ชนะเพื่อความสบายใจ

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นทีมลูกผีลูกคน เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วชนะซันเดอร์แลนไป 4-1 ในศึกลีกคัพ ทำท่าว่าจะดูกลับลำมาได้หลังจากที่แพ้เวสต์แฮมคาบ้านมา แต่ก็เกิดอาการเครื่องช็อตท้ายเรือเกิดรอบรั่วซะงั้นเลยทำให้โดนไก่เปิดเล้าถล่มไป 4-1 แพ้แบบเละเทะชนิดเรือเจาะไม่เจาะไม่เข้า

     มาในนัดค่ำคืนนี้เรือต้องบินไปถึงแดนเมืองเบียร์โดยจะไปเยือนถิ่นของ “สิงค์หนุ่ม” โบรุสเซียมึนเซ่น กลัดบัค ในศึกใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

     ซึ่งในนัดนี้ด้วยสถาณการณ์ของผู้จัดการทีมมันบีบให้ทีมต้องควานหาชัยชนะให้เจอ นี่คืออีกหนึ่งโจทย์สำคัญของเปเยกรินี่ที่ต้องพาทีมไปได้ให้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มและไกลกว่ารอบ 18 ทีม เพราะด้วยจำนวนเม็ดเงินที่แมนซิตี้ใช้จ่ายไปในซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้นคือแรงกดดันที่เล่นงานใส่เปเยกรินี่ว่าต้องโชว์ผลงานให้ดีคุ้มค่ากับที่ลงทุนไปร่วมร้อยล้านปอนด์หรือไม่

     มาในนัดนี้แรงกดดันมหาศาลเข้ารุมเล่นงานทัพเรือใบแน่นอนไม่ว่าผู้เล่นหรือโค้ชเพราะในลีกเองผลงานก็เริ่มออกทะเลส่วนในยูฟ่านัดที่แล้วก็โดนยูเว่บุกมาสอนเชิงถึงถิ่นเอติฮัทแพ้ไปแบบน่าเจ็บใจและมาในนัดนี้แน่นอนครับถ้ายังสะกดคำว่าชนะไม่ได้ก็มีก้นร้อนกันบ้างไม่ใครก็ใคร

     ว่ากันถึง สิงค์หนุ่ม กลัดบัค หลังจากเปลี่ยนโค้ชไปทีมดูจะดีขึ้นมามากหลังจากจมอยู่อันดับบ๋วยมานานตอนนี้มาอยู่ในโซนที่ค่อนข้างจะปลอดภัยแล้วทีมดูจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ทีเด็ดอยู่ที่ตัวรุกริมเส้นและการโต้กลับที่รวดเร็ว ซึ่งสิ่งที่เรือใบต้องระวังเลยคือทีเด็ดในการโต้กลับของกัลดบัคและการขึ้นทำเกมรุกเพราะเท่าที่ผมแอบไปลองเช็คฟอร์มมากลัดบัคดูจะเล่นบอลเป็นระบบมากขึ้น

    มีการคอนโทรลเปลี่ยนถ่ายบอลที่รวดเร็ว ซึ่งการเข้าทำเกมรุกก็มาเป็นแผงเป็นระบบแน่ นอนครับว่าซิตี้ดันโชคร้ายมาเจอกลัดบัคที่ฟอร์มตอนนี้สวนทางเรือใบอย่างชัดเจน

     แต่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนสามประตูในสองเกมหลังสุดในลีกกลัดบัคเสียประตูจากจุดโทษทั้งสามลูก ไม่ใช่แค่นั้นในนัดที่เจอเซบีย่าใน ชปล ก็เสียจุดโทษให้เซีบีย่าไปอีกสามลูก แน่นอนครับว่าการเสียจุดโทษเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนและแสดงให้เห็นให้เห็นถึงความโฉ่งฉ่างของทีม ซึ่งหากโดนเกมรุกที่มาเป็นพายุของซิตี้แน่นอนครับถ้าเล่นแบบโฉ่งฉ่างเหมือนที่ผ่านมาน่าจะมีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 จุดโทษ เพราะดูจากสถิติแล้วกลัดบัคเป็นจอมเสียลูกโทษจริงๆ

     ปัญหาของเรือใบตอนนี้ดูจะเป็นปัญหาเดิมๆที่กลับมาเล่นงานเปเยกรินี่อีกครั้งนั้นคือ “รุกแย่ รับรั่ว” จะว่าเกมรุกแย่ขนาดห่วยแตกมั้ยตอบเลยครับว่าไม่แต่ปัญหาที่กลายเป็นหนามแทงใจแฟนบอลคือความคมและความเฉียบขาดในการจบสกอร์

     กุน อกูเอโร่ ผู้เล่นที่แบกความหวังของแฟนซิตี้ไว้ทั่วโลกกลับกลายเป็นว่าโชว์สเต็ปตีนไรเฟิลไม่ออกยิงเป็นติดผู้รักษาประตูเท้าดูจะบอดมาหลายเกมยกเว้นในลีกคัพซึ่งไม่ใช่ผลดีเลยหากแต่ว่านี่คือการกลับมาคืนตัวจริงในเวทียุโรปอีกครั้งหลังจากที่นัดแรกลงเล่นเป็นแค่ตัวสำรองในการเจอกับยูเว่แต่ในนัดนี้มีน่าจะมมีเวลาให้พิสูจน์ฝีเท้าเต็มที่

     ราฮิม สเตอร์ลิง โอ้ยยยย…รายนี้ดูดีทุกอย่างแล้วขาดอย่างเดียวคือการจบสกอร์จังหวะหลุดเดี่ยวนี่เฮียแกดูจะไม่ค่อยคมเท่าไรสามสี่ครั้งในนัดเจอยูเว่ สเตอร์ลิงน่าจะใส่สกอร์ได้อย่างน้อยสามประตูกลับกลายเป็นว่าเข้าเซฟบุฟ่อนหมดนัดล่าสุดเจอสเปอร์ส ราฮิม ก็ไม่สามารถทะลวงด่านของ ยอริส ได้ซึ่งทั้งอดีตนักเตะหงส์แดงและบรรดาโค้ชต่างวิจารณ์ว่า ราฮิม จะดูดีขึ้นมากหากมีจังหวะจบสกอร์ที่คมขึ้นกว่านี้ ซึ่งเราก็ต้องมาดูครับว่าในนัดนี้จะสามารถลบคำวิจารณ์ต่างๆไปได้มั้ย

     ครับ ตอนนี้การเข้าทำการขึ้นเกมทุกอย่างของซิตี้ดูจะเวริคหมดแต่เพียงขาดความเฉียบคมถ้านักเตะปรับจูนกันได้เร็วรับรองว่าซิตี้จะกลับมาเป็นทีมที่น่ากลัวอีกครั้งนึง และดูเหมือนจะได้ข่าวดีสำหรับเรือใบที่เจ้าพ่อเพลเมคเกอร์จอมปั่นเกมของซิตี้นั้นก็คือ ซิลบา ดูจะหายทันกลับมาลงสนามดวลกลัดบัคได้คืนนี้ และแน่นอนซิลบาอาจจะเป็นตัวแปลสำคัญในการกู้สถานการณ์เกมรุกของซิตี้ก็ได้ และรับรองว่าบอลของซิตี้จะดูดุดันขึ้นมาแน่นอนครับ

     แดนกลางตอนนี้กำลังเป็นที่ลุ้นกันอยู่ว่าเปเยกรินี่จะงัดระบบไหนมาใช้เพราะในเกมลีกที่ผ่านมาอัดกลางถึงสามแต่สุดท้ายกลับไม่เวริคซึ่งนัดนี้น่าจะกลับมาใช้คู่ ยาย่า กับ เฟอร์นันดินโญ่ ซึ่งสองคนนี้ดูจะเข้าขารู้ใจกันดีขับเคลื่อนเกมแดนกลางกันได้ยืดหยุ่นและอิสระซึ่งดูแล้วในคืนนี้น่าจะยึดคู่นี้เป็น 11 ตัวจริงแน่นอน

     และตอนนี้ดูเหมือนหนังม้วนเดิมจะกลับมาหลอกหลอนแฟนๆเรือใบอีกแล้วสำหรับแนวรับสองเกมในลีกหลังจากที่ไม่เสียประตูมา 5 เกมติดมาสองนัดหลังโดนกดไปแล้ว 6 ประตู และมันแสดงให้เห็นแล้วว่าการขาดคอมพานีเสียหายใหญ่หลวงแค่ไหน ม็องกาล่าก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโอตาเมนดี้หรือเดมิเคลิสไปแล้ว

     เกมล่าสุดที่เจอสเปอร์ส โอ้แม่เจ้า… เกิดอะไรขึ้นกับเรือใบทั้งกลางทั้งหลังรั่วโดนทะลุงจนยับยุ้ยไปหมด โอตาเมนดี้แสดงให้เห็นถึงการตัดบอลที่สวยๆหลายลูกแต่จังหวะอ่านเกมวันทูตามช่องดูจะอ่านไม่ขาดเท่ากัปตันคอมพานี และดูจะไม่ค่อยเข้าขากับเดมิเคลิสเท่าไร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็เป็นไปแล้ว

     และยิ่งในนัดนี้มีข่าวว่าคู่หูกำแพงเหล็กเดี้ยงทั้งสองคนทั้ง ม็องกาล่า และ คอมพานี โอ้… อยากจะร้องดังๆ แต่ผมเชื่อครับว่าเราจะดีขึ้นในนัดนี้เพราะที่ผ่านๆมาดูจะมีหลายทีมสอนบทเรียนมาแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเปเยกรินี่จะวางระบบแนวรับยังไงให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ในคืนนี้ที่จะเจอกลัดบัคดูจะมีข่าวดีขึ้นมาหน่อยตรงที่ ซาบาเลต้ากลับมาลงซ้อมพร้อมลงเล่นประเดิมสนามให้เรือใบอีกครั้ง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือคู่เซ็นเตอร์ต้องรอดูครับว่าจะจูนกันติดมั้ยในนัดนี้

     เอ้า… ถือว่านี่เป็นการนับ 1 ใหม่ก็ยังไม่สายสำหรับเปเยกรินี่ ที่หวังเหลือเกินครับว่าจะพาซิตี้กลับเข้าฝั่งมาสักทีและสิ่งที่ต้องทำให้ได้ในปีนี้คือการพาเรือไปให้ไกลกว่ารอบ 18 ทีมใน ชปล ซึ่งเท่าที่ผมดูแล้วสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักกำหนดอนาคตของเปเยกรินี่ดูจะเป็นถ้วยยุโรปมากกว่าบอลลีกซะอีกด้วยงบประมานที่ทุ่มไปมหาศาลนับว่าเป็นเครื่องมือกดดันเปเยกรินี่ที่ต้องเค้นฟอร์มของลูกทีมออกมาให้ได้

     ในนัดนี้ต้องบอกครับว่ามันบีบให้เปเยกรินี่ต้องพาทีมคว้าชัยชนะให้ได้จริงๆ เพราะเรือใบยังไม่มีสักคะแนนเดียวในกลุ่ม D นี้ และการกู้ศรัทธาให้กับตัวเองสำหรับเปเยกรินี่หลังจากพักหลังดูท่าฟอร์มของทีมจะดร็อปลงไปแน่นอนว่ามันถูกโยนความผิดไปให้กับผู้เป็นโค้ช ในนัดนี้ต้องบอกว่า เรือใบต้องชนะเพื่อความสบายใจของทั้ง โค้ช แฟนๆ และ นักเตะ และรีบกู้ศรัทธากลับมาโดยเร็ว

- บลูมูน -