ลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว ยังคงโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงต่อเนื่อง หลังบุกพิชิตเรือใบสีฟ้าได้คารังเอติฮัด สเตเดี้ยมเป็นครั้งแรก พร้อมเขี่ยแชมป์เก่าตกรอบศึกลีกคัพไปเป็นที่เรียบร้อย

มานูเอล เปเยกรินี กุนซือแมนฯซิตี้ จัดทัพชุดผสมลงฟาดแข้งในเกมนี้ นำโดยแข้งตัวหลักอย่าง เอเลียเควียม ม็องกาลา, เจมส์ มิลเนอร์, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และ เอดิน เซโก้ ผนึกกำลังกับแข้งสำรองอย่าง  วิลลี กาบาเยโร่ (ผู้รักษาประตู), บาการี ซานญา, แฟร์นันดินโญ และ สเตฟาน โยเวติช 

ด้านผู้มาเยือนของกุนซือ อลัน พาร์ดิว จัดทัพชุดผสมมาเช่นกัน นำโดยสามประสานในแนวรุกอย่าง อดัม อาร์มสตรอง, โรแลนโด้ อารอนส์ และ กาเบรียล โอแบร์กต็อง ขณะที่แดนกลางได้ ไรอัน เทย์เลอร์ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในรอบ 26 เดือน 

เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาที แฟนบอลแมนฯซิตี้นั่งกันเงียบสงัดเป็นป่าช้า เมื่อทีมเยือนบุกมานำก่อน จากจังหวะที่ ไรอัน เทย์เลอร์ ปั้มแย่งกับ แฟร์นันดินโญ บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น โรแลนโด้ อารอนส์ เจ้าหนูวัยเพียง 18 ปีเติมขึ้นไปแปด้วยขวาส่งบอลลอดขา วิลลี กาบาเยโร่ เข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้นิวคาลเซิลบุกมานำ 1-0  

ถัดมาเพียง 2 นาที สถานการณ์ของเจ้าบ้านก็ต้องเลวร้ายหนักไปกว่าเดิม เมื่อ ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญมีปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนถูกเปลี่ยนตัวออก ไป และส่ง ซามิร์ นาสรี ลงเล่นแทน

จากนั้นเป็นแมนฯซิตี้ที่ดาหน้าบุกอย่างหนักหวังทวงประตูตีเสมอให้ได้เร็ว ที่สุด และในนาทีที่ 26 พวกเขาก็เกือบทำสำเร็จ จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ตั้งป้อมเปิดจากฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ บอลไปแฉลบ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี กองหลังทีมเยือนเปลี่ยนทางชนเสาสองเต็มใบก่อนกระดอนออกหลังไป ส่งผลให้เจ้า ถิ่นลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 32 นิวคาสเซิลเกือบได้ประตูหนีห่าง จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่ กาเบรียล โอแบร์กต็อง บรรจงเปิดโค้งเข้ามาในเขตโทษให้ พอล ดัมเมตต์ กระโดดวอลเลย์ด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 5 หลา ทว่า วิลลี กาบาเยโร่  ยังยืนตำแหน่งดีใช้ขาเซฟไว้ได้หวุดหวิด

หลังจากนั้นในนาทีที่ 41 เป็นโอกาสลุ้นประตูตีเสมอของเจ้าถิ่นบ้าง จากลูกที่ ยาย่า ตูเร่ ล็อคแต่งเข้าซ้ายหนึ่งจังหวะ ก่อนบรรจงกดเต็มข้อจากระยะประมาณ 25 หลา ทว่า ร็อบ เอลเลียต นายด่านทีมเยือนยังโชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งปัดสุดปลายมือส่งบอลออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกนิวคาสเซิลบุกมานำอยู่ที่สกอร์ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลังยังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่แล้วในนาที ที่ 67 ก็เกิดลูกปัญหาขึ้น เมื่อ แซมมี อเมโอบี้ แทงทะลุช่องให้ กาเบรียล โอแบร์กต็อง กระชากเข้าไปในเขตโทษก่อนถูก อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ แบ็คซ้ายแมนฯซิตี้เสียบสกัดล้มลงตรงบริเวณข้างในเขตโทษ ทว่า ผู้ตัดสินกลับไม่เป่าเป็นลูกจุดโทษแต่อย่างใด ท่ามกลางการประท้วงอย่างหนักของ อลัน พาร์ดิว กุนซือสาลิกา

กระทั่งนาทีที่ 75 กลายเป็นฝั่งทีมเยือนที่มาได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะที่ แซมมี อเมโอบี้ ไหลเลียดให้ มุสซา ซิสโซโก้ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวทะลุทะลวงผ่านแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในเขตโทษ ก่อนดีดด้วยขวาส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย นิวคาสเซิลหนีห่างเป็น 2-0

ท้ายเกมแมนฯซิตี้ยังคงเดินหน้าบุกอยู่ฝ่ายเดียว และในนาทีที่ 85 พวกเขาก็เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ เฆซุส นาบาส  ตัวสำรอง ปาดเลียดจากกราบขวาเข้ามาในเขตโทษให้ เอดิน เซโก้ แปโล่งๆจากระยะไม่ถึง 5 หลา ทว่า ไรอัน เทย์เลอร์ มิดฟิลด์สาลิกาดงลงมาช่วยเกมรับใช้ตัวขวางไว้ได้แบบหวุดหวิด ช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูไปอย่างเหลือเชื่อ

จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังพ่าย นิวคาสเซิล 0-2 ส่งผลให้แชมป์เก่าหยุดเส้นทางแคปิตอล วัน คัพไว้เพียงแค่รอบ 4 เท่านั้น ส่วน นิวคาสเซิลกรุยทางเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป โดยจะมีการจับฉลากประกบคู่ในช่วงวันนี้

___________________________

Cr.http://www.goal.com/

ติดตามข่าวสารทีมได้ที่ http://mcfc.in.th/