ก่อนอื่นต้องแสดงความยิดดีกับ กฏ FFP ที่น่าจะเกิดเต็มตัวเสียทีหลังจากเกิดประเด็นมากมายจนถึงขั้นที่ทางแมน เชสเตอร์ซิตี้ทีมดังจากลีคอังกฤษเตรียมดำเนินการทางกฏหมายถึงขั้นฟ้องร้อง เนื่องจากการบังคับใช้กฏอย่างไม่เป็นธรรมของยูฟ่า


ล่า สุดทางยูฟ่าจึงแสดงความโปร่งใสโดยการประกาศบทลงโทษอย่างเป็นทางการและเตรียม ให้ทุกสโมสรที่กระทำผิดกฏการเงินในครั้งนี้ส่งคำยินยอมในการรับบทลงโทษโดย พร้อมเพรียงมิใช่เพียงทีมใดทีมหนึ่งเช่นคราแรกอีกต่อไป โดยทีมที่เข้าข่ายโดนลงโทษฐานผิดกฏในครั้งนี้ได้แก่ แมน เชสเตอร์ ซิตี้, ปารีส แซงต์แชร์กแมง, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, รูบิน คาซาน, อันจิ มาคัชคาลา, กาลาตาซาราย, บูร์ซาสปอร์, แทร็บซอนสปอร์ และเลฟสกี้ โซเฟีย


จากการประกาศบทลงโทษเพียงหนึ่งเดียวครั้งนี้จะทำให้บรรดาสโมสรที่มีรายชื่อละเมิดกฏต้องโดนลงโทษด้วยการปรับ เงินเป็นจำนวน € 60 ล้านยูโร (£ 49 ล้านปอนด์ ) โดยทำการแบ่งจ่ายเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยแบ่งจ่ายปีละ 20 ล้านยูโร ซึ่งมีค่าเทียบเท่าค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม นอกจากนี้ยังถูกจำกัดโควต้านักเตะที่ส่งชื่อได้เพียง 21 คนและจะต้องเป็นนักเตะที่มีสัญชาติเดียวกับประเทศที่ตั้งของสโมสร 8 คนจากจำนวนทั้งหมด


นอกจากนี้ทางยูฟ่ายังสร้างนัยสำคัญโดยการระบุไว้ว่าสโมสรที่โดนประกาศชื่อจะสามารถใช้เงินในตลาดนักเตะหน้าร้อนนี้ได้เพียง € 60 ล้านยูโร แม้ว่ากฏดังกล่าวจะขัดกับสนธิสัญญาอันเกี่ยวข้องกับอิสระในการซื้อขายนักเตะ ก็ตาม ทว่าทางยูฟ่าเองก็ฉลาดพอที่จะพ่วงผลประโยชน์แถมเข้าไปเป็นการปลดล็อคการ จำกัดโควต้านักเตะในฤดูกาลถัดไป(2015 - 2016) หากสโมสรเหล่านั้นยินดีทำกระตาม


และเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหลังจากทางยูฟ่าประกาศบทลงโทษเป็นที่โปร่งใสและ ชัดเจนแล้ว สโมสรใหญ่จากแดนอังกฤษอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ก็ออกมาตอบรับการยอมรับบทลงโทษ ดังกล่าว เป็นอันจบเรื่องร้อนๆที่อาจเกิดขึ้นระหว่างยูฟ่าและแมนเชสเตอร์ซิตี้อันเกิด จากความคลุมเคลือในช่วงก่อนหน้านี้ กระนั้นแม้จะมีการลงโทษอย่างเป็นทางการแต่ก็เชื่อได้ว่าผลกระทบที่จะเกิด ขึ้นกับยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้ และ ปารีส แซงต์แชร์กแมง คงจะมีน้อยมากจนเทียบไม่ได้กับสโมสรอื่นๆที่ถูกพ่วงติดรายชื่อเข้ามาด้วย แต่นับเป็นก้าวแรกของการออกกฏหมายควบคุมการใช้จ่ายเงินของบรรดาสโมสรในทวีป ยุโรปให้ต้องปฏิบัติตามกัน แต่จะช่วยให้แฟนบอลเช่นเราๆเพิ่มความสนุกสนานในการเชียร์ทีมต่างๆเพิ่มขึ้น ดังเช่นจุดประสงค์ของกฏ FFP นี้หรือไม้ก็คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ในอนาคตต่อไป





Edit:

ทว่าดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่ยอดทีมจากอังกฤษยังคงต้องต่อสู้ต่อไปเมื่อทางยู ฟ่าได้ระบุไว้ให้แมนเชสเตอร์ซิตี้สามารถขาดทุนได้เพียง 16 ล้านปอนด์ในปีแรก และ 8 ล้านปอนด์ในปีที่สองซึ่งแตกต่างจากทีมอื่นๆที่ระบุไว้เพียงว่าห้ามขาดทุน เกิน 24 ล้านปอนด์ในสองปีถัดจากนี้ไป และนั่นจะส่งผลในเชิงการบริหารจัดการให้ยากลำบากมากขึ้นสำหรับยอดทีมจากแดน ผู้ดี



FOR CITY FAN >>> http://www.soccersuck.com/boards/topic/1057520
สำหรับแฟนบอลซิตี้หากต้องการเข้าใจผลกระทบของสโมสรต่อ FFP สามารถลองไปฟังการวิจารณ์ของเพื่อนสมาชิกได้ครับ

โดยคุกคุง saber_mcfc

Credit ข้อมูล:
http://www.goal.com/th/
http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-2630779/Mancheste...