Members

แพ้แล้วงัย :เดอบรอยน์ฟอร์มแจ่มติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 6

แพ้แล้วงัย :เดอบรอยน์ฟอร์มแจ่มติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 6

11. ผู้รักษาประตู - ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด)

Manchester United v Liverpool - Premier League

ยังไม่มีคลีนชีทเป็นเกมที่ 10 ติดต่อกัน แต่จังหวะซูเปอร์เซฟสำคัญในลูกที่ยากอย่างเหลือเชื่อนั้น เด เคอา เก็บกินได้เข้าตาในเกมนี้โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังจากลูกโหม่งของ โชเซ ฟอนเต และลูกยิงของ วิคเตอร์ วานยามา แม้จะเสียไป 2 ประตูแต่ก็ต้องยกนิ้วให้เป็นพิเศษในนัดนี้​

10. กองหลัง - ไซมอน ฟรานซิส (บอร์นมัธ)

Exeter City v AFC Bournemouth - Pre Season Friendly

​น่าจะมีการเทียบฟอร์มแบ็คขวาที่โดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งดูเหมือนฟอร์มของฟูลแบ็คจาก บอร์นมัธ จะเด่นกว่าใคร โดยเฉพาะการผ่านบอลเยี่ยมยอด 76% ในนัดนี้ 

9. กองหลัง - เคิร์ท ซูมา (เชลซี)

Chelsea v Arsenal - Premier League

โอกาสที่จะได้เห็น ซูมา ขยับเข้ามาเป็นทายาทคนใหม่ต่อจาก จอห์น เทอร์รี เริ่มเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ทั้งโอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงและยังพังประตูได้ในเกมกับ อาร์เซนอล ไม่ต่างจากรุ่นพี่ที่มีทีเด็ดทั้งในเกมรับและการสังหารประตูที่ครบเครื่อง น่าจะเป็นฤดูกาลที่แจ้งเกิดเต็มตัวของกองหลังฝรั่งเศสวัย 20 ปีรายนี้

8. กองหลัง - วินสตัน รีด (เวสท์แฮม)

Manchester City v West Ham United - Premier League

เป็นเกมที่แนวรับทีมขุนค้อนเหนียวแน่นผิดหูผิดตาโดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แต่งานของ รีด ค่อนข้างหนักและถี่ในการตัดลูกกลางอากาศของ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ และ บาการี ซานญา และหยุด เซร์คิโอ  อากุเอโร จนโชว์ไม่ออก ...ถึงตอนนี้เริ่มมีคำถามแล้วว่า การขยันปราบทีมใหญ่ได้หมดทั้ง อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล จนถึงล่าสุด แมนฯ ซิตี้ น่าจะไม่ใช่เรื่องฟลุคของกุนซือ สลาเวน บิลิช ซะแล้ว

7. กองหลัง - แอชลีย์ วิลเลียมส์ (สวอนซี)

Watford v Swansea City - Premier League

ในเกม 0-0 ที่ ลิเบอร์ตี สเตเดี้ยม เป็นรูปเกมที่แนวรับทีมหงส์ขาวต้านทานโอกาสบุกของ เอฟเวอร์ตัน ไว้ได้ดีตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะกัปตันทีมที่เป็นแกนหลักของเกมอย่าง วิลเลียมส์ พร้อมสถิติการเคลียร์บอล 55 ครั้งในฤดูกาลที่ถือว่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของลีกในตอนนี้

6. กองกลาง - เชส ฟาเบรกาส (เชลซี)

Chelsea v Arsenal - Premier League

4-5 นัดแรก ฟอร์มของ ฟาเบรกาส จัดว่าย่ำแย่และเข้าขั้นถูกตำหนิมาตลอด แต่หลังจากปลดล็อคตัวเองได้ในเกมกับ มัคคาบี เทลอาวีฟ เมื่อกลางสัปดาห์ ก็เหมือนจะติดเครื่องได้และเป็นโชคร้ายของ อาร์เซนอล ที่โดนเด็กเก่าเรียกฟอร์มเผาเครื่องได้ในนัดนี้พอดี และฟรีคิ้กของเขาในเกมนี้ก็กลายเป็นที่มาของลูกโขกสำคัญให้ เคิร์ท ซูมา ทำประตูออกนำปืนใหญ่ในขณะที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า

5. กองกลาง - ดิมิทรี ปาเยต์ (เวสท์แฮม)

West Ham United v Newcastle United - Premier League

ระเบิดฟอร์มเก่งสุดยอดต่อเนื่องแม้ไม่มีประตูในเกมบุกปราบ แมนฯ ซิตี้ นัดที่ผ่านมา แต่ก็ปั้นแอสซิสท์ให้เพื่อนทำประตูได้ ในเกมที่ต้องดวลกับแข้งพันล้านของ แมนฯ ซิตี้ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า ฝีเท้าของ ปาเยต์ ไม่ได้เป็นรองแม้กระทั่ง ดาบิด ซิลบา อย่างที่บอกว่าการเชือดทีมใหญ่ๆ ในฤดูกาลนี้ของ เวสท์แฮม มาแล้วถึง 3 ทีมย่อมไม่ใข่เรื่องฟลุคแน่

4. กองกลาง - เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)

Manchester City v West Ham United - Premier League

​ไม่ใช่นัดที่รูปเกมจะเป็นใจให้กับทีมจ่าฝูงกับการแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลในบ้านตัวเอง แต่ในบรรดาแนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ ที่เล่นทุกเม็ดตั้งแต่ต้นจนจบก็ต้องให้เครดิตกับ เดอ บรอยน์ ที่กระหายจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกดไป 1 ประตู แม้ทีมจะแพ้แต่ก็ถือว่ามีประตูแรกพร้อมกับฟอร์มในการทำเกมที่มีความหวัง

3. กองกลาง - ซน ฮึงมิน (สเปอร์ส)

Tottenham Hotspur v Crystal Palace - Premier League

ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ สเปอร์ส เพียงแค่นัดที่ 2 แต่ก็กลายเป็นตัวทีเด็ดสร้างความต่างในเกมรุกของคลับไก่ได้อย่างน่าสนใจ และทำประตูโทนให้ทีมเก็บ 3 แต้มแรกในบ้านของฤดูกาลหลังจากเพิ่งเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมกับ คาราบัค เมื่อกลางสัปดาห์ และเท้าซ้ายที่อันตรายของ ซน น่าจะเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญที่จะปราบ อาร์เซนอล ที่จะโคจรมาเจอกันในเกมลีกคัพกลางสัปดาห์นี้

2. กองหน้า - โอดิออน อิกฮาโล (วัตฟอร์ด)

Newcastle United v Watford - Premier League

เหมาทำคนเดียว 3 ประตูใน 2 นัด ให้ทีมแตนอาละวาดผงาดขึ้นมารั้งอันดับ 10 พร้อมชัยชนะ 2 นัดรวด คงไม่มีใครมองข้ามฟอร์มของอดีตหัวหอก อูดิเนเซ รายนี้ที่น่าจะมีส่วนในการพาทีมอยู่รอดต่อไปในพรีเมียร์ลีก และการเล่นที่เข้าขากับ ทรอย ดีนีย์ คืออาวุธสำคัญในการบุกไปปราบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมที่ผ่านมา

1. กองหน้า - อองโธนี มาร์กเทียล (แมนฯ ยูไนเต็ด)

Southampton v Manchester United - Premier League

3 ประตู ใน 2 เกมลีก คงไม่ต้องตั้งคำถามแล้วว่า 36 ล้านปอนด์บวกโบนัสที่จะต้องจ่ายนั้น คุ้มหรือไม่คุ้ม เพราะไม่ใช่แค่การทำประตูที่พอจะฝากความหวังได้เมื่อไม่มี โรบิน ฟาน เพอร์ซี แต่จังหวะในการยิงแต่ละลูกนั้นต้องยกนิ้วให้ในความนิ่งและความเหนือชั้นเกินวัย 19 ปี...ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด จะบินสูงในฤดูกาลนี้ ส่วนหนึ่งก็คงต้องยกให้เป็นเครดิตของเขาในการเป็นตัวความหวังในแต่ละเกมด้วย

*****************************************************************

Cr.90min. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 880

Reply to This

Replies to This Discussion

เดอ บรอยน์เหมาะสมและคู่ควรครับ นี่ถ้าทีมไม่แพ้ติดยกชุดเลยนะครับแหม่ อิอิ

ยกเว้น โจ ฮาท นะ ไม่น่าติดเพราะค้อนแทบจะไม่ได้บุกไปทำให้ฮาทเหนื่อยเลย 5555 แทบจะหายไปจากจอเลยนะ อิอิ

ถึงแพ้แต่เกมรุกเราจัดจ้านมาก เพียงแต่ยิงเพิ่มไม่ได้ เหมาะสมที่เดอ บรอยน์ จะติดนักเตะยอดเยี่ยม

ส่วนไอ้หนูเด็กใหม่ของยูไนเต็ด นี่ก็ใช่ย่อย ลบทุกคำสบประมาทไปเลย เล่นเอาเสียหน้ากันไปตาม ๆ กัน แม้กระทั่งผม อิอิ ไป ๆ มา ๆ ไอ้นี่เล่นดีเกิ๊น ไม่งั้นยูไนเต็ดคงไม่ชนะเซาในบ้านแน่เลย ผมนั่งลุ้นจนจบ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เริ่มต้นมาดีแต่หลัง ๆ มาแผ่วซะงั้น เลยโดนอัด 1-3 เลย เง้อ...

เหมาะสมแล้วครับ

สุดยอดฮะ

เดอบรอยน์ไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าแน่นอนครับ แต่หนูมินซนนี่เก่งเหมือินกกันยิงได้แล้วครับ

จอร์จเจ้ายอดมากกกกกกก

นับถือๆฝีเท้าระดับโลกของแท้คับเพื่อนๆ

เล่นเด่นมากๆๆค่ะ

..........เล่นดีเลยคับ............

โอตาเมนดี้ก็น่าจะติดเกมนี้เล่นเฉียบขาดดี

เวิลด์คลาสมากครับขอบอกเลยครับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.