Monday Night ใครจะเป็นยอดเกมส์รุก ศึกแห่งศักดิ์ศรีกำลังจะเริ่มแล้วครับในวันจันทร์ที่จะถึงกับการเปิดบ้านของแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับการมาเยือนของรองแชมป์ปีที่แล้ว “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล  มาร่วมเชียร์กันในวันจันทร์ที่จะถึงกันครับว่า แฟนหงส์จะยิ้มรับชัยหรือแฟนเรือใบจะได้เฮ ติดตามเชียร์กันให้ได้นะครับ (ออกแนวโปรโมทมากกว่าวิเคราะห์นะครับ)

เริ่มที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เจ้าตัวประกาศชัดว่าเค้าจะทำทีมด้วยระบบ ติกิตาก้า ให้เน้นเกมส์รุกให้มากและก็ทำได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมาไม่ต้องบอกว่าเกมส์รุกมีประสิทธิภาพขนาดไหนทำไป 101 ประตูในลีคและห่างกับ แมน ซิตี้ แค่ประตูเดียวนั้นบ่งบอกได้ชัดว่าเกมส์รุกไม่มีปัญหาแต่เกมส์รับเองก็ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจของ ร็อดเจอร์ส ยังคงสลับหมุนเวียนกันลงสำหรับคู่เซ็นเตอร์ ในแมทที่ผ่านมาล่าสุด ร็อดเจอร์ส จัดทีมลงด้วยระบบ 4-3-3 การเล่นก็เน้นครองบอลต่อบอลสลับตำแหน่งกันของสามแนวรุกและแดนกลางทุกคนจะวิ่งหาช่องตลอดแต่ก็ยังดูตะกุกตะกักเล่นขัดๆเหมือน ร็อดเจอร์ส จะเน้นครองบอลเกินไปจนทำให้ เซาท์แธมตัน จับทางได้กว่าจะชนะก็หืดจับเหมือนกัน

แนวรุกทั้งสามของลิเวอร์พูล  สเตอร์ริด คูติญโญ่ สเตอร์ริ่ง ทั้งสามหมุนเวียนสลับตำแหน่งกันขึ้นแดนหน้าเห็นได้ชัดจังหวะหลุดเดียวของ สเตอร์รื่ง ที่จบสกอร์ได้สวยงามแสดงว่าร็อดเจอร์สไม่ได้ให้ใครยืนหน้าตายตัวเหมือนตอนที่มี ซัวเรซ แต่ก็อีกครับ 4-3-3 มันสลับตำแหน่งทำเกมส์รุกกันอยู่แล้วเรื่องกองหน้าไม่ใช่ปัญหาแต่ในรูปเกมส์ที่ผ่านมาในการเจอกับ เซาท์แธมตัน ลิเวอร์พูลเล่นออกแนวย้อนไปเมื่อสองปีที่แล้วตอน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีมใหม่ๆการเล่นเคาะบอลอาจจะดูไม่ลื่นตาเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมาเรื่องแนวรับก็ยังดูเหมือนจะมีปัญหานักเตะยังจูนกันไม่ค่อยติดซึ่งต้องดูในนัดนี้ครับว่า ร็อดเจอร์ส จะไปปลุกลูกทีมเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้หรือป่าว

ส่วนทางด้าน เรือใบสีฟ้า สตาร์ทนัดแรกด้วย คลีนชีท ที่ไม่เสียประตูดูเหมือนลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ คงไม่ต้องใช้เวลาปรับจูนอะไรมากเพราะดูแล้วน่าจะใช้ชุดแชมป์ปีที่แล้วลงสนามครบทีมจัดชุดใหญ่เต็มสูบพร้อมดับเครื่องชนซึ่งซิตี้ได้เปรียบอยู่อย่างนึงคือนักเตะไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวกับระบบของเปเยกรินี่เพราะซีซั่นที่แล้วเล่นกันมาแทบจะชุดเดิมๆตลอดทั้งซีซั่นนักเตะจึงรู้ใจและเล่นกันได้เป็นอย่างดีแน่

ระบบการเล่นก็คงจะเป็น 4-2-3-1 ที่เล่นกันมาตลอดด้วยระบบนี้ในเรื่องเกมส์รุกคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากกับประสิธิภาพของแนวรุกที่ทำผลงานกันได้ดีในปีที่แล้วรวมถึงนัดที่ผ่านมา ซิตี้ ปีนี้เกมส์รุกดูดุดันขึ้นและเกมส์รับดูแข็งขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนซึ่งเฮียเปเยในนัดนี้คงกำชับเกมส์รับขึ้นให้มาก

ทำไมต้องเน้นเกมส์รับให้แข็งแกร่งเพราะฟีเท้าแนวรุกแต่ละตัวของลิเวอร์พูลเวลาหลุดใช่ว่าจะตามกันง่ายๆ ส่วนเรื่องทีมเวริคในเกมส์รุกก็คงไม่ต้องพูดถึงนักเตะในระบบเปเยต้องไม่หวงบอลใครมีโอกาศต้องให้คนนั้นจบสกอร์ไม่แย่งซีนกันทีมเวริคเลยไม่ค่อยมีปัญหาเพราะรู้ใจกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้ต้องรอลุ้นว่าจะเป็นน้องใหม่ ม็องกาล่า หรือ ขิงแก่ที่เผ็ดร้อนอย่าง เดมิเคลิส ลงมายืนประกบคู่กัปตัน ก็อมปานี และ แดนกลางจะเลือก เฟร์นานโด หรือ แฟร์นันดินโญ่ ที่จะมาเป็นคู่ขากับ ยาย่า และ แบ๊กขวาน่าจะเลือกใช้ ซาบาเลต้า หรือ ซานญ่า ที่เป็นแบ๊๊กขวาธรรมชาติน่าจะฟิตกลับมาทันให้เลือกใช้งาน

สะกิดทิ้งท้าย ถึงในปีนี้จะไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ใช่ว่าจะไม่น่ากลัวแต่แฟนซิตี้อย่าลืมนะครับเมื่อซีซั่นที่แล้วที่ไปบุกแพ้ที่ แอนฟิลน์  ซัวเรซไม่ได้ทำประตูเลยคนทำประตูคือ สเตอร์ริ่ง สเกอร์เทล และ คูติญโญ่ ซึ่งในนัดมาเยือน เอติฮัท นี้น่าจะลงครบแน่นอน และ ไอ้จอมเกรียนโอ้ตัวอันตรายที่มีข่าวอยู่อาจจะมาทำให้แฟนซิตี้ผวากันก็ได้

ทั้งสองทีมเป็นทีมที่ถนัดเกมส์รุกกันอยู่แล้วสไตร์การเล่นก็คล้ายๆกันคือเน้นครองบอลเจาะหาช่องโจมตีและจะเน้นเล่นบอลกับพื้น ในนัดนี้ถ้าไม่มีใครเน้นเกมส์รับเป็นพิเศษเราคงเห็นการเปิดหน้าแรกใส่กันไม่ยั้งอย่างสนุกแน่และที่แน่นอนในนัดนี้ทั้ง ร็อดเจอร์ส และ เปเยกรินี่ จะต้องเลือกจัดชุดที่ตัวเองไว้ใจที่สุดลงสนามแน่นอนอาจจะยังไม่ค่อยได้เห็นเหล่าบรรดานักเตะที่ซื้อมาใหม่เพราะทั้งคู่ต้องเน้นทีมที่มีทีมเวริคและรู้ใจกันเล่นกันได้เป็นระบบแน่นอน ติดตามเชียร์ทีมที่ชอบกันได้นะครับในคืนวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2557 เวลา 02.00 รับประกันว่าสนุกแน่ครับนัดนี้ อิอิ