Members


เดิร์ก เค้าท์ ซัดช่วงทดเจ็บให้ ลิเวอร์พูล พลิกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 หลัง "หงส์แดง" ถูกยิงขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ครึ่งแรก 2-0 เข้าครึ่งหลัง เฟร์นานโด ตอร์เรส มากด 2 ลูกตีเสมอ ก่อนที่หัวหอกชาวฮอลแลนด์มาซัดประตูชัย

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
แมนฯ ซิตี้ 2 - ลิเวอร์พูล 3


คู่บิ๊กแมตช์ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้เปลี่ยนผู้เล่นแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมยูฟ่าคัพกลางสัปดาห์โดยได้ริชาร์ด ดันน์หายเจ็บกลับมาเสียบแทนทาล เบน ฮาอิม ส่วนลิเวอร์พูลเน้นรัดกุมใช้หมากหอกเดี่ยวเข้าสู้ ดร็อปร็อบบี้ คีนลงไปเป็นตัวสำรองและส่งฮาเวียร์ มาสเคราโน่คืนทัพเติมแดนกลางแทนทั้งๆที่ดาวยิงไอริชเพิ่งเปิดบัญชีได้ในศึกฟุตบอลยุโรป

ลิเวอร์พูลเดินเกมรุกข่มขวัญเจ้าบ้านก่อนทันที และมีเสียวตั้งแต่นาทีที่ 4 ในจังหวะที่สตีเว่น เจอร์ราร์ดโยนบอลข้ามฝากจากริมเขตโทษด้านขวาให้อัลเบิร์ต ริเอร่าวอลเลย์ยัดใส่มุมแคบถูกโจ ฮาร์ทปัดทิ้งได้

จากนั้นในนาทีที่10 เรือใบสีฟ้าก็ตอบโต้ได้เช่นกันจากการวางบอลยาวไปถึงหน้าเขตโทษแล้วอัลบาโร่ อาร์เบลัวคุมโรบินโญ่ไม่อยู่ถูกสตาร์แซมบ้าพักบอลด้วยหน้าอกหนึ่งจังหวะก่อนสับไก แต่ขาดความรุนแรงจึงไม่ผ่านมือโฆเซ่ เรน่า หงส์แดงพยายามตั้งลำกันใหม่ และน่าจะทะลวงตาข่ายได้อย่างยิ่งจากลีลาของริเอร่าที่เลื้อยเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลบอลหนีการบล็อคของไมกาห์ ริชาร์ดส์ทำให้เดิร์ก เคาท์ได้เผด็จศึกเหน่งๆหน้าปากประตู ทว่าพ่อค้าแข้งเมืองกังหันลมทำเสียของซัดโด่งออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 19 เจ้าบ้านก็ได้เริงร่าก่อนเมื่อฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์กระชากบอลหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วจ่ายเข้ามาหน้าประตูโดยที่อาร์เบลัวซึ่งประกบโรบินโญ่อยู่เตะสกัดไม่ขาดจึงถูกสตีเฟ่น ไอร์แลนด์วิ่งเข้ามากดตูมเต็มแรงจากระยะ 10 หลาไม่เหลือเป็นสกอร์นำ 1-0 ของแมนฯ ซิตี้ นับจากนั้นเกมก็ออกลูกเนือยลงไป จวบจนผ่านพ้นครึ่งชั่วโมงเร้ด แมชีนก็กลับมาเน้นบุกกันอีกรอบก่อนที่ชาบี อลอนโซ่จะลากบอลขึ้นมากระทุ้งจากระยะ 28 หลาแฉลบขุนพลเรือใบเล็กน้อยแต่ไม่เปลี่ยนทิศจึงถูกฮาร์ทคว้าไว้ได้

นาทีที่ 40 ริเอร่าทำเสียวได้อีกตามเคยด้วยการผ่านบอลจากกราบซ้ายหนีปาโบล ซาบาเลต้าไปเสาไกลได้ แต่เคาท์เข้าชาร์จระยะหกหลาช้าเกินไปบอลจึงกลิ้งหนีไปอย่างน่าเสียดาย แต่แล้วอีกสองนาทีต่อมา ริเอร่าก็ไปกระแทกไรท์ ฟิลลิปส์คว่ำริมเขตโทษด้านขวา ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นฟรีคิกของเจ้าบ้านและฆาเบียร์ การ์ริด้ารับหน้าที่ปั่นจากระยะ 27 หลาได้ดีเหลือเชื่อส่งบอลพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกชนิดที่เรน่าตามมาปัดไม่ทันเพิ่มสกอร์ให้เรือใบนำห่าง 2-0 เป็นอย่างนี้ ลิเวอร์พูลจึงต้องเร่งเครื่องสุดฤทธิ์แต่ยังไม่มีโอกาสจะแจ้ง จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้จึงนำหน้าก่อนสองประตู

เริ่มครึ่งหลัง เร้ด แมชีนขึ้นเกมบุกแบบสายฟ้าแลบทันที และในจังหวะที่เคาท์วิ่งไล่บอลโยนยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษก็ล้มคว่ำขณะถูกดันน์ตามคุม แต่ผู้ตัดสินไม่เห็นพ้องกับดาวเตะดัตช์ที่มองว่าตัวเองสมควรได้ลูกโทษ กระนั้นก็ดี นาทีที่ 55 ความพยายามของทีมเยือนก็บรรลุผลเมื่อเจอร์ราร์ดแทงบอลลอดหว่างขาการ์ริโด้ให้อาร์เบลัวรับช่วงไปจ่ายจากกรอบเขตโทษด้านขวาหนีจังหวะบล็อคของดันน์ได้เปิดทางให้เฟร์นานโด ตอร์เรสที่เข้าหาบอลได้ก่อนซาบาเลต้าพุ่งสไลด์เผาขนหกหลาที่เสาไกลพาหงส์แดงไล่มา 1-2

โดนตีไข่แตกแบบนี้เจ้าถิ่นจึงต้องทำเกมรุกเข้าใส่อาคันตุกะ และน่าจะผลิตสกอร์ได้อีกในนาทีที่ 65 จากความวูบวาบของไรท์ ฟิลลิปส์ที่ลากลุยเข้าเขตโทษด้านขวากระทั่งเจมี่ คาร์ราเกอร์เอาไม่อยู่ ไรท์จิ๋วจึงตักบอลเข้าหาปากประตูแต่โรบินโญ่กระโดดเข้าฮอสโด่งข้ามคานทั้งๆที่ไอร์แลนด์ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่ารอเช็คบิลที่เสาสอง แต่แล้วล่วงมาอีกสองนาทีซาบาเลต้ากองหลังจอมเฟอะฟะประจำทีมเรือใบก็ปรี่เข้ายันใส่ชาบีแถวกลางสนามจึงโดนตะเพิดทันทีส่งผลให้หงส์แดงมีลุ้นพังประตูเพิ่มด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากกว่า

นาทีที่ 71 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนคีนกับอันเดรีย ดอสเซน่าลงไปแทนมาสเคราโน่กับฟาบิโอ ออเรลิโอขณะที่แมนฯ ซิตี้จำต้องถอดกองหน้าโชออกส่งเกลสัน แฟร์นันเดสลงไปแพ็คแดนกลาง แต่ก็ไม่รอดอยู่ดีเมื่อทีมเยือนได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายในอีกสองนาทีต่อมาโดยเจอร์ราร์ดปั่นเข้าหาเสาแรกแล้วแฟร์นันเดสเข้าประกบตอร์เรสช้าแถมฮาร์ทออกมาชกบอลไม่ถึงทำให้กองหน้าเลือดกระทิงขวิดบอลตุงตาข่ายกลายเป็นประตูตีเสมอ 2-2 เท่านั้นเองเครื่องจักรสีแดงก็ทำงานกันอย่างเต็มประสิทธิภาพทันทีทำให้แมนฯ ซิตี้ต้องเปลี่ยนโรบินโญ่ออกในช่วงสิบนาทีสุดท้ายปล่อยเช็ด อีแวนส์ลงไปแทนขณะที่เร้ด แมชีนใช้งานยอสซี่ เบนายูนแทนริเอร่า

จากนั้นอีกสองนาทีกองเชียร์เรือใบก็เกือบตาค้างเมื่อเจอร์ราร์ดตวัดบอลเข้าช่องให้คีนป้ายจากเขตโทษด้านซ้ายมาอีกฝั่งแต่ตอร์เรสสไลด์ยิงระยะแปดหลาหลุดกรอบไม่น่าเชื่อพอเห็นท่าไม่ดีแมนฯ ซิตี้ก็ส่งมาร์ติน เปตรอฟลงไปแทนเอลาโน่ในนาทีที่ 85 แต่อึดใจต่อมาดันน์ก็ได้ใบเหลืองจากจังหวะกระแทกตอร์เรสทำเอาแฟนเจ้าถิ่นตะโกนด่าผู้ตัดสินว่าขี้โกงเนื่องจากมองว่าเป็นการเข้าสกัดธรรมดาไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดโดนจดชื่อ

จวบจนนาทีที่ 88 เกมก็ต้องชะงักไปสามนาทีเมื่อแมนฯ ซิตี้วางบอลยาวขึ้นหน้าแล้วมาร์ติน สเคอร์เทลซึ่งวิ่งตีคู่ไปกับอีแวนส์เสียหลักล้มกระทั่งเจ็บเข่าขวาเล่นต่อไม่ไหวต้องเข้าเฝือกชั่วคราวหามลงเปลออกไปทำให้ทั้งสองฝ่ายเหลือนักเตะสิบคนเท่ากันเนื่องจากอาคันตุกะเปลี่ยนผู้เล่นครบแล้ว ช่วงที่เหลือลิเวอร์พูลยังเดินหน้าต่อ และถึงนาทีที่ 92 แมนฯ ซิตี้ก็ต้องหงายเก๋งจากจังหวะที่ดอสเซน่าเปิดบอลขึ้นกราบซ้ายให้เบนายูนเจาะเข้าเขตโทษแล้วป้ายมาหน้าประตู แม้ตอร์เรสจะสับไกแฉลบ แต่กลายเป็นดีมาเข้าทางให้เคาท์เก็บตกสามหลาที่เสาไกลพาหงส์แซงนำ 3-2 จนได้ เขี่ยบอลกันใหม่เรือใบจำต้องโหมบุก แต่ก็เปล่าประโยชน์ หมดเวลาลิเวอร์พูลจึงบุกมาเก็บสามแต้มไปด้วยชัยชนะ 3-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเวียร์ การ์ริโด้, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แว็งซองต์ กอมปานี, เอลาโน่, โรบินโญ่, โช
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, อัลวาโร่ อาเบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เดิร์ก เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ่, อัลเบิร์ต ริเอร่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส


http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/081005_124.html

Views: 142

Reply to This

Replies to This Discussion

ยังไงก็ต้องสู้ๆต่อไป เอาใจช่วยเชียร์นะคะ ถึงจะรักหงส์ แต่ก็แอบกิ๊ก เรือ - -

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.