มองต่างมุม : มานูเอล เปเยกรินี่ คุณรู้จักเค้าดีหรือยัง!! (บลูมูน)

   สวัสดีสาวกแมนซิตี้ทุกท่านครับวันนี้เราลองมาพูดถึงบอสใหญ่ของเรากันครับว่าผลงานที่ผ่านๆมาของเค้าเป็นยังไงมั่งทำไม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงให้ความสนใจในตัวเค้าเพราะดูแล้วเค้าก็ไม่ค่อยจะเป็นโค้ชชื่อก้องอย่าง มูริญโญ่ หรือ อัลเชล็อตติ ที่พาทีมผงาดคว้าแชมป์ต่างๆเป็นว่าเล่นแต่ชายคนนี้มีสิ่งที่มหัสจรรย์อยู่อย่างนึงในตัวเค้าไปทำให้เข้าตาบอร์ดบริหารเข้าเค้าเลยมาเป็นตัวเลือกแรกของ ซิตี้ ที่ได้เข้ามาคุมงานต่อจาก มันชินี่

   ผมขอพูถึง เดอะ “แอลจิเนีย” มานูเอล เปเยกรินี่ ก่อนนะที่ตอนี้ครับเป็นประเด็นฮ็อทมากสำหรับการถูกสื่อข่าวหลายสำนักโจมตีนายใหญ่ชาวชิลีคนนี้ว่าเก้าเริ่มจะร้อนแล้วแน่นอนและสื่อหลายสำนักฟันธงว่า ถ้าเปเยกรินี่พาทีมตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก และไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์อะไรได้เลย นายใหญ่ชาวชิลีโดนหั่นขาเก้าอี้แน่แต่แล้วไม่ก็ว่าอาจจะโดนปลดกลางฤดูกาลหากพาทีมตกรอบ UCL

   ใช่ครับ เปเยกรินี่ โดนโจมตีอย่างหนักแต่พวกคุณรู้หรือไม่กับประสบการณ์การคุมทีมของเปเยกรินี่หลายคนอาจจะมองว่าเค้าเป็นกุนซือโนเนมพาทีมอะไรก็ไม่เคยได้แชมป์ติดไม้ติดมือเป็นชิ้นเป็นอันยกเว้นแต่ลีกอื่นที่ไม่ใช่ในยุโรปแต่ด้วยประสบการณ์ที่เค้าสะสมมานานในอาชีพผู้จัดการทีมร่วม 26 ปีเค้าเป็นนักปั้นนักเตะตัวยงเป็นคนที่มีการบริหารทีมได้ดีเค้าเป็นโค้ชที่สามารถสร้างทีมจากที่ว่าแย่สุดๆให้เป็นระดับท็อปได้ด้วยการคุมทัพด้วยระบบของเค้า

   ใช่ครับเราลองไปดูผลงานต่างๆของเค้ากันดีกว่าครับผมก็ไม่ค่อยได้รู้รายละเอียดอะไรมากครับแต่เท่าที่ผมหาข้อมูลได้เค้าเดินทงคุมสโมสรเหมือนว่าจะเก็บสะสมประสบการณ์อยู่พักใหญ่เปเยกรินี่เดินทางคุมอยู่หลายทีมเหมือนกันครับถ้าไปเช็คประวัติจะเห็นครับว่าทำงานปีต่อปีบ้าง สองฤดูกาลสามฤดูกาลบ้างแต่เค้าก็สามารถลับคมจนมาสร้างชื่อในลีก อาเจนติน่า นั้นคือทีม ริเวอร์เพลท

   เค้าคุมทีมได้ดีครับแม้จะเป็นระยะสั้นๆแต่ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้และก็เป็นที่ชื่นชอบของสโมสรแต่แล้วด้วยปัณหาอะไรไม่รู้นะครับ เปเยกรินี่ ตัดสินใจเลือกที่จะแยกทางกับ ริเวอร์เพลท  และไปหาความท้าทายใหม่ในลีกสเปนโดยการคุมทีม บีย่าร์เรอัล ทีมที่มีงบน้อยในลีกสเปนผลงานก็เอาแน่เอานอนไม่ได้นับว่าเสี่ยงมากสำหรับเปเยกรินี่ ที่สลัด ริเวอร์เพลท และ เข้าไปรับงานคุมทีม บียาร์เรอัล

   ในการคุมทัพของเปเยกรินี่เค้าเข้ามาปรับเปลี่ยนทัศนะคติของทีมปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของทีมใหม่หมดให้ทีมเล่นได้ตามสไตร์ที่เค้าต้องการและเค้าก็ทำสำเร็จในตลอดระยะเวลา 5 ปีในการคุมทีม บียาร์เรอัลเค้าพาทีมเกาะหัวตารางตลอดใช่ครับใครจะเชื่อว่าทีมเล็กๆอย่างบียาร์เรอัลที่แต่ละปีไม่ค่อยจะมีลุ้นแชมป์อะไรกลับได้ไตร่เต้าไปจนอยู่หัวตารางและที่สุดยอดยิ่งกว่านั้นคือได้โควต้าไป ชปล อย่างไม่น่าเชื่อภายใต้การนำทัพของ เปเยกรินี่

   บียาร์เรอัลหลังจากได้โควตาไปเล่นใน ชปล ช่วงนั้นล้วนแต่ถูกวิจารณ์ว่าอาจจะตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยซ้ำทีมเล็กๆยังงี้ไม่น่าจะไปไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มแต่ที่ไหนได้ด้วยกำทำทีมที่สุดยอดของ เปเยกรินี่ เค้าพาทีมไปยันรอบ 4 ทีมสุดท้ายหรือรองชนะเลิศได้อย่างสุดปาร์ฏิหารนับว่าตอนนั้น เปเยกรินี่ หักปากกาเซียนไปเป็นแถบๆ แต่สุดท้ายก็จอดแค่นั้นเพราะต้องพ่ายให้กับ อาเซน่อล ไปและก็ตกอยู่รอบรองชนะเลิศหลังจากนั้นสโมรสรต่อสัญญาเค้ายาวไปจนถึงปี 2011 แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกที่จะเดินออกจากสโมสร บียาร์เรอัล และรับงานใหญ่ในการคุมสุดยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด

   สไตร์การทำทีมของเค้าในช่วงนั้นก็ต้องบอกครับว่ายังคงเอกลักษณ์เกมรุกเอาไว้ เพราะในตอนนั้นสโมสรเลือกที่จะทุ่มเงินก้อนโตทุบสถิติค่าตัวกระฉาก โรนัลโด้ , เบนเซมม่า , อลอนโซ่ แต่แล้วด้วยการลงทุนที่มากมายสิ่งที่เปเยกรินี่ทำให้คือตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ชปล และไม่สามารถคว้าแชมป์ ลีก มาครองได้ซึ่งก่อนหน้านั้นประธานสโมสร โฟลเรนตีโน เปเรซ ยื่นคำขาดแล้วว่าหากไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้จะไล่เค้าออกจากตำแหน่ง

   สุดท้ายเปเยกรินี่ก็โดนไล่ออกแต่ผลงานของเค้ากับมาดริดก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรอีกทั้งข่าวหลายกระแส ณ ตอนนั้นก็บอกว่าเร็วไปที่ปลดเพราะทีมกำลังเข้าสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น เปเยกรินี่ เข้ามาคุมทีมระบบยังไม่ลงตัวแต่แล้วด้วยการลงทุนกับผลตอบแทนที่ได้มันได้ไม่คุ้มเสียทาง ชุดขาว เลยเลือกที่จะปลด เปเยกรินี่ ออก เปเยกรินี่จึงแยกทางจากมาดริดโดยได้คุมทัพแค่ ฤดูกาลเดียว

   และสิ่งที่เค้าได้สร้างปาฏิหารณ์อีกคือในปี 2010 หลังจากแยกทางกับ เรอัลมาดริด เค้าก็ตัดสินใจเข้าไปคุมทีม มาลาก้า ซึ่ง  มาลาก้า เป็นทีมที่มีต้นทุนน้อยมากและทีมเกาะอยู่บริเวณโซนแดง ณ ตอนนั้น และมาลาก้าเป็นทีมมีปัญหาทางการเงิน แต่การเข้ามาคุมทัพของกุนซือรายนี้เค้าเข้ามาบริหารทีมแม้ทีมจะมีปัญหาทางการเงินแต่การมาของเค้าคนนี้ปรับเปลี่ยนมาลาก้าจากทีมเล็กๆให้ไปแตะเวทียุโรปมาแล้ว

   เปเยกรินี่ เข้ามาคุมทัพ มาลาก้า เป็นเวลา 3 ปี แต่เค้าใช้เวลาแค่ 1 ปีในการปรับเปลี่ยนรูปทีมปฏิวัติการทำทีมใหม่หมดเลือกที่จะใช้บอลสไตร์รุกตามที่ตัวเองถนัดไม่ว่าจะเจอทีมใหญ่ทีมเล็กเค้าก็กล้าเสี่ยงที่จะเปิดเกมรุกสู้และมาในฤดูกาล 2011 เค้าสามารถพาทีมได้โควตาไปเล่น แชมป์เปี้ยนลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษของสโมสร

   ใช่ครับและ ณ ตอนนั้น ทั้ง ซานติ กาซอล่า และ อิสโก้ นับว่าเป็นผลผลิตอย่างยอดเยี่ยมไม่ใช่แค่นั้นภายใต้การคุมทีมของเค้าเค้าดึงศักยภาพนักเตะทั้งลุ้นเก๋า และปั้นดาวรุ่ง  เค้าสร้างทีมได้ดีกับมาลาก้าจนทำให้สโมสรนั้นทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน แชมป์เปี้ยนลีก นับเป็นสุดยอดผลงานชิ้นโบว์แดงอีกผลงานของ เปเยกรินี่ ที่พาทีมเล็กเข้าสู่รอบลึกๆใน ชปล ได้อีกแล้ว

   นับว่าเป็นอะไรที่สุดๆไปเลยกลับการทำทีมของเค้าแต่แล้วก็มีเรื่องที่เค้าต้องสุดทนกับสโมสรเมื่อเค้าพยายามคุยกับสโมสรแล้วเรื่องนักเตะที่เค้าต้องใช้แต่สโมสรก็ไม่ฟัง ปล่อยนักเตะทั้ง กาซอล่า และ ชาโลมง รอนดอน และหลายๆคนที่สโมสรอยากจะปล่อยตัว

   แต่แล้วสุดท้าย เปเยกรินี่ ก็เลือกที่จะเดินออกมาและก้าวลงมาสู่เรือใบของเราเพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างทั้ง สโมสรมีหนี้ก้อนโตและมีปัญหาทางการเงินอย่างแรงรวมทั้งสโมสรก็ต้องการที่จะปล่อยนักเตะคนสำคัญออกไปเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้และผู้เล่นที่จะปล่อยก็เป็นชุดที่เปเยกรินี่ ไม่อยากให้ปล่อยแต่สุดท้ายทางสโมสรก็ไม่ฟัง เปเยกรินี่ เลยน่าจะสุดทนก็โอเครซบ เรือใบสีฟ้า ลำนี้

   เมื่อแมนซิตี้ปลด มันชินี่ พ้นตำแหน่งและตั้ง เปเยกรินี่ คุมทัพแทนและเค้าก็ไม่ทำให้แฟนๆซิตี้ผิดหวัง เมื่อ มันชินี่ ทิ้งมรดกก้อนโตไว้ให้คือขุมทรับย์นักเตะที่แข็งแกร่ง ซึ่งทีมก็เล่นเป็นระบบอยู่แล้วเปเยกรินี่มาปรับแต่งให้เป็นสไตร์ของตัวเองที่เป็นเกมรุกที่เร้าใจทรงบอลที่สวยงามและเค้าก็สร้างปาฏิหารณ์ ในการเข้ามาคุมทัพปีแรกกับแมนซิตี้เค้าพาทีมได้ ดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งแชมป์ลีกและลีกคัพ และสามารถพาทีมทะลุเข้าไปรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชปล ได้สำเร็จและนี่ก็คือผลงานของเค้าที่ผ่านๆมา

   ใช่ครับจากผลงานที่ผ่านๆมาไม่ว่าจะทีมเล็กทีมใหญ่เค้าสามารถพาทีมบรรลุสู่ความสำเร็จได้ด้วยฝีมือการทำทีมของเค้าล้วนๆ  สถิติของเค้าตอนนี้คือเค้าไม่เคยพาทีมตกรอบแย่งกลุ่มยูฟ่าไม่ว่าจะทีมใหญ่ทีมเล็ก และ เค้ามีระบบการสร้างทีมที่ดีครับกับทีมเล็กๆเค้าต้องใช้เวลาในการปรับรูปทีมและสร้างทีม

   แต่การมาคุมทัพ แมนซิตี้ เค้าไม่ต้องปรับอะไรมากเนื่องจากมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมีนักเตะที่สมบูรณ์ระดับโลกมาเรียงกันให้เลือกใช้งาน ด้วยฝีมือระดับยอดกุนซือแล้วเค้าแค่มาปรับแทคติการเล่นให้ได้ตามสไตร์ของเค้าและด้วยการทำทีมของเค้าก็สามารถสร้างความสำเร็จได้ระดับนึง

  มาถึง ณ ตอนนี้กับผลงานอันน่าเป็นห่วงที่ถูกสื่อหลายสำนักโจมตีอย่างหนักกับฟอร์มของเรือใบในฤดูกาลนี้ผมเชื่อครับว่าเค้ากำลังปรับแต่งทีมหรือกำลังจะทำอะไรสักอย่างการสร้างทีมต้องใช้เวลาครับ ณ ตอนนี้เค้าเริ่มแก้ไปทีละจุดเริ่มจากแนวรับ ดูๆแล้วตอนนี้ปัญหาแนวรุกก็มีให้แก้เช่นกันเราต้องมาลุ้นครับว่าตลาดนักเตะช่วง มกราคม ซิตี้จะช็อปเอาใครเข้ามาสู่ทีมบ้าง

  มันชินี่ใช้เวลาปรับทีมสร้างทีมร่วม 2-3 ปีสู่ความสำเร็จ การมาของเปเยกรินี่ถ้าคุณคิดว่าอยากจะเห็นการปฏิรูปทีมใหม่ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยครับสิ่งที่เปเยกรินี่ต้องการคือเวลาครับการสร้างทีมใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆการจะดันนักเตะดาวรุ่งหรือหาผู้เล่นสำรองมาทดแทนผู้เล่นตัวหลักใช่ว่าจะทำกันง่ายๆ

   ผมเชื่อครับว่า เดอะ “แอลจิเนีย” ของเราต้องพาทีมไปสู่ระดับโลกที่ดีกว่านี้ได้แน่ถ้าเจ้าตัวไม่คิดวางมือหรือโดนไล่ออกซะก่อนนะครับเรามารอดูครับว่าอีกหนึ่งถ้วยที่ผมว่าเจ้าตัวตั้งเป้าที่อยากจะพาทีมคว้าแชมป์มาครองให้ได้อย่าง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ซึ่งผมดูแล้ว เปเยกรินี่ ยังขาดสิ่งนี้เพื่อเพิ่มความสำเร็จและเป็นรางวัลความสำเร็จของเค้าสิ่งที่เค้าต้องนำมาให้ได้คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก สิ่งที่แฟนๆอย่างเราควรทำคือส่งแรงเชียร์และให้กำลังใจดีกว่าครับดีกว่าจะมาวิจารณ์เค้าในทางเสียๆหายๆ ครับเวลาคือบทพิสูจน์ครับ  

“บลูมูน”

ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ