สำหรับเขา ปีนี้ถือเป็นปีพิเศษ เป้าหมายของกองหน้าวัย 30 ปี คือต้องการที่จะไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับ "โลส เช", ถูก บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เรียกตัวอีกครั้งในภารกิจป้องกันแชมป์ยูโรที่ฝรั่งเศส กลางปีหน้า
กับเป้าหมายทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน เพราะเนเกรโด้ออกสตาร์ตซีซั่นได้ไม่เลวทีเดียว
ถาม : บาเยกาส (ตำบลหนึ่งในมาดริด, บ้านเกิดของเนเกรโด้) สำหรับคุณมีความหมายอย่างไร?
เนเกรโด้ : มัน คือทุกอย่างสิ่งทุกอย่างที่เป็นผม ผมเริ่มเล่นฟุตบอลที่ตำบลนั้นกับเพื่อนๆ แล้วก็ญาติพี่น้อง ผมรู้สึกได้ว่าบาเยกาสมีอิทธิพลอย่างมากที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างในทุกวันนี้ ถนนทุกสายที่นั่นเหมือนเป็นครูคอยสอน มันทำให้ผมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิด ผมเกิดที่นั่น โตที่นั่น ที่ๆ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผม ผมไม่เคยลืมว่าผมมาจากไหน รวมถึงสิ่งที่พ่อกับแม่ทำเพื่อช่วยเหลือผมและน้องๆ เพื่อให้เราทุกคนคว้าฝันของตัวเองได้สำเร็จ
สำหรับฟุตบอล ผมโชคดีกว่าใครที่สามารถก้าวมาอยู่ในจุดสูงสุด ซึ่งพวกเขา (พี่น้อง) ทุกคนต่างยินดีไปกับผม ความทรงจำอันงดงามของผมล้วนเกิดขึ้นที่บาเยกาส และมันจะเป็นส่วนหนึ่งของผมตลอดไป
ถาม : ตอนเด็กๆ คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าตัวเองจะก้าวมาถึงจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน?
เนเกรโด้ : สมัย เล่นที่อัลเมเรีย ผมยิงประตูทีมใหญ่ๆ ได้บ่อยครั้ง แต่ผมไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะมีโอกาสได้เล่นให้กับหนึ่งทีมใหญ่ที่ว่า นี้ ผมโชคดีที่อัลเมเรียหยิบยื่นโอกาสลงเล่นในลา ลีกา ให้ ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาอยู่เสมอมา เพราะมันเป็นจุดเริ่มของทุกอย่างในชีวิตการค้าแข้งของผม แม้สาเหตุที่ผมไปที่นั่น (อัลเมเรีย) เพราะทำได้ไม่ดีในการเล่นกับเรอัล มาดริด กาสตีย่า แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจในตัวผม แต่ละเกมที่ผ่านไปทำให้ผมเติบโตขึ้นในทุกๆ ด้าน ทำให้ผมได้รับเกียรติให้เล่นกับทีมยักษ์ใหญ่หลายๆ ทีม
ถาม : ดูเหมือนว่าคุณจากอังกฤษมาทั้งๆ ที่มันยังไม่ประสบความสำเร็จ?
เนเกรโด้ : ไม่ นะ, การเล่นของผมที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นแง่บวกนะ และยิ่งไปกว่านั้นก็คือผมได้เล่นให้กับทีมใหญ่อย่างซิตี้ ซึ่งช่วยพัฒนาผมได้มาก ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังผมเจอกับอุปสรรคสำคัญ ผมไม่สามารถช่วยทีมได้มากนัก เปเยกรีนี่ไม่เชื่อมั่นในตัวผมตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่มีโอกาสได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จะทำให้เขาชอบผม ช่วงแรกๆ ทุกอย่างออกมาดีเยี่ยม แต่ตอนจบมันไม่เป็นอย่างที่ผมต้องการเลย
ผมมีส่วนร่วมกับทีมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและถ้วยแคปปิตอล วัน คัพ ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าการไปเล่นที่อังกฤษของผมมันก็ออกมาเยี่ยมทีเดียว ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายที่นั่น ได้สนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้หัดพูดภาษาอังกฤษ ผมมีความทรงจำที่ดีกับช่วงขวบปีแรก โดยเฉพาะกับแฟนบอลและตัวสโมสร
ถาม : ถ้างั้นในช่วงปีแรกกับซิตี้ สามารถพูดได้ว่านั่นคือ "เนเกรโด้เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด" ได้หรือเปล่า?
เนเกรโด้ : จน ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เคยเห็น "เนเกรโด้ที่ดีที่สุด" เลย ผมยังเหลือสิ่งต่างๆ อีกมากที่ต้องพัฒนา ผมหวังว่าด้วยแรงบันดาลใจที่ผมมี จะช่วยให้ผมเติบโตและสามารถก้าวไปสู่จุดที่ว่านี้ได้ ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะใช้เวลาเท่าไหร่ เร็วหรือช้า แต่ถึงอย่างงั้นก็ภาวนาขอให้มันเกิดขึ้นที่บาเลนเซีย เป้าหมายของผมตอนนี้ก็คือยิงประตูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และชูถ้วยแชมป์ซักใบกับบาเลนเซีย
ถาม : คุณสูญเสียความมั่นใจไปเท่าไหร่ในช่วงเดือนหลังที่อังกฤษ?
เนเกรโด้ : ความ มั่นใจของผมไม่เคยลดหายไปไหน ช่วงเวลาที่ไม่ได้รับโอกาส บางสิ่งอาจทำลายคุณ แต่ถึงอย่างนั้นผมยังคงมุ่งมั่นที่จะกลับมาเพื่อให้พวกเขายอมรับในตัวผม เพื่อให้ผมกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดให้ได้
ถาม : ตอนนี้คุณได้เล่นให้กับสโมสรที่คุณต้องการแล้วหรือยัง?
เนเกรโด้ : ผมเล่นให้กับสโมสรที่ผมอยากจะเล่นเท่านั้น ที่ๆ ผมเชื่อว่าตัวเองจะรู้สึกดีที่สุด ผมรู้ดีว่าในโลกของฟุตบอลนั้นมีหลายๆ อย่างไม่อาจเลือกได้ แต่นั่นไม่ใช่ผม ผมเป็นผู้เลือกทีมที่ต้องการจะเล่นเสมอ ผมไม่ยอมให้ใครมาเลือกแทนผมได้หรอก
ถาม : ถ้าพูดถึงกองหน้าในตำนานซักคน คุณจะคิดถึงใคร?
เนเกรโด้ : บาง ทีอาจเป็น คริสเตียน วิเอรี่ นะ เพราะเราต่างมีรูปร่างเจ้าเนื้อเหมือนกัน แต่ผมว่าผมคล่องตัวกว่าเขานะ จริงๆ แล้วผมอยากมีความแข็งแกร่งและจังหวะตัวต่อตัวที่เฉียบขาดเหมือนโรนัลโด้ (บราซิล), มีลูกโหม่งและเท้าขวาที่ทรงพลังเหมือนบาติสตูต้า
ถาม : แล้วนักเตะที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันล่ะ, ช่วยเลือกมาซักสองคนได้มั้ย?
เนเกรโด้ : เม สซี่ กับ คริสเตียโน่ คือนักเตะที่ดีที่สุด พวกเขาคือผู้ชนะตัวจริง, เหนือคำบรรยายใดๆ ทั้งคู่ไม่เคยหยุดนิ่งกับที่ พวกเขาต้องการมากขึ้นและมากขึ้นเสมอ ทั้งคู่สามารถสร้างความแตกต่างในแบบที่คนอื่นไม่อาจทำได้
ถาม : จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคงคิดถึงการกลับไปติดทีมชาติอยู่เสมอ?
เนเกรโด้ : ใช่, นักเตะแต่ละคนทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุด และการได้ติดทีมชาติก็คือเป้าหมายของนักเตะทุกคน ผมโชคดีที่คว้าแชมป์ยูโร 2008 แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ยังคงคิดถึงการถูกเรียกตัวสู่ทีมชาติเสมอ ผมรู้ดีว่าปีที่แล้วตัวเองทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่ปีนี้ผมสตาร์ตได้ดีกว่าเดิมและกำลังอยู่ในช่วงที่ยอดเยี่ยม ผมหวังว่าซักวันนึงคงไม่นานเกินรอ ผมจะกลับไปสวมเสื้อสีแดงตัวนั้นอีกครั้ง
การกลับไปติดทีมชาติสเปนอีกครั้ง คือเป้าหมายสูงสุดของเนเกรโด้
ถาม : เพื่อที่จะกลับไป คุณจะทำอย่างไร?
เนเกรโด้ : นักเตะแต่ละคนจะต้องแสดงให้เห็นว่าดีพอจะช่วยเหลือทีมได้ เทรนเนอร์ (เดล บอสเก้) รู้จักผมดี และรู้ว่าผมสามารถมอบอะไรให้กับทีมได้บ้าง ผมรู้สึกว่าตัวเองยังมีดีพอสำหรับทีมชาติชุดนี้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เดล บอสเก้ ซึ่งผมก็ภาวนาว่าเขาจะเรียกผมกลับไปอีกซักครั้ง
เจมส์ ลา ลีกา
*****************************************************
Cr.siamsport ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทยwww.mcfc.in.th
Tags:
ผมมีส่วนร่วมกับทีมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและถ้วยแคปปิตอล วัน คัพ ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าการไปเล่นที่อังกฤษของผมมันก็ออกมาเยี่ยมทีเดียว ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายที่นั่น ได้สนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้หัดพูดภาษาอังกฤษ ผมมีความทรงจำที่ดีกับช่วงขวบปีแรก โดยเฉพาะกับแฟนบอลและตัวสโมสร
สรุปขอลงเพราะผมคิดถึง เนเกรโด้ครับ T_T นึกถึงช่วยดีๆที่เล่นคู่กับกุน สุดยอดมากจริงๆ ขอให้เขาโชคดีที่บาเลนเซียครับ
เสียดายมากคนนี้ ยังงงอยู่เลย เปเย ปล่อยไปได้ยังไง
อยากให้กลับมา
สูง 18 6 เท่าๆผมเลย
ติดทีมชาติง่ายกว่าจะกลับมาซิตี้อีกครับ อายุเลข 3 แต่เนเกรโด้ยังไหวน่าจะเล่นได้ถึง 34
คิดถึงเลยครับพี่ขอให้โชว์เทพกับต้นสังกัดใหม่ครับ
คิดถึงมากพี่อยากให้กลับมาแล่นเรือด้วยกันอีกครับ
ฉลามแห่งบาเยกาส
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by