Members

บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าในยามเย็นวัน(ศุกร์)นี้ ชวนให้ผมนึกถึงความอึมครึมในห้วงอารมณ์ของสาวก “CITID” หลังแมตช์ในค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมาเสียเหลือเกิน...

การยินยอมพร้อมใจให้ บางสิ่ง( ทีมแมนฯ ซิตี้ ) หรือ บางคน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชนิดหายใจ เข้า – ออก “เป็นเธอ” เปรียบได้กับการฝังจิตวิญญาณลงใน สิ่งๆนั้น และก้าวไปข้างหน้าด้วยความเชื่อมั่นที่ว่า “เราจะประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกัน(นะ)”

นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความ รัก ความ ผูกพันธ์ ที่ แฟนคลับของสโมสรฟุตบอล อย่างเราๆ พร้อมใจกันหยิบยื่นให้กับทีมรัก และคอยเป็นแรงหนุนชั้นดี ไม่ว่าในวันที่ทีม “ประสบความสำเร็จ” หรือ “เสร็จคู่แข่ง”

เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายๆท่านที่กวาดสายตามาถึงย่อหน้านี้ คงเริ่ม ทบทวน บทบาทของตัวเองอยู่ในใจลึกๆ ว่า “เรา เริ่ม มีความรู้สึกแบบนั้นกับทีม เรือใบสีฟ้า ทีมนี้รึยัง(นะ)???” การเป็นแฟนของทีมฟุตบอลระดับกลางทีมหนึ่งซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มีเกียร์ติยศใดๆติดไม้ติดมือ ไม่มีฐานแฟนบอลขนาดใหญ่ทั่วโลกคอยสนับสนุน

“แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้น...

ฟอร์มการเล่นไม่ได้เจิดจรัสในทุกๆเกมส์ที่ลงสนาม มีแมตช์ที่น่าประทับใจบ้าง ไม่น่าจดจำบ้างก็ถมไป จะคาดหวังให้ก้าวกระโดดจากมาตรฐานหนึ่ง ไปยังอีกมาตรฐานที่สูงกว่าในระยะเวลาสั้นๆคงเป็นรื่องยากที่จะทำได้( จริงๆ )

ภายหลังเกมส์กลางสัปดาห์ของทั้งสองคู่ ( อาเซนอล – สเปอร์ส , โบโร่ – แมนฯ ซิตี้) ผมนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ไม่มีคำด่าทอ ไม่มีอาการฉุนเฉียว ( แต่มี...แบบ... ถอนหายใจ เฮ้อออยยย เอน็จ 555+) มารู้สึกตัวอีกที หลังจากตื่นขึ้นในตอนเช้าของอีกวันนั่นละครับ และก็พบว่า อาการเบื่อโลก เมื่อคืนก่อนได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว...

ในฐานะแฟนบอล ปืนใหญ่ ( และ เรือใบสีฟ้า) ผมยังมีความสุขดีอยู่ แม้จะไม่ชนะในทุกๆเกมส์ โอกาสคว้าแชมป์อาจเหลือน้อยเต็มที ถ้าเทียบกับทีมใหญ่ ทีมอื่นๆ (ผมหมายถึง อาเซนอล นะครับ) แต่สิ่งที่สัมผัสได้ ณ ปัจจุบันนี้ คือ ความยินดี ที่ได้มีโอกาสดูทีมรักลงเตะในทุกๆสัปดาห์ เมื่อมองย้อนกลับไปว่าทีมๆนี้ เคยมอบ ความสุข ความสมหวัง ให้กับกองเชียร์อย่างเราๆมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน แค่ได้เห็นนักเตะเหล่านั้นลงวาดลวดลายในสนาม ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาในรูปแบบใด สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผมมีความสุขใจอย่างที่สุดแล้ว

เช่นเดียวกับการปันใจเชียร์ “เดอะ ซิติเซ่นส์”

การได้เห็น ซุปเปอร์สตาร์ "ราชาสับขาหลอก" อย่าง โรบิญโย่ มาวิ่งพล่านทำเกมอยู่ใต้รั้วชายคา ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ดูเหมือนเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเอามากๆ ซึ่งสำหรับแฟนบอลอย่างผมแล้ว ถือเป็นอะไรที่คุ้มค่า และปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ามันน่าตื่นเต้นจริงๆ ที่จะมีโอกาสได้เห็น "เปเล่น้อย" ค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ในทุกๆเกมส์ที่ได้ลงเล่น รอเวลางัดฟอร์มที่ดีที่สุดของเค้าออกมาให้แฟนอย่างเราๆได้ชื่นชมกัน

ในเมื่อกำลังทรัพย์ของ ซิตี้ มีพร้อมให้จับจ่าย แม้ในฤดูกาลนี้อาจยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ในอนาคตอันใกล้ ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ ว่า “เรือใบสีฟ้า” ทีมนี้จะไม่มีโอกาสเยื้อย่างเข้าใกล้ความสำเร็จเอาเสียเลย ซึ่งจนกว่าจะถึงเวลานั้น เรามาร่วมส่งแรงเชียร์ให้ทีมระดับกลางอย่าง แมนฯ ซิตี้ ทีมนี้ค่อยๆพัฒนาฟอร์มอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ถือเป็น “ความสุขระหว่างทาง” ในการเชียร์บอลให้สนุกของแฟนๆ ที่จะผลักดันสโมสร สู่การพัฒนาเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวในอนาคตนั่นไงครับ...

ดำเนินเรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว...จึงอยากสารภาพว่า...ว่า...ว่า...

บทความชุดนี้ไม่มีเนื้อหา พรีวิว เกมกับ โบลตัน สุดสัปดาห์นี้นะครับ...(เงียบฉี่)... ท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ด้วยความหวังว่าจะมีพรีวิวให้อ่าน ผมเสียใจด้วยจริงๆครับ ยังไงซะคาดว่าคงมีสมาชิกท่านอื่นให้ความกรุณา สรรหาข้อมูลก่อนแมตช์คืนพรุ่งนี้ มาให้ท่านๆได้ติดตามกันอย่างแน่นอน ฮิๆๆ ( หากท่านผู้อ่านจะตำหนิผม ก็สามารถตำหนิผ่านทาง ไอ้เติ้ลเอ้ย!!! ได้เลยครับ ผมยอมครับ!!! 555+)

เอาน่ะครับ ไหนๆก็หยิบยกเรื่องราว “ความสุขของแฟนบอล” มาคุยกันตั้งแต่ต้น ในหนนี้แล้ว จึงขออนุญาติพาดพิงถึงคนใกล้ตัวบางคนเสียหน่อย ใครคนนั้นคือเพื่อนบ้าน "เด็กสิงห์" คนสนิทนายหนึ่งของผมซึ่งมีนามว่า “เจ้าเอ็ม” นั่นเอง

เจ้าเอ็ม นักศึกษา สถาบันไทยวิจิตรศิลป์ ปีสุดท้าย ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ซึ่งเมื่อดูเผินๆอาจมีการเข้าใจผิด คิด(กันไปเอง)ว่าเป็น คู่ ดูโอ กอล์ฟ – ไมค์ แต่หากพินิจพิจารณาใกล้ๆจะละม้ายคล้ายคลึงกับ ไก่ สมพล เสียมากกว่า...

โดยแฟน เชลซี ณ ปัจจุบัน อย่าง เจ้าเอ็ม นั้น มีภูมิหลังในการเลือกทีมเชียร์ที่น่าสนใจทีเดียว โดย เคยผ่านการฉลองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก กับทีมรักมาแล้วถึง 6 ครั้ง...(จริงๆนะจ๊ะ) เป็นไปได้อย่างไร!!?? ในเมื่อ ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี นั้น เพิ่งเคยสัมผัสแชมป์ ลีก เพียง แค่ 2 ครั้ง เท่านั้นเอง (ในฤดูกาล 2004/05 และ 2005/06)...

คือว่าอย่างนี้ครับ เจ้าเอ็ม เนี่ย แรกเริ่มเค้าเป็นแฟน “ปีศาจแดง” ...คือในฤดูกาล 2000/01 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์นั้นแหละ แต่ในเมื่อ “เรด เดวิลส์” เสียตำแหน่งแชมป์ให้กับ “พลพรรคปืนโต” ในปีถัดมาเท่านั้นละครับ ทำให้เจ้าเอ็ม ผันตัวเองจาก แฟนผี มายืนเคียงข้างผมในฐานะ แฟนปืน แต่...แต่...แต่ว่า เค้าไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นหรอกครับ เจ้าเอ็ม ขายวิญญาณ( ที่ไม่บริสุทธิ)ให้กับอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี ซะฉิบ หลังจาก “เดอะ บลูส์” คว้าแชมป์ ลีก หนแรกเป็นประวัติศาสตร์ทีม ในยุครุ่งเรืองของ โชเซ่ มูริญโญ่...

เรียกได้ว่า ยังไงซะแชมป์ไม่หนีหายไปไหนแน่ครับ ก็เล่นเหมาเชียร์ทีมใน Big4 มันซะทุกทีมขนาดนั้น...

ล่าสุดที่มีโอกาสได้เล่นบาสฯ ด้วยกัน ในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลา 2 วันหลังจาก “หงส์แดง” บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ “สิงห์บลู” ถึงถิ่น ซึ่งผมสังเกตุเห็นกางเกงขาสั้นสีแดงที่ ไอ้เอ็ม เอ้ยยย เจ้าเอ็ม สวมใส่ในวันนั้น ปักตราสัญลักษณ์ ลิเวอร์พูล พร้อม สโลแกน “you’ll never walk alone” แปะหราอยู่ตรงตะเข็บข้าง… (ตกลงนี่เมิงงเชียร์ทีมไรนี่???)

ซึ่งเจ้าตัวชิงออกตัวก่อนเลยว่า “แฟนซื้อให้( นะจ๊ะ)” ( ก็ไม่รู้ว่าแฟนซื้อให้ เพราะมานบอกให้ซื้อรึเปล่า???)

แม้ผมจะพอเข้าใจว่า เรื่องของ “เกียร์ติยศ” เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่สามารถดึงดูดแฟนบอลบางกลุ่มได้เป็นอย่างดี ทั้ง แมนฯยู เชลซี หรือ อาเซนอล ต่างก็มีประสบการณ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ ชิพ ด้วยกันมาแล้วทั้งนั้น ส่วน ลิเวอร์พูล เองก็มีประวัติศาสตร์และเกียร์ติยศในอดีตที่ยิ่งใหญ่ แม้ ณ ปัจจุบันยังไม่มีแชมป์ ลีก ติดไม้ติดมือ แต่เชื่อว่าลูกทีมของ ราฟา ( ไอ้เติ้ลเอ้ย และ เจ้าเอ็ม ) จะสมหวังในเวลาไม่ช้าไม่นานนี้

“แฟนเรือใบสีฟ้ามือเปล่า” อย่างเราๆ อาจไม่มีเกียร์ติยศ ไม่มีบารมี ไปสู้รบปรบมือกับทีมยักษ์ใหญ่เหล่านั้น แต่ผมกลับภูมิใจที่จะได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบุกเบิกยุคแห่งความหวังของ “ซิตี้” ณ วันนี้ ...แม้ไร้อดีตที่ยิ่งใหญ่ให้ดื่มด่ำ แต่ประวัติศาสตร์ที่เราจะร่วมสร้างกันหลังจากนี้ไป กลับดูมีคุณค่าทางจิตใจเสียยิ่งกว่า หากในวันหนึ่ง “CITID” ทีมนี้ พัฒนาศักยภาพและก้าวขึ้นสู่ ทำเนียบแชมป์ เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ...

เราๆท่านๆคงได้ยืดอก กันอย่าง ปลาบปลื้ม พลางฟุ้งได้เต็มปากว่า เราเป็นสาวกพันธุ์แท้ ซิตี้ ที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมฝ่าฟัน อยู่เคียงข้างทีมรัก กระทั่งมีวันนี้ในที่สุด...

ก็ไม่แน่นะครับ เมื่อถึงวันนั้น ผมอาจเห็น “เจ้าเอ็ม” เพื่อนเกลอ สวมเสื้อสีฟ้าติดยี่ห้อ “ตราเรือใบ” นั่งลุ้นนั่งเชียร์ เดอะ ซิติเซ่นส์ อย่างออกนอกหน้า พลางแสยะยิ้ม ก่อนหล่นวาจาเชือดเฉือนหัวใจแฟนๆทีมอืนว่า...

“เป็นงาย ทีมรักตรู (อีกทีม) ได้แชมป์ (อีกแล้ว) เว้ยยยย” ( เฮ้ออออยยยย เอน็จ 555+)


River.

Views: 115

Reply to This

Replies to This Discussion

โย่ว ซุ่มเงียบนะแก ดีขึ้น อย่างเหลือเชื่อ บทความนี้ดูดีกว่าครั้งที่แล้วเยอะ...


ปล. เอ็ม หล่อป่ะ อิอิ
ขอบคุณสำหรับบทความ

ที่ทำให้ผมย้อนกลับมามองตัวเองครับ

ซึ่งผมพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับCITID

และ หงส์แดง ทีมรักของผม

ตลอดไปครับ
ไอเติ้ลเอ้ย...... จะอยู่กับเรือใบตลอดไป..
อ่านแล้วได้อารมณ์ร่วมเคลิบเคลิ้มไปกับตัวอักษรที่บรรเลงเหมือนเพลงชีวิต
มีทั้งดีใจเสียใจปลงตกแล้วหันกลับมาสู่ชีวิตจริงที่จะต้องดำเนินต่อไป
เหมือนเรือชีวิตลำนี้อะไรหนอทำให้พวกเรามาลงเรือลำเดียวกันและได้รู้จักกัน...


หนุ่ม River ฉายแววศิลปินที่มีอนาคตไกล...ขอช่วยขุดๆๆๆๆ และเป็นกำลังใจให้ตลอดไป
เขียนดีเหมือนเคยเลยคะ คราวนี้ มีอารมณ์ DRAMA เข้ามาสอดแทรกด้วยนะชอบคำว่า "ความสุขระหว่างทาง" นะคะ ปูมาซะเห็นภาพ จนสรุปด้วยคำสั้นๆ คำนี้..เยี่ยมคะ.. (งานช้า แต่มีคุณภาพได้เฮเลยนะ..ก็ โอ.เค. คะ)
ต้องบอกว่าดีขึ้นทุกครั้งที่อ่านเลยนะจ้ะ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.