1. อาร์เซนอล : อเล็กซิส ซานเชซ
แข้ง พลังม้าชาวชิลีคนนี้พิสูจน์ตัวเองได้เรียบร้อยแล้วว่าเขาคือนักเตะสำคัญที่ สุดคนหนึ่งของสโมสรอย่างแท้จริง เพราะหากไม่มีประตูสำคัญ ๆ ที่เขายิงได้อยู่บ่อย ๆ ในช่วงต้นซีซั่นก่อน อาร์เซนอล อาจจะจบต่ำกว่าอันดับที่ 3 ก็เป็นได้
และ แน่นอนว่าปีนี้ เขาก็น่าจะได้รับความคาดหวังว่าจะเป็นคีย์แมนของทีมร่วมกันกับ เมซุต โอซิล แต่ด้วยความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นที่มีมากกว่า ทำให้ ซานเชซ ต้องกลายเป็นอันดับหนึ่งของทีมไปแทน
2. แอสตัน วิลลา : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์
ถึงแม้เจ้าแก๊บบี้ จะสปีดตกลงไปมากจากเมื่อหลายปีก่อน แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นกองหน้าที่ไว้ใจได้เสมอของทีมสิงห์ผงาด
ด้วย ความที่ เบนเทเก้ นั้นย้ายหนีไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้ว และทิม เชอร์วูด ก็ยังไม่ได้ซื้อใครใหม่เข้ามาแทนที่ ทำให้ตอนนี้หน้าที่สำคัญในการล่าตาข่ายต้องถูกฝากฝังเอาไว้ที่เขาอย่างเต็ม ตัว ถ้าฟอร์มแจ่ม ๆ ขึ้นมาล่ะก็ยิงรัวได้เหมือนกัน
3. บอร์นมัธ : คาลัม วิลสัน
กอง หน้าตัวเก่งของทีม เดอะ เชอร์รี คนนี้ คือผู้ที่สร้างปาฏิหารย์ช่วยยิงประตูเป็นกอบเป็นกำให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมา อยู่ในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
ส่วน ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าบรรดากองหลังของ พรีเมียร์ลีก จะต้องแข็งแกร่งกว่าที่เขาเคยเจอมาในแชมเปียนชิพ แต่ถึงจะอย่างไร วิลสัน ก็ยังเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดของทีม บอร์นมัธ อยู่ดี
4. เชลซี : เอเดน อาซาร์
ทีม แชมป์เก่าของ โฆเซ มูรินโญ นั้นต้องบอกว่ามีตัวทีเด็ดเยอะแยะมากมายครบทุกตำแหน่งจริง ๆ แต่ที่เห็นว่าสำคัญสุด ๆ สำหรับทีมแล้วก็คงต้องยกให้ อาซาร์ นั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง
ในฤดู กาลก่อนเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาได้ตลอดทั้งปีจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ไปครองได้สำเร็จ ฉะนั้นเราน่าจะได้เห็นช็อตอัศจรรย์ของ อาซาร์ ช่วยสร้างประตูในยามคับขันให้เกิดขึ้นอีกได้หลาย ๆ ครั้งแน่นอน
5. คริสตัล พาเลซ : ยานนิค โบลาซี
ซูเปอร์ วิงเกอร์ของ คริสตัล พาเลซ คนนี้ เป็นผู้เล่นที่กุนซืออย่างอลัน พาร์ดิว ถูกใจเป็นที่สุด จนถึงขนาดว่าใครมาติดต่อขอซื้อเขาก็จะไม่ยอมขายออกไปเด็ดขาด
ยิ่ง พาเลซ เป็นทีมที่เล่นเกมสวนกลับขึ้นจากทางปีก ทำให้ความสามารถของ โบลาซี นั้นยิ่งเปล่งประกายออกมาได้อย่างเต็มที่ และหวังว่าปีนี้เขาจะทำได้เยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง
6. เอฟเวอร์ตัน : โรเมลู ลูกากู
ถึง แม้ว่าในฤดูกาลก่อน ลูกากู จะถูกครหาว่าเป็นกองหน้าฟอร์มตกเพราะไม่สามารถช่วยให้ทีมหนีความตกต่ำอยู่ ท้ายตารางได้จนเกือบจะหมดฤดูกาล
แต่ หากมองข้ามความผิดพลาดร่วมกันทั้งทีมจากฤดูกาลก่อนออกไป ลูกากู คือยอดกองหน้าที่ทุกคนยอมรับในฝีเท้า และหากปีนี้ มาร์ติเนซ ไม่พาทีมออกทะเลไปอีกรอบ กองหน้าชาวเบลเยียมจะกระหน่ำประตูรัว ๆ จนสตั๊ดพังชัวร์
7. เลสเตอร์ ซิตี้ : ลีโอนาร์โด อุลยัว
จิ้งจอก สีน้ำเงินรอดจากการตกชั้นมาได้หวุดหวิดในขณะที่เหลือเกมไม่กี่นัดในซีซั่น ก่อน และคีย์แมนของทีมในตอนนั้นก็คือ เอสเตบัน คัมบิอัสโซ ซึ่งออกจากทีมไปแล้ว
และนั่น ก็ทำให้ หน้าที่สำคัญอย่างการแบกทีมเอาไว้บนบ่าจึงได้ตกลงมาอยู่กับกองหน้าตีนฉมัง อย่าง ลีโอนาร์โด อุลยัว นี่เอง เพราะเขาคือกองหน้าที่ดีที่สุดในทีมไปแล้วตอนนี้
8. ลิเวอร์พูล : ฟิลิปเป้ คูตินโญ
ฤดู กาลนี้ ลิเวอร์พูล จะกลายเป็นทีมโฉมใหม่ที่ใครๆ ก็รู้สึกไม่คุ้นเคย เพราะพวกเขาจะไม่มีสตีเวน เจอร์ราร์ด คอยเดินนำลูกทีมลงสนามอีกต่อไปแล้ว
ฉะนั้น คนที่จะกลายมาเป็นคีย์แมนคนใหม่ของทีมก็น่าจะเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ ที่ระเบิดฟอร์มแจ่มในได้ซีซั่นก่อน และดูน่าจะเติบโตต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้อีกด้วย
9. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เซร์คิโอ อเกวโร
เช่น เดียวกันกับ เชลซี เพราะปีนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงแข็งแกร่งและพอต่อสู้แย่งแชมป์กับพวกเขาได้อยู่ เพราะทั้งทีมยังอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นคุณภาพคับแก้วเช่นเคย
ที่ สำคัญปีนี้ยังได้ ราฮีม สเตอร์ลิง มาจากลิเวอร์พูลอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คนที่สำคัญที่สุดในทีมก็ยังคงเป็น เซร์คิโอ อเกวโร ดาวซัลโวจากฤดูกาลที่ผ่านมาอยู่ดี
10. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เวย์น รูนีย์
กัปตัน ทีมปีศาจแดงคนนี้ ห่างหายจากคำว่า “คีย์แมน” ไปนานพอสมควร เนื่องจากเขาแทบไม่เคยได้รับโอกาสให้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัดที่สุดเลยใน ช่วงหลายปีหลัง
แต่ฤดูกาลนี้ หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะให้เขากลับมาเป็น ศูนย์หน้าตัวเป้า อีกครั้งหนึ่ง และแน่นอนว่า หากเจ้าหมูรูน สามารถเรียกวิญญาณเพชรฆาตกลับมาได้ อาจมีสิทธิ์ยิงถึง 30 ประตูก็ได้ใครจะไปรู้
11. นิวคาสเซิล : มุสซา ซิสโซโก้
กอง กลางตัวรับผู้เป็นหัวใจหลักของทีมคนนี้ กำลังมีข่าวว่าอาจจะย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ เพราะเขาคือนักเตะที่ครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งในลีก
แต่หาก ซิสโซโก้ ไม่ได้ย้ายออกไป เขาจะเป็นนักเตะที่ช่วยตัดสินอนาคตของทีมได้เลยทีเดียวว่าจะรุ่งหรือจะร่วง
12. นอริช : คาเมรอน เจอโรม
อดีตนักเตะผู้มากประสบการณ์คนนี้ ย้ายจากสโต๊ค ไปอยู่กับ นอริช เมื่อฤดูกาลก่อน และเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ทันที
18 ประตูคือตัวเลขที่เขายิงให้กับทีมได้ในแชมเปียนชิพฤดูกาลก่อน และนั่นก็มากเพียงพอที่จะช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จ ซึ่งประสบการณ์ของ เจอโรม ก็คือส่วนสำคัญที่จะพาทีมอยู่รอดปลอดภัยให้ได้ในซีซั่นนี้
13. เซาธ์แฮมป์ตัน : ดูซาน ทาดิช
เซาธ์แฮมป์ ตัน เป็นทีมระดับกลาง ๆ ที่ไม่ได้มีผู้เล่นโดดเด่นอะไรมากมายอยู่ในทีม แต่ประสบความสำเร็จได้จากความร่วมมือร่วมใจของนักเตะและแทคติกจากผู้จัดการ ทีมอย่าง โรนัลด์ คูมัน จนประสบความสำเร็จได้ในซีซั่นก่อน
และ หนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาที่ยังไม่ได้ถูกซื้อตัวออกไปก็คือ ดูซาน ทาดิช ตัวรุกผู้เป็นหัวใจหลักของทีม โดยเกมรุกทั้งหมดจะถูกเริ่มต้นจากเขาก่อนที่จะไปจบลงตรงก้นตาข่าย แน่นอนว่าปีนี้ความหวังถูกฝากเอาไว้ที่ ทาดิช เยอะทีเดียว
14. สโต๊ค ซิตี้ : มาเม บิราม ดิยุฟ
กองหน้าตัวหลักของทีมคนนี้ ยิงประตูไปได้ทั้งหมด 12 ลูกจากทุกรายการทั้งที่เพิ่งเข้ามาอยู่กับทีมเมื่อซัมเมอร์ก่อน
และ ในปีนี้ ถึงแม้ว่า โบยาน จะหายเจ็บกลับมาแล้ว แต่เขาก็อยู่ฐานะตัวปั้นเกมให้กับ ดิยุฟ เท่านั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมดาวยิงชาวเซเนกัล คนนี้ถึงควรเป็นคีย์แมนมากกว่านั่นเอง
15. ซันเดอร์แลนด์ : ลี แคตเตอร์โมล
ทีม แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ไม่ได้มีผู้เล่นคนไหนที่เก่งกาจแบบโดด ๆ ออกมาให้เห็นเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งน่าจะเป็นเพราะแผนการเล่นทั้งหมดถูกขับเคลื่อนออกมาจากมิดฟิลด์กลางสนาม อย่าง แคตเตอร์โมล นั่นเอง
อดีต นักเตะของเดอะ โบโร คนนี้ ย้ายมาอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ได้ 6 ปีแล้ว และเขาก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมมาตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ ทำให้นี่แหละคือคีย์แมนแห่งฤดูกาลตัวจริง
16. สวอนซี ซิตี้ : กิลฟี ซิเกิร์ดสสัน
มิด ฟิลด์ตัวรุกคนนี้เคยเล่นให้กับ สวอนซี หนึ่งฤดูกาลในฐานะนักเตะยืมตัว ก่อนจะเลือกย้ายไปล้มเหลวกับสเปอร์ส และกลับมาถิ่นหงส์ขาวอีกครั้งในซัมเมอร์ก่อน
และ ก็อย่างที่เคยเป็นมา ซิเกิร์ดสสัน เหมือนถูกโฉลกกับทีมนี้ และเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่มีส่วนร่วมในการทำประตูของทีมมาก มาย ซึ่งปีนี้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
17. สเปอร์ส : แฮร์รี เคน
ใน ฤดูกาลก่อนแทบไม่มีใครอยากเชื่อว่าดาวรุ่งที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลยของ ทีมไก่เดือยทองคนนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่โด่งดังที่สุดของอังกฤษไป ได้แบบหน้าตาเฉย
เคน กระหน่ำประตูให้กับสเปอร์สไปมากถึง 31 ลูกจากทุกรายการ และขอแค่เขาได้บอลอยู่แถวกรอบเขตโทษ ก็พร้อมจะเปลี่ยนมันให้เป็นประตูได้ทันที และปีนี้ก็สำคัญกับเขามากทีเดียว เพราะถ้ายังทำได้ดีเหมือนเดิมอยู่ล่ะก็ ทีมมีโอกาสบินสูงกว่าเดิมชัวร์
18. วัตฟอร์ด : ทรอย ดีนีย์
สไตร เกอร์วัย 27 ปีของทีมแตนอาละวาดคนนี้ คือปัจจัยหลักที่ทำให้ทีมสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ด้วยจำนวนการพังประตูมากถึง 21 ครั้ง
ใน 3 ฤดูกาลหลังสุดทรอยยิงให้ทีมต้นสังกัดไปแล้วทั้งหมด 66 ประตู ซึ่งถือว่าสูงมากเลยทีเดียว และนั่นทำให้หลายฝ่ายจับตามองว่า พิษสงของเขาจะสามารถนำขึ้นมาใช้กับคู่แข่งเก่ง ๆ บนลีกสูงสุดได้หรือไม่นั่นเอง
19. เวสต์บรอมวิช อัลเบียน : ไซโด เบราฮิโน
ใน ซัมเมอร์นี้ เวสต์บรอมฯ ได้ดึงเอาตัวกองหน้าอย่าง ริคกี้ แลมเบิร์ต มาจาก ลิเวอร์พูล และเขาก็กดไปได้ 2 ประตูทันทีที่ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องครั้งแรกให้กับทีม
อย่าง ไรก็ตามการยิงได้ทันทีสองลูกก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคีย์แมนได้ เพราะ ไซโด เบราฮิโน กองหน้าตัวหลัก มีฝีเท้าครบเครื่องเรื่องการเป็นกองหน้า แถมปีก่อนยังซัดไปได้มากถึง 20 ลูก ฉะนั้นคีย์แมนตัวจริงก็เจ้าหนูวัย 22 ปีคนนี้นี่แหละ
20. เวสต์แฮม : ดิมิทรี ปาเยต์
ฤดูกาลนี้ เวสต์แฮม ถือว่ามีการเสริมทีมได้โดนใจแฟน ๆ มากโดยเฉพาะการดึงเอาตัวของ ดิมิทรี พาเยต์ มาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย์
ทั้ง นี้เป็นเพราะว่า ซีซั่นก่อน ผลงานของ ปาเยต์ ในลีกเอิงนั้นถือว่าสุดยอดเอามาก ๆ เพราะเขายิงได้ 7 ประตู พร้อมทำอีก 17 แอสซิสต์ (โห) แถมยังมีการคีย์พาสมากถึง 117 ครั้ง ทำให้ ปีนี้ความหวังทั้งหมดของทีมถูกฝากเอาไว้ที่เขามากมายแน่นอน
*********************************
Cr..90min.com/ ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทยwww.mcfc.in.th