11 แข้งยอดเยี่ยมศึกพรีเมียร์ลีก 2014-15

จบสิ้นปิดฤดูกาลเรียบร้อยแล้วสำหรับศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 โดยแชมป์เปลี่ยนมาอยู่ในมือของพลพรรคสิงโตน้ำเงิน เชลซี อย่างสมศักดิ์ศรี เพราะนำจ่าฝูงมาอย่างยาวนาน ในส่วนของ 11 นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้เน้นเกมรุกมากเป็นพิเศษ เลยต้องจัดด้วยระบบ 4-3-3 ซึ่งรับประกันได้เลยว่าทีมชุดนี้เจอใครก็ได้ทั้งนั้นบนโลกลูกหนังใบนี้…

ผู้รักษาประตู

ติโบต์ คูร์ตัวส์ (เชลซี)

จอมหนึบชาวเบลเยียม ลงเฝ้าเสาไปทั้งหมด 32 นัด เสียไป 30 ประตู และลงเฝ้าเสาโดยไม่เสียประตูถึง 13 นัด ส่งผลให้เชลซีเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังสามารถคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลแรกที่มาร่วมทีมอีกด้วย

กองหลัง

แบ็คขวา

บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เชลซี)

ตำแหน่งนี้ไม่มีใครโดดเด่นเกินแข้งชาวเซอร์เบียรายนี้อีกแล้ว โดยลงสนามทุกนัด และทำได้อีก 4 ประตู รวมทั้งการผ่านบอลให้เพื่อนทำอีก 5 ประตู ถือเป็นกำลังสำคัญในแนวรับที่ทีมขาดไม่ได้เลย

คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

จอห์น เทอร์รี (เชลซี)

ต้องยกนิ้วให้กัปตันทีมใจเพชรที่สามารถนำทัพสิงโตน้ำเงินคว้าแชมป์ได้อีก สมัย เป็นอีกคนที่ลงสนามทุกนัด และยังทำประตูได้อีก 5 ลูก ด้วยกัน ความดีความชอบส่วนหนึ่งต้องยกให้เลยจริงๆ

แกรี เคฮิลล์ (เชลซี)

แม้จะดูไม่โดดเด่นเหมือนเทอร์รี แต่ปราการหลังรายนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง โดยลงเล่นไป 36 นัด ทำได้ 1 ประตู เมื่อจับคู่กับเทอร์รี ถือเป็นคู่เซ็นเตอร์ในฝันเลยทีเดียว

แบ็คซ้าย

แดนนี โรส (ทอตแนม ฮอตสเปอร์)

แข้งผิวสีที่ทำผลงานได้อย่างวูบวาบ ลงสนามไป 28 นัด ทำได้ 3 ประตู รวมทั้งผ่านบอลให้เพื่อนทำอีก 4 ประตู ด้วยกัน ไม่ธรรมดาเลยสำหรับกองหลัง ซึ่งทำหน้าที่คุมเกมรับทางกราบซ้ายได้เป็นอย่างดี

กองกลาง

อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล)

จรวดทางเรียบของทีมปืนใหญ่ ทำผลงานในฤดูกาลแรกได้เหนือความคาดหมาย โดยลงสนามไป 35 นัด ทำได้ถึง 16 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำอีก 8 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดรั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ

เอเดน อาซาร์ด (เชลซี)

จอมทัพชาวเบลเยียม ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด ทำได้ถึง 14 ประตู และมาจากการยิงจุดโทษ 3 ครั้ง ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 9 ครั้งด้วยกัน จัดได้ว่าเป็นนักเตะครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่ง และไม่แปลกที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำทีมคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้

ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

แม้จะช่วยให้ทีมเรือใบสีฟ้า ป้องกันแชมป์ไม่ได้ แต่ก็ยังรั้งอันดับ 2 ไว้ได้ โดยจอมลีลาชาวสเปน ถูกส่งลงสนาม 32 นัด ทำได้ 12 ประตู และยังผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 7 ครั้ง

กองหน้า

เซร์จิโอ อเกวโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

กองหน้าชาวอาร์เจนตินา ลงสนาม 33 นัด ทำได้ 26 ประตู เป็นการยิงจุดโทษ 5 ประตู ทำให้คว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดไปครอง นอกจากนี้ยังผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 8 ครั้งด้วยกัน

แฮร์รี เคน (ทอตแนม ฮอตสเปอร์)

หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษ ลงสนาม 34 นัด ซัดไป 21 ประตู มาจากลูกจุดโทษ 2 ประตู นอกจากนี้ยังเป็นคนผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 4 ครั้ง

ดีเอโก คอสตา (เชลซี)

หัวหอกชาวสเปนที่เพิ่งย้ายมาในฤดูกาลนี้ แต่แผลงฤทธิ์ซัด 20 ประตู เป็นลูกจุดโทษ 1 ประตู จากการลงสนาม 26 นัด และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 3 ครั้ง

ผู้จัดการทีม

โชเซ มูรินโญ (เชลซี)

หลังจากพลาดหวังเมื่อฤดูกาลก่อน มาถึงฤดูกาลนี้ กุนซือชาวโปรตุเกส สามารถนำทัพสิงโตน้ำเงิน ผงาดคว้าแชมป์อีกครั้ง และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 5 ในประวัติศาสตร์

ตัวสำรอง

โจ ฮาร์ท, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, มาร์ติน เดมิเคลิส, เซส ฟาเบรกัส, ฆวน มาตา, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, เวย์น รูนีย์

**************************************************
Cr thairath.in.th ติดตามข่าวสารทีมได้ที่เวปหลักแมนชิตี้ไทย :http://mcfc.in.th