มีการขุดคุ้ย ค้นหาความล้มเหลวในปีนี้กันแบบไม่ลดละ แต่ละประเด็นตั้งกันขึ้นมาเพื่อให้ผู้สันทัดกรณีและแฟนวิเคราะห์กันอย่างมี รสชาติ ถือว่าได้สันดาปสมองดีกว่าไปบริโภคอาหารขยะเข้าสมองนะครับ
ผมยังตามติดในประเด็นนี้ทุกวันเหมือนกันเห็นทุกสำนักข่าวในอังกฤษนำ แต่ละประเด็นมาตีแผ่ก็สนุกไม่น้อย ได้รู้ว่าแต่ละคนคิดอะไรกันและทำไมถึงคิดเช่นนั้น คือถ้าจะให้เรส ประเด็น ที่น่าสนใจมันก็มีสองสามเรื่อง
ใครสมควรรับผิดชอบในความล้มเหลวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทีมหมื่นล้าน
อาจมีการผ่าตัดทีมในช่วงซัมเมอร์นี้อีกครั้ง
มานูเอล เปเยกรีนี่ หมดเวลาแล้วหรือยัง??
สองสามประเด็นพร้อมทั้งการต่อยอดขยายผลกันไปจนเป็นรายละเอียดปลีก ย่อย แต่ถ้าเรามองภาพกว้างๆ นะครับ ผมคิดว่าอย่าคิดมาก ถ้าคุณเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของทีมคุณประเมินเรื่องนี้อย่างไร
ผมเชื่อว่าคิดไม่ต่างกัน
เปเยกรีนี่คือคนแรกที่ต้องรับผิดชอบกับความล้มเหลวของทีม ไม่ใช่แค่หมดลุ้นแชมป์ แต่มันหมดลุ้นแชมป์ง่ายไปหน่อย มันไม่ได้ใกล้เคียงกับเชลซี ทั้งที่ตัวผู้เล่นสองทีมนี้จะว่าไป แมนฯ ซิตี้น่าจะดูดีกว่าด้วยซ้ำ
ทำไมไม่อาจรักษาฟอร์มของทีมที่ดีให้มีลุ้นแชมป์แบบใกล้เคียงกว่านี้
ผจก. คือคนแรกที่ต้องรับผิดชอบกับงาน...นักเตะเป็นเพียงเครื่องมือของผจก.เท่า นั้น ต้องเล่นได้ตามแผนหรือถ้าไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีต้องทำให้กลับคืนฟอร์ม ต้องกระตุ้น ต้องมีกลยุทธ์ในการใช้งานนักเตะได้
เขียนมาแบบนี้...ผลแข่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เปเยกรีนี่เหมือน dead man walking หรือนักโทษประหาร
มันต้องเป็นแบบนั้นแหละครับ...ยิ่งถ้าเราย้อนไปดูผลงานเมื่อปีก่อน คงต้องบอกว่าไม่ใช่แมนฯ ซิตี้ชนะแล้วได้แชมป์ แต่เป็นเพราะหงส์แดงอ่อนประสบการณ์ลุ้นแชมป์ทั้งนักเตะและโค้ช ไม่สามารถรับมือความกดดัน พลาดแชมป์จากสถานการณ์ที่ได้เปรียบอยู่
มาปีนี้...ทำท่าว่าจะสูสีกับเชลซีแต่แล้วก็มาหลุดฟอร์ม แถมมีบางช่วงเร่งไม่ขึ้นทำได้แค่แต้มเท่าจากนั้นก็ถูกทิ้งไปอีก
ดังนั้น เปเยกรีนี่สมควรรับผิดชอบกับผลงานที่เกิดขึ้น ถ้าถามว่าอะไรคือจุดบอดของเขา...นั่นคงไม่ใช่ความสุภาพและภาพลักษณ์ที่ดู นิ่มนวลของเขาหากแต่มันเป็นเรื่องเชิงจิตวิทยาที่เขาไม่สามารถทำให้นักเตะ เล่นได้ดี ในทุกสถานการณ์
สำหรับแมนฯ ซิตี้แล้วนักเตะทุกคนคุณภาพระดับโลก...แต่ในวันฟอร์มหนืด ฟอร์มตกพวกเขาควรจะมีลูกฮึดมาเป็นของแถมเพื่อให้ชนะหรืออย่างน้อยต้องไม่แพ้ ในเกมที่เล่นไม่ดี เล่นต่ำกว่ามาตรฐาน
สังเกตดูถ้าเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน...พวกเขาชนะยากทันที
นั่นก็จุดหนึ่ง...ส่วนอีกจุดหนึ่งในเชิงจิตวิทยาคือว่า เปเยกรีนี่ไม่สามารถกระตุ้นหรือปลุกเร้าลูกทีมให้มีแรงจูงใจในการเล่นเพื่อ ชนะ แม้มีการกล่าวอ้างว่านักเตะหลายคนแทบหมดไฟในการเล่น หรือนักเตะหลายคนย่ามใจเกินไป คิดว่ายังไงก็เหนือกว่าคู่แข่ง เดี๋ยวก็ยิงได้ เดี๋ยวก็ชนะได้
ขนาดนำ 2-0 ยังพลาดเสมอ 2-2 หรือพวกเขาแพ้ทีมกลุ่มท้ายตารางซะงั้น
ฟุตบอลระดับท็อปมีแต่จะแพ้ทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกันซึ่งไม่ใช่ เรื่องแปลก เพราะคุณภาพใกล้เคียงกัน ชนะแพ้กันได้ แต่เมื่อใดที่คุณพลาดท่าแพ้หรือเสมอทีมที่มาตรฐานด้อยกว่า นั่นคือเรื่องที่ผิดปกติ
ประเด็นนี้มันเกิดขึ้นกับแมนฯ ซิตี้ในซีซั่นนี้...จะโทษว่าไม่คมหรือทำเกมรุกแล้วยิงไม่ได้เอง นั่นคือปลายเหตุ ผมว่าผจก.เปเยกรีนี่ต้องรับผิดชอบ เขาต้องหาวิธีการ เขาต้องมีจิตวิทยาที่ทำให้นักเตะเล่นเพื่อชนะในเกมให้ได้
ไม่ว่าวันนั้นเขาจะท็อปฟอร์มหรือไม่ก็ตาม
โอเค...เรื่องความล้มเหลวและหายนะของแมนฯ ซิตี้ คงไม่ต้องไปสืบค้นที่มาที่ไปกันให้มากความไปกว่านี้ เอาเป็นว่าเวลานี้เราลองมาสมคบคิดหาโค้ชใหม่ให้เรือใบสีฟ้ากันก่อนดีกว่า ครับ เพราะผมเชื่อว่าผู้บริหารทีมกำลังคิดกันอยู่
สื่อหลายสำนักในอังกฤษยืนยันว่า เปเยกรีนี่กำลังรอวันโดนเชือดเพียงแต่จะเป็นแมตช์ไหนเท่านั้นเองคือจะโดน ก่อนปิดซีซั่นด้วยซ้ำ!!
ถ้าไม่ใช้...เปเยกรีนี่แล้ว ซิตี้ควรจ้างใครมาทำงานแทน
ในเวลานี้มีตัวเลือกหลายคนที่เหมาะสมทั้ง "ประสบการณ์", บารมี และแน่นอนเป็นยอดฝีมือที่คนในวงการยอมรับกันมาก ถ้าเราลองคัดเลือกกันมาคงพอมองเห็นกันลางๆ แล้วนะครับว่ามีใครบ้างที่เป็นยอดฝีมือในวงการตอนนี้
คำถามคือว่า...ซื้อโค้ชแบบสำเร็จรูปแล้วยังไงต่อ มาทำทีมได้แชมป์จากนั้นละ??
ผมคิดว่าอย่างน้อยทีมต้องมี...การวางรากฐานเพื่อให้ทีมได้เดินหน้า ต่อไปทั้งในและนอกสนาม ซึ่งตรงจุดนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขามีนโยบายอะไร จะสร้างแบรนด์ให้คนตระหนัก เวลานี้แฟนบอลก็รับรู้แล้วว่ามีแมนฯ ซิตี้ในโลกนี้
เพียงแต่ความรู้สึกว่า "ยิ่งใหญ่" หรือ "เกรียงไกร" ผมว่ายังเป็นรองเชลซีซึ่งลงหลักปักฐานในการเป็นทีมชั้นนำของอังกฤษและระดับ ยุโรปไปแล้ว ลองเปรียบเทียบกันนะครับ...พวกเขายังวิ่งไล่ตามหลัง..แมนฯ ยูฯ, เชลซี, อาร์เซนอล แม้กระทั่ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลที่ยังมีทุนวัฒนธรรมฟุตบอลอยู่ (แต่อาจร่อยหรอลงไปเพราะ FSG ขี้ตืด)
ทำไมไม่หาโค้ชที่มีวิสัยทัศน์มาช่วยทีมนอกเหนือไปจากแชมป์ละครับ ผมว่าโค้ชที่ดีมีวิชั่นมากกว่าการวางแท็กติกในสนาม เขาจะมองอะไรกว้างกว่าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งจุดนี้ผมมองเห็นในตัวของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, โชเซ่ มูรินโญ, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระทั่ง คาร์โล อันเชลอตติ
โอเค...เรื่องรากฐานทีมเรื่องใหญ่ เอาแบบเบื้องหน้าคือโค้ชคนใหม่ของแมนฯ ซิตี้ มีใครได้ลุ้นกันบ้าง
คาร์โล อันเชลอตติ...เขาน่าจะรับประกันแชมป์ได้แต่เขาจะมาในระยะสั้นๆ หมายถึงจ้างมาคุมต้องแชมป์ เพราะเขามักจะเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ทั้งนักเตะและโค้ช ไปอยู่ที่ไหนเขามีแชมป์ติดไม้ติดมืออยู่ตลอด
อย่างเรอัล มาดริด รอคอยแชมป์ชปล. มาเกิน 10 ปี ขนาดมูรินโญ่ยังทำไม่ได้เพราะคุมนักเตะขาใหญ่ในทีมไม่ได้ อันเชลอตติมาสองปีทำได้แล้ว ทั้งที่ฟอร์มก็ไม่ได้เหนือหรือดีกว่าแอต.มาดริด ในวันชิง...แต่เขามีทีเด็ดสำหรับการทำให้ทีมได้แชมป์
อันเชลอตติถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่อังกฤษ
เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่อาจโดนมองว่าล้มเหลวกับดอร์ทมุนด์ แต่ประสบการณ์ของเขาไม่ธรรมดา ใครเป็นโค้ชแล้วทำทีมล้มบาเยิร์น มิวนิคได้ นั่นคือยอดโค้ชครับ ต้องเก่งจริงจึงจะล้มบาเยิร์นได้ คล็อปป์ทำมาแล้ว
อีกทั้งเขาเป็นกุนซือนักปั้น เจียระไนเพชรเม็ดงาม...จุดนี้ซิตี้น่าจะคำนึงให้มากที่สุด ปัญหามีเรื่องเดียวเขาใหม่ในฟุตบอลอังกฤษ ข้อนี้จะต้องปรึกษากันอย่างละเอียดในทีมผู้บริหารที่มี ซอเรียโน่...เบกิริสไตน์ และ ปาทริค วิเอร่า
เขียนถึงชื่อ ซอเรียโน่ และ เบกริสไตน์ แล้วนึกถึงกวาร์ดิโอล่าครับ
สองคนนี้เคยร่วมงานกันในยุค "ติกิ ตาก้า" ยุคแรกที่กวาร์ดิโอล่ากวาด 5 แชมป์ในปีแรก ซอเรียโน่คือผู้บริหารทีมบาร์เซโลน่า เบกิริสไตน์เป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมของเป๊ปยุคยิ่งใหญ่ เล่นปีกขวา และติดทีมชาติสเปน พอเลิกทำงานฝ่ายเทคนิคและประสานกับเป๊ป เป็นทีมงานชุดสุดยอดของพวกเขาเมื่อ 6 ปีที่แล้วก่อนแยกย้ายกันออกจากคัมป์ นู
ถ้าซอเรียโน่กับเบกิริสไตน์เสนอชื่อเป๊ป...แมนฯ ซิตี้คงต้องใช้เงินมหาศาลจ้างเขามาคุมทีม
ปัญหาคือบาเยิร์น มิวนิคยอมหรือไม่และการไม่ต่อสัญญากับเสือใต้มันคืออะไรกันสำหรับกวาร์ดิโอล่า
ส่วนข่าวลือเรื่อง ปาทริค วิเอร่า อาจมาเป็นตัวแทนคั่นเวลาในระหว่างปลดเปเยกรีนี่ออกก่อนปิดซีซั่น ผมว่าคงเป็นอะไรที่ถอยหลังแน่ๆ หากเรือใบสีฟ้าทำเช่นนั้น
เท่าที่หยิบชื่อมา...ยอดโค้ชในโลกใบนี้มีไม่เกิน 3-4 ชื่อที่เหมาะสมในการนำแมนฯ ซิตี้กลับมาลุ้นแชมป์และเดินหน้าไปต่อในฐานะยอดทีมให้ได้
เชื่อเถอะครับ...แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่น่าจะไปจ้างโค้ชอายุ 39-40 ปี ในราคาถูกๆ เพื่อมาทำทีมในเมื่อพวกเขามีเงินก็ต้องใช้เงินให้เหมาะสม เช่นกันครับโค้ชที่จะมาคงต้องมีบารมี มีทุกอย่างที่พร้อมประสบความสำเร็จในทันทีและแน่นอนค่าจ้างย่อมต้องแพงตาม ฝีมือ
ด้วยเพราะแมนฯ ซิตี้ไม่ใช่ทีมที่จะให้โค้ชมาทำงานเพื่อค้นหาประสบการณ์ สร้างบารมี ดังนั้นโค้ชที่จะมาต้องเป็นยอดโค้ชเท่านั้น
ถ้าแฟนบอลถามผมว่า...คุณอยากเห็นใครมาคุมทีมแมนฯ ซิตี้
ผมมองว่าถ้าคุณมีเงินมากมายขนาดนี้ ...
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือโค้ชที่น่าจะการันตีความสำเร็จให้กับคุณได้อย่างรวดเร็วและมีสไตล์ฟุตบอลที่สุดครับ
Jackie
_______________^^_______________
Cr.www.siamsport. ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th
Tags:
เลือกยากมาก เก่งทุกคนในนี้เอาใครมาดีหมด 5555+++
เป๊ป กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกสองคนนี้ใครก็ได้พี่
ถ้าต้องการทั้งระบบเชื่อว่า ซอเรียโน่กับเบกิริสไตน์เสนอชื่อเป๊ป แน่ฮะ
เป๊ป...
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by