การที่ทีมจะคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก, บอลถ้วย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตัวเทรนเนอร์ หรือ ผู้จัดการทีม จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลซื้อนักเตะคนใหม่ เพื่อไล่ล่าความสำเร็จให้ได้ และวันนี้ก็มี 10 นายใหญ่ที่ได้หยิบเงินก้อนโตคว้าแข้งมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2004-2015

        10. มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี : 173 ล้านปอนด์ (ราว 8,650 ล้านบาท)
            กุนซือรายนี้ที่เพิ่งพา ยูเวนตุส ซิวแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อไม่นานมานี้ สามารถพา กายารี่ ทำผลงานได้ดี โดยใช้เงินจำนวนจำกัด ก่อนจะย้ายไปคุมทีมใหญ่อย่าง เอซี มิลาน โดยฤดูกาลแรกที่ "ปีศาจแดง-ดำ" ดึง โรบินโญ่ ราคา 18 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะไปกระชาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช  กับ เควิน พริ้นซ์ บัวเต็ง แบบยืมตัว ก่อนทั้ง 2 รายจะย้ายมาเล่นในถิ่น ซาน ซิโร่ แบบถาวรด้วยค่าตัวจำนวนมาก และ อัลเลกรี ก็ทยอยใช้เงินซื้อผู้เล่นมาโดยตลอด จนกระทั่งได้เข้าไปคุม "ม้าลาย" และได้จัดการซื้อ อัลบาโร่ โมราต้า ศูนย์หน้าชาวสแปนิช ในราคา 20 ล้านปอนด์

    
            9. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส : 262 ล้านปอนด์ (ราว 13,100 ล้านบาท)
            "บีร็อด" เริ่มต้นงานผู้จัดการทีมกับ วัตฟอร์ด เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปกุมบังเหียน เร้ดดิ้ง และใช้เงินซื้อแข้งแค่ 5 ล้านปอนด์ และได้ไปคุม สวอนซี แล้วพาทีมเลื่อนชั้นจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ สู่ พรีเมียร์ลีก ด้วยการใช้เงินเพียง 2 ล้านปอนด์ในตอนนั้น พร้อมจ่ายเงินราว 10 ล้านปอนด์ เพื่อช่วยทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยในเวลาต่อมา "บีอาร์" ไปนั่งเก้าอี้นายใหญ่ ลิเวอร์พูล และทุ่มเงินมากกว่าประมาณ 200 ล้านปอนด์ ซิวผู้เล่นชั้นนำอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, มาริโอ บาโลเตลลี่, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, ซิมง มิโญเล่ต์ และ ฟาบิโอ บอรินี่ 

            8. หลุยส์ ฟาน กัล : 297 ล้านปอนด์ (ราว 14,850 ล้านบาท)
             นายใหญ่ชาวดัตช์ พเนจรย้ายไปคุมทีมนั้นทีมนี้มานับไม่ถ้วน โดยสมัยคุม อาแซ่ด อัลค์มาร์ ฟาน กัล ใช้เงิน 45 ล้านปอนด์ ตลอด 4 ปี ดึงนักเตะหลายคน รวมถึง กราเซียโน่ เปลเล่ และ มุสซ่า เดมเบเล่ ก่อนที่จะไปรับงานที่ บาเยิร์น มิวนิค และได้ผลิตผลงานชิ้นโบแดง กระชาก อาร์เยน ร็อบเบน มาจาก เรอัล มาดริด จนกลายเป็นแข้งคนสำคัญของ "เสือใต้" จนถึงตอนนี้ ซึ่งต่อมาเขาได้นั่งเก้าอี้กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยจัดการดึงนักเตะมาหลายคน รวมถึง อังเคล ดิ มาเรีย ด้วยค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ จนกระทั่งไปซิว เมมฟิส เดอปาย มาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ได้สำเร็จ 

            7. โจเซป กวาร์ดิโอล่า : 401 ล้านปอนด์ (ราว 20,050 ล้านบาท)
            ระหว่างช่วงเวลาที่ "เป๊ป" คุม บาร์เซโลน่า เขาโละ โรนัลดินโญ่ กับ ซามูเอล เอโต้ และใช้แข้งจากศูนย์เยาวชน ลา มาเซีย เป็นส่วนใหญ่ และทุ่มเงินซื้อนักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ดาบิด บีย่า, เชส ฟาเบรกาส และ อเล็กซิส ซานเชซ จนพา "บาร์ซ่า" คว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปกุมบังเหียน บาเยิร์น มิวนิค พร้อมจัดการใช้เงินซื้อผู้เล่นคนใหม่ โดยมี เมห์ดี้ เบนาเตีย และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า รวมอยู่ด้วย   

    
            6. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน : 404 ล้านปอนด์ (ราว 20,200 ล้านบาท)
            ตลอดการคุมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด นอกจาก "ป๋าเฟอร์กี้" จะมีขุนพล "คลาสออฟ 92" ได้แก่ ไรอัน กิ๊กส์, แกรี่ เนวิลล์, พอล สโคลส์, ฟิล เนวิลล์ และ นิคกี้ บัตต์ เขายังเสริมทัพนักเตะได้ถูกจุดถูกตัวถูกจังหวะมากมายอย่าง เอริก คันโตน่า, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รวมถึงดึงผู้เล่นมาปั้นดินให้เป็นดาวอย่าง เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อันแดร์สัน, ฟิล โจนส์ และ ดาบิด เด เคอา 

            5. อาร์แซน เวนเกอร์ : 413 ล้านปอนด์ (ราว 20,650 ล้านบาท)
            เมื่อสมัยปลายยุค 1990 จนถึงต้นๆ ปี 2000 มาเรื่อยๆ กุนซือเฟร้นช์แมนของ อาร์เซน่อล ทุ่มทุนสร้าง จัดการคว้านักเตะชาวฝรั่งเศสอย่าง เธียร์รี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า, โรแบร์ ปิแรส และ นิโกล่าส์ อเนลก้า รวมถึงแข้งชาวดัตช์อย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แบบไร้พ่าย เมื่อซีซั่น 2003-2004 ก่อนที่ เวนเกอร์ จะดึงนักเตะดาวรุ่งบ้าง-ผู้เล่นชั้นนำบ้างไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อปี 2013 "ไอ้ปืนใหญ่" ทุ่มคลังสโมสรกว่า 42.5 ล้านปอนด์ ซิว เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมัน มาจาก เรอัล มาดริด  

            4. โรแบร์โต้ มันชินี่ : 435 ล้านปอนด์ (ราว 21,750 ล้านบาท)
            ช่วงเวลาแรกที่ "มันชินี่" เข้ามาคุม อินเตอร์ มิลาน นั้น ได้ซื้อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ ปาทริค วิเอร่า มาจาก ยูเวนตุส และทั้ง 3 รายพา "เนรัซซูรี่" ซิวแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา หลายสมัย ก่อนไปรับงานทีมอภิมหาเศรษฐีอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และจัดการกระชากนักเตะชื่อดังอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่ , เอดิน เชโก้ และคนสุดท้าย เซร์คิโอ อเกวโร่ ในราคา 40 ล้านปอนด์ 

            3.  มานูเอล เปเยกรีนี่ : 576 ล้านปอนด์ (ราว 28,000 ล้านบาท)
            หลังจากทำงานในประเทศชิลี และอาร์เจนตินา มา 15 ปี เปเยกรีนี่ มารับงานคุมทีม บียาเรอัล เมื่อปี 2004 โดยได้จ่ายเงินเพื่อแลกลายเซ็น ดิเอโก้ ฟอร์ลัน จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้นอีก 5 ปี ย้ายไปรับงานใหญ่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เข้ามาเป็นประธานสโมสร "ราชันชุดขาว" อีกครั้ง และแน่นอนว่า เปเรซ จะให้เงินกุนซือชาวชิลีชอปปิ้งกว่า 200 ล้านปอนด์ ซื้อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า, คาริม เบนเซม่า และ ชาบี อลอนโซ่ และอื่นๆ ต่อจากนั้น เปเยฯ มาหาประสบการณ์ใหม่กับ แมนฯ ซิตี้ โดยคว้า มาร์ติน เดมิเคลิส กับ เอเลียกิม ม็องกาล่า จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว

            2. คาร์โล อันเชล็อตติ : 709 ล้านปอนด์ (ราว 35,450 ล้านบาท)
            ในช่วงปี 2005-2007 "อันเช่" ควักเงินกว่า 42.5 ล้านยูโร คว้า 2 แข้งอย่าง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ กับ ริคาร์โด้ โอลิเวร่า มาร่วมทีม เอซี มิลาน ขณะเดียวกัน โรนัลดินโญ่ ก็ย้ายมาอยู่กับทีมเช่นกัน นอกจากตอน อันเชล็อตติ ไปกุมบังเหียน เชลซี ได้สร้างความประหลาดใจ ด้วยการซิว เฟร์นานโด ตอร์เรส ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ไม่เท่านั้นกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง "คาร์เล็ตโต้" ดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ ติอาโก้ ซิลวา ขณะที่ เรอัล มาดริด นายใหญ่ชาวอิตาลี ทุ่มเงินมหาศาลกว่า 150 ล้านปอนด์ ได้ตัว แกเร็ธ เบล และ ฮาเมส โรดริเกซ

            1. โชเซ่ มูรินโญ่ : 849 ล้านปอนด์ (ราว 42,450 ล้านบาท)
            ตลอดทั้ง 11 ปี "เฮียมู" ใช้เงินกว่า 800 ล้านปอนด์ ซิวนักเตะมากหน้าหลายตา โดยช่วงที่อยู่กับ เชลซี เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจ้าตัวซื้อ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, อาร์เยน ร็อบเบน และอื่นๆ ส่วนช่วงที่ 2 กับ "สิงห์บลูส์" ทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์ ดึงตัว ดีเอโก้ คอสต้า, เชส ฟาเบรกาส และ ฟิลิปเป้ ลุยซ์ เท่านั้นไม่พอ พอย้ายไป อินเตอร์ มิลาน "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" คว้า ดีเอโก้ มิลิโต้, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ ซามูเอล เอโต้ ก่อนจะไปนั่งเก้าอี้นายใหญ่ เรอัล มาดริด แล้วกระชาก อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล และ ซามี่ เคดิร่า

                    กันโทน่า

******************************************************
Cr.www.siamsport. ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th