อย่างที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนนี้ จุดแข็งของแมนฯ ซิตี้ 2015/16 คือศักยภาพ "เชิงลึก" ระดับการแข่งขันภายในทีมที่ส่งผลโดยตรงถึงความแข็งแกร่งในการเล่นแต่ละนัด ตัวเลือกแต่ละตำแหน่งของเปเยกรีนี่ที่มีอย่างน้อย 2 ไปจนถึง 3-4-5 ในบางจุด
 
        โดยไม่ต้องสนใจวันปิดตลาด แมนฯ ซิตี้ ใช้ไป 150 ล้านปอนด์ ซื้อทีละตัวๆ หลัง 1 (นิโกลัส โอตาเมนดี้) กลาง 2 (ฟาเบียน เดลฟ์, แพทริค โรเบิร์ตส์) ตัวรุกปีก/กองหน้า 2 (เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง)
 
        สำคัญก็คือ โอตาเมนดี้-เดลฟ์-โรเบิร์ตส์ พวกนี้ไม่ได้มาเพื่อเป็น "ตัวจริง" แต่อย่างใด
 
        เซนเตอร์แบ็กที่เป็นปัญหามาตลอดซีซั่นที่แล้ว เปลี่ยนโฉมไปด้วยสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์และความกระหายในการ "แก้ตัว" ของก็องปานี และการปรับสภาพเข้ากับบอลอังกฤษได้ดีขึ้นเยอะ ของ เอเลียควิม ม็องกาล่า คู่นี้ประสานงานกันดีจนโอตาเมนดี้ ที่ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัวแตะหลัก 30 ล้านปอนด์ ได้เพียงนั่งรอโอกาสข้างสนาม
 
        โรเบิร์ตส์ 12 ล้านปอนด์จากฟูแล่ม เป็นอนาคตระยะยาว ยังไม่รีบร้อนใช้ เดลฟ์ เป็นตัวหลักคีย์แมนขนาดไหนของ แอสตัน วิลล่า ซีซั่นก่อน ก็เพียงมาเป็นอะไหล่สำหรับคู่กลาง ยาย่า ตูเร่ - แฟร์นันดินโญ่
 
        สเตอร์ลิง 44 ล้าน เดอ บรอยน์ 54 ล้าน จะมีที่ยืนในทีมตัวจริงแน่นอนเมื่อดูจากราคา และถ้าหากว่าสองคนนี้เล่นไม่ออก เปเยกรีนี่ก็ยังมีตัวดีๆ อย่าง ซามีร์ นาสรี่, เฆซุส นาบาส รวมถึงโรเบิร์ตส์ให้สลับสับเปลี่ยน
 
        ยิ่งเมื่อดูกันในภาพรวมของทีมชุดสองขุมกำลังสำรองก็ยิ่งแตกต่าง สำรอง แมนฯ ซิตี้ ล้วนแต่มีราคา โอตาเมนดี้-นาสรี่-วิลฟรีด โบนี่ สามตัวนี้ล่อไป 88 ล้าน ทีมชุดสองของ แมนฯ ยูไนเต็ด-เชลซี-อาร์เซน่อล ล้วนแต่ยังมีช่องโหว่ และจุดด้อยที่เห็นชัด
  
        โบนี่ 30 ล้านปอนด์จากสวอนซี หัวหอกระดับนี้สามารถเป็นตัวจริงให้กับทีมไหนก็ได้ทั้งนั้นในโลก แต่ไม่ใช่ที่ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งมี เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงชื่อจองพื้นที่เอาไว้แล้ว
 
        ก็แน่ล่ะ ถ้าวันไหน กุน อเกวโร่ ไม่เข้าฟอร์ม โบนี่ก็พร้อมเสียบแทนอย่างแนบเนียน...เผลอๆ อาจดีกว่าด้วยซ้ำในเรื่องของความแข็งแกร่ง อึดถึกบึกบึน คิดอะไรไม่ออกโยนบอมบ์เข้าไป โบนี่โถมๆ ไถๆ ไปได้เอง
 
        อาจยังเปิดสกอร์กับ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้มากนัก (2 ลูกจาก 15 นัด) แต่อย่าลืมในสถิติที่โบนี่ฝากไว้กับทีมหงส์ขาว - 34 ประตูจากระยะแค่ 1 ซีซั่นครึ่ง
 
        วิลลี่ กาบาเยโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, ฟาเบียน เดลฟ์, แฟร์นานโด, ซามีร์ นาสรี่, แพทริค โรเบิร์ตส์, เฆซุส นาบาส, วิลฟรีด โบนี่ จะใช้ใครเลือกเลย นี่คือบรรดา "ตัวสำรอง" ของ แมนฯ ซิตี้
 
        แล้วในขณะที่ 3 ทีมแย่งแชมป์สะดุดกันไปหมดแล้ว แมนฯ ซิตี้ ไม่มีอะไร--นอกจากชนะ 4 เกมรวด ยิงกระจาย 10 ประตู ไม่โดนเจาะตาข่ายแม้แต่ลูกเดียว
 
        ยืนแท่นเด่นเป็นจ่าฝูง ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจากหลังมาหน้า จากทีมตัวจริงสู่ชุดสำรอง อัตราพูลแชมป์มีแต่จะลดลงๆ เมื่อผ่านไปแต่ละเกม
 
        "นั่งบนภู ดูเสือกัดกัน" กลยุทธ์หนึ่งจากสามก๊ก - ปล่อยให้สองฝ่ายสู้รบเอาชนะคะคานกันก่อน เราค่อยลงมือปิดบัญชีทีหลังเมื่อศัตรูอ่อนแรงเหนื่อยล้า
 
        เพราะในขณะที่ 3 ทีมแย่งแชมป์ต่างสะดุดและมีปัญหาในตัวเอง แมนฯ ซิตี้กลับไม่มีอะไรที่เป็นรอยด่างพร้อยทั้งสิ้น
 
        ภาพของเปเยกรีนี่นาทีนี้คงเป็น "นั่งบนภู ดูแมวตะปบกัน" เมี้ยวหง่าวๆ น่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งจริงเชียว

ไกด์เถื่อน

และนี่คือสองเซนเตอร์แบ็กทางเลือกของเชลซี

***********************************************************

Cr.siamsport.co.th/   ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th