Members

เมื่อสีฟ้าครองเมืองแมนเชสเตอร์



     ในปีที่ทีมสีแดงอยู่ในช่วงขาลง ทีมสีฟ้าร่วมเมืองเดียวกัน แม้ยังไม่การันตีความสำเร็จ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้ว่าพร้อมจะทดแทนกลุ่มอำนาจเดิม!




        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านพ้นไปของฤดูกาล และหลังจากปูพรมถล่ม  แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส สโมสรจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไป 5-0 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดรีเพลย์ เมื่อวันพุธที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ก็เป็นธรรมดาที่จะเริ่มมีการพูดถึงโอกาสคว้า 4 แชมป์ของพวกเขาในฤดูกาลนี้


        "เรือใบสีฟ้า" มีลุ้นแชมป์ลีกเต็มตัว เมื่อตามหลัง อาร์เซน่อล แต้มเดียว, เอฟเอ คัพ ตบเท้าเข้ารอบ 4 และพวกเขาไม่ต้องกลัวใคร เช่นเดียวกับ แคปปิตอล วัน คัพ ที่รอบรองฯ นัดแรก ถล่ม เวสต์แฮม ไป 6-0 ทำให้เกมนัดสองแทบไม่มีความหมาย จะมีหนักหน่อย และโอกาสสำเร็จเป็นไปได้ยาก (แต่ก็มีโอกาส) นั่นก็คือถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่รอชนกับ บาร์เซโลน่า รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งพูดได้ว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกลัวใคร !


        เกมรุกพวกเขาคือไม้ตาย คือพร้อมยิงมากกว่าคู่แข่ง และหนึ่งในคนที่ฟอร์มฮอตมากช่วงนี้ และจะเป็นตัวแปรของ ซิตี้ ได้ก็คือ เอดิน เชโก้ ปีใหม่นี้ยิงไป 5 ลูกแล้ว ทดแทนช่วงที่ กุน เจ็บไปนานได้ดี โดย 2 ลูกหลังมาจากเกมกับ แบล็คเบิร์น นั่นแหละ แต่เกมนี้ กุน ลงเล่นครึ่งหลัง และยิงได้ด้วย ซึ่ง เชโก้ ยังกำลังใจดี "ระยะหลังผมได้ลงเล่นบ่อยมาก ผมรู้สึกดี และทีมก็พบกับชัยชนะด้วย มันถือเป็นข่าวดีสำหรับทีม เพราะเขา (อเกวโร่) เป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของทีม" 


        นักเตะทัศนคติแบบนี้เป็นแบบที่โค้ชต้องการ เพราะทีมสำคัญสุด และเค้าเข้าใจบทบาทของตัวเอง แต่อย่างที่บอกไปนั่นแหละ เชโก้ จับคู่เล่นกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ได้ดี รายนี้โหดกว่า เพราะในปี 2014 เขายิงไป 7 ลูกแล้ว และ อดีตดาวยิง เซบีย่า กล่าวถึงการเล่นกับ เชโก้ ว่า "การจับคู่กับ (เอดิน) เชโก้ เป็นไปอย่างดีมาก เมื่อเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม มันง่ายมากที่จะเล่นด้วยกัน เรามองหากันและกันเสมอ การจับคู่ทำงานได้ผลดีมาก เขาจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมให้ผมทำประตูได้ครั้งหนึ่ง และเรามองหากันตลอด และนั่นเป็นสิ่งสำคัญ มันดีที่สุดสำหรับทีมไม่ว่าใครจะลงเล่น"


        ด้วยฟอร์มแบบนี้ แว็งซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยียม ตั้งความหวังว่าสักวันหนึ่งทัพ "เรือใบสีฟ้า" จะได้สู้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 4 รายการหลักใน 1 ฤดูกาล พร้อมเชื่อต้นสังกัดของตนต้องทำได้อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ "เรารับปากไม่ได้ว่าจะทำสำเร็จตั้งแตตอนนี้ แต่ผมมั่นใจว่ามันจะต้องเกิดขึ้นในที่สุด ตอนนี้เราคือนักเตะแห่งช่วงเวลาที่ได้รับเลือกว่า จะต้องทำให้ได้ แต่หากมันไม่ใช่เรา มันก็จะเป็นนักเตะคนอื่นๆ มาทำแทน แต่แน่นอนว่าสโมสรแห่งนี้มีเป้าหมายที่ต้องคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ จะเป็นไปได้"


        ล่าสุด ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตกองกลางทีมชาติเวลส์ แสดงความเชื่อมั่นว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีศักยภาพที่แข็งแกร่งมากพอจะสามารถผงาดคว้า 4 แชมป์มาครองได้ในฤดูกาลนี้ โดยยกเกมรุกที่ร้อนแรงเป็นจุดขาย เพราะหลังสอย แบล็คเบิร์น ไป 5 ลูกทำให้ตอนนี้พวกเขาระเบิดตาข่ายไปแล้ว 99 ประตูจาก 33 นัดที่ลงเล่นในทุกรายการ


        "แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้ในฤดูกาลนี้ และด้วยการมีสุดยอดกองหน้าของยุโรปอยู่ในทีม พวกเขาจะสามารถทุบสถิติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยคว้า 3 แชมป์มาครองได้เมื่อปี 1999 ได้ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์กวาดแชมป์ทั้ง 4 รายการ"


        "พวกเขาจะยิงได้ถึง 100 ประตูเร็วกว่าทีมอื่นในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกถึง 8 เกม หากพวกเขายิงประตูได้ในเกมพบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ วันเสาร์ (ที่ 18 มกราคม) ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวรุก ซิตี้ และกับการที่พวกเขามีกองหน้า 3 ตัวมันดูเหมือนว่าจะมีส่วนช่วยให้พวกเขาก้าวขึ้นไปสู่อีกระดับ" ซาเวจ ทิ้งท้าย


        สไตล์การเล่นแบบนี้แหละทำให้ มานูเอล เปเยกรินี่ เคยบอกว่าต่อให้ บาร์ซ่า ก็หนาวเมื่อจับสลากมาจ๊ะเอ๋พวกเขา "มันคือเรื่องสำคัญกับจำนวนประตูที่ยิงได้ ผมอยากจะพูดซ้ำกับเมื่อตอนที่ผมมาที่นี่ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะพยายาม และคว้าแชมป์มาครองให้ได้ แต่ต้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมันก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับแฟนๆ ที่เดินทางมาที่นี่ และรู้ว่าเรากำลังจะพยายามที่จะยิงประตูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"


        "เราจะเดินหน้าเล่นในสไตล์ของเราต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ยิงให้ได้ 1 ประตู แล้วก็ครองบอล ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งครองบอล มันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่ากับการให้นักเตะทั้ง 10 คนลงไปตั้งรับ และพยายามเล่นเกมสวนกลับด้วยการใช้นักเตะ 2-3 คน แต่มันไม่ใช่ปรัชญาการทำทีมของผม ไม่ใช่ปรัชญาที่สโมสรแห่งนี้ต้องการเล่น เราจะเดินหน้าพยายามและเล่นตลอด 90-95 นาทีในทุกเกม นอกเหนือไปจากการยิงประตูได้ เราพยายามที่จะสร้างความสมดุลในทีมและเล่นได้อย่างตื่นตาตื่นใจ"


        โค้ชแบบนี้ นักเตะแบบนี้ ไม่แปลกที่ทีมสีฟ้าของ แมนเชสเตอร์ จะกำลังลอยลม บินฉิว ขณะที่แฟนบอลทีมสีแดง หากเป็นกลางจริงๆ ก็คงจะมองเพื่อนบ้าน พร้อมทำใจยอมรับว่า ฟอร์มที่ดุดัน ยิงไม่เลี้ยงแบบนี้ มันไม่ต่างจากทีมของพวกเขาสมัยก่อนเลย

Cr.www.siamsport.

ติดตามข่าวสารทีมได้ที่ http://mcfc.in.th/

Views: 649

Reply to This

Replies to This Discussion

ศักยภาพขุมกำลังพร้อม ความมุ่งมั่นกำลังใจพร้อม และด้วยช่วงที่อยู่ในฟอร์มแบบนี้ก้อไม่ต้องกังวลและไปกลัวใครแล้วครับ สุดยอดแล้วทีมเราแมนซิตี้ช่วงนี้ และเชื่่อว่าทีมเราจะพัฒนาไปเรื่อยๆเพื่อแชมป์ แมนซิตี้สู้ๆ

ผมว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดยุคป๋าเฟอร์กี้คงไม่มีอะไรดีพอที่จะเป็นแชมป์หรอกคับ... ป๋าแกอิทธิพลเยอะ..ทีมเลยได้ดี

ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนบ้านกันตลอดไปนะแมนยู 

ถ้าแฟนผีไม่ปากดี มันก็น่าเห็นใจครับ

แฟน Man City ควรดูแฟน Man U เป็นตัวอย่าง และอย่าไปทำตาม อย่าไปหย่ามเหยียบคนอื่น ไม่มีทีมไหนยิ่งใหญ่ได้ตลอดกาล และไม่มีผู้แพ้ที่จะไม่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า แต่แฟน Man City น่ารักทุกคน ผมไม่ค่อยเห็นแฟนทีมเราไปเกรียนใส่คนอื่น แต่ถ้ามีก้อขอให้เลิกเถอะ เพราะมันเป็น สัจธรรม มีมิตร ดีกว่ามีศัตรู

นัมเบอร์วันในเมองแมนฯ และจะเป็นนัมเบอร์วัน ของพรีเมียร์ และไม่ช้าจะเป็นของยุโรปแน่นอนคับบบ 555++

คลื่อนลูกใหม่ สีฟ้า อันสดใส

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.