้กับชนะเท่ากันพอดีเป๊ะ

โปรเจคท์นี้คงต้องดูกันยาวๆ ไม่น่าเหมือนเชลซีตอน โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมปีแรกและผงาดคว้าแชมป์ทันที พื้นฐานของแมนฯซิตี้ยังไม่แข็งขนาดนั้น นักเตะในทีมเองก็มีหลายตำแหน่งไม่ลงตัว สู้ยุค สเวน โกรัน อีริคส์สัน ในบางจุดไม่ได้ด้วยซ้ำ

ผมว่าเกมรับซิตี้ไม่ชัวร์เหมือนเดิม แบ๊คซ้าย-ขวาเป็นจุดเปราะที่ต้องขุนกันอีกเยอะ มิดฟิลด์ตัวกลางก็ยังทำเกมรุกไม่ค่อยต่อเนื่อง คุมเกมไม่ค่อยอยู่

แวซอง กองปานี แข็งแกร่งดี แต่ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ น่าจะสม่ำเสมอกว่านี้

ที่เด่นจริงๆ คือ แนวรุก 3 ประสาน ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, โช รวมทั้ง โรบินโญ่

สองคนหลังจัดจ้านด้วยลีลาแซมบ้า ส่วนคนแรกถึงเป็นอังกฤษทั้งแท่ง แต่เล่นด้วยกันบ่อยๆ ก็ชักมีดนตรีในหัวใจเพิ่มขึ้นทุกที

อาทิตย์นี้เรือใบสีฟ้าจะหวดกับ ลิเวอร์พูล น่าจับตามอง 3 สหายแก๊งนี้นะครับ

มอง รวมๆ แมนฯซิตี้แน่นอนสู้ไม่ได้ ถ้าจะมีโอกาสจึงต้องเอาความวูบวาบฉาบฉวยเข้าโจมตี ซึ่งไรท์ ฟิลลิปส์, โช, โรบินโญ่ย่อมเป็นความหวังของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะ "ขาลุย" ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ที่มีจุดเด่น จุดขาย ตรงความเร็ว ความแข็งแกร่ง น่าจะป่วนกองหลังหงส์แดงได้มากพอดู

หมอ นี่เลี้ยงตะลุยมันสุดสุด ลองติดเครื่องเมื่อไหร่คู่แข่งก็หยุดลำบากเพราะทั้งแข็งแรงและจุดศูนย์ถ่วง ต่ำ บางทีโดนหวดหน้าแข้งหนักๆ ยังไม่ยอมลงด้วยซ้ำ

ถ้าเจอแบ๊คซ้าย แข็งๆ เขี้ยวๆ ก็อาจจะสู้กันสนุก แต่ของลิเวอร์พูลดันเป็น ฟาบิโอ ออเรลิโอ หรือ อันเดรีย ดอสเซน่า ซึ่งไม่ค่อยชอบประกบพวกตัวจี๊ดถึกๆ ซักเท่าไหร่ โอกาสจะโดนฉีกกระชากผ่านจึงมีเยอะเหมือนกัน

แมนฯซิตี้ต้องตีค่าเกม นี้ไว้สูงเนื่องจากแพ้บอลในประเทศมาติดๆ ทั้งคาร์ลิ่งคัพและบอลลีก โดยเฉพาะรายการหลังซึ่งกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส เน้นให้เกาะกลุ่มนำไว้ อย่าโดนทิ้งห่างมากจนกลายเป็นทีมชั้นกลาง

ซิตี้อยู่ในช่วงอัพเกรด ตัวเอง สะสมความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง อะไรที่เป็นเรื่องน่าเกลียด อย่างแพ้ 2-3 นัดติดๆ ฟอร์มแกว่งไปแกว่งมา ไม่มีมาตรฐานหรือเป็นลูกไล่พวกบิ๊กโฟร์ จึงเป็นอันตรายต่อภาพพจน์ "ความหวังใหม่" ทั้งนั้น

ยิ่งนัดนี้เรือใบ สีฟ้าจะถูกเปรียบเทียบกับลิเวอร์พูล ซึ่งแม้จะยังไม่ดีที่สุด แต่ก็มีคุณสมบัติของทีมลุ้นแชมป์อยู่มากเกินพอ ทั้งความคลาสสิคของ เฟร์นานโด ตอร์เรส พรสวรรค์ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด รวมทั้งพลังของ ร็อบบี้ คีน กับ เดิร์ก เคาท์ ที่วิ่งเป็นม้าได้ทั้งเกม

แมนฯซิตี้อยู่ตรงไหนของพรีเมียร์ลีกจะได้รู้กัน

ส่วนเรื่องที่โรบินโญ่จะดวลลีลาซุปเปอร์สตาร์กับตอร์เรสก็เป็นของแถมที่น่าตื่นเต้นชะมัด!

โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ชิพ

วัน เสาร์ที่ 4 ต.ค. ซันเดอร์แลนด์-อาร์เซน่อล, เวสต์บรอมวิช-ฟูแล่ม, วีแกน-มิดเดิ้ลสโบรช์, แบล๊คเบิร์น-แมนฯยู
วันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค. เวสต์แฮม-โบลตัน, ปอร์ทสมัธ-สโต๊ก ซิตี้, สเปอร์ส-ฮัลล์ ซิตี้, เชลซี-แอสตัน วิลล่า, แมนฯซิตี้-ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน-นิวคาสเซิล

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์

คืน วันเสาร์ 4 ต.ค. เวลา 21.00 น. ซันเดอร์แลนด์-อาร์เซน่อล(ทรูสปอร์ต 1) เวสต์บรอมวิช-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต 5) วีแกน-มิดเดิ้ลสโบรช์(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 23.00 น. ลาซิโอ-เลชเช่(แอดฮอค 1) เวลา 01.00 น. บียาร์รีล-รีล เบติส(ทรูสปอร์ต 1) เวลา 01.30 น. อินเตอร์ มิลาน-โบโลญญ่า(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 03.00 น. บาร์เซโลน่า-แอตเลติโก้ มาดริด(ทรูสปอร์ต 1)

คืนวันอาทิตย์ 5 ต.ค. เวลา 19.30 น. เวสต์แฮม-โบลตัน(ทรูสปอร์ต 5) เวลา 20.00 น. ยูเวนตุส-ปาแลร์โม่(แอดฮอค 1) เวลา 21.00 น. เชลซี-แอสตัน วิลล่า(ทรูสปอร์ต 3) แมนฯซิตี้-ลิเวอร์พูล(ทรูสปอร์ต 1) ปอร์ทสมัธ-สโต๊ก ซิตี้(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1) สเปอร์ส-ฮัลล์ ซิตี้(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2) เวลา 22.00 น. เอฟเวอร์ตัน-นิวคาสเซิล(ทรูสปอร์ต 5) เวลา 01.30 น. กายารี่-เอซี มิลาน(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 02.00 น. รีล มาดริด-เอสปันญ่อล(ทรูสปอร์ต 1)