Members

คอลัมน์::ปัญหามีไว้แก้



     ศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงที่กุนซือทั้งหลายต้องขบคิดกันขนานใหญ่ ไม่ว่าจะทีมใหญ่หรือเล็ก เพราะนอกจากต้องเสียนักเตะแยกย้ายกันไปรับใช้ชาติ หลายคนยังเก็บเอาปัญหาบาดเจ็บกลับมากันเป็นแถว
 

 

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นหนึ่งในทีมที่หลีกไม่พ้นเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลวา และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ บาดเจ็บมาจากทีมชาติ ต้องพักกันเป็นเดือนสำหรับสองคนแรก
 
         เรียกว่าช่วงไม่ถึงสองสัปดาห์ มานูเอล เปเยกรีนี่ เสียลูกทีมคนสำคัญไปทีละคนสองคน โดยเฉพาะกุนและซิลบาที่มีผลต่อเกมรุกอย่างชัดเจน
 
         อเกวโร่เพิ่งฟิตกลับมาไม่นาน ก่อนหวดไป 5 ประตูใส่นิวคาสเซิ่ล แต่พอกลับไปเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินา อาการใหม่ก็กำเริบซ้ำที่เอ็นหลังหัวเข่า
 
         หนักกว่านั้นซิลบาจอมทัพที่เหมือนหัวใจสำคัญของทีม ยังข้อเท้าพังจากเกมทีมชาติสเปนในคืนถัดมา ต้องพักยาวไปอีกคน
 
         นับเป็นเรื่องเสียหายหนัก เพราะต่างเป็นกำลังสำคัญของทีม ยิ่งรายของซิลบา การขาดหายไปจากทีมส่งผลกระทบหนักกว่า ''เอล กุน'' ด้วยซ้ำ
 
         หัวหอกอาร์เจนไตน์ อาจมีชื่อเป็นผู้ทำประตูมากกว่า แต่เมื่อพูดถึงส่วนร่วมในการบงการเกมของซิลบา จากค่าเฉลี่ยใน 5 ฤดูกาลที่เอติฮัด ดาวเตะทีมกระทิงดุ มีอิทธิพลกับชัยชนะของทีมมากกว่า
 
         แถมวัดจากการลงสนามในทุกรายการแล้ว แมนฯ ซิตี้ ที่ไม่มี อเกวโร่ กลับชนะมากกว่าที่อัตรา 67 ต่อ 62 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
 
         ไม่นับบอลถ้วยรอบแรกๆ ที่พวกเขามักได้พักหรือลงเล่นน้อย เมื่อ ''เรือใบสีฟ้า'' มีซิลบาอยู่ในทีม อัตราชนะคู่ต่อสู้ของพวกเขาจะสูงถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และตกลงมาอยู่แค่ 52 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเมื่อไม่มีเขาอยู่ในทีม
 
         แม้มันจะเป็นแค่ตัวเลขที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เพราะเปเยกรีนี่ก็เหลือตัวเลือกมากพอให้ส่งลงเจอบอร์นมัธ ตามด้วยเกมยุโรป และศึกใหญ่ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ในสัปดาห์ต่อไป
 
         แม้จะทดแทนทั้งสองได้ไม่หมด ข่าวดีที่ยังพอมีในตอนนี้คือ สภาพร่างกายของแว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังทีมชาติเบลเยียม ที่พร้อมกลับมาคุมแนวรับอีกครั้ง หลังผ่านเกมทีมชาติไปเมื่อกลางสัปดาห์
 
         การกลับมานัดแรกของก็องปานีในรอบหนึ่งเดือน หลังจากเจ็บน่อง ทำให้แมนฯ ซิตี้ลุ้นหนักว่ากัปตันทีมจอมเก๋าจะกลับมาโดยไม่บุบสลายหรือเปล่า
 
         ข่าวดีคือก็องปานีกลับมาโดยไม่บาดเจ็บเพิ่ม และมีโอกาสลงสนามต่อเนื่องในช่วงนี้ เช่นเดียวกับ ยาย่า ตูเร่ ที่แม้จะไม่ฟิตเต็มร้อย ก็ยังดีที่ทีมไม่มีปัญหาเพิ่มให้ปวดขมับอีก
 
         ดังนั้นกุนซือชาวชิลีจึงน่าจะเหลือคำถามเดียวคือหัวหอกที่จะมาแทน เอล กุน นั่นเอง
 
         กวาดตาทั่วทั้งทีมตอนนี้ แมนฯ ซิตี้เหลือกองหน้าอาชีพเพียงคนเดียวคือ วิลฟรีด โบนี่ ส่วนอีกหนึ่งเป็นดาวรุ่ง เคเลชี่ อีเฮนาโช่ เท่านั้น หลังจากปล่อย เอดิน เชโก้ ออกไปแล้ว
 
         และนี่คือปัญหาสำหรับเปเยกรีนี่ เพราะนับแต่ย้ายจากสวอนซีเมื่อต้นปี ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ถือว่าปี 2015 ของหัวหอกไอวอรี่โคสต์เป็นฝันร้ายโดยแท้
 
         ไม่เพียงแค่นั้น ดาวเตะวัย 26 ยังต้องเดินทางไปเตะแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ก่อนกลับมาบาดเจ็บ 3-4 ครั้ง แถมด้วยอาการป่วยและฟอร์มตก
 
         หนักที่สุดคือการเปลี่ยนแผนมาเล่นกองหน้าตัวเดียวของเปเยกรีนี่ในช่วงปลายฤดูกาล ยิ่งทำให้โบนี่มีโอกาสลงสนามแทบนับครั้งได้ เทียบกับตอนอยู่สวอนซียิ่งต่างกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว
 

 

ทอมมี่ เอลฟิค กัปตันทีมบอร์นมัธ เป็นรายล่าสุดที่หายหน้าไปจากอาการบาดเจ็บ

 
         ต่อเนื่องมาจนถึงฤดูกาลใหม่ โบนี่มีโอกาสลงเล่นให้ซิตี้ รวมกันแค่ 216 นาที และนี่ก็คือโอกาสที่เขาจะเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง ตลอดช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า
 
         เริ่มต้นด้วยน้องใหม่บอร์นมัธที่กำลังเจอเรื่องตัวหลักบาดเจ็บกันระนาว ข้ามไปถึงเกมใหญ่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ตามด้วยเซบีย่าในแชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งหมดเป็น 7 เกมที่เขาต้องฉกฉวยให้มากที่สุด
 
         หรือหากเปเยกรีนี่ มองแผนอื่น เขาก็มีตัวเลือกที่พร้อมยืนกองหน้าจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์ หรือ ราฮีม สเตอร์ลิง สองดาวเตะค่าตัวแพงที่เคยมีประวัติยืนกองหน้ามาก่อน แม้จะไม่ต่อเนื่องก็ตาม
 
         บนม้านั่งสำรอง ก็มีแค่ มานู การ์เซีย, แพทริค โรเบิร์ตส์ และ แบรนดอน บาร์เกอร์ อีกสามคนให้เลือก เหมือนที่เปเยกรีนี่เรียกมาติดทีมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เท่ากับว่าเขาเหลือตัวเลือกไม่เยอะแล้ว
 
         ไม่เพียงแค่นั้น แฟร์นันดินโญ่ หนึ่งในตัวเลือกสำคัญในแดนกลาง ก็เพิ่งบินกลับมาจากเกมทีมชาติบราซิล ขณะที่แบ็กซ้ายในตำแหน่งของโคลารอฟ ที่เจ็บกลับมาจากทีมชาติด้วยอาการเดียวกับอเกวโร่ ทำให้ กาแอล กลิชี่ เตรียมสแตนด์บายลงสนามเช่นกัน
 
         กรณีถ้ากลิชี่ไม่พร้อมสำหรับการลงเล่นนัดแรกของฤดูกาล บาการี่ ซาญ่า อาจต้องข้ามฟากมายืนทางซ้าย เปิดโอกาสให้ ปาโบล ซาบาเลต้า ลงเล่นต่อเนื่องเหมือนเกมถล่มนิวคาสเซิ่ล ในแผงรับ แม้ฟูลแบ็กอาร์เจนไตน์เพิ่งฟิตกลับมาไม่นาน
 
         หากก็องปานีได้ไฟเขียวให้ลงสนามต่อเนื่อง คู่ของเขาก็น่าจะเป็น นิโกลัส โอตาเมนดี้ ที่ผ่านเกมทีมชาติมาแบบเต็มๆ 90 นาทีทั้งสองนัด ไม่ก็เป็น เอเลียควิม ม็องกาล่า อดีตคู่หูที่เคยเล่นกันมาตอนต้นฤดูกาล ซึ่งผ่านเกมอุ่นเครื่องให้ฝรั่งเศสเจอกับเดนมาร์กมาเช่นกัน
 
         เรียกว่านักเตะทั้งทีมของ ''เรือใบสีฟ้า'' ตอนนี้ น่าจะมีแค่ โจ ฮาร์ท คนเดียวที่สดกว่าเพื่อน เนื่องจากไม่ได้บินไปเตะนัดส่งท้ายกับลิทัวเนียเท่านั้นเองที่เปเยกรีนี่ ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก
 
         อย่างไรก็ดี ปัญหาของซิตี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเบาๆ ไปเลย เมื่อเทียบทีมเยือน ''เดอะ เชอร์รี่ส์'' บอร์นมัธ น้องใหม่ ที่เจอแต่ข่าวร้ายมาตลอดทาง
 
         ไล่ตั้งแต่ ไทโรน มิงส์ กองหลังค่าตัวแพงสถิติสโมสรจากอิปสวิช ทาวน์ 8 ล้านปอนด์ ปรากฏว่าลงประเดิมสนามไปได้แค่ 6 นาที ก็บาดเจ็บเอ็นหัวไขว้เข่าขาดสองเส้น ปิดเทอมยาวไปจนหมดฤดูกาล
 
         ตามติดมาด้วย มักซ์ กราเดล ตัวรุกทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ค่าตัว 7 ล้านปอนด์ จากแซงต์-เอเตียน ก็เจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าเดี้ยงยาวไปอีกคน
 
         เช่นเดียวกับข่าวร้ายสุดๆ นั่นคือ คัลลั่ม วิลสัน กองหน้าที่เปิดหัวได้ร้อนแรงบนลีกสูงสุด เจ็บแบบเดียวกันในเกมพ่ายสโต๊ค ซิตี้ 1-2 ขึ้นเขียงผ่าตัดและปิดเทอมยาวไปเรียบร้อยอีกคน
 
         ไม่เพียงเท่านั้น กัปตันทีมชุดแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อน ทอมมี่ เอลฟิค ยังเจ็บข้อเท้าตอนซ้อม ต้องผ่าและพักอีก 10 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย
 
         กองหลังชาวอังกฤษ บินไปรักษาที่สวีเดน กับผู้เชี่ยวชาญที่ดูแล ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลังปะทะกับเพื่อนร่วมทีมตอนซ้อม และลงเอยด้วยการผ่าตัดข้อเท้าในที่สุด
 
         ล้วนเป็นข่าวร้ายของบอร์นมัธ บนลีกสูงสุดฤดูกาลแรก โดยเฉพาะวิลสัน และเอลฟิค ที่เป็นกำลังสำคัญของกุนซือหนุ่ม เอ็ดดี้ ฮาว มาตลอดทาง
 
         นายใหญ่วัย 37 ปี เพิ่งฉลองต่อสัญญาใหม่ไปเมื่อกลางสัปดาห์ ก่อนยกพลมาเยือนถิ่นอีสต์แลนด์ส ท่ามกลางปัญหารุมเร้าหนักขึ้นเรื่อยๆ
 
         แต่ฮาวก็ต้องก้มหน้าทำงานของเขาต่อไป เพราะทีมเล็กอย่างบอร์นมัธ ไม่มีตัวเลือกเยอะเท่ากับมหาเศรษฐีอย่างแมนฯ ซิตี้ จนกว่าจะถึงช่วงเปิดตลาดปีใหม่เป็นอย่างน้อย

 

ชู้ตเอ๊าต์

********************************************************

Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทยwww.mcfc.in.th

Views: 276

Reply to This

Replies to This Discussion

ค่อยๆแก้ไปครับ ช่วงนี้นักเตะเราสลับกันเจ็บ รอวันฟูลทีม สู้ๆ

นักเตะใหม่คงจะต้องรับหน้าที่แบกทีมเต็มตัว

..เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ปัญหา..

..สโมสรจ้างโค้ชเข้ามาคุมทีมเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา..

..เปเยก็เช่นเดียวกันที่ต้องโชว์กึ๋นให้ท่านชีคยอมรับ !

อย่าประมาทเป็นพอ

กลัวจะกลุ้มมากกว่าจะแก้ไขทันนะสิครับนักเตะบาดเจ็บมากมาย

เจ็บก็ธรรมดาเรือใบเจอตลอดอยู่แล้วแต่มันก็ผ่านมาได้

แก้ไขไปทีล่ะเกมละเกมฮะ  จะได้ไม่คิดเยอะเกินไปฮะ ไม่ดี

เกมเล็กๆไม่เท่าาไหร่ที่สำคัญเกมใหญ่นี่เหนื่อยหน่อยนะครับ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.